Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
PBL 4 การวางแผนการบริหารของหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล - Coggle Diagram
PBL 4
การวางแผนการบริหารของหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล
การวางแผนกลยุทธ์
ความสำคัญ
ช่วยให้องค์การมีกรอบและทิศทางที่ชัดเจน
ช่วยให้ผู้บริหารคิดอย่างเป็นระบบ
ช่วยสร้างความพร้อมให้องค์การ
ช่วยสร้างประสิทธิภาพในการแข่งขัน
ช่วยให้องค์การมีมุมมองที่ครอบคลุม
ช่วยให้การทำงานเกิดความสอดคล้องในการปฏิบัติหน้าที่
ลักษณะ
เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นถึงอนาคต (Future-Oriented) มีการสร้างหรือกําหนดวิสัยทัศน์พันธกิจและวัตถุประสงค์ขององค์การอย่างเป็นระบบโดยการคาดการณ์แนวโน้มมองการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตและนำมาปรับทิศทางการดำเนินงานเพื่อให้องค์การมีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจน
เป็นการบริหารองค์การที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ในการดำเนินงาน (Result-Based Focus) เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นและให้ความสําคัญต่อผลลัพธ์การดำเนินงานโดยมีการระบุเป้าหมาย วัตถุประสงค์ รวมทั้งตัวชี้วัดผลการดำเนินงานอย่างชัดเจนมีการประสานและหล่อหลอมทรัพยากรไปใช้ในทิศทางเดียวกันเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามยุทธศาสตร์และประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์การที่ตั้งไว้
เป็นการบริหารที่ให้ความสําคัญต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์การ (Stakeholder-Oriented) การจัดการเชิงกลยุทธ์เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นและคำนึงถึงความต้องการขององค์การและความสำคัญของผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์การหลายกลุ่มเช่น
เป็นการบริหารองค์การแบบองค์รวม (Holistic Approach) การจัดการเชิงกลยุทธ์มุ่งเน้นที่ภาพรวมทั้งหมดขององค์การมากกว่าการพิจารณาองค์การแบบแยกส่วนเป็นการบริหารที่มุ่งเน้นการบรรลุถึงเป้าหมายโดยรวมขององค์การทั้งหมดและยังมีการถ่ายทอดวิสัยทัศน์พันธกิจวัตถุประสงค์โยบายและกลยุทธ์จากระดับบน ลงสู่ระดับล่างเพื่อให้ทิศทางการเนินการขององค์การเป็นไปในทิศทางที่นำไปสู่จุดหมายเดียวกัน
เป็นการบริหารจัดการที่มุ่งเน้นการวางแผนระยะยาว (Long-Range Planning) จะมีการตัดสินใจทางด้านกลยุทธ์มักจะมีความเกี่ยวข้องหรือมีผลต่อทิศทางการดำเนินงานในระยะยาวขององค์การ
เป็นการบริหารที่มุ่งเน้นการจัดการต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์การ (Change-Oriented) มีการจัดการทั้งระบบซึ่งครอบคลุมโครงสร้างขององค์การเทคโนโลยีบุคลากรและทรัพยากรต่างๆที่จําเป็นเพื่อผลักดันให้องค์การบรรลุถึงเป้าหมายที่กําหนดไว้ได้
ความหมาย
เป็นการวางแผนงานที่มีแนวทางการจัดทำคล้ายกับการวางแผนทางธุรกิจ ซึ่งจะต้องจัดทำให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ โรงพยาบาล โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำร่างยุทธศาสตร์โรงพยาบาล ดำเนินการนำยุทธศาสตร์ระดับกระทรวง เขตฯและจังหวัด พิจารณาร่วมกับการทบทวนวิสัยทัศน์
พันธ์กิจโรงพยาบาล และบูรณาการกับการวิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น (นงนุช บุญยง, 2553)
ประโยชน์
เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้นักบริหารกําหนดทิศทางขององค์การ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในองค์การ ช่วยกําหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับองค์การ เพื่อที่จะนํากลยุทธ์เหล่านั้นไปประยุกต์ปฏิบัติ และควบคุมประเมินผลการ ดําเนินงานขององค์การได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อมุ่งสู่ความสำเร็จขององค์กร
การจัดการทรัพยากร
วัตถุประสงค์ในการจัดการบุคคลากร
เพื่อคาดคะเนความต้องการจำนวนและประเภทของทรัพยากรบุคคล
เพื่อให้ได้มาและธำรงไว้ซึ่งทรัพยากรมนุษย์ในจำนวนและคุณภาพที่
เพื่อบริหารการใช้ทรัพยากรบุคคล ในองค์การที่มีอยู่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด
การจัดการบุคคลากร
หลักการ
1.การพิจารณาเป้าหมายและแผนขององค์การ (Goals and Plans of Organization)
การพิจารณาสภาพการณ์ของทรัพยากรมนุษย์ในปัจจุบัน (Current Resource Situation)
การคาดการณ์ทรัพยากรมนุษย์ (Human Resource Forecast)
การกําหนดแผนปฏิบัติการ (Implemention Programes)
การตรวจสอบและการปรับปรุง (Audit and Adjustment)
กระบวนการ
1.การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ มี 4 ขั้นตอน
ขั้นตอนเตรียมการ ผู้ดำเนินการวางแผนจะต้องศึกษาวัตถุประสงค์ขององค์กร
ขั้นตอนการสร้างแผน ผู้ดำเนินการวางแผนจะทำการกำาหนดรายละเอียดของกิจกรรม
ขั้นตอนการปฏิบัติตามแผน การนำแผนไปปฏิบัติโดยการกำหนดผู้รับผิดชอบและทำความเข้าใจร่วมกัน
ขั้นตอนประเมินผล เพื่อให้การวางแผนทรัพยากรมนุษย์มีประสิทธิภาพมากที่สุด
2.การสรรหา การจัดสรรกำลังคนเข้าไปทำงานตามโครงสร้างขององค์กร
3.การคัดเลือก การคัดเลือกบุคคลมาปฏิบัติงาน จะต้องใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพ
4.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยี สภาพแวดล้อม และความซับซ้อนขององค์กร
5.การบริหารค่าตอบแทน
6.สวัสดิการ
7.การประเมินผลการปฏิบัติงาน
การจัดการงบประมาณ
ชนิดของงบประมาณ
งบบุคลากร ได้แก่ เงินเดือน ค่าจ้างประจำ ค่าจ้างชั่วคราว
2.งบดําเนินการ ได้แก่ ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ค่าสาธารณูปโภร
3.งบลงทุน ได้แก่ ค่าครุภัณฑ์(วัสดุ/อุปกรณ์ ที่มีอายุการใช้งานนานกว่า 1 ปี และมีราคามากกว่า 5,000 บาท) ค่าที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง
งบเงินอุดหนุน หมายถึง รายจ่ายที่กําหนดจ่ายเป็นค่าบํารุง หรือเพื่อการช่วยเหลือสนับสนุนการดําเนินงานของหน่วยงานของรัฐ โดยมีงบเงินอุดหนุนทั่วไป เช่น ค่าบํารุงสมาชิกองค์การอุตุวิทยาโลก เงินอุดหนุนแก้ไขปัญหายาเสพติด และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจตามรายการพิเศษที่ขอมา เช่น ค่ารถโดยสาร 7 ที่นั่ง (ดีเซล)
งบเงินสด เป็นการจัดทํางบเงินเพื่อให้ทราบถึงกระแสเงินสดทั้งที่เป็นรายรับและรายจ่าย ทําให้ สามารถวางแผนทางการเงิน เพื่อควบคุมการดําเนินงานขององค์การได้
งบแผนงาน เป็นงบที่หน่วยงาน องค์กรได้วางแผนในแต่ละปีตามแผนการปฏิบัติงาน
ขั้นตอนการจัดการงบประมาณ
1.ขั้นเตรียมงบประมาณ (Budget preparation) ประกอบด้วยการดําเนินการ 4 ขั้นตอนคือ
1) การกําหนดวัตถุประสงค์ หรือจัดทําแผนโครงการต่างๆ ประมาณการรายจ่าย
2) การรวบรวมปัญหาวิเคราะห์การใช้จ่ายในแต่ละโครงการของแต่ละงาน
3) แก้ไขปรับปรุงยอดรายจ่าย ซึ่งอาจมีการพิจารณาตัดทอน หรือเพิ่มเติม
4) เสนอแผนงบประมาณต่อฝ่ายบริหาร
2.ขั้นการอนุมัติงบประมาณ (budget adoption)
เป็นอํานาจของผู้บริหาร (คณะกรรมการบริหาร) หรือของรัฐสภาโดยรัฐสภาจะแต่งตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นพิจารณางบประมาณที่ฝ่ายบริหารเสนอมา ดังนั้นการจะให้งบประมาณได้รับการอนุมัตินั้นผู้นําเสนอจะต้องใช้กลยุทธ์ เช่น การหาเสียงสนับสนุนจากบุคคลฝ่ายต่างๆ โดยการหาข้อมูลเหตุผลมาสนับสนุนโน้มน้าว
3.ขั้นการบริหารงบประมาณ (budget execution)
เมื่องบประมาณได้รับการอนุมัติก็เป็นอํานาจของฝ่ายบริหารหรือหน่วยงานที่จะกํากับดูแลให้การดําเนินงานในโครงการต่างๆ เป็นไปตามที่เสนอ
จัดอัตรากำลังคน
การวางแผนอัตรากําลัง (Staffing plan) เป็นการคาดการณ์เกี่ยวกับ ประเภท คุณภาพ คุณสมบัติของบุคลากร เพื่อตอบสนองเป้าหมายขององค์กร
การจัดตารางการปฏิบัติงาน(Scheduling) เป็นกระบวนการควบคุมและประเมินกิจกรรม การจัดอัตรากําลัง เพื่อให้มีอัตรากําลังที่เหมาะสม เพียงพอในการให้บริการพยาบาล
การกระจายอัตรากําลัง(Staff allocation) เป็นกระบวนการกระจาย และการผสมผสาน อัตรากําลังในแต่ละประเภทที่มีอยู่ในแต่ละหน่วยงาน ให้เหมาะสม เพียงพอกับปริมาณภาระงานและความต้องการ
การวางแผนการปฏิบัติงาน
ความหมาย
กระบวนการวิเคราะห์และการตัดสินใจของผู้บริหารที่จะกำหนดวิธีการไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้บรรลุผลตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักการ
การวางแผนจะจัดทำขณะตอนเริ่มดำเนินงาน เมื่อจะมีการปรับปรุงหรือมีการเกิดปัญหาอาจจะมีการปรับปรุงแผนงานใหม่
มีการศึกษาวัตถุประสงค์ และนโยบายให้เกิดความเข้าใจ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของการวางแผน หากไม่ทำความเข้าใจนโยบายและวัตถุประสงค์ ทำให้แผนงานเกิดความล้มเหลวได้
ปัจจัยต่างๆที่จำเป็นที่ใช้ในการวางแผน ได้แก่ ข้อมูลข่าวสาร คน เงิน วัสดุสิ่งของ สถานที่และเวลาเป็นต้น
วิธีดำเนินงานตามแผน
คำนึงถึงสภาพภูมิศาสตร์ สภาวะแวดล้อม คุณค่าทางสังคม พฤติกรรมบุคคล และขนบธรรมเนียมประเพณี
ขั้นตอน
ขั้นดำเนินการก่อนการวางแผน (Preparation) ได้แก่ การรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ปัญหา กำหนดแผนงานและโครงการ กำหนดเป้าหมาย กำหนดวิธีดำเนินการ และกำหนดค่าใช้จ่าย
ขั้นปฏิบัติตามแผน (Implementation) เป็นการปฏิบัติตามแผนที่วางไว้โดยทำตามวิธีการที่กําหนด
1) การจัดกลไกในการปฏิบัติงาน
2) การจัดบุคคล มอบหน้าที่ความรับผิดชอบ
3) การอำนวยการสั่งการ การตัดสินใจ
4) การนิเทศและการควบคุม
ขั้นการติดตามประเมินผล (Follow up and Evaluation)
1) การติดตามแผนอาจจะติดตามแต่ละปี หรือติดตามตลอดเวลาเพื่อหาปัญหาและ อุปสรรค
2) การประเมินผล เมื่อสิ้นสุดแผนแต่ในทางปฏิบัติ ประเมินผลก่อนเพื่อปรับปรุงแผนและ วางแผนใหม่
ประโยชน์
ประหยัดแรงงาน วัสดุ และเวลา
2.ถ้าทุกฝ่ายได้ร่วมวางแผน จะเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของงานนั้น ๆ
ผู้นิเทศสามารถควบคุม ติดตาม และประเมินผลงานได้ดี
เกิดระเบียบในการปฏิบัติงาน
ประเภท
แบ่งตามระยะเวลา ได้แก่
แผนระยะยาว : 6 เดือน 1 ปี 5 ปี 10 ปี เรียกว่า แผนกลยุทธ์
แผนระยะกลาง
แผนระยะสั้น : เป็นแผนที่มุ่งความสําเร็จของงานใดงานหนึ่งโดยเฉพาะ 1 ชั่วโมง จนถึง 3 ปี มีความซับซ้อนกว่าแผนระยะยาว เช่น แผนประจำวัน แผนนโยบาย เป็นต้น
แบ่งตามลักษณะความสำคัญ ได้แก่ แผนใหญ่ (Master Plan) แผนรอง หรือแผนละเอียด
แบ่งตามกิจกรรมหรือประเภทของแผน ได้แก่ แผนทางเศรษฐกิจ แผนทางสังคม และแผน ทางการคลั
ลักษณะของผู้นำ
มุ่งมั่นในการทำงาน และมีความรู้ ทักษะในการวางแผน
มีการวางแผนปฏิบัติงานที่ดี จะวางแผนเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ มีการกำหนดแผนที่ชัดเจน มีวัตถุประสงค์ชัดเจน และอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง
สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
มอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานมีส่วนร่มในการวางแผน
มีการใช้แผนปฏิบัติงานที่เหมาะสม
มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกสถานการณ์
การมอบหมายงาน
ความหมาย
-การมอบหมายงาน ( Assignment) :เป็นการกระจายงานในหน้าที่ ความรับผิดชอบ แลอำนาจการตัดสินใจภายในขอบเขตที่กำหนด ให้ผู้อื่นไปปฏิบัติ
การมอบหมายอำนาจหน้าที่ หมายถึง การมอบหมายทั้งหน้าที่ และอำนาจหน้าที่ แก่บุคคลอื่น เพื่อให้ปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย
ลักษณะของการมอบหมายงานที่ดี
วางแผนการมอบหมายงาน
พิจารณาถึงความเป็นบุคคลของผู้ปฏิบัติงานแต่ละคน
กำหนดความรับผิดชอบในแต่ละหน้าที่ ให้ชัดเจนเมื่อกำหนดจำนวนของผู้ป่วยที่ผู้ปฏิบัติงานต้องให้การดูแลแล้ววิเคราะห์ปัญหา
ใช้หลักการของการมอบหมายอำนาจหน้าที่
ภายหลังที่ผู้บริหารกำหนดการมอบหมายงานผู้บริหารควรจะอธิบายและชี้แจงรายละเอียดของการมอบหมายงานในแต่ละเรื่อง
สังเกตและประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานแต่ละคน
ปัจจัยที่ควรรู้และความคำนึงในการมอบหมายงานพยาบาล
รู้จักวิธีมอบหมายงานการพยาบาลรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งข้อดีและข้อเสียของการมอบหมายงานแต่ละรูปแบบ
รู้จักคน รู้ว่าบุคลากร ใดมีความสามารถ และประสบการณ์ในด้านใด ชอบหรือไม่ชอบสิ่งใด เพื่อมอบหมายงานที่ชอบและถนัด
รู้จักงาน ต้องมีความรู้ลักษณะงานที่รับผิดชอบเป็นอย่างดี ตั้งแต่วัตถุประสงค์ของหอผู้ป่วย การรักษาพยาบาลผู้ป่วยในหูอผู้ป่วย
การบริหารการเปลี่ยนแปลง
รูปแบบของการเปลี่ยนแปลงมี 2 รูปแบบ
การเปลี่ยนแปลงเชิงรุก(Proactive)เป็นการเปลี่ยนแปลงตนเองก่อนที่จะได้รับการเปลี่ยนแปลงจากผู้อื่นอาศัยการวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อเตรียมผลที่จะเกิดขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเชิงรองรับ(Reactive)เป็นการถูกเปลี่ยนแปลงโดยผู้อื่น เช่น จากหน่วยงานต้นสังกัดหรือนโยบายระดับองค์กร ระดับประเทศบางครั้งบุคคลในองค์กรอาจจะไม่ยอมที่จะเปลี่ยนแปลง หรือมีความคิด
ติดยึดรูปแบบเดิมอาจมีผลกระทบเกิดการต่อต้านได้
หากไม่ได้รับการสื่อสาร การประสานงาน หรือการเตรียมตัวที่ดีให้พร้อมมาก่อน
ลักษณะการต่อต้าน 3 รูปแบบ
1.การปฎิเสธการเปลี่ยนแปลง (Denial) บุคคลเหล่านี้จะหลีกหนีการร่วมมือ
วิธีการแก้ไข: ชี้แจงถึงความจำเป็นของการเปลี่ยนแปลงและประโยชน์ที่จะได้รับ
2.การต่อต้านเงียบ(Passive Resistance) บุคคลเหล่านี้จะแสดงเหมือนพร้อมให้ความร่วมมือ แต่เมื่อต้องปฏิบัติงานจะไม่ให้ความร่วมมือ โดยสังเกตจากการไม่ค่อยเข้าร่วมประชุม หรือการถ่วงเรื่องต่างๆไว้ให้ดําเนินอย่างล่าช้า
วิธีการแก้ไข: เปิดโอกาสให้ได้แสดงความรู้สึก หรือความคิดเห็นออกมา
3.ต่อต้านอย่างเปิดเผย (Active Resistance)บุคคลเหล่านี้จะแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างเปิดเผย มักโน้มน้าวให้ผู้อื่นคล้อยตามตนเอง สังเกตได้จากการแสดงความไม่พอใจโดยอาจจะบันทึกข้อมูลส่งถึงผู้บริหาร
วิธีการรับมือที่ดี: ตอบกลับอย่างใจเย็นมีเหตุผล และหนักแน่นและนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ปรับเปลี่ยนแผนการเปลี่ยนแปลงกรณีที่จําเป็น
วิธีการสนทนากันแบบตัวต่อตัวเป็นวิธีการที่เหมาะสมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงของการเปลี่ยนแปลงและสร้างความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย ควรแถลงการณ์ให้บุคลากรทุกคนทราบถึงประโยชน์การเปลี่ยนแปลงโดยเปรียบเทียบผลได้กับผลเสียให้เห็นอย่างชัดเจน และชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงย่อมก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆเสมอ
ความสำคัญ
การบริหารการเปลี่ยนแปลง หมายถึง การจัดการกับเหตุการณ์ทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเหมาะสมและทำให้เกิดการพัฒนาองค์กรทั้งเชิงประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นไปตามทิศทางที่ได้วางเเผนไว้ จะก่อให้เกิดความคุ้มค่าและประสิทธิภาพ ภายในระยะเวลาที่กำหนดพร้อมทั้งบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ผลลัพธ์ของการบริหารการเปลี่ยนแปลงคือการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงานจากการใช้องค์ความรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพของหน่วยงาน
องค์ประกอบของผู้บริหารการพยาบาล
3 ประการในฐานะผู้บริหารทางการพยาบาล
โครงสร้างการบริหารในองค์กร (Structure)
กระบวนการในการทำงาน(Process) ดูว่ามีการคิดระบบใหม่มาใช้หรือไม่ซึ่งกระบวนการมี 2 ประเภทคือ คิดกระบวนการใหม่ที่มีรากฐานมาจากกระบวนการเดิมอยู่บ้างหรือเปลี่ยนแปลงจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม
(Radical Change)
บุคคลากร เป็นปัจจัยความสำเร็จในการบริหารการเปลี่ยนแปลงคือบุคลากรมีการสำรวจความพร้อม เริ่มจากวัฒนธรรมการทำงานเป็นอย่างไร มีความรู้ ความสามารถและทัศนคติในเรื่องนั้นหรือไม่ และนำมาเปรียบเทียบกับภาวะที่ต้องการเปลี่ยนแปลง โดยหาช่องว่างเพื่อพัฒนาบุคลากรต่อไปการบริหารงานให้ได้รับประโยชน์ในการเปลี่ยนแปลงต้องมีความรู้และความเข้าใจ เพื่อความสําเร็จขององค์กร