Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ - Coggle Diagram
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1.การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศในปัจจุบัน
-เทคโนโลยี(Technology)คือวิทยาการที่นำความรู้วิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติและอุตสาหกรรม
-สารสนเทศ(information)การนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้มาผ่านกระบวนการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจ
-เทคโนโลยีสารสนเทศคือการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์กับระบบสารสนเทศโดยต้องประยุกต์ใช้ตั้งแต่กระบวนการจัดเก็บข้อมูลการประมวลผลข้อมูลเพื่อแปลงข้อมูลเป็นสารสนเทศ
ยุคดิจิทัล
2.Digital 2.0 ยุคโซเชียลมีเดีย เริ่มต้นประมาณ ค.ศ.2000 มนุษย์เริ่มประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างเครือข่ายสำหรับติดต่อสื่อสาร โดยแบ่งข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น ข้อความ ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว วิดีโอระหว่างแฟน หรือเนี่ย สื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้ใช้สามารถสนทนา แบ่งปันเนื้อหา เรื่องราวประสบการ บทความ รูปภาพ โดยผ่านช่องทางบล็อก กระดาษสนทนา(Webboarg)หรือด้านโซเชียลต่างๆ เช่น Facebook YouTube มีการติดต่อกัน2ทาง คือผู้รับข้อมูลสามารถแสดงความคิดเห็น ผู้รับเป็นผู้สร้างข้อมูลทำให้เกิดธุรกิจในลักษณะพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce)
3.Digital 3.0 ยุคแห่งข้อมูลและข้อมูลขนาดใหญ่ เริ่มประมาณ ค.ศ. 2004 จากการเติบโตของโซเชียลมิเดียและธุรกรรมในลักษณะพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใล้งานข้อมูลเปลี่ยนมาเป็นผู้สร้างข้อมูล ทำให้ปริมาณข้อมูลมีเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ทั้งข้อมูลจากเว็ปไซต์สื่อสังคมออนไลน์ คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน การเดินทาง การทำธุรกรรมต่างๆ พฤติกรรมการซื้อขายของออนไลน์ที่มียอดเพิ่มสูงขึ้น จากปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น จึงเริ่มมีการนำข้อมูลเหล่านั้นว่า ข้อมูลขนาดใหญ่(BigData) เช่น การนำข้อมูลขนาดใหญ่จากการซื้อสินค้าของผู้บริโภคมาประมวลผลและวิเคาร์ถึงความต้องการของลูกค้า
1.Digital 1.0 ยุคอินเทอร์เน็ต เริ่มต้นประมาณ ค.ศ. 1984 ยุคเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต มีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตในลักษณะออฟไลน์มาเป็นลักษณะออนไลน์ เช่น การส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว เกิดเว็ปไซต์ ที่ทำให้ให้ผู้ใช้งานสามารถเผยแพร่และเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกและรวดเร็ว เกิดธุรกรรมเชิงพาณิชย์
4.Digital 4.0 ยุคเทคโนโลยีสมองกล เริ่มต้นประมาณ ค.ศ.2016 เป็นยุคที่นำเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence :AI) ซึ่งเป็นยุคการเรียนรู้ของเครื่อง(Machine Learning)เข้ามาผนวกกับคอมพิวเตอร์ หุ่นยนต์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้อุปกรณ์เหล่านั้นมีความฉลาด สามารเรียนรู้และประเมินหรือพยากรณ์ข้อมูลล่วงหน้าได้ เพื่อให้สามารถนำมาช่วยเหลืองานในในด้านต่างๆ เช่น คำนวณการขับเคลื่อนรถโดยอัตโนมัติ เป็นยุคที่ทำให้อุปกรณ์ต่างๆสามารถเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายหรือเชื่อมต่อกันอินเทอร์เน็ต ทำให้อุปกรณ์สื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติตามแนวคิดของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตสรรพสิ่ง(Internet of things:IOT)เช่นฟาร์มอัจฉริยะที่สามารถรดน้ำได้เองโดนอัติโนมัติ
2.แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ
2.1แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศด้านฮาร์ตแวร์
เครื่องคอมพิวเตอร์จะสามารถก้ปัญหาได้เองเมื่อมีข้อผิดพลาดโดยไม่ต้องอาศัยมนถษฐ์โดยเป็นฮาร์ตแวร์ที่มีตัวผึงตัวเพื่อการทำงานเฉพาะเช่นระบบคอมพิวเตอร์ผึงตัวอยู่ในอุปกรณ์ต่างๆ
2.2แนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศด้านซอฟต์แวร์
2.2.2 PaaS เป็นรูปแบบกรให้บริการในลักษณะแพรตฟอร์มโดยผู้ให้บริการระบบประมวลผลบนคราวด์ จัดเตรียมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นสำหรับผู้ให้บริการ เช่นการพัฒนาแอพพลิเคชั่น ต้องเตรียม Data Server
2.2.3 LaaS เป็นรูปแบบการให้บริการเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของระบบเช่นหน่วยประมวลผลเครือข่าย ข้อมูล ระบบเก็บข้อมูล โดยผ๔้ใช้บริการสามารถเช่าเวลาในการประมวลผลซื้อเวลา และขนาดของช่องสัญญาณในการส่งข้อมูลหือขนาดพื้นที่ เช่น Dropbox
2.2.1 SaaS เป็นรูปแบบการให้บริการซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่นระบบประมวณผลบนระบบคราวด์การให้บริการซอฟต์เเวร์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้บริการ เช่น Gmail Hotmaix
2.เทคโนโลยีกับชีวิตประจำวัน
2.2 เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ในปัจจุบันหุ่นยนต์เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว ตอบรับกับความต้องการของอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าใหม่ ที่เติบโต มีการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้งานแทนมนุษย์โดยเฉพาะงานที่มีความยากลำบาก มีระดับความเสี่ยงและระดับความอันตรายสูงในด้านอุตสาหกรรม เช่นการเชื่อมโลหะ การพ่นสี การประกอบรถยนต์ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น ระบบเซ็นเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ระบบปัญญาประดิษฐ์ ความสามารถในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างเครื่องจักรกับเครื่องจักร ส่งผลให้เทคโนโลยีหุ่นยนต์มีราคาถูกลงและความสามารถสูงขึ้น ฉลาดขึ้น มีความอ่อนไหวในการทำงานร่วมกับมนุษย์ เช่นด้านการแพทย์ หุ่นยนต์ผ่าตัด อวัยวะเทียม
2.3 เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม ความเป็นจริงเสริมหรือความเป็นจริงแต่งเติม (อังกฤษ: AR : Augmented Reality Technology) เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจริง และ โลกเสมือนที่สร้างขึ้นมาผสานเข้าด้วยกันผ่านซอฟต์แวร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างข้อมูลอีกข้อมูลหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบบนโลกเสมือน (virtual world) เช่น ภาพกราฟิก วิดีโอ รูปทรงสามมิติ และข้อความ ตัวอักษร ให้ผนวกซ้อนทับกับภาพในโลกจริงที่ปรากฏบนกล้อง
เทคโนโลยี AR แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ แบบที่ใช้ภาพสัญลักษณ์และแบบที่ใช้ระบบพิกัดในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างข้อมูลบนโลกเสมือนจริง ซึ่งในทางเทคนิคแล้วภาพสัญลักษณ์ที่ใช้ จะนิยมเรียกว่า “Marker” หรืออาจจะเรียกว่า AR Code ก็ได้ โดยใช้กล้องเว็บแคมในการรับภาพ เมื่อซอฟต์แวร์ที่เราใช้งานอยู่ประมวลผลรูปภาพเจอสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ก็จะแสดงข้อมูลภาพสามมิติที่ถูกระบุไว้ในโปรแกรมให้เห็น เราสามารถที่จะหมุนดูภาพที่ปรากฏได้ทุกทิศทางหรือเรียกว่าหมุนได้ 360 องศา
2.1ปัญญาประดิษฐ์(artificailintelligence:AI)การใช้เทคโนโลยีทางคชด้านคอมพิวเตออร์เข้าไปช่วยควบคุมการเรียนรู้และความฉลาดของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรกลต่างๆได้มีการพัฒนามาจากวิยาการด้านปัญญาประดิษฐ์ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวิทยาการที่ใช้เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์มาแก้ปัญหาต่างๆเช่นการให้คอมพิวเตอร์เข้าใจภาษามนุษย์
2.นิยามของปัญญาประดิษฐ์ เป็นศาสตร์ทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศสาสตร์ในการสร้างความฉลาดให้กับเครื่องจักร
-แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ในมุมมอง 2 มิติ
1.นิยามที่เน้นระบบที่เลียนแบบมนุษย์กับนิยามที่เน้นระบบที่มีเหตุผล
2.นิยามที่เน้นความคิดเป็นหลักกับนิยามที่เน้นการกระทำเป็นหลัก
-ระบบที่คิดเหมือนมนุษย์ เลียนแบบมนุษย์กับมิติการคิด เป็นความพยายามที่จะทำให้คอมพิวเตอร์คิดได้เหมือนมนุษย์
-ระบบที่กระทำเหมือนมนุษย์ เป็นมิตินิยามที่เลียนแบบกับมิติการกระทำเป็นการคิดศึกษาทำให้คอมพิวเตอร์กระทำในสิ่งที่มนุษย์ทำได้
-ระบบคิดอย่างมีเหตุผล ศึกษาด้านความสามารถในด้านสติปัญญา การคิดมีเหตุผล หรือคิดได้อย่างถูกต้อง โดยจะใช้โมเดลการคำนวณ
-ระบบที่กระทำอย่างมีเหตุผล เกี่ยวกับพฤติกรรมที่แสดงปัญญาในสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยกระทำอย่างมีเหตุผล
1.ประวัติความเป็นมาของปัญญาประดิษฐ์
-เกิดในยุคอาณาจักรกรีกไปจนถึงยุคเรืองปัญญา
-กำเนิดขึ้นราวค.ศ.1956 ในที่ประชุมวิชาการที่วิทยลัยดาร์ดมัทประเทศสหรัฐอเมริกา
-ผู้ร่วมประชุม 1.จอร์แม็คคาที 2.มารีวินมีนสกี 3.อาเทอร์ซามุเอล 4.เฮอร์เบิร์ตไซทอน
-วิจัยเรื่องทฤษฎีออโตมาดาโครงข่ายใยประสาทและศึกษาเรื่องความฉลาด
-จอรึนแม้คคาทีเป็นผู้ตั้งชื่อให้กับศาสตร์สาขาใหม่เรียกว่า artificial intelligence หรือ AI ค.ศ.1995
-ปัญญาประดิษฐ์มี3ขั้นตอน 1.การสร้างวิธีการทดแทนสิ่งที่อยู่ในใจ 2.การดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องออกมาใช้ 3.การจัดการแทนค่าออกมาเป็นคำตอบ
ประเภทของปัญญษประดิษฐ์ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ
1) Artifical Narrow Intellgence เป็นระดับที่มีสติปัญญษที่มีความสามารถในการทำงานได้ในเรื่องแคบๆ อยู่ในวงจำกัด
2)Artifical General Intellgence เป็นสติปัญญษเทียบเท่ามนุษย์ ศึ่งปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการทำงานเทียบเท่ากับสมองมนนุษย์
3)Artifical Super Intellgence เป็ฯระดับซูปเปอร์ปัญญษประดิษฐ์ มีปัญญาเหนือมนุษย์
3.ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านต่างๆ
หัวข้อ 3.1
ผลกระทบด้านลบ
-รับรู้ข่าวสารที่รวดเร็ว หากไม่มีการกรองหรือตรวจสอบข้อมูลจะทำให้ได้รับข้อมูลหลอกลวง
-ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งมีผลทางร่างกาย อารมณ์ จิตใจ
-เกิดปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์น้อยลง
หัวข้อ 3.2
ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่ออาชีพ ปัจจุบันในทุกสาขาล้วนมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ด้วยกันทั้งสิ้น โดยปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีนวัตกรรมเกิดมาตลอดเวลา และมรผลกระทบกับอาชีพต่างๆ ดังนี้
ด้านการศึกษา
ผลกระทบด้านบวก
-ผู้สอน มีเครื่องมือช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสอน
-ผู้สอนสามารถผลิตสื่อการสอนได้หลายรูปแบบ
-ผู้สอนและผู้เรียนติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนความรู้ได้ตลอดเวลา
ผลกระทบด้านลบ
-การผลิตมื่อการสอน หากผลิตสื่อที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลต่อข้อมูลการเรียนการสอนที่ผู้เรียนที่จะได้รับ
-ผู้สอนให้ข่อมูลผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ผู้เรียนจะได้รับข้อมูลผิดพลาด
-ผู้ที่ไม่มีความชำนาญในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ อาจไม่ถูกเลือกให้เข้าทำงาน
อาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ผลกระทบด้านบวก
-มีอุปกรณ์ เครื่องมือที่ทันสมัย
-แพทย์และบุคลากร สามารถเข้าถึงข้อมูลการรักษาได้อย่างรวดเร็ว
-สามารถวินิจฉัยโรคเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว
-ผู้ป่วยสามารถเข้ารับการรักษาได้โดยไม่จำเป็นต้องมาพบแพทย์
ผลกระทบด้านลบ
-เมื่อมีการเปลี่ยนเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น จะทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น
-หากมีข้อผิดพลาดของเทคโนโลยีสารสนเทศ อาจทำให้การวินิจฉัยหรือการรักษาไม่ถูกต้อง ซึ่งมีอันตรายต่อผู้ที่เข้ารับการรักษา
อาชีพด้านอุตสาหกรรม
ผลกระทบด้านบวก
-ทำให้ผู้ปฏิบัติงานในส่วนการผลิตมีความเสี่ยงน้อย
-การจัดการกับข้อมูลต่างๆไปเป็นด้วยความถูกต้อง
-ทำให้การสื่อสารระหว่างพนักงาน แต่ละฝ่าย มีความสะดวก รวดเร็ว
-เปิดโอกาสให้ผู้พิการเข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมมากขึ้น
ผลกระทบด้านลบ
-ผู้ที่ขาดทักษะ ขาดความรู้ใหม่ อาจถูกปฏิเสธการทำงาน
-เมื่อนำหุ่นยนต์หรือเครื่องจักรมากขึ้น ก็อาจจะทำให้เกิดการเลิกจ้างแรงงาน
อาชีพด้านการเกษตรกรรม
ผลกระทบด้านบวก
-ทำให้เกษตรกรเพิ่มผลิตทางการเกษตร
-เกษตรกรได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่หรือวิธีการเกษตรที่หลากหลาย ด้วยการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ทางด้านเกษตรผ่านเทคโนโลยี
ผลกระทบด้านลบ
-กรณีเกษตรกรมีข้อจำกัดด้านการศึกษา ขาดความรู้ อาจไม่มีโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยี
-หากมีมีการใช้เทคโนโลยีในการปรับแก้พันธุกรรมของพืชอาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม
3.3 ผลกระทบการเทคโนโลยีสารสนเทศต่อสังคม
เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในหลายๆด้าน
ผลกระทบด้านบวก
-การบริหารจัดการสามารถทำให้สะดวกขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มนุษย์สามารถติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันด้วยเทคโนโลยีต่างๆได้สะดวกขึ้น ประหยัดเวลาไม่ต้องใช้ทรัพยากรบุคคลมากเกินไปในการบริหาร
-เกิดสังคมเสมือนหรือสังคมออนไลน์ที่มีวัตถุประสงค์คล้ายกัน เพื่อการแบ่งปันสิ่งดีๆ ระหว่างกัน ช่วยแก้ปัญหาซึ่งกันและกัน
ผลกระทบด้านลบ
-ทักษะทางด้านสังคมและอยู่น่วมกันน้อยลง เพราะเทคโนโลยีทำให้มนุษย์ติดต่อสื่อสาร พูดคุยกันโดย ไม่จำเป็นต้องเห็นหน้า อาจทำให้ทักษะทางสังคมน้อยลง
-ความขัดแย้งในสังคมเกิดขึ้นง่าย เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มนุษย์สามารถ พูดคุย แสดงความคิดเห็นโดยไม่ต้องเห็นหน้า ส่งผลให้ผู้ที่คิดเห็นต่างสามารถแสดงความเห็นได้เต็มที่ ที่งในทางที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะบัดแย้งมากขึ้น
3.4 ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่อวัฒนธรรม
เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถช่วยลดช่องว่างระหว่างข้อจำกัดด้านระยะทาง ทำให้มนุษย์สามารถแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเทคโนโลยีสารสนเทศส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมโดยเฉพาะวัฒนธรรมไทย
ผลกระทบด้านบวก
-สามารถเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามของไทยได้สะดวกขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถกระจายข้อมูลได้หลากหลายประเภท เช่น ข้อความ ภาพ วิดีโอ จึงสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศได้
ผลกระทบด้านลบ
-อาจเกิดปัญหาในการรับวัฒนธรรมอื่นเข้ามาแทนที่วัฒนธรรมอันดีงามของไทยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มนุษย์สามารถติดต่อสื่อสาร แบ่งปันข้อมูลได้สะดวกขึ้น อาจทำให้วัฒนธรรมไทยจะถูกแทนที่ด้วยวัฒนธรรมจากต่างประเทศ