Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น - Coggle Diagram
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น
1.ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
1.1 ความรับผิดของนายจ้าง
ตามมาตรา 425 บัญญัติว่า”นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางที่จ้างนั้น”
ในสัญญาจ้างแรงงาน นายจ้างมีอำนาจสั่งให้ลูกจ้างทำงานตามวิธีที่ตนต้องการอีกด้วยและลูกจ้างต้องปฏิบัติตามคำสั่งของนายเสมอ แต่ต้องเป็นคำสั่งที่เกี่ยวกับงานที่จ้าง
ข้าราชการในกระทรวง ทบวง กรม มิได้เป็นนายจ้างลูกจ้างซึ่งกันและกัน
การที่นายจ้างต้องรับผิดต้องเป็นกรณีที่ลูกจ้างได้กระทำละเมิด เข้าองค์ประกอบตามมาตรา 420 ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อก็ตาม
1.2 ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
หลักการพิจารณาการกระทำละเมิดของลูกจ้าง
5.การที่ลูกจ้างได้กระทำไปนั้นต้องสำเร็จลุล่วง
4.นายจ้างรับผิดต่อความเสียหายที่ลูกจ้างได้กระทำในขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่
3.ลูกจ้างต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของนายจ้าง
2.ลูกจ้างได้ปฏิบัติตามที่จ้างหรือไม่
1.ลักษณะของงานที่จ้างเป็นอย่างไรเสียก่อน
ตามมาตรา 430 หลักกฎหมายทั่วไปว่า”ผู้ใดทำสิ่งใดโดยบุคคลอื่นเท่ากับทำด้วยตนเอง”
1.3 สิทธิไล่เบี้ย
ตามมาตรา 426 “นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น”
เมื่อนายจ้างใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายไปแล้ว จึงชอบที่จะช่วยสิทธิของผู้เสียหายไล่เบี้ย เรียกให้ลูกจ้างชดใช้ให้แก่ตนได้
นายจ้างลูกจ้างยังคงต้องรับผิดต่อผู้เสียหายในฐานะลูกหนี้ร่วมกันจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระสิ้นเชิง
1.4 ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
1.4.1 ลักษณะของตัวแทน
ตัวแทนมิใช่ลูกจ้าง จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งสิทธิของตัวการที่จะควบคุมดูแลเกี่ยวกับความประพฤติทางปฏิบัติขิงตัวแทน รับผิดแต่เพียงผู้เดียว ตัวการไม่ต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ตัวแทนอาจก่อขึ้น
ผู้รับใช้หรือรับวาน ทำแทนตัวการต่อบุคคลที่สาม มิต้องรับผิดในละเมิด
EX. กัน มอบอำนาจให้ พี ไปทำการซื้อบ้านกับ ใจ ระหว่างกลับนั้น พี ไปทำละเมิดโดยการขับรถผ่าไฟสัญญาณจราจร ทำให้รถไปพุ่งชน ชมพู่ที่ยืนอยู่ข้างถนน เช่นนี้ กัน ไม่ต้องร่วมรับผิดในการกระทำของ พี
กิจการที่ตัวแทนนำไปย่อมเป็นงานของตัวการ เช่นเดียวกับงานที่ลูกจ้างทำไปย่อนเป็นงานของนายจ้าง ตัวแทนต้องทำตามคำสั่งของตัวการ
1.4.2 ความรับผิดของตัวการ
เหตุละเมิดที่จะให้ตัวการรับผิด ต้องเป็นเหตุที่ได้เกิดขึ้นในขอบเขตแห่งการปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อตัวการหรือในฐานที่ตัวแทนได้ทำการเป็นแทน
EX. เขียว แต่งตั้ง แดง เป็นตัวแทนขายที่ดินตามโฉนดแปลงหนึ่งของ เขียว ซึ่งมีพื้นที่เป็นหลุมบ่อมาก แดง หลอกลวง ฟ้าผู้ซื้อ โดยพาไปดูที่ดินอีกแปลงหนึ่ง ซึ่งไม่มีหลุมบ่อเลย และเป็นของบุคคลตามโฉนดเขียว ฟ้าตกลงซื้อโดยคิดว่าเป็นที่ดินของเขียว ในขอบเขตแห่งการเป็นตัวแทนของเขียว เขียวตัวการต้องร่วมรับผิดต่อฟ้า ร่วมกับแดงด้วย
1.4.3 สิทธิไล่เบี้ยของตัวการ
มาตรา 427 บัญญัติให้นำมาตรา 426 ใช้บังคับแก่ตัวการด้วยโดยอนุโลม
เมื่อตัวการได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อละเมิดอันเป็นตัวแทนได้ทำไปแล้วนั้น
2.ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
2.1 ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
บทบัญญัติตามมาตรา 428
1.กฎหมายบัญญัติถึงผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิด ได้กล่าวมาแล้วว่า บุคคลที่รับผิดในการกระทำของบุคคลผู้อื่นนั้นมิได้กระทำละเมิดด้วยตนเอง ถ้ากระทำละเมิดด้วยแล้ว ก็มิใช่เรื่องความผิดในการกระทำของบุคคลอื่น แต่เป็นความรับผิดของบุคคลในการกระทำของตนเอง
2.โดยความเสียหายที่เกิดขึ้น มิได้เกิดจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดทางละเมิด แต่ผั้ว่าจ้างก็ยังต้องรับผิดเพราะได้มีส่วนผิด
3.ในเมื่อผู้ว่าจ้างได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก ผู้ได้รับความเสียหายไปแล้ว จึงไม่มีบทบัญญัติ ให้ผู้ว่าจ้างไล่เบี้ยเรียกให้ชดใช้เอาจากผู้รับจ้าง
2.2 หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
1.ความผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ เช่น จ้างให้ทำถนนเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นเพื่อผ่านไปถึงที่ของตนเพื่อเป็นการละเมิด
2.ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้ เช่น แนะนำให้ช่างทำรางน้ำชายคาของบ้านใกล้ชิดกับแนวเขตที่ดินข้างเดียวของผู้อื่น เวลาฝนตกน้ำไหลตกลงในที่ดินข้างเดียว
3.ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง เช่น จ้างสร้างบ้านทำด้วยไม้ ไปจ้างผู้ที่เข้าตัวไม้ไม่แน่นหนา จึงเป็นผลทำให้บ้านทรุดพังลงมา ถูกทรัพย์สินของบุคคลข้างเคียงเสียหาย
3.ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
3.1 ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
มาตรา 429 “บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในสิ่งที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น”
ผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตจะมีความผิดฐานละเมิดได้ก็ย่อมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในมาตรา 420
-จะต้องมีการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ถือเป็นการกระทำจะต้องมีความเคลื่อนไหวในอิริยาบถโดยรู้สำนึกในความเคลื่อนไหว
-จะต้องรู้นึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดจากการกระทำของตน ถือว่าเป็นการจงใจ
-ถ้าเป็นเด็กไร้เดียงสาหรือบุคคลวิกลจริตไม่รู้สำนึกในการกระทำของตนหรือบุคคลวิจริตที่ไม่รู้สภาพการกระทำของตน ถือว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อมิได้
ผู้ที่จะต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของบุคคลผู้ไร้ความสามารถ
-บิดามารดา เฉพาะผู้มีหน้าที่ดูแลผู้เยาว์ตามความในตอนท้ายของมาตรา 429 เท่านั้น
-ผู้อนุบาล ของบุคคลวิกลจริตที่ศาลยังไม่สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถด้วย
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลตามาตรา 429 เป็นความรับผิดเนื่องจากความบกพร่องในหน้าที่ดูแลไร้ความสามาถและเหตุละเมิดที่เกิดขึ้นนั้นต้องเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ไร้ความสามารถ ในระหว่างการดูแลของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล จึงจะทำให้บุคคลเหล่านี้ต้องรับผิด
3.2 ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
บุคคลต้องรับผิด
มาตรา 430 “ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่น ซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิจก็ดี ชั่วครั้งชั่วคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิด ซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูและของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร”
ผู้ที่ต้องรับผิดร่วมกับบุคคลผู้ไร้ความสามารถตามมาตรา 430 คือ ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่น ซึ่งรับดูแลบุคคลดังกล่าว หากไม่รับดูแลก็เป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรานี้ จะดูและเป็นนิจหรือชั่วคราวก็ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน แต่ไม่หมายถึงผู้ดูแลแทนหรือผู้ช่วยเหลือในการดูแล
ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแล
ตามมาตรา 430 ผู้เสียหายนำสืบให้ได้ตามความว่าผู้มีหน้าที่ดูแลมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ต้องดูแล ถ้าไม่นำสืบหรือนำสืบให้ฟังมิได้ บุคคลที่รับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถก็ไม่ต้องรับผิด
สิทธิไล่เบี้ยของครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถ
เมื่อครูบาอาจารย์หรือบุคคลซึ่งดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ชดใช้จากบุคคลผู้ไร้ความสามารถลและไล่เบี้ยจนครบจำนวนที่ได้ชดใช้
Ex ฎ.62/2522 เด็กหนีออกจากบ้านไปตั้งแต่อายุ 12 ปี แม้ถูกล่ามโซ่ไว้ก็ยังหนี จนอายุ 18 ปี ไปรับจ้างขับรถยนต์ บิดามารดาใช้ความระมัดระวังดูแลอย่างดีแล้ว นอกเหนืออำนาจของบิดามารดาจะระวังได้ บิดามารดาไม่ต้องรับผิดในละเมิดที่บุตรขับรถชนผู้อื่นโดยประมาท