600-320 สื่อดิจิทัล 👤

บทที่1 แนวคิดทฤษฎีนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

ความหมายของนวัตกรรม และเทคโนโลยีทางการศึกษา

ความสำคัญของเทคโนโลยีที่มีต่อการศึกษา

นวัตกรรม (Innovation)

นวัตกรรมการศึกษา (Educational Innovation)

เทคโนโลยีทางการศึกษา (Educational Technology)

เทคโนโลยี (Technology)

เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา

บทบาทของนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา

หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษา

คือ การนำแนวความคิดใหม่หรือการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาใช้ในรูปแบบ ใหม่ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ หรือ ”การทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ (Change) ที่เกิดขึ้นรอบตัวเราให้กลายมาเป็นโอกาส (Opportunity) และถ่ายทอดไปสู่แนวความคิดใหม่ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม”

หมายถึง การนำเอาสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำ รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตามเข้ามาใช้ในระบบการศึกษา เพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

หมายถึง การใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในการแก้ปัญหา ผู้ที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ เรียกว่านักเทคโนโลยี (Technologist)

หมายถึง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานด้านการศึกษา อันได้แก่ การจัดเก็บข้อมูล และประมวลผลฐานข้อมูล การพัฒนาระบบสารสนเทศช่วยการเรียนการสอน การวางแผนและการบริหารการศึกษา การวางแผนหลักสูตร การแนะแนวและบริการ การทดสอบวัดผล การพัฒนาบุคลากร

ตามรูปศัพท์ เทคโน (วิธีการ) + โลยี(วิทยา) หมายถึง ศาสตร์ที่ว่าด้วยวิธีการทางการศึกษา ครอบคลุมระบบการนำวิธีการ มาปรับปรุงประสิทธิภาพของการศึกษาให้สูงขึ้นเทคโนโลยีทางการศึกษาครอบคลุม องค์ประกอบ 3 ประการ คือ วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ

หมายถึง การนำเอาเทคโนโลยีการศึกษามาใช้นั้น ส่วนใหญ่นำมาใช้ในการแก้ปัญหา ในด้านการศึกษาก็เช่นเดียวกัน เพราะปัญหามทางด้านการศึกษามากมาย

ปัญหาผู้สอน

ปัญหาด้านเนื้อหา

ปัญหาเรื่องระยะทาง

ปัญหาด้านเวลา

ปัญหาผู้เรียน

การนำเทคโนโลยีการศึกษามาใช้ในการเรียนการสอนก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเรียนการสอนและเพิ่มประสิทธิผลทางการศึกษาอีกด้วยคณะกรรมการด้านเทคโนโลยีการศึกษาได้

เทคโนโลยีการศึกษาทำให้การเรียนการสอน มีความหมายมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้กว้างขวาง เรียนได้เร็วขึ้น ทำให้ผู้สอนมีเวลาให้ผู้เรียนมากขึ้น

เทคโนโลยีการศึกษาสามารถตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียน ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามความสามารถของผู้เรียน การเรียนการสอนจะเป็นการตอบสนองความสนใจและความต้องการของแต่ละบุคคลได้ดี

เทคโนโลยีการศึกษาทำให้การจัดการศึกษา ตั้งบนรากฐานของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้การจัดการศึกษาเป็นระบบและเป็นขั้นตอน

เทคโนโลยีการศึกษาช่วยให้การศึกษามีพลังมากขึ้น การนำเทคโนโลยีด้านสื่อเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะทำให้การศึกษามีพลัง

เทคโนโลยีการศึกษาทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวาง และได้พบกับสภาพความจริงในชีวิตมากที่สุด

เทคโนโลยีการศึกษาทำให้เปิดโอกาสทางการศึกษาทั้งๆ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย

วิธีการเชิงมนุษยวิทยา (Humunistic Approach)

การที่ครูให้ความสนใจต่อการพัฒนา ในด้านความเจริญเติบโตของผู้เรียนแต่ละคน นักการศึกษาเชื่อว่าไม่มีวิธีการเรียนการสอนอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากแต่การใช้หลายๆ วิธีผสมผสานกัน (Integration) หรือเลือกวิธีการใด ๆ ก็ได้ที่เหมาะกับความต้องการของผู้เรียนนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

วิธีการสอนเชิงระบบ (Systematic Approach)

การจัดการเรียนการสอน โดยอาศัยวิธีระบบ ทั้งนี้เพราะการเรียนการสอนเป็นการถ่ายทอดศิลปะ วัฒนธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะของการเข้าใจเนื้อหาวิชา ซึ่งการจัดการเรียนการสอนไม่อาจปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมหรือตามอำเภอใจของ ผู้สอนหรือผู้เรียนได้ โดยเหตุนี้การจัดการเรียนการสอนจึงต้องเป็นไปตามระบบ

ก็คือ มีการวางแผนการสอนในด้านการจัดผู้เรียน วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรม และพยายามทำให้ผู้เรียนได้พัฒนาไปตามแผนนั้น

หลักการและทฤษฎี เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษาในแง่ของการเรียนรู้

คาร์เพนเตอร์ และเดล (C.R. Carpenter and Edgar Dale) ได้ประมวลหลักการและทฤษฏีเทคโนโลยีทางการศึกษาในลักษณะของการเรียนรู้ที่มี ประสิทธิภาพ 10 ประการ

หลักการจูงใจ

การพัฒนามโนทัศน์ (Concept)

กระบวนการเลือกและการสอนด้วยสื่อเทคโนโลยี

การจัดระเบียบประสบการณ์เทคโนโลยีทางการศึกษา

สื่อเทคโนโลยีทางการศึกษาจะมีพลังจูงใจที่สำคัญในกิจกรรมการเรียนการสอน เพราะเป็นสิ่งที่สามารถผลักดันจูงใจ มีอิทธิพลต่อพลังความสนใจ ความต้องการ ของผู้เรียน

ส่วนบุคคล สื่อช่วยส่งเสริมความ คิด ความเข้าใจแก่ผู้เรียนแต่ละคน การผลิตและการใช้วัสดุการเรียนการสอน ควรจะต้องสัมพันธ์กับความสามารถของผู้สอนและผู้เรียน ตลอดถึงจุดมุ่งหมายของการเรียน

ความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติเกี่ยวกับสื่อจะเป็นแบบลูกโซ่ในกระบวนการเรียนการสอน

ผู้เรียนจะเรียนได้ดีจากสื่อเทคโนโลยีที่จัดระเบียบเป็นระบบ และตามความสามารถของเขา

การมีส่วนรวมและการปฏิบัติ

การฝึกซ้ำและการเปลี่ยนแปลงสิ่งเร้าบ่อยๆ

อัตราการเสนอสื่อในการเรียนการสอน

ความชัดเจน ความสอดคล้อง และความเป็นผล

ผู้เรียนต้องการมีส่วนร่วม และการปฏิบัติด้วยตนเองมากที่สุด

สื่อที่สามารถส่งเสริมการฝึกซ้ำและมีการ เปลี่ยนแปลงสิ่งเร้าอยู่เสมอ จะช่วยส่งเสริมความเข้าใจ เพิ่มความคงทนในการจำ

อัตราหรือช่วงเวลาการเสนอข้อความรู้ต่างๆ จะ ต้องมีความสอดคล้องกับ ความสามารถของผู้เรียนรู้และประสบการณ์ของผู้เรียน

สื่อที่มีลักษณะชัดเจน สอดคล้องกับ ความต้องการ ที่สัมพันธ์กับผลที่พึงประสงค์ของผู้เรียนจะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ดี

การถ่ายโยงที่ดี

การให้รู้ผลการเรียนรู้จะดีขึ้น

โดยที่การเรียนรู้แบบเก่าไม่อาจถ่ายทอดไปสู่การเรียนรู้ใหม่ได้อย่าง อัตโนมัติ จึงควรจะต้องสอนแบบถ่ายโยง ผู้เรียนต้องการคำแนะนำในการปฏิบัติ เพื่อประยุกต์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ถ้าหากสื่อเทคโนโลยีช่วยให้ผู้เรียนรู้ผลการกระทำทันที หลังจากที่ได้ปฏิบัติกิจกรรมไปแล้ว

ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลอันมีผลทำให้เกิดนวัตกรรม

1. แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different)

การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non-Graded School)

แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)

เครื่องสอน (Teaching Machine)

การสอนเป็นคณะ (Team Teaching)

การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)

เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)

2.แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องความพร้อม (Readiness)

ศูนย์การเรียน (Learning Center)

การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)

การปรับปรุงการสอนสามชั้น (Instructional Development in 3 Phases)

3. แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องการใช้เวลาเพื่อการศึกษา

การจัดตารางสอนแบบยืดหยุ่น (Flexible Scheduling)

มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)

แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)

การเรียนทางไปรษณีย์

4.แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องการขยายตัวทางวิชาการและอัตราการเพิ่มประชากร

มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)

การเรียนทางวิทยุ การเรียนทางโทรทัศน์

การเรียนทางไปรษณีย์ แบบเรียนสำเร็จรูป

ชุดการเรียน

ประโยชน์ของนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษ

  1. ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น
  1. ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนเป็นรูปธรรม
  1. ช่วยให้บรรยากาศการเรียนรู้สนุกสนาน
  1. ช่วยให้บทเรียนน่าสนใจ
  1. ช่วยลดเวลาในการสอน
  1. ช่วยประหยัดค่าใช่จ่าย

บทที่2ความเข้าใจสื่อดิจิทัล

เข้าใจ
Understanding

การรู้สื่อ
Media Literacy

การรู้สารสนเทศ

เข้าใจบริบท และประเมินสื่อดิจิทัล เพื่อใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งที่พบ

การเข้าถึง การวิเคราะห์ และการผลิตสื่อผ่านความเข้าใจและ
การตระหนัก

การประเมินว่าสารสนเทศใดที่มนุษย์ต้องการ

“สื่อดิจิทัล คือ เนื้อหาของการสื่อสาร
ที่สามารถเข้าถึงได้โดยผ่านทางเครื่องมือดิจิทัล”

“สื่อดิจิทัล คือ สื่อที่มีคุณสมบัติสำคัญอยู่ที่การมีปฏิสัมพันธ์ (interactive) ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมซึ่งกันและทำให้ต่างฝ่ายต่างสามารถผลิตเนื้อหาของตนเองได้”

สื่อดิจิทัล หมายถึง อะไรก็ตามที่เป็นตัวกลางถ่ายทอดข้อมูลเลข ฐาน 2 คือ ตัวเลข 1 และ 0 สำหรับประมวลผล จัดเก็บหรือแสดงผลของข้อมูล เพื่อใช้ประโยชน์ในการส่งต่อข้อมูล สารสนเทศ จากแหล่งกำเนิดสารหรือผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร

องค์ประกอบของสื่อ

ข้อความ (Text)

เสียง (Audio)

ภาพนิ่ง (Still Image)

ภาพเคลื่อนไหว (Animation)

ภาพวิดีโอ (Video)

ประเภทของสื่อ

CD Training

CD Presentation

VCD/DVD

E-book และ E-document

ทักษะการเรียนรู้
และนวัตกรรม

ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ไขปัญหา

การสื่อสารและการมีส่วนร่วม

การคิดสร้างสรรค์

การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์

การนำนวัตกรรมมาสู่การปฏิบัติ

การใช้เหตุผลอย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้วิธีคิดเชิงระบบ

ประสิทธิภาพในการตัดสินใจ

การแก้ไขปัญหา

การสื่อสารได้ชัดเจนมีประสิทธิภาพ

การทำงานร่วมกับผู้อื่น