Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน้าที่ในการชำระหนี้ - Coggle Diagram
หน้าที่ในการชำระหนี้
กำหนดเวลาชำระหนี้
หนี้ที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้
หนี้ไม่ได้กำหนดเวลาชำระไว้โดยชัดเเจ้งและอนุมานจากพฤติการณ์ไม่ได้ด้วยเเต่ถ้าเเม่จะมิได้กำหนดเวลาชำระไว้เเต่สามารถอนุมานจากพฤติการณ์ได้
หนี้ที่อนุมานจากพฤติการณ์ได้ เช่น ยืมชุดเพื่อไปใช้ในงานเเต่งงานโดยมิได้ตกลงไว้ว่าจะคืนเมื่อไร เเต่ก็สามารถอนุมานจากพฤติการณ์ได้ ว่าเมื่อยืมไปใช้ในงานเเต่ง ก็ต้องชะรำเมื่อหลังจากที่งานเเต่งเสร็จสินเเล้ว จึงถือว่าเป็นหนี้ที่มีกำหนดชำระหนี้ เสร็จเเล้วจะนำชุดมาคืน
หนี้ที่จะถือว่าไม่กำหนดชำระและอนุมานจากพฤติการณ์ไม่ได้ เช่น กู้ยืมเงินไปโดยมิได้กำหนดวันชำระคืนไว้
หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้
หนี้ที่กำหนดเวลาชำระไว้โดยชัดเเจ้ง
เช่นยืมหนังสือของเพื่อนไปอ่านเพื่อที่จะใช้สอบ จะส่งคืนเมื่อสอบเสร็จ
เเยกพิจารณาเป็น 2 กรณี
1.กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้เเต่เป็นที่สงสัย
สงสัยว่าเวลาที่กำหนดนั้นเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายเจ้าหนี้หรือฝ่ายลูกหนี้ มิได้เป็นกรณีสงสัยว่าหนี้มีกำหนดเวลาชำระหรือไม่ ซึ่งมาตรา 203 วรรคสอง บัญญัติให้เป็นประโยชน์แก่ฝ่ายลูกหนี้ คือฝ่ายเจ้าหนี้จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อนกำหนดเวลานั้นไม่ได้ แต่ฝ่ายลูกหนี้ย่อมจะชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ก่อนกำหนดเวลานั้นได้
เช่น เจ้าหนี้ให้ลูกหนี้กู้ยืมเงินจำนวน 10,000 บาท ตกลงกันว่าลูกหนี้จะชำระหนี้ภายใน 15 วัน เช่นนี้ เจ้าหนี้จะเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ด้วยการส่งมอบเงินจำนวน 10,000 บาทนั้น ก่อนครบกำหนด 15 วันดังกล่าวไม่ได้ แต่ลูกหนี้จะชำระหนี้ด้วยการส่งมอบเงินจำนวน 10,000 บาทนั้น ให้แก่เจ้าหนี้ก่อนครบกำหนด 15 วันนั้นได้
2.กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ไม่เป็นที่สงสัย
เเบ่งออกได้เป็น 2 อย่าง
2.1.กำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันเเห่งปฏิทิน
กรณีหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระที่มิใช่วันแห่งปฏิทิน การกำหนดเวลาชำระหนี้นั้นอาจเอาวันแห่งปฏิทินมาเป็นตัวกำหนดการชำระหนี้ หรือเอาวันอื่นที่มิใช่วันแห่งปฏิทินมาเป็นตัวกำหนดการชำระหนี้ เช่น เมื่อถึงฤดูร้อน เมื่อถึงฤดูฝน หรือเมื่อถึงฤดูหนาว เป็นต้น หรือเอาเหตุการณ์ต่าง ๆมาเป็นตัวกำหนดการชำระหนี้ อาทิ เมื่อต้นกุหลาบผลิดอก เมื่อสุนัขที่เลี้ยงคลอดลูก หรือเมื่อภริยาคลอดบุตร เป็นต้น
1.กำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันเเห่งปฏิทิน
เช่น เเดงยืมเงินดำไป 1000 บาทเละตกลงว่าจะคืนให้ในวันที่ 25 สิงหาคม 2565
การผิดนัดไม่ชำระหนี้
1.การผิดนัด
2.ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ต้องเตือน
1.หนี้ที่กำหนดชำระตามวันเเห่งปฏิทิน
เช่น กำหนดชำระหนี้ ในวันที่ 25 สิงหาคม มีความเเน่นอน ชัดเจนรู้ได้ตรงกันอยู่เเล้ว ดังนั้นกฎหมายจึงกำหนดว่าถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดลูกหนี้ก็ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยไม่ต้องเตือนเลย
2.หนี้ละเมิด
เมือมีการทำละเมิดทำให้เขาเสียหาย ก็มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าสินไหมทดเเทนทันทีที่ทำละเมิด
3.กำหนดชำระหนี้กับการผิดนัด
มีข้อสรุปดังนี้
กำหนดเวลาชำระหนี้นั้น เป็นกำหนดที่ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้ แต่การผิดนัดเป็นผลของการไม่ชำระหนี้ตามกำหนด การไม่ชำระหนี้ที่มีใช่กำหนคตามวันแห่งปฏิติน ลูกหนี้จะผิดนัดก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนึ้
แล้ว แต่ถ้าเป็นหนี้ที่มีกำหนดชำระดามวันแห่งปฏิทินลูกหนี้ก็จะผิดนัดทันทีที่ไม่ชำระหนี้
2.เป็นกำหนดที่เจ้าหนี้สามารถเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ และเป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งของการผิดนัดคือการที่เจ้าหนี้จะทำให้ลูกหนี้ผิดนัดได้นั้นต้องเป็นการเดือนลูกหนี้หลังจากที่หนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว หากยังไม่ถึงกำหนดชำระหนี้ เจ้าหนึ้จะทำให้ลูกหนี้ผิดนัดได้ แม้เจ้าหนี้จะเตือนให้ลูกหนี้ชำระและลูกหนี้ไม่ชำระลูกหนี้ก็ยังไม่นัด เพราะลูกหนี้ยังสามารถถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาได้อยู่
1.ลูกหนี้ผิดนัดโดยต้องเตือนก่อน
1.หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระมิใช่ตามวันเเห่งปฏิทิน
เช่น กำหนดชำระหนี้เมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จ เมื่อสิ้นฤดูน้ำหลาก กฎหมายจึงได้กำหนดให้เจ้าหนี้ต้องให้คำเตือนลูกหนี้่ก่อนเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระ ตามที่เจ้าหนี้เตือนลูกหนี้จึงจะผิดนัด ดังนั้นเเม้หนี้ถึงกำหนดชำระเเล้ว เเละลูกหนี้ก็ยังไม่ชำระหนี้ถ้าหากเจ้าหนี้ยังไม่เตือน ลูกหนี้ก้ยังไม่ผิดนัด
2.หนี้ที่ไมมีกำหนดชำระ
หนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ และจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้นั้น มาดรา 203 กำหนดให้เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนีได้โดยพลัน และลูกหนี้ก็มีสิทธิจะชำระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน
เช่น สัญญากู้เงินระหว่างโจทก์กับ ส. ไม่ได้กำหนดเวลาชำระเงินคืนไว้ โจทก์ย่อมเรียกให้จำเลยชำระหนี้ได้โดยพลันตาม ป.พ.พ. มาตรา 203
4.กรณีที่ไม่ถือว่าลูกหนี้ผิดนัด
1.เป็นเหตุที่เกิดจากเจ้าหนี้เอง เช่นเจ้าหนี้ผิดนัด อาจเพราะด้วยไม่รับชำระหนี้หรือเพราะไม่เสนอชำระหนี้ตอบเเทนเมื่อตนมีหน้าที่ที่ต้องชำระหนี้ตอบเเทนก็ถือเป็นการชำระหนี้ยังไม่ได้กระทำลงเพราะพฤติการณ์ที่ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดชอบ ลูกหนี้จึงไม่ผิดนัด
เช่นเเดงจะคืนเงินดำเเละขอให้ดำออกใบเสร็จให้เเต่ดำไม่ยอมออกให้เเดงจึงไม่จ่ายเงินดำเเดงถือว่าไม่ผิดนัดเพราะเป็นสิทธิของเเดงที่จะเรียกร้องให้ดำออกใบเสร็จให้เพื่อเป็นหลักฐานในการชำระหนีี้
2.เหตุเกิดจากบุคคลภายนอก
เช่นช่นตกลงกันทำสัญญาจะซื้อขายที่ดิน โดยตกลงกันว่าลูกหนี้นี้จะรังวัดแบ่งแยกที่ดินที่จะซื้อขายและไปโอนให้แก่ผู้ซื้อภายในเวลาที่กำหนดปรากฎว่า ลูกหนี้ได้พยายามดำเนินการเพื่อรังวัดแบ่งแยกที่ดินดามสัญญาเต็มความสามารถแล้ว แต่ร้งวัดแบ่งแยกไม่เสร็จเพราะเจ้าพนักงานที่ดีนไม่อาจดำเนินการได้ทัน ถือว่าลูกหนี้ไม่ผิดนัด
2.ผลของการผิดนัดของลูกหนี้
2.เจ้าหนี้อาจไม่รับชำระหนี้
การชำระหนี้บางอย่าง กำหนดเวลาชำระหนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญถึงขนาดที่หากเลยกำหนดเวลานั้นไปเเล้วการชำระหนี้ก็ตกเป็นไร้ประโยชน์เเก่เจ้าหนี้
เช่นตกลงจ้างตัดชุดเจ้าสาวเพื่อใช้ในงานเเต่งเเต่ชุดมาส่งหลังจากที่งานเลี้ยงฉลองสมรสผ่านไปเเล้ว ก็ไม่เกิดประโยชน์เเก่เจ้านี้ ดังนั้นเจ้าหนี้จึงมีสิทธิปฎิเสธไม่รับชำระหนี้ในกรณีผิดนัดในมาตรา 216
3.ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดระหว่างผิดนัดเพิ่มขึ้น
เป็นกรณีที่เกิดขึ้นในระหว่างผิดนัดเเล้วลูกหนี้ต้องรับผิดเพิ่มขึ้นกว่ากรณีก่อนผิดนัด
เช่นลูกหนี้ยืมรถเขามาใช้กำหนดส่งคืนในวันที่ 25 สิงหาคมเเล้วลูกหนี้ไม่นำรถไปส่งคืนเขาเเละลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดตามมาตรา 204 วรรณ 2 วันต่อมาเกิดเหตุไฟไหม้เเละลุกลามมาไหม่รถเช่นเดียวกันลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างที่ผิดนัด
1.ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดเเต่การผิดนัด
ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเเละตกเป็นผู้ผิดนัด ดังนั้นเมื่อการชำระหนี้ล่าช้าเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายเเก่เจ้าหนี้ เจ้าหนี้ก็อาจเรียกเอาค่าสินไหมทดเเทนได้ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 215
เช่นทำสัญญารับจ้างสร้างบ้านให้เขาตกลงว่าจะเสร็จภายใน 2 เดือน เเต่สร้างเสร็จล่าช้าไปทำให้ผู้ว่าจ้างต้องไปเช่าบ้านอยู่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน