Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สื่อดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ - Coggle Diagram
สื่อดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้
บทที่ 2 สื่อดิจิทัล
Digital Media Understandingสถานการณ์ปัจจุบันทำให้สื่อมีบทบาทต่อการเรียนรู้ทั้งด้านการดำรงชีวิต ทัศนคติ ค่านิยมการประเมินคุณค่าสื่อ การปฏิบัติตนในสังคม ที่นำไปสู่การแก้ปัญหาและแนวทางการศึกษาในศตวรรษที่ 21
1.“สื่อดิจิทัล คือเนื้อหาของการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงได้โดยผ่านทางเครื่องมือดิจิทัล”
2.“สื่อดิจิทัล คือ สื่อที่มีคุณสมบัติสำคัญอยู่ทีการมีปฏิสัมพันธ์(interactive) ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ผู้ใช้สามารถมีส่วนร่วมซึ่งกันและทำให้ต่างฝ่ายต่างสามารถผลิตเนื้อหkของตนเองได้”
3.สื่อดิจิทัล หมายถึงอะไรก็ตามที่เป็นตัวกลางถ่ายทอดข้อมูลเลข ฐาน 2คือ ตัวเลข 1 และ 0สำหรับประมวลผลจัดเก็บหรือแสดงผลของข้อมูล เพื่อใช้ประโยชน์ในการส่งต่อข้อมูลสารสนเทศ จากแหล่งกำเนิดสารหรือผู้ส่งสารไปยังผู้รับสาร
องค์ประกอบของสื่อ
สื่อดิจิทัล ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบได้แก่
ข้อความ (Text)
เสียง (Audio)
ภาพนิ่ง (Still Image)
ภาพเคลื่อนไหว (Animation)
ภาพวิดีโอ (Video)
ประเภทของสื่อ
มี 4 ประเภท คือ
CD Training
CD Presentation
VCD/DVD
E-book และ E-document
ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม
ความเข้าใจสื่อดิจิทัลเกิดจากการผสมผสานความรู้ทุกสาขาวิชารวมถึงทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (Learning and innovation skills) และการใช้ชีวิต มีจุดเน้นอยู่บนพื้นฐานแห่งการสร้างสรรค์การคิดแบบมีวิจารณญาณ การสื่อสาร และการมีส่วนร่วมในการทำงาน
เครื่องมือที่ใช้ในการนำเสนอข้อมูลยุคดิจิทัล
โพรเจกเตอร์ (Projector)
เครื่องฉาย 3 มิติ (Visualizer)
กล้องถ่ายรูปดิจิทัล (Digital Camera)
กล้องถ่ายวีดีทัศน์ดิจิทัล
คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
อัลตราบุ๊ก (Ultrabook)
แท็บเล็ต (Tablet)
สมาร์ทโฟน (Smartphone)
เครื่องเล่น MP3
บทที่ 1 แนวคิดทฤษฎี นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา :
ความหมายของนวัตกรรม
:
คือ การนำแนวความคิดใหม่หรือการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาใช้ในรูปแบบ ใหม่ เพื่อทำให้เกิดประโยชน์ หรือ ”การทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น โดยอาศัยการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ (Change) ที่เกิดขึ้นรอบตัวเราให้กลายมาเป็นโอกาส(Opportunity) และถ่ายทอดไปสู่แนวความคิดใหม่ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคม”
นวัตกรรมการศึกษา (Educational Innovation) หมายถึง การนำเอาสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำ รวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตามเข้ามาใช้ในระบบการศึกษา เพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการเรียน และช่วยให้ประหยัดเวลาในการเรียน เช่น การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การใช้วีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ (Interactive Video) สื่อหลายมิติ (Hypermedia) และอินเตอร์เน็ต
เป็นต้น
ความสำคัญของเทคโนโลยีที่มีต่อการศึกษา
หมายถึง การนำเอาเทคโนโลยีการศึกษามาใช้นั้น ส่วนใหญ่นำมาใช้ในการแก้ปัญหา ในด้านการศึกษาก็เช่นเดียวกัน เพราะปัญหาทางด้านการศึกษามากมาย เช่น ปัญหาผู้สอน ปัญหาผู้เรียน ปัญหาด้านเนื้อหา ปัญหาด้านเวลา ปัญหาเรื่องระยะทาง นอกจากนั้นการนำเทคโนโลยีการศึกษามาใช้ในการเรียนการสอนก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเรียนการสอนและเพิ่มประสิทธิผลทางการศึกษาอีกด้วยคณะกรรมการด้านเทคโนโลยีการศึกษาได้
หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการศึกษาต้องอาศัยวิธีการที่สำคัญอย่างน้อยอีก 2 วิธี ได้แก่
-วิธีการเชิงมนุษยวิทยา (Humunistic Approach) ได้แก่ การที่ครูให้ความสนใจต่อการพัฒนา ในด้านความเจริญเติบโตของผู้เรียนแต่ละคน นักการศึกษาเชื่อว่าไม่มีวิธีการเรียนการสอนอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นวิธีที่ดีที่สุด หากแต่การใช้หลายๆ วิธีผสมผสานกัน(Integration) หรือเลือกวิธีการใด ๆ ก็ได้ที่เหมาะกับความต้องการของผู้เรียนนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
-วิธีการสอนเชิงระบบ (Systematic Approach) ได้แก่ การจัดการเรียนการสอน โดยอาศัยวิธีระบบ ทั้งนี้เพราะการเรียนการสอนเป็นการถ่ายทอดศิลปะ วัฒนธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะของการเข้าใจเนื้อหาวิชา ซึ่งการจัดการเรียนการสอนไม่อาจปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมหรือตามอำเภอใจของ ผู้สอนหรือ
บทบาทของนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
1.เทคโนโลยีการศึกษาทำให้การเรียนการสอน มีความหมายมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้กว้างขวาง เรียนได้เร็วขึ้นทำให้ผู้สอนมีเวลาให้ผู้เรียนมากขึ้น
2.เทคโนโลยีการศึกษาสามารถตอบสนองความแตกต่างของผู้เรียน ผู้เรียนสามารถเรียนได้ตามความสามารถของผู้เรียนการเรียนการสอนจะเป็นการตอบสนองความสนใจและความต้องการของแต่ละบุคคลได้ดี
3.เทคโนโลยีการศึกษาทำให้การจัดการศึกษา ตั้งบนรากฐานของวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ทำให้การจัดการศึกษาเป็นระบบและเป็นขั้นตอน
4.เทคโนโลยีการศึกษาช่วยให้การศึกษามีพลังมากขึ้น การนำเทคโนโลยีด้านสื่อเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะทำให้การศึกษามีพลัง
5.เทคโนโลยีการศึกษาทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวาง และได้พบกับสภาพความจริงในชีวิตมากที่สุด
6.เทคโนโลยีการศึกษาทำให้เปิดโอกาสทางการศึกษาทั้งๆ การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยบทบาทของนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ
หลักการและทฤษฎี เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษา
ในแง่ของการเรียนรู้
คาร์เพนเตอร์ และเดล (C.R. Carpenter and Edgar Dale) ได้ประมวลหลักการและทฤษฏีเทคโนโลยีทางการศึกษาในลักษณะของการเรียนรู้ที่มี ประสิทธิภาพ 10ประการ คือ
1.หลักการจูงใจ สื่อเทคโนโลยีทางการศึกษาจะมีพลังจูงใจที่สำคัญในกิจกรรมการเรียนการสอน
2.การพัฒนามโนทัศน์ (Concept) ส่วนบุคคล สื่อช่วยส่งเสริมความ คิด ความเข้าใจแก่ผู้เรียนแต่ละ
3.กระบวนการเลือกและการสอนด้วยสื่อเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติเกี่ยวกับสื่อจะเป็นแบบลูกโซ่ในกระบวนการเรียนการสอน
4.การจัดระเบียบประสบการณ์เทคโนโลยีทางการศึกษา ผู้เรียนจะเรียนได้ดีจากสื่อเทคโนโลยีที่จัดระเบียบเป็นระบบ และตามความสามารถของเขาหลักการและทฤษฎี เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษาในแง่ของการเรียนรู้
5.การมีส่วนรวมและการปฏิบัติ ผู้เรียนต้องการมีส่วนร่วม และการปฏิบัติด้วยตนเองมากที่สุด
6.การฝึกซ้ำและการเปลี่ยนแปลงสิ่งเร้าบ่อยๆ สื่อที่สามารถส่งเสริมการฝึกซ้ำและมีการ เปลี่ยนแปลงสิ่งเร้าอยู่เสมอ จะช่วยส่งเสริมความเข้าใจ เพิ่มความคงทนในการจำ
7.อัตราการเสนอสื่อในการเรียนการสอน อัตราหรือช่วงเวลาการเสนอข้อความรู้ต่างๆ จะ ต้องมีความสอดคล้องกับ ความสามารถของผู้เรียนรู้และประสบการณ์ของผู้เรียน
8.ความชัดเจน ความสอดคล้อง และความเป็นผล สื่อที่มีลักษณะชัดเจน สอดคล้องกับ ความต้องการ ที่สัมพันธ์กับผลที่พึงประสงค์ของผู้เรียนจะทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ดีหลักการและทฤษฎี เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการศึกษาในแง่ของการเรียนรู้
9..การถ่ายโยงที่ดี โดยที่การเรียนรู้แบบเก่าไม่อาจถ่ายทอดไปสู่การเรียนรู้ใหม่ได้อย่างอัตโนมัติ จึงควรจะต้องสอนแบบถ่ายโยง ผู้เรียนต้องการคำแนะนำในการปฏิบัติ เพื่อประยุกต์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
10.การให้รู้ผลการเรียนรู้จะดีขึ้น ถ้าหากสื่อเทคโนโลยีช่วยให้ผู้เรียนรู้ผลการกระทำทันที หลังจากที่ได้ปฏิบัติกิจกรรมไปแล้ว
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลอันมีผลทำให้เกิดนวัตกรรม
แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล(Individual Different)นวัตกรรมที่สนองแนว ความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น- การเรียนแบบไม่แบ่งชั้น (Non-Graded School)- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)- เครื่องสอน (Teaching Machine)- การสอนเป็นคณะ (Team Teaching)- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)- เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)
แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องความพร้อม (Readiness)นวัตกรรมที่สนองแนว ความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น- ศูนย์การเรียน (Learning Center)- การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)-การปรับปรุงการสอนสามชั้น(Instructional Development in3 Phases)
แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องการใช้เวลาเพื่อการศึกษานวัตกรรมที่สนองแนว ความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น- การจัดตารางสอนแบบยืดหยุ่น (Flexible Scheduling)- มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)- แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)- การเรียนทางไปรษณีย์
แนวความคิดพื้นฐานในเรื่องการขยายตัวทางวิชาการและอัตราการเพิ่มประชากรนวัตกรรมที่สนองแนว ความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น- มหาวิทยาลัยเปิด (Open University)- การเรียนทางวิทยุ การเรียนทางโทรทัศน์- การเรียนทางไปรษณีย์ แบบเรียนสำเร็จรูป- ชุดการเรียน
ประโยชน์ของนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษา
ช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น
ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนเป็นรูปธรรม
ช่วยให้บรรยากาศการเรียนรู้สนุกสนาน
ช่วยให้บทเรียนน่าสนใจ
ช่วยลดเวลาในการสอน
ช่วยประหยัดค่าใช่จ่าย