Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น, ความรับผิดของนายจ้าง, ลูกจ้างทำละเมิดในท…
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
ก. ลักษณะของนายจ้างลูกจ้าง
แม้ตัวบทจะใช้ความว่าบุคคลหนึ่งเรียกว่าลูกจ้าง บุคคลหนึ่งเรียกว่านายจ้าง เป็นถ้อยคำในบทบัญญัติของกฎหมาย ถ้าหากไม่เรียกกันว่าสัญญาจ้างแรงงานหรือลูกจ้างนายจ้าง ก็ไม่ถื่อว่าเป็นสัญญาจ้างแรงงานซึ่งหาถูกต้องไม่ ในสัญญาจ้างแรงงาน ความเกี่ยวพันของนายจ้างและลูกจ้างมีอยู่ระหว่างบุคคล นายจ้างมีอำนาจสั่งให้ลูกจ้างทำงาน ลูกจ้างต้องปฎิบัติตามคำสั่งของนายจ้างเสมอ แต่ต้องเป็นคำสั่งที่เกี่ยวกับงานที่จ้าง
ข.ในทางการที่จ้าง
ผู้ใดทำสิ่งใดโดยบุคคลอื่นเท่ากับทำด้วยตนเอง แต่หลักนี้ใช้เฉพาะแต่การได้รับมอบอำนาจ ไม่ใช่แก่การกระทำในทางการที่จ้าง ซึ่งเเม้ลูกจ้างจะเป็นผู้กระทำ แต่ไม่ได้รับมอบหมายอำนาจโดยเฉพาะ ในการที่นายจ้างต้องรับผิดในการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้างนั้นไม่ใช่เพราะว่ามอบอำนาจให้กระทำแทน แต่เป็นเพราะลูกจ้างได้เกี่ยวข้องกับงานที่จ้าง
ตัวอย่าง
เช่น ลูกจ้างทำหน้าที่คนท้ายรถยนต์ซึ่งนายจ้างยินยอมให้ขับรถด้วยนั้น ถ้าขับรถทำให้ผู้อื่นเสียหายโดยละเมิด นายจ้างต้องรับผิด (ฏ.506/2498)
การกระทำละเมิดโดยประมาทเลินเล่อ
การกระทำละเมิดโดยประมาทเลินเล่อในทางการที่จ้างย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าเป็นความพลั้งเผลอที่อาจเกิดขึ้นได้ในขณะที่ปฎิบัติตามหน้าที่ เหตุที่เกิดขึ้นก็ยังถือว่าอยู่ในทางการที่จ้าง ถ้าการกระทำนั้นเป็นการละเมิดที่นายจ้างไม่ได้มอบอำนาจหรือสั่งให้กระทำ เป็นการกระทำที่ไม่เกี่ยวกับการกระทำที่นายจ้างมอบอำนาจหรือสั่งให้กระทำจนขนาดที่ถือว่าเป็นวิธีการ ในการทำงานนั้น แต่เป็นการการกระทำโดยอิสระของลูกจ้างเองแล้ว นายจ้างไม่ต้องรับผิด
ตัวอย่าง เช่น ฎ. 1206/2500 นายจ้างจ้างลูกจ้างเฝ้แพซุง ลูกจ้างประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้แพซุงขาดหลุดลอยไปตามกระเเสน้ำ ถือว่าการที่ลูกจ้างมีหน้าที่เฝ้าดูแลรักษาแพนั้นเป็นการกระทำงานให้นายจ้าง
การละเมิดจงใจ
การกระทำละเมิดโดยจงใจอาจอยู่ในทางการที่จ้างได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นนายจ้างจึงต้องรับผิดชอบในการกระทำละเมิดจงใจซึ่งลูกจ้างได้ก่อขึ้นอันรวมทั้งการกระทำคามผิดทางอาญาด้วย การที่ให้นายจ้างต้องรับผิดอันเนื่องมาจากการกระทำละเมิดโดยจงใจของลูกจ้างนั้น จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าลูกจ้างได้กระทำไปโดยมีความตั้งใจปฎิบัติเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง ถ้าหากลูกจ้างได้กระทำไปเพื่อประโยชน์ของตนเอง เป็นการกระทำเพื่อความมุ่งหมายส่วนตัว นางจ้างไม่ต้องรับผิด
ตัวอย่าง
ทนายความซึ่งเป็นนายจ้างต้องรับผิดต่อลูกความในกลฉ้อฉลหรือคดโกงของเสมียนจัดการซึ่งเป็นลูกจ้าง แม้ว่าจะเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของลูกจ้างที่คดโกงเท่านั้น
สิทธิไล่เบี้ยของนายจ้าง
มาตรา 426 วางหลักว่า นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก เพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น
โดยเหตุที่การละเมิดนั้นเป็นการหระทำของลูกจ้างต่อบุคคลภายนอกเองโดยลำพัง ที่นายจ้างต้องรับผิดร่วมด้วยกับลูกจ้างก็เป็นความรับผิดต่อผู้เสียหาย แต่นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในผลที่ลูกจ้างทำละเมิด เมื่อนายจ้างใช้ค่าสินไหมทดเเทนให้ผู้เสียหายไปแล้ว
สิทธิไล่เบี้ยของตัวการ
มาตรา 427 บัญญัติให้นำมาตรา 426 มาใช้บังคับแก่ตัวการตัวแทนด้วยโดยอนุโลม กล่าวคือเมื่อตัวการได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอเพื่อละเมิดอันตัวแทนได้ทำไปแล้ว ก็ชอบที่จะได้ชดใช้จากตัวแทน
ก. ลักษณะตัวการตัวแทน
โดยเหตุที่ตัวแทนมิใช่ลูจ้าง จึงไม่อยู่ในบังคับเเห่งสิทธิของตัวการเกี่ยวกับความพฤติทางปฎิบัติของตัวแทน โดยปกติตัวแทนจึงย่อมมีความรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ตัวการไม่ต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ตัวแทนก่อขึ้น
ข. ความรับผิดของตัวการ
เหตุละเมิดที่จะให้ตัวการรับผิดต้องเป็นเหตุที่ได้เกิดขึ้นในขอบเขตแห่งการปฎิบัติตามหน้าที่เพื่อตัวการหรือในฐานที่ตัวแทนได้ทำการเป็นตัวแทน ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจแต่เฉพาะการ ย่อมจะทำการแทนตัวการได้แต่เพียงในสิ่งี่จำเป็นเพื่อให้กิจการอันตัวการได้มอบหมายแก่ตนนั้นสำเร็จล่วงไป
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 428 นั้น แสดงว่าผู้รับจ้างเป็นผู้ก่อความเสียหายแก่บุคคลภายนอก จึงเป็นผู้กระทำด้วย แม้ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของนั้นจะเป็นความรับผิดในฐานนะที่ผู้ว่าจ้างเป็นผู้กระทำละเมิด ไม่ใช่รับผิดร่วมกับผู้รับจ้าง และเเม้บางกรณีจะถือว่าผู้รับจ้างเองกระทำละเมิดโดยลำพังอีกด้วยก็ตาม
กฎหมายได้บัญญัติถึงผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิด บุคคลที่รับผิดในการกระทำของบุคคลอื่นนั้นมิได้กระทำละเมิดด้วยตนเอง ถ้ากระทำละเมิดแล้ว ก็มิใช่เรื่องความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น แต่เป็นความรับผิดของบุคคลในการกระทำของตนเอง ถ้าหากเป็นผู้ผิด ความผิดของผู้ว่าจ้างทำของตามมาตรา 428 จึงไม่ใช่เรื่องความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น จึงเป็นความผิดของผู้ว่าจ้างในการกระทำของตนเองตามมาตรา 420
ตัวบทมาตรา 428 คำว่า “ความเสียหาย” หาได้ใช้คำว่า “กระทำละเมิด” หรือ “ละเมิด” โดยที่ความเสียหายเกิดจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้างก็ได้ ผู้รับจ้างจึงไม่ต้องรับผิดทางละเมิด แต่ผู้ว่าจ้างก็ยังต้องรับผิด เพราะได้มีส่วนผิด
โดยเหตุที่ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น เมื่อผู้ว่าจ้างได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกผู้ได้รับความเสียหายไปแล้ว จึงไม่บัญญัติให้ผู้ว่าจ้างไล่เบี้ยเรียกชดใช้เอาจากผู้รับจ้าง
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ทั้งนี้ก็เพราะว่าผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิควบคุมวิธีการทำงาน จึงถือว่าเป็นงานของผู้รับจ้างเอง ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิที่จะออกคำสั่งบังคับบัญชาผู้รับจ้างดังนายจ้างกับลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงาน
1.ความผิดในการส่วนการงานที่สั่งให้ทำ
เป็นเรื่องสั่งให้ทำตามสัญญาจ้างที่มีต่อกัน เช่นการจ้างให้ทำถนนเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นเพื่อผ่านไปถึงที่ของตนอันเป็นการละเมิด
2.ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้
งานที่สั่งให้ทำจะไม่เป็นละเมิดในตัวเอง แต่อาจสั่งให้ผู้รับจ้างทำโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งอันเป็นผลให้ผู้อื่นเสียหายก็ได้
3. ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ที่ว่าเลือกหาผู้รับจ้างคือการจ้างนั่นเอง
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและความผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
ความรับผิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตทางละเมิด
ผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตจะมีความรับผิดฐานละเมิดได้ก็ย่อมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 420 คือจะต้องมีการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ที่จะถือว่าเป็นการกระทำ จะต้องมีความเคลื่อนไหวในอิริยาบถโดยความรู้สึกในความเคลื่อนไหว และที่ถือว่าเป็นการจงใจ จะต้องรู้สึกสำนึกถึงผลเสียหายที่จะต้องเกิดจากการกระทำของตน ถ้าเป็นเด็กไรเดียงสาหรือบุคคลวิกลจิตไม่รู้สำนึกในการกระทำของตนหรือบุคคลวิกลจริตที่ไม่รู้สภาพการกระทำของตน ย่อมจะถือว่าจงใจหรือประมาทเลินเล่อไม่ได้ แต่ถ้ารู้ว่าได้ทำอะไรลงไป เพียงแต่ไม่รู้สำนึกผิดชอบหรือยับยั้งไม่ได้ อาจเป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อได้ เพราะผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตย่อมมีฐานะทางจิตใจอยู่หลายระดับต่างกันไป
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลตามมาตรา 429 เป็นความรับผิดเนื่องจากความบกพร่องในหน้าที่ดูแลผู้ไร้ความสามารถและเหตุละเมิดที่เกิดขึ้นนั้นต้องเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ไร้ความสามารถอยู่ในระหว่างการดูแลของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล จึงจะทำให้บุคคลเหล่านี้ต้องรับผิด ถ้าหากมิใช่เหตุละเมิดในระหว่างที่อยู่ในความดูแลก็ไม่ต้องรับผิด เพราะเป็นเรื่องความบกพร่องในการควบคุมดูแล
ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแล
ความรับผิดตามมาตรา 429 เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ซึ่งบิดามารดาหรือผู้อนุบาลซึ่งหน้าที่ดูแลนั้น จะต้องรับผิดโดยผู้เสียหายไม่ต้องพิสูจน์ว่าบิดามารดาหรือผู้อนุบาลมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร แต่หน้าที่ของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล จะต้องพิสูจน์ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งกระทำอยู่แล้วนั้นหากไม่พิสูจน์หรือพิสูจน์ไม่ได้
สิทธิไล่เบี้ยของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล
บิดามารดาหรือผู้อนุบาลได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้วก็ชอบที่ได้ชดใช้จากผู้เยาว์หรือยุควิกลจริตและไล่เบี้ยเอาได้จนครบจำนวนที่ได้ชดใช้
ก. บุคคลผู้ต้องรับผิด
มาตรา 430 มาตรานี้กำหนดความรับผิดของผู้มีหน้าที่ดูแลผู้ไร้ความสามารถในผลแห่งการละเมิดที่ผู้ไร้ความสามารถได้ทำขึ้นเช่นเดียวกับมาตรา 429 ความรับผิดอยู่ที่การบกพร่องในหน้าที่ดูแลผู้ไร้ความสามารถ คำอธิบายเกี่ยวกับมาตรา 429 ย่อมนำมาใช้ได้โดยอนุโลม ผู้ที่ต้องรับผิดร่วมกับบุคคลผู้ไร้ความสามารถตามมาตรานี้ คือครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลดังกล่าว หากไม่รับดูแล ก็เป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรานี้จะดูแลอยู่นิจหรือชั่วคราวก็ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน
ข.ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแล
ความรับผิดตามมาตรา 430 ต่างกับความรับผิดตามมาตรา 429 ที่ว่าตามมาตรา 429 บัญญัติให้บิดามารดาหรืออนุบาลมีหน้าที่นำสืบว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร จึงจะพ้นจากความรับผิด ถ้าไม่นำสืบหรือนำสืบยังไม่ได้ ก็ไม่พ้นจากความรับผิด แต่มาตรา 430 เป็นหน้าที่ของผู้เสียหายต้องนำสืบให้ได้ความว่าผู้มีหน้าที่ดูแลมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ต้องดูแล ถ้าไม่นำสืบหรือนำสืบให้ฟังไม่ได้ บุคคลที่รับดูแลผู้ไร้ความสามารถก็ไม่ต้องรับผิด
สิทธิไล่เบี้ยของครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลไร้ความสามารถ
ครูบาอาจารย์หรือบุคคลซึ่งรับดูแลบุคคลไร้ความสามารถได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ชอบที่จะได้ชดใช้จากบุคคลผู้ไร้ความสามารถและไล่เบี้ยเอาได้จนครบจำนวนที่ได้ชดใช้
ความรับผิดของนายจ้าง
ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
สิทธิไล่เบี้ย
ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดตัวแทน
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
หลักความรับผิดชอบของผู้ว่าจ้างทำของ
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ