Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวทางการวินิจฉัย และการรักษาโรคไข้เลือดออก - Coggle Diagram
แนวทางการวินิจฉัย และการรักษาโรคไข้เลือดออก
ไข้เลือดออก
อาการ
ปวดศีรษะ
ปวดเมื่อยตามตัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก/ข้อ
ผื่น
อาการเลือดออก
จุดเลือดออก เลือดกำเดา อาเจียน/ ถ่ายเป็นเลือด หรือสีดำ
เม็ดเลือดขาวต่ำ
เกล็ดเลือดต่ำกว่า 150,000 เซล/ลบมม.
Hct เพิ่มขึ้น 10-20%
การวินิจฉัย
Tourniquet test positive + WBC < 5,000 cell/cu.mm
PPV 80%
อาการทางคลินิก
ไข้สูงลอย 2-7 วัน
อาการเลือดออก
การตรวจทูนิเกต์ให้ผลบวก จุดเลือดออกตามตัว
ตับโต
ช็อก
การตรวจทางห้องงปฏิบัติการ
เกล็ดเลือดต่ำกว่า 100,000 เซล/ลบ.มม.
มีการรั่วของพลาสมา : Hematocrit เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% มีน้ำในช่องปอด, ช่องท้อง, albumin < 3.5 gm%
ความรุนแรงของโรคไข้เลือดออก
เกรด 1 ไม่มีอาการเลือดออก มีแต่การตรวจทูนิเกต์ให้ผลบวก
เกรด 2 มีอาการเลือดออกร่วมด้วย เช่น มีจุดเลือดออก มีเลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด
เกรด 3 มีอาการช็อก
เกรด 4 มีอาการช็อกนาน ความดัน/ชีพจรวัดไม่ได้ ตัวเป็นลาย ตัวเขียว
การดำเนินโรคไข้เลือดออก
ระยะไข้ 2-7 วัน
ระยะวิกฤต 24-48 ชั่วโมง
มีการรั่วของพลาสมา
มีความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด
ระยะฟื้นตัว 3-7 วัน
การวินิจฉัย
Tourniquet test
CBC
อาการระยะไข้
ปวดศีรษะ
คลื่นไส้/อาเจียน
เบื่ออาหาร
ปวดท้อง
อาการเลือดออก
ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง
ผู้ป่วยอ้วน
ผู้ป่วย Grade IV
ผู้ป่วยอายุ < 1ปี
ผู้ป่วยเอะอะโวยวาย มีอาการทางสมอง
ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เช่น Thalassemia, G-6-PD deficiency, CHD,....
มีเลือดออกมาก
การตรวจทูนิเกต์ที่จะให้ผลบวกในผู้ติดเชื้อเดงกี
วันแรกของไข้ 50%
วันที่2 70%
วันที่3 >90%
การตรวจทูนิเกต์ที่จะให้ผลลบลวง
ผู้ป่วยอ้วน
ผู้ป่วยผอม
เทคนิคไม่ดี (รัดแขนไม่กระชับ ความดันไม่คงที่)
กำลังอยู่ในภาวะช็อก
CBC-complete blood count (ตรวจนับเม็ดเลือด)
Hematocrit - ความเข้มข้นของเลือด
White blood count - เม็ดเลือดขาว
Platelet count - เกล็ดเลือด
WBC<5,000 เซล/ลบ.มม.
ไข้จะลงภายในเวลา 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ถ้าเป็นไข้เลือด กำลังจะเข้าสู่ระยะวิกฤต กำลังจะมีพลาสมารั่ว ต้องระวังภาวะช็อก
อาการอันตรายที่ต้องรีบนำผู้ป่วยมาโรงพยาบาลทันที
ไข้ลง/ไข้ต่ำลง และอาการไม่ดีขึ้น หรือเลวลง
ปวดท้องมาก
อาเจียนมาก
กระสับกระส่าย ผุดลุกผุดนั่ง ร้องกวนมากในเด็กเล็ก
เหงื่อออก ตัวเย็น ตัวลาย เขียว
ซึมมาก ความประพฤติเปลี่ยนแปลง
ไม่ปัสสาวะ 4-6 ชั่วโมง
การเจาะเลือดเพื่อการวินิจฉัย
เป็นการดูแอนติบอดี้ หรือดูภูมิคุ้มกัน IgG/IgM
ให้ผลบวก 60% ในวันที่ช็อก/ไข้ลง
ให้ผลบวก 100% หลังช็อก 1 วัน
ก่อนไข้ลง 1-2 วัน (ประมาณวันที่ 2-4 ของไข้) ส่วนมากจะให้ผลลบ
ผลการการตรวจเลือด CBC ที่มีความสำคัญ
เม็ดเลือดขาวต่ำ< 5,000 เซล/ลบ.มม. ไข้จะลงภายในเวลา 24 ชั่วโมง
เกล็ดเลือดต่ำ < 100,000 เซล/ลบ.มม. กำลังเข้าสู่ระยะวิกฤต
ความเข้มข้นของเลือด (Hematocrit) เพิ่มขึ้น 10-20% กำลังอยู่ในระยะวิกฤติ อาจต้องให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ถ้าดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหารไม่ได้
การดูแลเบื้องต้นระดับ รพสต/PCU
ให้การตรวจคัดกรองเพื่อการวินิจฉัย โดยการตรวจทูนิเกต์
ให้การดูแลรักษาในระยะไข้ 2 วัน
ส่งต่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาลชุมชน
เมื่อมีข้อบ่งชี้ (ปวดท้อง/ อาเจียน เลือดออก ขาดน้ำ)
เพื่อการวินิจฉัย (ส่งไปตรวจเลือด CBC ในวันที่ 3 ของโรค)
ให้การวินิจฉัยภาวะช็อกและให้การรักษาเบื้องต้นในผู้ป่วยที่มีภาวะช็อก
การวินิจฉัยภาวะช็อกยาก เนื่องจากผู้ป่วยจะมีความรู้สติดี
ไข้ลง แต่มีชีพจรเร็ว
ความดันแคบ เช่น 100/80, 110/90 มม.ปรอท
ชีพจรเบา เร็ว
ระบบไหลเวียนที่ปลายมือปลายเท้าไม่ดี (กดปลายมือ ปลายเท้า แล้วยังขาวอยู่เกิน 2 วินาที)
กระสับกระส่าย ผุดลุกผุดนั่ง
เอะอะโวย พูดจาหยาบคาย ความประพฤติเปลี่ยนแปลง
ช็อกนาน
เกิน 10 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง - เสียชีวิต!!!!
เกิน 4 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
มีตับวาย - โอกาสรอด 50%
มีตับวาย + ไตวาย - โอกาสรอด 10%
มีมากกว่า 3 organs failure - โอกาสรอด ปาฏิหาริย์
สาเหตุเบื้องต้นที่ทำผู้ป่วยไข้เลือดออกเสียชีวิต
วินิจฉัยช้า/วินิจฉัยผิด : 75-80%
มีภาวะน้ำเกิน 75.0%
ช็อกนาน 25.0%
เลือดออกมาก 0