Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน้าที่ในการชำระหนี้, เลขที่ฎีกา 365-367/2518
จำเลยตกลงกับโจทก์ว่า…
หน้าที่ในการชำระหนี้
4)กรณีวัตถุแห่งหนี้ซึ่งเลือกชำระได้ -หากมีเจ้าหนี้คนเดียวลูกหนี้คนเดียวและวัตถุแห่งหนี้อย่างเดียวเรียกว่า"หนี้เดี่ยว" -หากมีวัตถุแห่งหนี้หลายอย่างเรียกว่า''หนี้ผสม'' หนี้ผสมนี้อาจเป็นหนี้ซึ่งต้องกระทำทุกอย่างหรือเป็นหนี้เลือกชำระ
อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
4.1)สิทธิในการเลือก กำหนดไว้ในมาตรา 201 แบ่งเป็น 4 กรณี 1.ถ้ากำหนดให้ผู้ใดเป็นผู้เลือก สิทธิในการเลือกก็ต้องเป็นไปตามนั้น (ม.198 , ม.201)
2.ถ้ามิได้กำหนดว่าใครเป็นผู้เลือก สิทธินั้นจะตกแก่ฝ่ายลูกหนี้ 3.ถ้าให้บุคคลภายนอก(ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหนี้และลูกหนี้)เป็นผู้เลือก และผู้นั้นไม่อาจเลือกได้ เช่นป่วยหนัก เช่นนี้สิทธิการเลือกจะตกแก่ลูกหนี้ 4.ถ้ากำหนดให้ฝ่ายลูกหนี้หรือเจ้าหนี้เลือก และฝ่ายที่มีสิทธินั้นไม่เลือกภายในเวลาที่กำหนด สิทธิย่อมตกแต่อีกฝ่าย
4.2)วิธีการเลือก
แบ่งเป็น 2 กรณี 1.กรณีฝ่ายลูกหนี้หรือเจ้าหนี้เป็นผู้มีสิทธิเลือก มาตรา 199 การเลือกนั้นท่านให้ทำด้วยแสดงเจตนาแก่คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง 2.กรณีบุคคลภายนอกเป็นผู้มีสิทธิเลือก มาตรา 201 ถ้าบุคคลภายนอกจะพึงเป็นผู้เลือก ท่านให้กระทำด้วยแสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ และลูกหนี้จะต้องแจ้งความนั้นแก่เจ้าหนี้
4.3)ระยะเวลาในการเลือก
(1) กรณีกำหนดเวลาเลือกถ้ามีกำหนดเวลาให้เลือกไว้ ฝ่ายที่มีสิทธิเลือกต้องเลือกภายในเวลาที่กำหนดนั้น หากไม่เลือกสิทธิในการเลือกตกอยู่แก่อีกฝ่ายหนึ่ง (มาตรา200วรรคแรก)หาก
บุคคลภายนอกเป็นผู้เลือกแล้วไม่ใช้สิทธิสิทธิที่จะเลือกตกอยู่แก่ลูกหนี้ (มาตรา 201วรรคสอง) (2) กรณีมิได้กำหนด ระยะเวลาเลือกเมื่อหนี้ถึงกำหนดชำระฝ่ายที่ไม่มีสิทธิเลือกอาจกำหนดเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้อีกฝ่ายใช้สิทธิเลือกภายในเวลาอันนั้น (มาตรา 200วรรคสอง)
4.4)ผลของการเลือกเมื่อฝ่ายที่มีสิทธิเลือกใช้สิทธิเลือกแล้วให้ถือเป็นวัตถุแห่งหนี้ประการเดียวที่ลูกหนี้ต้องปฏิบัติชำระหนี้มาแต่ต้นและเจ้าหนี้จะเรียกร้องให้ชำระหนี้อย่างอื่นมิได้ (มาตรา 199 วรรค2)
4.5)กรณีการชำระหนี้บางอย่างเป็นพ้นวิสัย มาตรา 202 ถ้าการอันจะพึงต้องทำเพื่อชำระหนี้นั้นมีหลายอย่าง และอย่างใดอย่างหนึ่งตกเป็นอันพ้นวิสัยจะทำได้มาแต่ต้นก็ดี หรือกลายเป็นพ้นวิสัยในภายหลังก็ดี ท่านให้จำกัดหนี้นั้นไว้เพียงการชำระหนี้อย่างอื่นที่ไม่พ้นวิสัย อนึ่งการจำกัดอันนี้ย่อมไม่เกิดมีขึ้น หากว่าการชำระหนี้กลายเป็นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายที่ไม่มีสิทธิจะเลือกนั้นต้องรับผิดชอบ แบ่งเป็น 2 กรณี 1.กรณีตกเป็นอันพ้นวิสัยจะทำได้มาแต่ต้น การชำระหนี้บางอย่างพ้นวิสัยมาก่อนทำนิติกรรมแล้ว เช่นนี้การชำระหนี้ส่วนนั้น แม้จะมีการตกลงกันย่อมตกเป็นโมฆะ เช่น หงส์รู้ว่าไนท์มีลูกแมว อยู่2ตัว คือ ดำและขาว หงส์เจอไนท์ที่หน้าปากซอยจึงขอซื้อลูกแมว1ตัวไนท์ตกลงขายและให้หงส์เลือกเอาตัวใดตัวหนึ่ง ปรากฎว่าขณะตกลงซื้อ ลูกแมวตัวดำตาย โโยที่หงส์แลละไนท์ไม่ทราบ เช่นนี้สัญญาส่วนที่ตกมายังลูกแมวสีดำจึงเป็นโมฆะ หงส์เลือกได้เพียงลูกแมวสีขาวเท่านั้น 2.กรณีการอันพึงต้องทำเพื่อชำระหนี้บางอย่างกลายมาเป็นพ้นวิสัยในภายหลัง หมายถึงหลังก่อหนี้แล้วกลายเป็นพ้นวิสัยภายหลัง แบ่งได้2กรณี 1.กรณีที่การชำระหนี้บางอย่างเป็นพ้นวิสัยที่ฝ่ายที่ไม่มีสิทธิจะเลือกไม่ต้องรับผิดชอบ กรณีนี้ให้จำกัดหนี้ไว้แต่เพียงอย่างอื่นที่ไม่พ้นวิสัยเท่านั้น 2.กรณีนี้ผู้ที่มีสิทธิเลือกก็ไม่ถูกจำกัดให้ต้องเลือกส่วนที่จะเป็นวิสัยเท่านั้นและถ้าเขาเลือกส่วนที่เป็นพ้นวิสัย การชำระหนี้โดยตรงก็ไม่สามารถทำได้ก็ต้องบังคับตามมาตรา218
-
เลขที่ฎีกา 365-367/2518
จำเลยตกลงกับโจทก์ว่า เมื่อจำเลยทำถนนผ่านที่ดินโจทก์แล้วจะให้เป็นทางสาธารณะเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ถนนโดยสะดวกอย่างถนนสาธารณะเช่นนี้ ศาลพิพากษาห้ามจำเลยมิให้ปิดกั้น ขุด หรือขัดขวางในการที่โจทก์ และประชาชนในถิ่นนั้นจะใช้ถนนสายนั้นสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกที่ตกลงไว้กับโจทก์