Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน้าที่ในการชำระหนี้ - Coggle Diagram
หน้าที่ในการชำระหนี้
-
2.กำหนดเวลาชำระหนี้
การกำหนดเวลาชำระหนี้นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในตัวลูกหนี้ เพราะถ้าลูกหนี้ไม่รู้วันเวลากำหนดการชำระหนี้ ก็จะไม่สามารถรู้ถึงที่มาของหนี้ที่เกิดหรือไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้ได้ตามความประสงค์อันแท้จริงของบ่อเกิดหนี้ชนิดนั้นได้ เวลาจึงเป็นจุดที่ทั้งตัวลูกหนี้และเจ้าหนี้ต้องตกลงและตระหนักถึงสิ่งนี้ด้วยกัน หากตัวลูกหนี้ชำระหนี้ผิดไปจากวันที่ได้กำหนดการชำระหนี้ แม้ว่าจะชำระหนี้ก่อนกำหนด ตัวเจ้าหนี้ก็สามารถปฏิเสธไม่รับการชำระหนี้ได้ และถ้าเกินกำหนดการชำระหนี้ลูกหนี้จะตกเป็นผู้ผิดนัดทันที แม้ว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นลูกหนี้ก็ยังต้องรับผิด
ถ้ามีกรณีที่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้เป็นสาระสำคัญนั้นก็ทำให้เป็นผลที่อาจจะเป็นเหตุในการบอกเลิกสัญญาได้ ตามมาตรา388 เพราะ มาตรา388ได้เจาะจงเป็นรที่ชัดแจ้งว่าการที่ลูกหนี้จะชำระหนี้กับเจ้าหนี้ได้นั้น เวลาคือตัวกำหนดและเป็นข้อตกลงในการปฏิบัติการชำระหนี้ หากไม่มาชำระหนี้หรือชำระหนี้ก่อนกำหนด เจ้าหนี้อาจจะไม่รับชำระหนี้และบอกเลิกสัญญาได้ และการชำระหนี้ของลูกหนี้ในกรณีนี้จะกลายเป็นการชำระหนี้อันไร้ประโยชน์ การชำระหนี้อันไร้ประโยชน์เกิดได้จากการที่กำหนดเวลาการชำระหนี้แต่ไม่มาชำระหนี้หรือตัวเจ้าหนี้ปฏิเสธการชำระหนี้เนื่องจากมีสาเหตุตามมาตรา216 เช่น นายโดนัทตกแต่งสีรถตุ๊กๆในวันที่10สิงหาคม2565ให้กับนายอรรถนนท์ นายโดนัทต้องส่งมอบรถตุ๊กๆที่แค่ทำสีใหม่ในวันที่10สิงหาคม2565 เท่านั้นเพราะนายอรรถนนท์ต้องการให้นายโดนัททำภายในวันนี้วันเดียว มิฉะนั้นนายอรรถนนท์สามารถบอกเลิกสัญญาและไม่รับการชำระหนี้จากนายโดนัทได้ตามมาตรา388และผลของการชำระหนี้ระหว่างคู่นี้นั้นถ้าไม่ชำระหนี้ภายในวันที่กำหนดผลของการชำระหนีเจะเป็นการชำระหนี้อันไร้ประโยชน์ตามมาตรา216ทันที
แต่ในด้านเจ้าหนี้ก็ถือว่าเป็นสาระสำคัญเช่นกัน เพราะการที่เจ้าหนี้จะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้นั้น ตัวหนี้ต้องถึงวันกำหนดชำระหนี้ ถ้าหนี้ยังไม่ถึงวันที่กำหนด เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิเรียกร้องการชำระหนี้จากตัวลูกหนี้ให้ชำระหนี้ได้ แม้ว่าจะตักเตือนก็ตาม แต่ถ้าตราบใดยังไม่ถึงวันที่กำหนดการชำระหนี้ ตัวลูกหนี้ก็ยังไม่ผิดนัด ตามมาตรา204 เช่น นายโดนัทได้ทำการซื้อแผ่นสังกะสีกับนายขนมต้ม ตกลงกันในวันที่15สิงหาคม2565 ชำระหนี้กันในวันที่27สิงหาคม2565 ในช่วงที่ยังไม่ถึงวันที่27สิงหาคม2565 นายขนมต้มไม่มีสิทธิไปพูดกับนายโดนัทให้รีบทำการชำระหนี้ก่อนวันที่27สิงหาคม2565ได้ และไม่สามารถทำอะไรกับนายโดนัทได้จนกว่าจะถึงวันที่27สิงหาคม2565คือวันที่เป็นการกำหนดการชำระหนี้ นายขนมต้มนั้นจึงจะมีสิทธิเรียกร้องการชำระหนี้จากนายโดนัทในวันที่27สิงหาคม2565เป็นต้นไปได้
กำหนดเวลาชำระหนี้นั้นแบ่งได้เป็น2กรณี
1.หนี้ที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้ มาตรา203วรรคแรก กล่าวไว้ว่า ถ้าเวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดลงไว้ หรือจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ย่อมจะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน หมายความว่าหนี้ที่จะถือว่าเป็นการชำระหนี้นั้น ต้องเป็นหนี้ที่มีวันเวลาระบุไว้โดยชัดเจน ถ้าไม่มีวันเวลาในการชำระหนี้ก็ไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้ได้ และอนุมานจากพฤติการณ์ณืไม่ได้ กล่าวถึง ไม่สามารถคาดเดาจากสภาพของการชำระหนี้ในตัวลูกหนี้ได้
แต่บางกรณีแม้จะไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้แต่ก็สามารถคาดเดาจากสถานการณ์ที่ตัวลูกหนี้ต้องชำระหนี้ได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ต้องถือเป็นหนี้ที่มีเวลากำหนดชำระหนี้ได้เช่นกัน เช่น นางสาวทุเรียนยืมโน๊ตบุ๊คจากนางสาวมดเพื่อไปทำรายงานกฏหมายลักษณะหนี้โดยไม่ได้ตกลงกันว่าจะคืนหรือชำระหนี้เมื่อไหร่ แต่ก็พอจะอนุมานจากวันนี้ได้ว่าที่นางสาวมดได้เอาไปทำ เพราะนางสาวมดทำรายงานกฎหมายลักษณะหนี้แค่หน้าเดียว ฉะนั้น นางสาวมดก็ต้องคืนและชำระหนี้ให้กับนางสาวทุเรียนในวันนี้ทันทีที่เสร็จ หนี้ที่จะถือว่าไม่มีกำหนดชำระหนี้และอนุมานจากพฤติการณ์ใม่ได้นั้น เช่น กู้ยืมเงินดอกเบี้ยสูงถึง2,000,000บาทไปโดยไม่ได้กำหนดวันเวลาชำระหนี้กับตัวเจ้าหนี้ที่เป็นคนปล่อยให้กู้ไว้
(ฎีกาที่917/2539) การที่เราไปซื้อของเครื่องใช้จากงานแสดงสินค้า ต่างๆ เครื่องเสียง หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้าไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ไว้และไม่สามารถอนุมานจากพฤติการณ์ได้ ให้ถือว่าเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ และจะต้องบังคับตามมาตรา203วรรคแรกนี้
การอนุมานจากพฤติการณ์หรือการคาดเดาจากสภาพของเวลาที่กำหนดชำระหนี้ ว่าเจ้าหนี้และลูกหนี้จะชำระหนี้กันได้หรือไม่หรือชำระเมื่อใดนั้น ต้องดูองค์ประกอบในหลายๆอย่าง เช่น วัตถุประสงค์ของการทำสัญญา เหตุการณ์ที่ให้มีการตกลงซื้อขายกันกับประเพณีทางการค้าว่าที่มาของการซื้อสินค้านี้มาจากตัวลูกค้าชื่นชอบเองซื้อเอง หรือการปฏิบัติระหว่างคู่กรณี หรืออื่นๆ ต้องพิจารณาเป็นกรณีกันไป เช่น การจะเข้าไปสั่งซื้อกระเพราหมูกรอบได้ที่ร้านขายอาหารตามสั่งเพื่อบริโภค แต่ถ้าสั่งอาหารเพื่อให้ไปส่งมอบก่อนที่ลูกจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันถัดไปยามเช้านั้น แม้จะสั่งในช่วงเย็นของวันนี้ก็สามารถอนุมานหรือคาดเดาจากพฤติการณ์ที่เห็นอยู่ได้ว่าจะต้องส่งมอบให้ลูกได้รับประทานก่อนเข้ารับการรักษาในวันถัดไปตอนเช้าได้ หรือกรณีที่ลูกค้าสั่งซื้อโทรศัพท์กับเจ้าของร้าน เคยชำระหนี้กันทุกวันที่15สิงหาคม กันเป็นประจำเวลาซื้อสินค้าหรืออุปกรณ์ไอทีที่ร้านนี้ เช่นนี้เมื่อมีการสั่งซื้ออีกก็สามารถคาดเดาจากสภาพของเวลากำหนดชำระหนี้ ว่าการปฏิบัติการชำระหนี้ของคู่กรณีคู่นี้ว่าจะชำระกันเมื่อวันที่15สิงหาคม เป็นต้น
ผลของหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ เมื่อไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้โดยชัดแจ้งนั้น และคาดเดาจากเหตุการณ์ที่ต้องชำระหนี้กันทั้งปวงก็อาจจะไม่สามารถระบุถึงความประสงค์ของคู่กรณีเช่นนี้ได้ จึงต้องบังคับตามมาตรา203 วรรคแรก คือเจ้าหนี้ย่อมจะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน ตัวบทบัญญัตินี้ให้สิทธิเท่าเทียมกันในด้านปฏิบัติการชำระหนี้ระหว่างตัวเจ้าหนี้และลูกหนี้นั้นเอง กล่าวคือ เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องการชำระหนี้กับลูกหนี้ได้โดยตรง ถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ลูกหนี้ก็จะตกเป็นผู้ผิดนัดการชำระหนี้ทันที แต่ในทำนองเดียวกันนั้นลูกหนี้ก็ให้สิทธิที่จะชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ที่จะชำระหนี้ของตนโดยดุจพลันกันได้ และถ้าตัวลูกหนี้ชำระหนี้แล้วแต่เจ้าหนี้ปฏิเสธไม่ยอมรับการชำระหนี้ของลูกหนี้โดยไม่มีเหตุผลทางกฏหมายหรือไม่มีข้ออ้างอันปราศจากมูลแห่งนิติเหตุอื่นๆเจ้าหนี้ก็ตกเป็นผู้ผิดนัดได้เช่นกัน ฉะนั้นการชำระหนี้โดยไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ หมายถึง กฎหมายได้กำหนดไว้ว่าต้องชำระทันที เพราะหนี้ที่กำหนดขึ้นมานั้นตัวลูกหนี้เป็นผู้ก่อขึ้นเอง แต่ไม่ได้ถึงขั้นว่าไม่ชำระแล้วจะผิดนัด เพียงแต่ว่าตัวบทกฏหมายมาตรานี้ ให้ความเป็นธรรมหรือให้สิทธิทั้ง2ฝ่าย ที่จะเรียกให้ชำระก็ได้ หรือชำระก่อนก็ได้ แม้จะยังไม่รียกให้ชำระหนี้ก็ยังไม่ถือว่าผิดนัด
เช่น นายโดนัทซื้อผ้าเช็ดตัวกับนายส้มเช้งโดยไม่ได้ตกลงกันไว้ว่าจะชำระหนี้เมื่อไหร่ และไม่สามารถคาดเดาจากสภาพของการชำระหนี้ได้เลยว่านายโดนัทจะชำระหนี้ค่าผ้าเช็ดตัวกับนายส้มเช้งได้เมื่อไหร่ นายส้มเช้งสามารถเรียกร้องสิทธิในการชำระหนี้จากนายโดนัทในวันถัดไปหลังจากซื้อผ้าเช็ดตัวก็ได้ หรือนายโดนัทอาจจะลืมชำระหนี้แล้วกลับไปชำระหนี้ในตอนที่หลังจากซื้อผ้าเช็ดตัวจากนายส้มเช้งสักพักก็ได้ หรือทั้งคู่จะตกลงกำหนดเวลาชำระหนี้กันใหม่ก็ได้ เป็นต้น
กรณีการที่กู้ยืมเงินโดยไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ในสัญญาการกู้ยืมนั้น ถ้าไม่สามารถคาดเดาจากวันเวลาหรือสถานที่ที่มีการปฏิบัติการชำระหนี้ได้ ย่อมเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาตามมาตรา203วรรคแรกนั้นเอง แต่ผลของการกู้ยืมที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้นั้นจะบังคับตามมาตรา203ในตัวบทบัญญัตินี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติมาตรา652ที่กล่าวไว้ว่า ถ้าในสัญญาไม่มีกำหนดเวลาให้คืนทรัพย์สินซึ่งยืมไป ผู้ให้ยืมจะบอกกล่าวแก่ผู้ยืมให้คืนทรัพย์สินภายในเวลาอันควร ซึ่งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้นก็ได้ กล่าวคือบทบัญญัตินี้จะเข้าในสัญญากู้ยืมโดยเฉพาะ เพราะการกู้ยืมควรจะบังคับตามบทบัญญัติมาตรานี้ โดยที่ถ้าผู้ให้ยืมไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้กับผู้ยืมเลย ผู้ให้ยืมสามารถเรียกร้องสิทธิในการชำระหนี้ให้ตัวลูกหนี้คือผู้ยืมให้ชำระหนี้ภายในเวลานั้นได้ ตามมาตรา203วรรคแรก แต่ต้องใช้สัญญาการกู้ยืมเฉพาะในการทวงสิทธิการชำระหนี้ตามมาตรา652เท่านั้น เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้และเป็นเรื่องของการกู้ยืมโดยมีสัญญา ไม่บังคับตามมาตรา203วรรคแรก เพราะเป็นบทบัญญัติทั่วไปและเป็นสัญญากู้ยืมโดยเฉพาะของกรณีนี้
2.หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระ อาจเป็นหนี้ที่กำหนดเวลาชำระไว้โดยชัดแจ้งว่าต้องปฏิบัติการชำระหนี้ เช่น กำหนดชำระหนี้ตามปฏิทิน หรือตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่ เช่น ยืมเสื้อรด.ไปฝึกรด.ภาคที่ตั้ง11วัน จะส่งคืนเมื่อถึงวันสุดท้ายของการฝึกรด.เสร็จ เช่นนี้หมายความว่าเป็นการกำหนดโดยชัดเจนว่ามีการตกลงกันระหว่างคู่กรณีที่ก่อหนี้ขึ้นเองก็ได้
- 2 more items...
3.การผิดนัดไม่ชำระหนี้
การผิดนัด(ลูกหนี้)
การที่จะผิดนัดแบบเป็นผลในทางกฎหมาย กฎหมายได้กำหนดเงื่อนไขเอาไว้อย่างชัดเจนว่ากรณีเช่นใดลูกหนี้จะผิดนัดตามกฏหมาย ซึ่งมีความต่างจากความเข้าใจในความคิดเรื่องการชำระหนี้ของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก เช่น ยืมวัวน้อยของนายโดนัทเพื่อไปเพาะพันธุ์ฟาร์มโดยตกลงว่าจะส่งมอบคืนเมื่อเสร็จสิ้นการเพาะพันธุ์วัวน้อย 2วันต่อมาแม้จะไม่ได้เพาะพันธุ์วัวน้อยแล้วเพราะทำเสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ลูกหนี้ก็ยังไม่นำวัวน้อยไปคืนให้กับนายโดนัท จนมีช่วงที่อาจจะเพาะพันธุ์วัวน้อยบ่อยขึ้น2ครั้งบ้าง3ครั้งบ้าง ลูกหนี้ก็ยังไม่นำวัวน้อยไปคืน กรณีเช่นนี้ คนทั่วไปจะมีความคิดที่ว่าตัวลูกหนี้น่าจะผิดนัดแล้ว เพราะไม่ทำการส่งมอบทรัพย์คือวัวน้อยให้กับนายโดนัทเลย แต่ถ้าในทางกฎหมายซึ่งถือว่า ลูกหนี้ยังไม่ผิดนัด เพราะเจ้าหนี้หรือนายโดนัทนั้นไม่ได้ตักเตือนกับลูกหนี้ว่าต้องส่งมอบทรัพย์คือวัวน้อยคืน และยังเป็นกรณีที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้คือไม่ได้ตกลงวันเวลาชำระหนี้ตามปฏิทิน ตัวลูกหนี้จึงยังถือว่าไม่ผิดนัด
ผลของการผิดนัด
1.)การผิดนัด
การผิดนัดเป็นผลในทางกฎหมายที่สำคัญทั้งตัวเจ้าหนี้และลูกหนี้ ทำให้ลูกหนี้ในกรณีต่างๆมีความรับผิดที่เกิดขึ้น และตัวลูกหนี้นั้นก็อาจทำให้ก่อสิทธิบางอย่างให้กับเจ้าหนี้เช่นกัน ซึ่งการผิดนัดนั้นได้กำหนดลักษณะไว้แตกต่างกัน ทั้งๆที่มีความสัมพันธ์กับกำหนดเวลาชำระหนี้ในทางกฏหมายไว้ด้วย แยกพิจารณาได้2กรณี คือ
1.1.ลูกหนี้ผิดนัดโดยต้องเตือนก่อน
ถ้ามีกำหนดเวลาชำระหนี้ ลูกหนี้ต้องปฏิบัติการชำระหนี้ตามกำหนดนั้น แต่การที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี ว่าลูกหนี้ผิดนัดเนื่องด้วยสาเหตุอะไร เพราะในบางกรณียังไม่ถือว่าลูกหนี้ผิดนัด ในหนี้บางประเภทนั้นกฏหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าลูกหนี้ผิดนัดแต่การเตือนนั้นกฏหมายได้กำหนดว่าเจ้าหนี้ต้องเตือนลูกหนี้ก่อนที่ลูกหนี้จะผิดนัด เพราะการผิดนัดในกรณีนี้มาจากการกระทำของเจ้าหนี้ก่อนเพราะเจ้าหนี้ไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ จึงไม่สามารถอนุมานจากการชำระหนี้ของกรณีนี้ได้ จึงต้องมีการเตือนกับลูกหนี้ก่อนเพื่อให้ครบเงื่อนไขตามกฏหมาย หนี้ที่เจ้าหนี้ต้องเตือนลูกหนี้จึงจะผิดนัดซึ่งมีอยู่2กรณี คือ
1.)หนี้ที่กำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน
มาตรา204วรรคแรก บัญญัติไว้ว่า ถ้าหนี้ถึงกำหนดชำระแล้ว และภายหลังแต่นั้นเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้ว ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ไซร้ ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว หนี้ประเภทนี้เป็นหนี้ที่กำหนดวันชำระหนี้แต่ไม่ระบุชัดเจนตามวันเวลาแห่งปฏิทิน จึงทำให้ลูกหนี้ไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้ได้ ถ้าหากเจ้าหนี้ไม่มาเตือน เช่น กำหนดให้ชำระหนี้หลังจบงานลอยกระทง หรือให้ชำระหนี้เมื่อจบวันฝึกทหารเกณฑ์เสร็จโดยไม่ได้ระบุวันเดือนปีตามปฏิทิน ไม่สามารถระบุวันเวลาที่กำหนดการชำระหนี้ไว้ชัดเจนได้ ดังนั้น ถ้าหนี้ในกรณีนั้นถึงกำหนดแล้วแล้วสามารถที่จะเรียกหรืออนุมานจากตัวลูกหนี้ให้มาชำระหนี้ได้ กฏหมายจึงกำหนดให้เจ้าหนี้ต้องให้คำเตือนกับลูกหนี้ก่อนถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามที่เจ้าหนี้ได้เตือนลูกหนี้จะผิดนัดทันที แม้หนี้จะถึงกำหนดที่ชำระแล้วแต่ลูกหนี้ก็ยังไม่ชำระหนี้แต่ถ้าเจ้าหนี้ไม่ให้คำเตือนกับลูกหนี้ลูกหนี้ก็ยังถือว่าไม่ผิดนัด กรณีนี้เจ้าหนี้ต้องให้คำเตือนกับลูกหนี้โดยตรงก่อนที่ลูกหนี้จะผิดนัด มิฉะนั้น ลูกหนี้ก็จะไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้และกฏหมายถือว่าลูกหนี้ยังไม่ผิดนัดนั้นเอง
การเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นไม่ได้กำหนดลักษณะของการเตือน จึงสามารถเตือนลูกหนี้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือพูดคุยตกลงกันด้วยวาจาก็ได้ จะให้ตัวแทนไปเตือนลูกหนี้เพื่อให้ลูกหนี้ปฏิบัติการชำระหนี้ก็ทำได้ แต่ต้องเป็นตัวแทนที่มาเตือนในฐานะตัวแทนของเจ้าหนี้เท่านั้น เพราะการเตือนนั้นเป็นลักษณะในการเตือนแค่2ฝ่ายระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้เท่านั้น แม้ว่าภรรยาของเจ้าหนี้หรือบุตรของเจ้าหนี้ที่หวังดีจะมาเตือนลูกหนี้ให้ชำระหนี้ แต่ถ้าหากไม่ได้รับคำสั่งหรือเจ้าหนี้ไม่ทราบว่าภรรยาหรือบุตรของเจ้าหนี้ไปเตือนลูกหนี้ให้ชำระหนี้นั้น กรณีนี้ไม่ถือว่าลูกหนี้ผิดนัดและไม่ถือว่าเป็นการเตือนตามกฎหมาย ลูกหนี้จึงไม่ผิดนัด การเตือนของเจ้าหนี้ต้องเตือนกับลูกหนี้เท่านั้นในการชำระหนี้ จะให้บุคคลภายนอกหรือบิดามารดาของลูกหนี้ได้รับการเตือนจากเจ้าหนี้ เช่นนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการเตือนลูกหนี้ให้มาชำระหนี้ ลูกหนี้จึงไม่ผิดนัด ถ้าการเตือนระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้มีความชอบ ตกลงกันแล้ว แต่ถ้าลูกหนี้ไม่มาชำระหนี้ในกำหนดเวลาชำระหนี้ลูกหนี้จะตกเป็นผู้ผิดนัดทันที แม้เจ้าหนี้จะตักเตือนโดยกำหนดระยะเวลาให้ชำระหนี้อีก ก็ไม่มีผลที่จะทำให้ลูกหนี้ไม่ผิดนัดเพราะได้ผิดนัดไปแล้ว เช่น นายโดนัทจะไปเตือนนางสาวมายมิ้นให้ชำระหนี้ค่าขนมปูไทย โดยไม่ได้กำหนดวันเวลาชำระหนี้ตามปฏิทิน นายโดนัทสามารถเตืออนนางสาวมายมิ้นด้วยการทำหนังสือกำหนดวันเวลาชำระหนี้ให้กับนางสาวมายมิ้นได้ และถ้านายโดนัทไม่สบายนายโดนัทสามารถให้ตัวแทนนั้นคือนายกระเพราหมูกรอบมาเตือนนางสาวมายมิ้นได้เพราะนายโดนัทได้ให้คำสั่งหรือมอบหมายให้นายกระเพราหมูกรอบ เป็นตัวแทนเจ้าหนี้คือนายนัทมาเตือนนางสาวมายมิ้นเพื่อปฏิบัติการชำระหนี้ได้นั้นเอง แต่ถ้าเป็นมารดาหรือบิดาของนายโดนัทไปเตือนนางสาวมายมิ้นให้ชำระหนี้โดยที่นายโดนัทนั้นไม่ทราบและไม่ได้ให้บิดามารดามอบหมายให้เป็นตัวแทนเจ้าหนี้ เช่นนี้ นางสาวมายมิ้นก็ไม่ถือว่าตกเป็นผู้ผิดนัดในการชำระหนี้ทั้งสิ้น
ปัญหาว่าด้วยการผิดนัดของลูกหนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อเจ้าหนี้เตือนแล้วแต่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ลูกหนี้จึงผิดนัด แต่บางกรณีก็ทำให้เกิดปัญหาที่ยังไม่อาจถือว่าเป็นการเตือนให้ปฏิบัติการชำระหนี้ได้เพราะยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ เช่น พิพาทกันและฟ้องเพิกถอนการโอนหุ้นและศาลพิพากษาให้เพิกถอนตราบใดถ้ายังไม่มีคำพิพากษายังถือว่าเป็นการโอนโดยชอบด้วยกฎหมาย เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่สามารถเรียกดอกเบี้ยได้นับแต่วันมีคำพิพากษาให้เพิกถอน
2.)หนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระตามมาตรา203 หนี้ที่ไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ และไม่สามารถคาดเดาจากสถานการณ์หรือพฤติการณ์ทั้งกรณีไม่ได้ ในมาตรา203 บัญญัติไว้ว่า ถ้าเวลาอันจะพึงชำระหนี้นั้นมิได้กำหนดลงไว้ หรือจะอนุมานจากพฤติการณ์ทั้งปวงก็ไม่ได้ไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้ย่อมจะเรียกให้ชำระหนี้ได้โดยพลัน และฝ่ายลูกหนี้ก็ย่อมจะชำระหนี้ของตนได้โดยพลันดุจกัน ถ้ากรณีนี้ไม่ได้กำหนดวันเวลาชำระหนี้ตามปฏิทินทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ กฎหมายได้กำหนดให้เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้โดยพลันหรือกระทันหันได้ และลูกหนี้ก็มีสิทธิที่จะชำระหนี้กับเจ้าหนี้ได้โดยพลันหรือกะทันหันด้วยเช่นกัน แม้กฏหมายจะแสดงให้ถือว่าถ้าหนี้ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้ให้ปฏิบัติการชำระหนี้ทันทีนับตั้งแต่ตัวลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นเอง หรืออายุความในสิทธิเรียกร้องจะเรียกตั้งแต่วันที่ได้ตกลงก่อหนี้ก็ตามแต่ถ้าตัวเจ้าหนี้ยังไม่เรียกให้ลูกหนี้มาชำระหนี้ ถือว่าลูกหนี้ยังไม่มีหน้าที่ที่ต้องชำระ ลูกหนี้มีสิทธิที่จะชำระได้ทันทีตั้งแต่ก่อหนี้ขึ้นมาเองแต่การที่จะชำระหนี้นั้นต้องให้เจ้าหนี้เรียกให้ลูกหนี้มาชำระหนี้เท่านั้น การที่จะเรียกให้ลูกหนี้เรียกด้วยการเตือนให้ลูกหนี้มาชำระหนี้ หาไม่มีการแจ้งหรือเตือนหรือบอกกล่าวจากเจ้าหนี้ลูกหนี้ยังไม่มีหน้าที่ที่จะชำระหนี้และลูกหนี้ไม่ผิดนัด หนี้ประเภทนี้ลูกหนี้จะผิดนัดก็ต่อเมื่อเจ้าหนี้ได้เตือนกับลูกหนี้ให้มาชำระหนี้แล้วเท่านั้น เช่น นายโดนัทตกลงซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมจากนางสาวมายมิ้น โดยไม่ได้กำหนดเวลาชำระหนี้ และชำระด้วยการผ่อน หลังจากผ่านไป3อาทิตย์นายโดนัทก็ยังไม่มาชำระหนี้กระเป๋าแบรนด์เนมจากนางสาวมายมิ้นเลย ถ้านางสาวมายมิ้นเจอกรณีเช่นนี้ นางสาวมายมิ้นมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้นายโดนัทชำระหนี้ได้โดยฉับพลัน นับอายุความได้ตั้งแต่วันที่นายโดนัทได้ตกลงซื้อขายกระเป๋าแบรนด์เนมกับนางสาวมายมิ้น แต่ถ้าเป็นกรณีที่นางสาวมายมิ้นยังไม่ได้เตือนกับนายโดนัทให้มาชำระหนี้ นายโดนัทก็ยังไม่มีหน้าที่ที่จะชำระหนี้และนายโดนัทจะถือว่ายังไม่ผิดนัด และนายนัทก็มีสิทธิที่จะปฏิบัติการชำระหนี้กับนางสาวมายมิ้นกระทันหันหรือก่อนกำหนดเวลาชำระหนี้ได้เช่นกัน
1.2ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ต้องเตือน หนี้ทั้งสองประเภทดังกล่าวแล้วนั้น จะต้องผิดนัดในกรณีที่เจ้าหนี้ได้เตือนลูกหนี้ให้ชำระหนี้แล้ว แต่มีหนี้บางประเภทที่ลูกหนี้ผิดนัดโดยที่เจ้าหนี้ยังไม่ได้เตือนเลย หนี้กลุ่มนี้มี2ประเภท คือ
1.)หนี้ที่มีกำหนดชำระตามวันแห่งปฏิทินหรือหนี้ที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ ซึ่งอาจคำนวณนับได้ตามวันแห่งปฏิทิน
2.)หนี้ละเมิด (ตามมาตรา206ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์)
1.)หนี้ที่กำหนดชำระตามวันแห่งปฏิทิน มาตรา204วรรคสอง บัญญัติไว้ว่า ถ้าได้กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และลูกหนี้มิได้ชำระหนี้ตามกำหนดไซร้ ท่านว่าลูกหนี้ตกเป็นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย วิธีเดียวกันนี้ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณีที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ ซึ่งได้กำหนดเวลาลงไว้อาจคำนวณนับได้โดยปฏิทินนับแต่วันที่ได้บอกกล่าว กรณีนี้เป็นหนี้ที่มีกำหนดตามปฏิทินและมีกำหนดเวลาชำระหนี้ดังนี้ เช่น กำหนดชำระหนี้ในวันเข้าพรรษา,กำหนดชำระหนี้ในวันที่28สิงหาคม2565 หนี้แบบนี้มีวันเวลากำหนดอย่างแน่นอนชัดเจนรู้ทราบโดยทั่วกัน ดังนั้น กฏหมายจึงกำหนดไว้ว่าถ้าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดลูกหนี้ก็จะตกเป็นผู้ผิดนัดโดยไม่ต้องเตือนเลย
หนี้ที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้คำนวณได้โดยนับปฏิทิน เช่น นางสาวมายมิ้นซื้อขายขนมโดนัทจำนวน100ชิ้น โดยมีข้อตกลงกับเจ้าของร้านว่าถ้าเจ้าของร้านพร้อมที่จะรับชำระหนี้ คือ พร้อมที่จะส่งมอบขนมโดนัทจำนวน100ชิ้นแล้ว ให้แจ้งกับนางสาวมายมิ้นทันที เจ้าของร้านจะนำส่งมอบขนมโดนัทจำนวน100ชิ้นมอบให้ภายใน10วัน ถ้านางสาวมายมิ้นทราบแล้วเมื่อครบกำหนด10วัน ซึ่งคำนวณหรือได้ดูตามปฏิทิน เช่นนี้ ถ้าเจ้าของร้านไม่นำขนมโดนัทมาส่งมอบให้กับนางสาวมายมิ้น ก็ถือว่าเจ้าของร้านผิดนัดโดยไม่ต้องตักเตือนเลย
กำหนดชำระหนี้นี้แม้ว่าจะกำหนดไว้ตามวันเวลาปฏิทินแต่กรณีหรือเจ้าหนี้ที่ไม่ได้ถือเรื่องเวลาเป็นข้อสำคัญแล้ว แม้ลูกหนี้จะไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลาชำระหนี้ ลูกหนี้ก็ยังถือว่าไม่ผิดนัดและหนี้นั้นกลายเป็นหนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระ เจ้าหนี้ต้องเตือนลูกหนี้ลูกหนี้จึงจะผิดนัด เช่น นายขนมสั่งนายสมชัยให้พิมพ์นวนิยายจำนวน10,000เล่ม กำหนดให้ส่งมอบในวันที่12สิงหาคม2565 ซี่งนายสมชัยมีเวลาทำงานและส่งมอบเพียงแค่7วัน ซึ่งนายสมชัยไม่สามารถทำส่งได้ทัน และนายขนมไม่ได้ถือว่าต้องเอาวันที่12ธันวาคม2565เป็นตัวกำหนดในการชำระหนี้เป็นสำคัญ ทั้งนายสมชัยยังส่งหนังสือนวนิยายไปให้นายขนมล่าช้า นายสมชัยได้จัดพิมพ์และทยอยส่งให้นายขนมครบเมื่อวันที่8ตุลาคม2565 เมื่อนายขนมรับไว้โดยไม่ได้ตกลงบอกเลิกวันเวลาต่อนายสมชัย ผลทางกฎหมายจึงถือว่านายสมชัยไม่ผิดสัญญา
- 1 more item...
-