การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหาร

ขนาดของตับเล็กลง ประสิทธิภาพในการทำลายพิษของตับลดลง น้ำหนักและขนาดของตับอ่อนลดลง การผลิตเอนไซม์ลดลงทั้งปริมาณและคุณภาพ แต่ยังมีเพียงพอแก่ความต้องการ

การเคลื่อนไหวของหลอดอาหารลดลงและหลอดอาหารกว้างขึ้น ทําให้ระยะเวลาที่อาหารผ่านหลอดอาหารช้าลง

กล้ามเนื้อหูรูดบริเวณปลายหลอดอาหารหย่อนตัวและทำงานลดลง ทําให้อาหารและน้ำย่อยไหลย้อนกลับจากกระเพาะเข้าสู่หลอดลมได้ จึงทําให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกและเกิดอาการสําลักได้

การเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารลดลงอาหารอยู่ในกระเพาะอาหารนานขึ้น จึงทำให้รู้สึกหิวน้อยลง

การผลิตน้ำย่อยและเอนไซม์ในกระเพาะอาหารลดลง

ลําไส้เล็กและลําไส้ใหญ่เคลื่อนไหวน้อยลงเกิดอาการท้องผูกได้ง่าย

ส่วนใหญ่ของผู้สูงอายุจึงไม่ค่อยมีฟัน ต้องใส่ฟันปลอมทำให้การเคี้ยวอาหารไม่สะดวก ต้องรับประทานอาหารอ่อนและย่อยง่าย ทําให้เกิดภาวะขาดอาหาร

ต่อมน้ำลายทํางานน้อยลงการผลิตน้ำลายและเอนไซม์ลดลง การกระหายน้ำลดลง ทําให้ลิ้นและปากแห้ง เกิดการติดเชื้อทางปากได้

ฟันของผู้สูงอายุมักไม่ค่อยดีเคลือบฟันจะมีสีคล้ำขึ้นและบางลงแตกง่าย เหงือกที่หุ้มคอฟันร่นลงไป เซลล์สร้างฟันลดลง ฟันผุง่ายขึ้น

การไหลเวียนเลือดตลอดทางเดินอาหารลดลง เยื่อบุทางเดินอาหารเสื่อม ทําให้การดูดซึมอาหารลดลง เกิดภาวะขาดสารอาหารได้

กล้ามเนื้อหูรูดที่ทวารหนักหย่อนตัว ทําให้เกิดภาวะกลั้นอุจจาระไม่ได้

ปริมาณน้ำดีรวมลดลงแต่ระดับคลอเลสเตอรอลและความหนืดของน้ำดีมากขึ้น จึงเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้

คำแนะนำ/การพยาบาล

  • ดูแลทำความสะอาดช่องปากและฟัน
  • รับประทานอาหารครั้งละน้อยๆ แบ่งเป็น 5-6 มื้อ
  • รับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้
  • ดื่มน้ำมากๆ ถ้าไม่มีข้อห้ามโรคประจำตัว
  • ไม่ควรนอนทันทีหรือภายหลังรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมง
  • ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา หลีกเลี่ยงการใช้ยาระบายโดยไม่จำเป็น