Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น - Coggle Diagram
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
1.ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
1.1 ความรับผิดของนายจ้าง
มาตรา 425 นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้ทำไปในทางการที่จ้างนั้น
-ลูกจ้างนายจ้างนั้นหมายถึงบุคคล2ฝ่ายตามสัญญาจ้างแรงงาน โดยฝ่ายนายจ้างมีอำนาจสั่งลูกจ้าง และตัวลูกจ้างก็ต้องทำตามคำสั่งนายจ้างเสมอ และต้องมีสินจ้างจึงจะเป็นนายจ้างลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงาน (สินจ้างไม่จำเป็นต้องเป็นเงินเท่านั้น)
ตัวอย่าง เช่น แดงจ้างดำมาเกี่ยวข้าว โดยให้สินจ้างเป็นข้าวเปลือก10กระสอบ
ข้อสังเกต ข้าราชการ ในกระทรวง ทบวง กรม ไม่ถือเป็นลูกจ้าง แต่ในกระทรวง ทบวง กรม สามารถมีลูกจ้างได้
1.2 ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
กระทำไปในทางที่จ้าง คือการกระทำเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง และตัวลูกจ้างต้องมีหน้าที่ อาจจะเป็นการทำล่วงเวลาก็ได้
ตัวอย่าง ดำนายจ้างได้ใช้แดงในเวลา 15.50 น. ซึ่งเป็นเวลา10 นาทีก่อนเลิกงานของแดง ให้ขับรถไปส่งของให้ขาวที่เป็นลูกค้า เวลา 16.00 น. แดงได้ขับรถไปส่งของให้ขาวตามคำสั่ง แต่ระหว่างทางนั้นแดงได้ขับรถไปชนรถของเขียว
นายจ้างต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดของลูกจ้าง
ทางการที่จ้าง
ต้องพิจารณาว่าลักษณะงานนั้นเป็นเช่นไร ตัวลูกจ้างได้ปฏิบัติตามที่จ้างมา และลูกจ้างต้องอยู่ในการดูแลของนายจ้าง(นายจ้างมีอำนาจสั่งหรือบังคับบัญชา) ลูกจ้างได้ทำความเสียหายในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ เช่น ดำ(นายจ้าง) ใช้แดง(ลูกจ้าง) ขับรถไปส่งของให้ขาวที่เป็นลูกค้า แต่หากเป็นกรณี ก (นายจ้าง) ใช้ ข(ลูกจ้าง) ไปตีหัว ค ไม่ถือเป็นมาตรา 425 เนื่องจากไม่ใช่หน้าที่ของ ข
และข้อสุดท้ายของทางการที่จ้างนั้นคือ การที่ลูกจ้างทำต้องสำเร็จลุล่วง
วิธีการปฏิบัติ
การทำงานให้สำเร็จลุล่วงในกรณีที่ นายจ้างไม่ได้บอกวิธีว่าต้องทำเช่นไร หากลูกแจ้งเห็นว่าเป็นวิธีที่จะทำให้สำเลุล่วง แล้วเลือกวิธี เมื่อเกิดละเมิด นายจ้างก็ต้องร่วมรับผิด
ลูกจ้างกระทำกิจส่วนตัวไปในขณะเดียวกัน
กรณีที่
ลูกจ้างปฏิบัติกิจส่วนตัวไปในขณะทำงานให้นายจ้างอย่างแท้จริง หากเกิดละเมิด นายจ้างก็ต้องรับผิดร่วมด้วย
ตัวอย่าง แดง(ลูกจ้าง) ขับรถไปส่งของตามคำสั่งของดำ(นายจ้าง) ระหว่างขับรถนั้นแดงได้คุยโทรศัพท์จนรถไปชนขาว
กรณีที่นายจ้างมีคำสั่งห้าม
กรณีที่นายจ้างมีคำสั่งห้ามกระทำละเมิดไว้โดยชัดแจ้ง ย่อมไม่เป็นข้อต่อสู้ของลูกจ้าง หากการกระทำนั้นเป็นวิธีปฏิบัติการของลูกจ้างที่ได้รับจ้างให้ทำ
ละเมิดโดยจงใจ
นายจ้างจะต้องรับผิดก็ต่อเมื่อลูกจ้างกระทำโดยจงใจ เพื่อผลประโยชน์ของนายจ้าง หากลูกจ้างกระทำไปเพื่อผลประโยชน์ของตน นายจ้างก็ไม่ต้องรับผิด
1.3 สิทธิไล่เบี้ย
มาตรา 426 นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำ ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้าง
เป็นกรณีที่นายจ้างได้ขดใช้ค่าสินไหมทดแทนบะเมิดให้แก่บุคคลภายนอก นายจ้างก็สามารถรับช่วงสิทธิมาไล่คืนจากลูกจ้างได้ อาจจะเป็นจากการหักเงินเดือนของลูกจ้างก็ได้เช่นกัน
1.4 ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
มาตรา 427 บทบัญญัติในสองมาตราก่อน ให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทน โดยอนุโลม
ลักษณะตัวการตัวแทน
เป็นความสัมพันธ์ที่ตัวแทนตกลงจะทำตามที่ตัวการมอบอำนาจ เช่น แดงจะไปทำสัญญาขายรถให้ดำ แต่แดงไปไม่ได้ จึงมอบอำนาจให้ขาวไปทำแทน
ตัวแทนไม่ใช่ลูกจ้าง จึงไม่มีอำนาจจะควบคุมบังคับได้ โดยปกติตัวแทนจะรับผิดคนเดียว แต่ในกรณีที่ตัวแทนทำกิจให้ตัวการ ก็ย่อมใกล้เคียงกับสัญญาจ้าง เพราะหากไม่มีกิจที่ตัวการมอบอำนาจตัวแทนก็จะไม่ได้ไปทำ มาตรา 427 จึงให้นำมาตรา 425 และ 426 มาใช้ด้วย
ตัวอย่าง แดงมอบอำนาจให้ขาวไปทำสัญญาซื้อขายรถกับดำ ระหว่างทางขาวขับรถไปชนผู้อื่นโดยประมาท
ความรับผิดของตัวการ
เหตุที่ตัวการจะต้องรับผิดนั้น ต้องเป็นเหตุที่ตัวแทนปฏิบัติกิจในขอบเขตที่ได้รับมอบอำนาจเท่านั้น
ตัวแทนเฉพาะการ คือตัวแทนที่ต้องทำในสิ่งที่ได้รับมอบอำนาจให้สำเร็จลุล่วงเท่านั้น
ตัวอย่าง ก ตั้ง ข เป็นผู้แทนขายรถของ ก ข ที่เป็นตัวแทน ได้นำ ค ไปดูรถของผู้อื้ที่มีสภาพดีกว่ารถ ก ค หลงเชื่อจึงซื้อ กรณีนี้ ก ต้องรับผิดร่วมกันกับ ข
ตัวแทนทั่วไป คือตัวแทนที่สามารถทำได้ทุกอย่าง
กรณีที่ตัวแทนทำละเมิด บุคคลภายนอกสามารถเรียกได้ทั้งจาก2คน
ข้อสังเกต
การใช้หรือวาน ไม่ถือเป็นตัวการตัวแทน
ตัวอย่าง ดำวานให้ขาวไปซื้อน้ำให้
2. ความรับผิดของผู้จ้างทำของ
2.1 ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของผู้อื่น
มาตรา 428 ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ หรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้ หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ผู้จ้างทำของไม่ต้องรับผิด เนื่องจาก สัญญาจ้างทำของ นายจ้างไม่มีอำนาจบังคับบัญชาลูกจ้าง เช่น แดงจ้างดำไปสร้างบ้าน (สาระสำคัญคือต้องมีบ้านส่งให้แดง)
2.2 หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
ผู้จ้างทำของนั้นไม่ต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของบุคคลอื่น เว้นแต่ ผู้ว่าจ้างทำของจะกระทำให้เกิดความผิดทางละเมิกขึ้นเอง แม้จะมีการกระทำของผู้รับจ้างอยู่ด้วย
ความผิดในส่วนงานที่สั่งให้ทำ
เช่น จ้างผู้รับจ้างไปตัดถนนผ่านเจ้าไปในที่คนอื่นโดยละเมิด
ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้
เป็นกรณีให้คำแนะนำ เช่น แนะนำให้ช่างทำรางน้ำไปติดกับบ้านข้างๆให้น้ำไหลลงในที่บ้านตรงข้าม
ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง
คือการจ้างคนที่รู้ว่าไม่มีความสามารถในเรื่องนั้นมาทำสิ่งนั้น เช่น จ้างช่างที่ฝีมือไม่ดีมาประกอบโครงบ้านไม้ เพราะราคาถูกกว่าช่างฝีมือดี เป็นเหตุให้บ้านไม่ได้มาตรฐานและพังไปโดนบ้านข้างๆ
3. ความรับผิดของบิดา ของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของผู้เยาว์ หรือบุคคลวิกลจริต และความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
3.1 ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
มาตรา 429 บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
บุคคลไร้ความสามารถในมาตรานี้หมายถึง ผู้เยาว์ ส่วนบุคคลวิกลจริตนั้นไม่ได้หมายถึงเพียงแค่บุคคลไร้ความสามารถที่ศาลสั่ง แต่หมายถึงคนไร้ความสามารถที่ศาลยังไม่ได้สั่งด้วย
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในมาตรานี้ เป็นความรับผิดเนื่องจากความบกพร่องในหน้าที่ดูแลที่ตนควรมี
เช่น พ่อปล่อยให้ลูกเล่นปืนโดนไม่ได้ห้ามหรือเก็บปืนไว้ให้ปลอดภัย จนเกิดเหตุปืนลั่นใส่บุคคลอื่น พ่อก็ต้องรับผิดร่วมกับลูกด้วย
กรณีที่บิดามารดาผู้อนุบาลไม่ต้องรับผิดร่วม
เป็นกรได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร และหาข้อพิสูจน์มาให้รับฟังได้
เช่น บิดาเก็นปืนไว้ในลิ้นชักโดยล็อคลิ้นชักและเก็บกุญแจไว้กับตน แต่ลูกกลับไปงัดลิ้นชักเพื่อเอาปืนออกมา จนปืนบั่นใส่ผู้อื่น กรณีนี้พ่อไม่ต้องรับผิดร่วม
สิทธิไล่เบี้ย
เมื่อบิดาผู้อนุบาลได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกแล้วก็ชอบที่จะได้รับชดใช้จากผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและไล่เย้ยเอาได้(มาตรา 426 และ 431)
3.2 ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
มาตรา 430 ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
ผู้ดูแลในมาตรานี้แตกต่างจากมาตรา 429 คือเป็นผู้ดูแลตามข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นชั่วคราวหรือสมัครใจ แต่ไม่ได้รวมถึงผู้ดูแลแทนหรือผู้ช่วยเหลือในการดูแล
เช่น จ้างครูมาดูสอนลูกที่อยู่กับบิดามารดา ไม่ถือว่าเป็นผู้ดูแล
ผู้ดูแลชั่วคราวเช่น พี่เลี้ยง
ความระมัดระวังสมควรแก่หน้าที่ดูแล
ในมาตรา430 นี้ ฝ่ายบุคคลภายนอกต้องเป็นผู้นำสืบเองว่า ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นนั้น ได้ใช้ความระมัดระวังพอสมควรพหรือไม่ หากหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ ฝ่าย ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่น ก็ไม่ต้องรับผิดซึ่งต่างกับมาตรา429 ที่ฝ่ายบิดามารดผู้ดูแลต้องพิสูจน์เอง หากพิสูจน์ไม่ได้ก็ต้องรับผิด
สิทธิไล่เบี้ย
เมื่อ ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่น ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกก็ชอบที่จะไล่เบี้ยคืนจากผู้ไร้ความสามารถได้จนครบ (มาตรา 426และ 431)