Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด - Coggle Diagram
การพยาบาลเด็กที่มีความพิการแต่กำเนิด
แบ่งเป็น
Major anomalies คือ ความผิดปกติที่ทำให้การทำงานของอวัยวะนั้นเสียไป เช่น ปากแหว่งเพดานโหว่ หัวใจพิการแต่กำเนิด เป็นต้น
2.Minor anomalies คือ ความผิดปกติที่ไม่มีผลให้การทำงานของอวัยวะเสียไป เช่น ติ่งบริเวณหน้าหู ปาน เป็นต้น
ตามกลไกการเกิด
1.Malformation เกิดจากกระบวนการเจริญพัฒนาภายในที่ผิดปกติอาจเกิดจากพันธุกรรมหรือสิ่งแวดล้อม
2.Deformation เกิดจากการที่มีแรงกระทำจากภายนอกในระหว่างการเจริญพัฒนาของอวัยวะนั้น
3.Disruption เกิดจากสาเหตุภายนอกรบกวนกระบวนการเจริญพัฒนาอวัยวะที่ไม่ใช่พันธุกรรม
Dysplasia เป็นความผิดปกติในระดับเซลล์ของเนื้อเยื่อพบในทุกส่วนของร่างกาย
สาเหตุของความพิการ
1.พันธุกรรม เช่น โรคปากแหว่ง เพดานโหว่ เป็นต้น
2.สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจากมารดาในระหว่างตั้งครรภ์
มารดามีบุตรคนแรกเมื่ออายุเกิน 35 ปี
โรคติดเชื้อ
ขาดอาหาร ขาดวิตามิน
มารดารับประทานยาหรือสารเสพติด
มารดาได้รับสารเคมี
รังสีเอ็กซ์ หรือรังสีแกรมม่า
3.ควันบุหรี่
การป้องกันความพิการ
1.ในครอบครัวที่ทีประวัติเกี่ยวกับความผิดปกติทางพันธุกรรม
2.ควรมีบุตรระหว่าง 20-30 ปี
3หลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดความผิดปกติขณะตั้งครรภ์
4.ป้องกันหัดเยอรมัน
5.ขณะตั้งครรภ์ ควรฝากครรภ์
โรค
ปากแหว้ง เพดานโหว่
ก่อนผ่าตัด 1.สำลักนมได้ง่าย -นอนศีรษะสูง -ใช้ขวดรูโตหัวนมอ่อนนิ่ม -ทารกที่ดูดเองไม่ได้ให้ใช้หลอดหยดหรือใช้ช้อนป้อน -ให้เรอบ่อยๆ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรือที่เป็นเมล็ด 2.อาจเกิดการติดเชื้อ -ทำความสะอาดทุกครั้งหลังให้นม
หลังผ่าตัด 1.อาจเกิดภาวะหายใจลำบากใน 48 ชั่วโมงแรก -นอนตะแคงหรือนอนคว่ำ -ใช้ลูกสูบยางแดงดูดเสมหะที่บริเวณมุมปากเมื่อจำเป็นเท่านั้น -สังเกตและบันทึกลักษณะการหายใจ 2.อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด -ทำความสะอาดแผลหลังให้อาหาร -ให้น้ำหลังให้นมและอาหารทุกครั้ง 3.อาจเกิดการแยกของแผลผ่าตัด -ให้อาหารอย่างถูกวิธี -ไม่ใช้สายยางดูดเสมหะในจมูกและปาก ลำคอ -ดามแขน
TE fistula
ก่อนการผ่าตัด 1.อาจเกิดภาวะปอดอักเสบ หายใจลำบาก เขียว หรือหยุดหายใจ -พลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมง -ดูดเสมหะ -สังเกตการหายใจ -ให้ออกซิเจน -ให้ยาปฏิชีวนะ 2.บิดามารดาอาจเกิดความเครียด -เปิดโอกาสให้ซักถาม -ปลอบโยนให้กำลังใจ -กระตุ้นให้เข้าเยี่ยม
หลังการผ่าตัด 1.อาจเกิดภาวะขาดออกซิเจนและหยุดหายใจ -นอนตะแคงขวา ศีรษะสูงเล็กน้อย 2.อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด 3.อาจเกิดภาวะขาดสารน้ำ อาหาร และอิเล็กโทรไลต์ 4.บิดามารดาวิตกกังวล
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด 1.Gastroesophageal reflux 2.aspirated pneumonia 3.esophageal stricture
Gastroscisis/Omphalocele
ก่อนผ่าตัด -keep warm -ระวังการ contaminate -ปั้นประคองกระจุกลำไส้ให้ตั้ง -นอนตะแคงข้าง -ดูแลไม่ให้มีลม/แรงดันในลำไส้ -ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ -ดูแลให้ systemic antibiotics -ติดตามการทำงานของลำไส้ -สังเกตและระวังการเกิด Abdominal compartment syndrome
หลังผ่าตัด1.เสี่ยงต่อการขาดออกซิเจน 2.เสี่ยงต่อการได้รับอาหารและน้ำไม่เพียงพอ 3.เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
hernia
ก่อนผ่าตัด 1.เกิดภาวะขาดออกซิเจน -จัดท่านอนโดยให้ศีรษะและทรวงอกสูงกว่าช่องท้อง 2.เกิดภาวะเป็นกรดจากการเผาผลาญ 3.บิดามารดาเกิดความวิตกกังวล
หลังผ่าตัด 1.อาจเกิดภาวะแทรกว้อนหลังผ่าตัด -จัดท่านอนศีรษะสูง
Anorectal malformation
sหลังผ่าตัด anoplasty 1.เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด/ระบบทางเดินปัสสาวะ 2.บิดามารดามีความวิตกกังวล 3.บิดามารดาขาดความรู้ความเข้าใจ
Hypospadias
Epispadias
หลังผ่าตัด -ยึดสาย uretra หรือสาย cyslostomy -เก็บปัสสาวะส่งตรวจเพาะเชื้อ -ประเมินสาย cyslostomy
clubfoot