Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Teenage pregnancy กุลธิดา แป้นพยอม 64019563, 4, 1, 4, 1, 2, 6, 8, 7, 11,…
Teenage pregnancy
กุลธิดา แป้นพยอม
64019563
การตั้งครรภ์ในสตรีที่มีอายุระหว่าง 10 - 19 ปี
สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม
ปัจจัยด้านครอบครัว
2.1 ภาระหน้าที่ของพ่อแม่ ที่ต้องทำงานจนไม่มีเวลาให้กับลูก
2.2 สัมพันธภาพในครอบครัวไม่ดีพ่อแม่ทะเลาะกันเป็นประจำ
2.3 ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่แยกทางกัน วัยรุ่นต้องอยู่กับญาติหรือบุคคลอื่น
2.4 การถูกข่มขืนโดยบุคคลในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด
ปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
3.1 การเปลี่ยนแปลงของสังคม วัฒนธรรม ค่านิยม รูปแบบการใช้ชีวิตอย่างเสรีความใกล้ชิดสนิทสนมกับเพื่อนต่างเพศ
3.2 ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
1.ปัจจัยด้านสตรีวัยรุ่น
การจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาในโรงเรียน ที่ไม่จริงจัง ทำให้วัยรุ่นขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
การดื่มสุรา หรือ การใช้สารเสพติดต่างๆ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และ จิตใจ
ผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของสตรีและทารก
ด้านร่างกาย
-เมื่อมีการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดการเจริญเติบโตของร่างกายหยุดชะงัก
-ไม่คิดว่าจะมีการตั้งครรภ์การฝากครรภ์ล่าช้า สตรีวัยรุ่นอีกหลาย รายไม่กล้ามาฝากครรภ์เนื่องจากมีความกลัว อับอาย และ ทำให้ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยง
-การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ (unwanted pregnancy) อาจไปทำแท้ง และเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
-การเจริญของระบบต่างๆของสตรีตั้งครรภ์วัยรุ่นยังไม่สมบูรณ์จึงเสี่ยงต่อการเกิด ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะทุพโภชนาการ ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
ภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
ภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกําหนด
การติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ภาวะศีรษะทารกไม่ได้สัดสวนกับชองเชิงกราน เกิดระยะการคลอดยาวนาน
การตกเลือดในระยะหลังคลอด
อัตราการตายของมารดาสูงขึ้น
ด้านจิตสังคม
-วัยรุ่นไม่พรอมในการมีบุตร และ เกิดภาวะเครียด
-เกิดความรู้สึกสูญเสียคุณค่าในตนเอง จากการไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว สังคม
-มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการปรับตัว เนื่องจากวุฒิภาวะทางอารมณ์ยังเจริญไม่เต็มที่
-การปรับตัวต่อบทบาทการเป็นมารดาล่าช้า
ผลต่อทารก
-ทารกแรกเกิดน้ำหนักตัวน้อยจากภาวะทุพโภชนาการของมารดา การคลอดก่อนกำหนด หรือ เกิน กำหนด ทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์อัตราตายปริกำเนิดสูงขึ้น
-ทารกได้รับการดูแลไม่เหมาะสมทั้งด้านร่างกาย และ จิตใจ
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม
-เกิดปัญหาทางสังคม จากการละทิ้งทารก ถูกทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลหรือที่สาธารณะ
-การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมีผลต่อเนื่องไปถึงการศึกษา ทำให้เสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง
การพยาบาล
ในระยะตั้งครรภ์
1.แสดงความสนใจ เอาใจใส่ ให้ความเห็นใจ และเข้าใจปัญหา และความต้องการของสตรีตั้งครรภ์วัยรุ่น ให้คำปรึกษา ให้สามารถเผชิญกับภาวะเครียด และผ่านพ้นภาวะวิกฤตไปได้
ให้คำปรึกษา และแนะนำทางเลือกในการตั้งครรภ์เพื่อลดอัตราการทำแท่งผิดกฎหมาย โดยตั้งครรภ์ต่อไป และการเลี้ยงดูบุตรเอง หรือยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่น
ให้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย และ จิตใจในขณะตั้งครรภ์พัฒนาการและการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
ระยะคลอด
1.ให้การดูแลและประเมินความเสี่ยง ที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน อาจพบภาวะเจริญเติบโตไม่เต็มที่ของกระดูกเชิงกรานในสตรีที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี เป็นสาเหตุของภาวะแทรกซ้อนทางสูติกรรม เช่น การคลอดยาวนาน การคลอดติดขัด การผ่าตัดคลอด
ดูแลเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของการคลอด ป้องกันระยะของการคลอดยาวนาน และเฝ้าระวังภาวะ ศีรษะทารกไม่ได้สัดส่วนกับช่องเชิงกราน
ดูแลเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของการคลอด ป้องกันระยะของการคลอดยาวนาน และเฝ้าระวังภาวะ ศีรษะทารกไม่ได้สัดส่วนกับช่องเชิงกราน
ระยะหลังคลอด
เฝ้าระวังไมให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด จากกล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวไม่ดีหรือจากการตัดฝีเย็บ กว้างและลึกกว่าปกติในกรณีที่ช่องทางคลอดแคบหรือทารกในครรภ์ตัวโต
สังเกตอาการผิดปกติที่ควรมาโรงพยาบาล ได้แก่อาการไข้ปวดมดลูก น้ำคาวปลาเป็นสีแดงตลอด ไม่จางลง มีกลิ่นเหม็น มีเลือดสดออกทางช่องคลอดจำนวนมาก เต้านมอักเสบ บวมแดง และมีการกดเจ็บ ถ่าย ปัสสาวะแสบขัด ปวดศีรษะอย่างรุนแรงตาพร่ามัว มีภาวะซึมเศร้า
แนะนำมารดาหลังคลอดวัยรุ่น ให้งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังคลอด หรือภายหลัง ได้รับการประเมินสภาพการหายของแผลฝีเย็บ และการกลับเข้าสู่สภาพก่อนการตั้งครรภ์ของมดลูก
ให้คำแนะนำก่อนการกลับบ้าน เน้นเรื่องการวางแผนการเลี้ยงดูบุตร การวางแผนครอบครัว และการ คุมกำเนิดที่เหมาะสม
ส่งเสริมการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา ควรให้การสนับสนุนและช่วยเหลือมารดาวัยรุ่น และครอบครัวใน การเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา การให้ความรู้ถึงประโยชน์และหลักการเลี้ยงบุตร
ส่งเสริมการปรับตัวเข้าสู่บทบาทการเป็นมารดามารดาวัยรุ่นหลังคลอด มีพัฒนาการด้านอารมณ์จิตใจ ของวัยรุ่นที่ยังไม่สมบูรณ์ขาดวุฒิภาวะทางอารมณ์และต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดจากการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ทำให้มารดาวัยรุ่นหลังคลอดเกิดภาวะเครียดวิตก กังวลและมีความรู้สึกทางลบต่อการมีบุตร
อ้างอิง
บุญศรี จันทร์ชกูล และคณะ . คู่มือการดูแลผู้ป่วยทางสูติกรรมโรงพยาบาลรามาธิบดี. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร : บริษัทสำนักพิมพ์ข้าวฟ่าง ; ๒๕๔๕ .
สมศักดิ์ วชิรไชยการ . โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ . ศูนย์อนามัยที่ ๑ กรุงเทพฯ . การวางแผนครอบครัว . Family Planning . ประโยชน์การคุมก าเนิด : อินเทอร์เน็ต . ๒๕๕๓ [เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565] . เข้าถึงได้จาก
http://hpc๑.anamai.moph.go.th/download/new/...๗.๕๓/การคุมกำเนิด.ppt
มาณี ติยอนันต์.2548 .ตำราสูติศาสตร์.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ พีเอลิฟวิ่ง
การป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมในวัยรุ่น
การให้ความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หรือลดอัตราการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมในวัยรุ่น
การเข้าถึงการให้บริการเกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์ การคุมกำเนิด การป้องกันและรักษาโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมต่อวัยรุ่นที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย และสามารถให้การดูแลวัยรุ่นเมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ ได้
การดูแลและความเข้าใจจากบุคคลในครอบครัวและสังคมรอบข้างองค์กรต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชนให้การสนับสนุนและดูแลช่วยเหลือ รวมถึงการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้เด็กกลุ่มนี้ได้รับการศึกษาต่ออย่างเหมาะสม
ผู้ให้บริการทางการแพทย์ สหสาขาวิชาชีพ มีบทบาทให้การส่งเสริมการคุมกำเนิด
• ยาฉีดคุมกำเนิด(injectable contraception) เป็นฮอร์โมน progestin แบบฉีดเข้ากล้ามทุก 12 สัปดาห์ แต่ปัจจุบันมีทั้งชนิด ฉีดทุก 1-2 เดือน โดยมี estrogen เป็นส่วนประกอบ เป็นที่นิยมในวัยรุ่น เนื่องจากคุมได้นาน ใช้ง่าย
• ห่วงอนามัย(intrauterine device) เป็นอุปกรณ์ที่ใส่ไว้ในโพรงมดลูก มีประสิทธิภาพสูง ใช้ได้นาน 5 ปี ถ้าใช้เป็นชนิดที่มีทองแดงจะไม่มีผลจากฮอร์โมน ถ้าเป็นชนิดฮอร์โมน levonorgestrel จะช่วยรักษาภาวะประจำเดือนมามากได้
• ยาฝังคุมกำเนิด(implant contraception) เป็นฮอร์โมน progestin ชนิดฝังหลอดยาไว้ใต้ผิวหนัง ซึ่งมีหลายชนิดตั้งแต่แบบหลอดเดียวจนถึง 6 หลอด โดยออกฤทธิ์ตั้งแต่ 3-5 ปี พบว่าประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าการทำหมัน เหมาะสมกับวัยรุ่นเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมใช้ยา และใช้ได้นาน
• ถุงยางอนามัย(condom) มีทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เป็นที่นิยมในวัยรุ่นและยังสามารถป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย มีประสิทธิภาพดีถ้าใช้อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ
• ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม(combined oral contraception) เป็นที่นิยมและใช้ในวัยรุ่น มีประสิทธิภาพสูงกว่าร้อยละ 90 เหมาะสำหรับคนที่มีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ รักษาอาการปวดท้องประจำเดือน ปริมาณเลือดออกน้อยลง รักษาสิว โดยต้องเริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีระดูจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลหลังคลอด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล 3 มารดาวัยรุ่นหลังคลอดขาดความรู้และทักษะในดูแลตนเองและบุตร
วัตถุประสงค์
มารดาวัยรุ่นหลังคลอดมีความรู้และมีทักษะ ในการดูแลตนเองและบุตรได้ถูกต้อง
ข้อมูลสนับสนุน
S: มารดาหลังคลอดบอกว่าอุ้มบุตรไม่เป็น อาบน้ำบุตรไม่เป็น เช็ดตาและสะดือลูกไม่เป็น
O: จากแบบประเมินความรู้ก่อนให้ความรู้เรื่องการแลดูแลตนเอง ตอบได้ ต่ำกว่าเกณฑ์ , สังเกตเห็นมารดาวัยรุ่นหลังคลอด 7 ชั่วโมง นอนแช่ผ้าเปื้อนเลือดที่แห้งแล้ว ไม่ยอมลุกเข้า ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนผ้า
เกณฑ์การประเมิน
มารดาหลังคลอดสามารถตอบคำทวนกลับเรื่องการดูแลตนเองหลังคลอดได้ถูกต้อง
ประเมินความรู้การดูแลตนเองหลังคลอดและส่งเสริมสุขภาพทารกผ่านเกณฑ์ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80
กิจกรรมการพยาบาล
ให้ความรู้รายบุคคล ในเรื่องการดูแลตนเองหลังคลอด
1.1 การพักผ่อนและการเริ่มทำงาน ควรพักผ่อนให้มากจนกว่าจะรู้สึกแข็งแรง เหมือนก่อน ตั้งครรภ์ การนอนพักผ่อนควรนอนตอนกลางวัน ประมาณ 1-2 ครั้ง ถ้าเป็นไปได้ควรนอนเวลาบุตรหลับ ไม่ควรขึ้นบันไดสูงๆ ทำงานบ้านเบาๆได้ แล้วค่อยเพิ่มขึ้นตามลำดับ อย่าหักโหม ไม่ควรยกของหนัก หรือ ทำงานที่ต้องออกแรง หลังจาก 6 สัปดาห์ จึงจะทางานได้ตามปกติ
1.2. การรับประทานอาหาร รับประทานอาหารที่มีคุณค่า มีประโยชน์ตามความต้องการ ของร่างกาย อาหารที่ควรรับประทาน เช่นเนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ นมสด ผักทุกชนิดผลไม้ ดื่มน้ำให้เพียงพอ
1.3. ออกกำลังกายหลังคลอด อย่างน้อย 6 สัปดาห์หลังคลอด เช่น ฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic Floor Muscle Exercise) เพื่อช่วยให้ กล้ามเนื้อพื้นเชิงกรานกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอด เอ็นยึดมดลูกแข็งแรงและกระชับขึ้นและฝึกการนอนคว่ำ ใช้หมอนรองบริเวณหน้าท้อง เพื่อช่วยให้น้ำคาวปลาไหลสะดวก
1.4. การทำความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ไม่ควรแช่ในอ่างจะทำให้เชื้อโรค เข้าสู่ช่องคลอดได้ และล้างทุกครั้งหลังถ่ายปัสสาวะอุจจาระ เช็ดให้แห้งถ้ายังมีน้ำคาวปลาอยู่ หมั่นเปลี่ยน ผ้าอนามัยบ่อย ๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกให้เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4 ชั่วโมง หรือเปลี่ยนก่อนเมื่อเปียกชุ่ม
1.5. การวางแผนครอบครัว การคุมกำเนิดหลังคลอด โดยปรึกษามารดาของมารดาวัยรุ่น เลือกวิธีคุมกำเนิดซึ่งมีหลายวิธีให้เลือกใช้ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ใช้ถุงยางอนามัย โดยเน้นการคุมกำเนิดแบบ กึ่งถาวร เช่น การคุมกำเนิดโดยการใส่ห่วงอนามัย หรือ การฝั่งยาคุมกำเนิด ตามความเหมาะสม
1.6. แนะนำอาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์ก่อนครบกำหนดนัดตรวจหลังคลอด ได้แก่ ไข้ สูงติดต่อกันสองวัน ปวดแผลฝีเย็บมากนั่งหรือเดินไม่ได้ ปัสสาวะแสบขัด น้ำคาวปลาที่เคยออกมาเป็นสีจาง แล้วกลับออกมาเป็นเลือดสีเมมากขึ้น ปริมาณเลือดออกมากขึ้น และมีกลิ่นเหม็น เป็นต้น
1.7. นัดตรวจหลังคลอดประมาณไม่เกิน 42 วันสัปดาห์หลังคลอด
2.อธิบายและสาธิต และให้แผ่นผับ/แฟ้มความรู้ในเรื่องทักษะการดูแลบุตร
2.1. การเช็ดตา การสระผม การเช็ดตัว
2.2. การทำความสะอาดสะดือ
2.3. การทำความสะอาดของร่างกายของบุตรหลังการขับถ่าย
2.4. การไล่ลมหลังให้นมบุตร
2.5. การเช็ดทำความสะอาดหลังการขับถ่าย
2.6. การดูแลผิวหนัง
2.7. การห่อตัวบุตร
2.8. การให้ทารกได้รับอากาศบริสุทธิ์
2.9. การได้รับภูมิคุ้มกัน ในช่วงอายุต่างๆ และการดูแลหลังฉีดวัคซีน
ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดูแลตนเองและส่งเสริมทักษะการดูแลบุตร
ประเมินความรู้เรื่องการดูแลตนเองหลังคลอดและทวนทักษะการดูแลบุตร ได้แก่ การอาบน้ำ เช็ดตา เช็ดสะดือบุตร การห่อตัว การอุ้ม การจับเรอ ผ่านการเช็คกิจกรรมการพยาบาลส่วน ประเมินวางการ ก่อนจำหน่าย
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล 5 ส่งเสริมการวางแผนครอบครัวก่อนกลับบ้านเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำ
ข้อมูลสนับสนุน
S : มารดาวัยรุ่นหลังคลอดบอกว่าจะคุมกำเนิดหลังคลอด
O : มารดาของมารดาวัยรุ่น อายุ16 ปี ตั้งครรภ์ ไม่พร้อม
วัตถุประสงค์
เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ซ้ำในมารดาวัยรุ่นหลังคลอด
กิจกรรมการพยาบาล
ให้ความรู้รายบุคคลเรื่องการคุมกำเนิดมีกี่แบบ อธิบายข้อดีและข้อควรระวัง
ให้เวลามารดาวัยรุ่น และมารดา(ผู้ดูแล)ได้คิดตัดสินใจ
ดูแลประสานคลินิกวางแผนครอบครัวเพื่อรับการดูแลวางแผนครอบครัวก่อนกลับบ้าน
ติดตามผลการวางแผนครอบครัวก่อนกลับบ้าน
เกณฑ์การประเมิน
มารดาวัยรุ่นหลังคลอดได้รับการคุมกำเนิดแบบกึ่งถาวรก่อนกลับบ้าน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล 2 มารดาวัยรุ่นหลังคลอดกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงหลังคลอด
วัตถุประสงค์
เพื่อให้มารดาวัยรุ่นหลังคลอดได้มีการยอมรับ และเข้าใจสภาพการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย หลัง คลอดได้ดี
เกณฑ์การประเมินผล
สีหน้าไม่กังวล มารดาวัยรุ่นหลังคลอดยอมรับการเปลี่ยนทางสรีระร่างกายที่เกิดขึ้นจากภาวะ ฮอร์โมน หลังคลอดบุตร
ข้อมูลสนับสนุน
S: มารดาถามว่าทำไมหน้าท้องเค้าแตกลาย อายที่ต้องเผยร่างกายให้คนอื่นเห็น
O: ขณะพยาบาลเปิดหน้าท้องเพื่อจะวัดระดับยอดมดลูก มารดาหลังคลอดพยายามดึงผ้ามา ปิดหน้าท้อง
กิจกรรมการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับมารดาหลังคลอด
1.1 ใช้คำพูดที่สุภาพ ชัดเจน เข้าใจง่าย แสดงท่าทีสนใจและตั้งใจฟัง เมื่อมีการซักถาม
1.2 เคารพสิทธิมนุษยชน และหลีกเลี่ยงคำพูดการแสดงกริยาไม่พอใจ ตลอดจนไม่ใช้ถ้อยคำ ตำหนิเมื่อมารดาวัยรุ่นหลังคลอดไม่ให้ความร่วมมือ
1.3 แสดงสีหน้าเห็นใจ เข้าใจ หรือสัมผัสร่างกาย ด้วยความนุ่มนวลตามความเหมาะสมกับ สภาพและอาการของมารดาวัยรุ่นหลังคลอด
เคารพในสิทธิและคำนึงถึงฐานะความเป็นบุคคลของมารดาหลังคลอด
2.1 อธิบายให้ทราบถึงเหตุที่มีการเปลี่ยนแปลงสรีระร่างกายจากฮอร์โมนหลังคลอดบุตร อธิบาย ผลลัพธ์ ที่ต้องการและการตรวจทุกครั้ง
2.2 แจ้งผลการตรวจที่ควรรับทราบให้ทราบทุกครั้ง
2.3 ไม่เปิดเผยร่างกายของมารดาหลังคลอดโดยไม่จำเป็น
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล 4 มารดาวัยรุ่นหลังคลอดขาดความรู้ ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ข้อมูลสนับสนุน
S: มารดาบอกให้นมลูกไม่ยอมดูดนม น้ำนมไม่ไหล
O:มารดาครรภ์แรก สังเกตเห็นมารดาวัยรุ่นบีบนมตนเองไม่เป็น นั่งให้นมลูกดูดนมหลังงอ
วัตถุประสงค์
เพื่อให้มารดาวัยรุ่นหลังคลอด มีความรู้และทักษะการเลี้ยงด้วยนมแม่ที่ถูกต้อง
เกณฑ์การประเมิน
มารดาวัยรุ่นมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น คลายความวิตกกังวลลดลง
Lacth score ก่อนจำหน่าย ไม่ต่ำกว่า 8 คะแนน
มารดาวัยรุ่นหลังคลอดสามารถ สาธิตย้อนกลับการบีบน้ำนมที่ถูกต้อง
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินความรู้และทักษะของมารดาวัยรุ่นต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
เปิดโอกาสให้มารดาได้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ ให้ความสนใจพร้อมที่จะตอบคำถาม ด้วยความเต็ม ใจอย่าง ง่ายๆ และชัดเจนเพื่อให้มารดาเข้าใจและคลายความกังวล
สอนแนะนำและฝึกปฏิบัติวิธีการให้ทารกดูดนมแม่อย่างถูกวิธี โดยเน้นเทคนิคการจัดท่ามารดา และทารก อย่างถูกต้องเหมาะสม เทคนิคการเอานมเข้าเต้า (latch on) และแนะนำวิธีประเมินว่าทารกอมหัวนมและดูดนมได้ถูกต้อง
เปิดโอกาสให้มารดาระบายความรู้สึกและสอบถามในสิ่งที่สงสัย
ให้กำลังใจ ชื่นชม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับมารดา
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล 1 มารดาหลังคลอดและครอบครัวเครียดเนื่องจากไม่ต้องการให้สังคมรู้ ตนเองตั้งครรภ์
วัตถุประสงค์
มารดาหลังคลอดและครอบครัวมีภาวะเครียดลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
S: มารดาหลังคลอดเล่าว่า ตนเองแค่ทดลองใช้สิ่งเสพติดกับอดีตแฟน แล้วเผลอมีอะไรกัน โดยไม่ได้ป้องกันจนเกิดการตั้งครรภ์ เครียดไม่อยากให้เพื่อนๆ และคนแถวบ้านรู้ว่าท้อง ขณะเรียน
O: สังเกตเห็นผู้รับบริการ ไม่ค่อยพูด นั่งเงียบและไม่ค่อยมองตาเวลาสนทนาร่วมกับมีสี หน้า ท่าทาง ไม่สนใจสภาพแวดล้อม, แบบประเมินความเครียดขณะตั้งครรภ์คัดกรองภาวะเครียด (ST-5) = 7 คะแนน, ประเมินแบบคัดกรองโรคซึมเศร้า (2Q) พบว่ามีความผิดปกติ 1ใน 2 ข้อ
เกณฑ์การประเมินผล
1.สีหน้าไม่เคร่งเครียดหรือกังวล สนใจสภาพแวดล้อม
2.ก่อนจำหน่ายจากโรงพยาบาลแบบประเมินความเครียดขณะตั้งครรภ์ (ST-5) = 2 คะแนน, ประเมินแบบคัดกรองโรคซึมเศร้า (2Q) เกณฑ์ปกติ
กิจกรรมการพยาบาล
1 ทักทายผู้ป่วยพูดคุยพร้อมสังเกตพฤติกรรมการทำร้ายตนเอง เพื่อประเมินพฤติกรรมที่ เสี่ยงต่อการทำร้ายตนเอง
2 ขออนุญาตผู้ป่วย/ให้เหตุผลก่อนให้การพยาบาล
3 จัดเข้าเตียงเฉพาะและเป็นสัดส่วน สำหรับมารดาวัยรุ่นที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม กรณีปกปิด การตั้งครรภ์ เข้ารับการรักษาและนอนพักฟื้นในแผนกสูติ-นรีเวชกรรม
4 ให้การบริการการพยาบาลแบบ one stop service โดยให้การบริการการพยาบาลทุก อย่างเป็นส่วนตัวข้างเตียง ปกปิดข้อมูลของมารดาวัยรุ่นให้เป็นความลับมีการส่งต่อข้อมูลสุขภาพของมารดา วัยรุ่นเฉพาะกรณีที่จำเป็นและต้องได้รับอนุญาตจากมารดาวัยรุ่นทุกครั้ง
5 ประเมินระดับความเครียดของผู้ป่วยโดยใช้แบบประเมินความเครียดขณะตั้งครรภ์ คัด กรองภาวะเครียด(ST-5),ประเมินแบบคัดกรองโรคซึมเศร้า(2Q) แรกรับและก่อนจำหน่ายจาก โรงพยาบาล
6 ประสาน คลิกนิกวัยรุ่นเพื่อให้คำปรึกษาและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บ้านพัก เด็กให้รับมารดาวัยรุ่นอยู่ในความดูแลจนครบ 45 วันหลังคลอด ประสานกับทางโรงเรียนเพื่อแจ้งให้ทาง โรงเรียนรับทราบว่า มารดาวัยรุ่นต้องการเรียนต่อจนจบปีการศึกษาตามสิทธิประโยชน์
7 ตรวจเยี่ยมให้คำปรึกษากับผู้ป่วยและครอบครัวให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการรักษาและ ประสานกับแพทย์พร้อมทั้งอธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆของร่างกายและจิตใจของมารดาวัยรุ่น หลังคลอดบุตร
8 ให้ผู้ป่วยได้พูดคุยระบายความรู้สึกเกี่ยวกับประสบการณ์การปรับตัวของผู้ป่วยในอดีต ในการให้ความรู้โรงเรียน พ่อ แม่หลังคลอดเป็นรายบุคคลร่วมกับผู้ปกครอง
9 ดูแลสิ่งแวดล้อมให้ผู้ป่วยพักผ่อน ลดสิ่งรบกวนต่างๆ
10 ดูแลให้เจ้าหน้าที่เดินเรื่องเอกสารแทนผู้รับบริการเพื่อลดการเผชิญหน้ากับสังคมภายนอก ให้ ได้รับยาตามแผนการรักษา และให้การพยาบาลตามแนวทางการดูแลมารดาหลังคลอดที่ตั้งครรภ์ไม่พึง ประสงค์
นวัตกรรม
ชื่อ พัฒนาแนวทาง Early Bonding & Breastfeeding ด้วย นวัตกรรม สัมผัสนุ่ม ดูดเร็ว ด้วยเสื้ออุ่นไอรัก
งานการพยาบาลผู้คลอด กลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลลับแล
การส่งเสริมการให้นมแม่ครั้งแรก คือ การส่งเสริมให้แม่เริ่มต้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ภายใน ½ - 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด จึงเป็นสิ่งที่ส้าคัญและสามารถเพิ่มอัตราและเพิ่มระยะเวลาในการเลี้ยงลูกด้วยนม แม่ให้นานขึ้น และเป็นการช่วยส่งเสริมความผูกพันระหว่างมารดา-ทารก (early bonding) ด้วยการช่วยให้ แม่ลูกได้สัมผัสกันในลักษณะเนื้อแนบ เนื้อ (skin to skin contact) ทันทีภายใน ½- 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
มารดา Fully dilate พยาบาลงานการพยาบาลผู้คลอดเปลี่ยนเสื้ออุ่นไอรัก ให้กับมารดาก่อนจะขึ้นเตียงคลอด
มารดาประสบผลส้าเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยึดหลักตามบันได 10 ขั้นสู่ ความส้าเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนม
ตัวอย่างเคสกรณีศึกษา
ข้อมูลทั่วไป หญิงไทยอายุ ๑๕ ปี เชื้อชาติไทย ศาสนาพุทธ ที่อยู่ปัจจุบัน นครราชสีมา
-อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล เจ็บครรภ์คลอด ๓ ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน ครรภ์แรก อายุครรภ์ ๓๘ สัปดาห์๓ ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาลมีอาการเจ็บครรภ์คลอดแต่ไม่มี น้ าเดิน ANC ครบ ๔ ครั้งคุณภาพ ผลเลือดปกติ
-ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต ปฏิเสธการเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อร้ายแรง ไม่เคยผ่าตัด ปฏิเสธการแพ้ยา แพ้อาหาร
-สภาพทั่วไปเมื่อแรกพบ หญิงไทยอายุ ๑๕ ปี รูปร่างสมส่วน ผิวสีด าแดง ผมหยักศก ศีรษะสมดุลกันใบหน้าสมมาตรกันทั้ง สองข้าง อาการแรกพบ รับย้ายมารดาวัยรุ่นหลังคลอดจาก LR ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่องดีมาถึงตึกผู้ป่วยใน โดยรถนอนท่าทางอ่อนเพลีย Vital sign แรกรับ T= ๓๗.๒ องศาเซลเซียส ,RR = ๒๒ ครั้ง/นาที,PR = ๘๘ ครั้ง/นาที,BP = ๑๑๐/๗๐ mmhg น้ำหนัก ๔๖.๖ กิโลกรัม หลังคลอดบุตร ส่วนสูง ๑๕๘ เซนติเมตร
-ประเมินสภาพร่างกาย อารมณ์และจิตใจ มารดาวัยรุ่นหลังคลอดมีสีหน้าปกติ ท่าทางอ่อนเพลีย พูดคุยตอบคำถามมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการ เลี้ยงดูบุตร
-การประเมินสภาพร่างกาย
ศีรษะและใบหน้า : ศีรษะไม่มีก้อน และใบหน้าปกติ ไม่ผิดรูป
หู : ปกติ หูไม่มีการอักเสบ ไม่มีของเหลวไหลออกจากหู
จมูก : ปกติ ไม่มีของเหลวออกจากจมูก
ตา : เปลือกตาสีชมพู ไม่มีตาเหลือง ไม่ต้อเนื้อ เยื่อบุตาขาวปกติ
ปาก : ริมฝีปากปกติ ไม่มีริมฝีปากตก
คอ : คลำไม่พบก้อน ไม่มีคอโต
หัวใจ : S1 , S2 ปกติ ปอด : lung clear no wheezing
แขนและมือ : เคลื่อนไหวได้ปกติ ไม่มีข้อบวม
หัวเข่าและขา : หัวเข่าไม่บวม ไม่แดง ไม่ผิดรูป ขาไม่โก่ง งอได้ปกติ
ผิวหนัง : ผิวหนังแห้ง ไม่มีตุ่ม ไม่มีผื่นคัน
เท้า : เคลื่อนไหวได้ปกติ ไม่มีข้อบวม
ข้อมูลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
VDRL= Negative
HBsAg= Negative
Anti-HIV= Negative
Urine Albumin= Negative
Sugar =Negative
HCT =Negative ๔๐