Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาสถานการณ์จำลอง, นางสาวนันทิกานต์ สินพิทักษ์ เลขที่ 36…
กรณีศึกษาสถานการณ์จำลอง
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 15 ปี
อาการสำคัญ
แผลสุนัขกัดเลือดไหลตลอดเวลา
ปวดมาก 1 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล
อาการปัจจุบัน
1 ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยขับจักรยายนต์ มีสุนัขวิ่งไล่กัดจนรถจักรยานยนต์ล้ม มีเเผลฉีกขาดบริเวณลำตัวขนาด 1x3x1 cm. และแผลสุนัขกัดที่ขาด้านขวา ขนาด 2x5x1 cm. เลือดไหลตลอดเวลา มีคนนำส่งโรงพยาบาล
การตรวจร่างกาย
Vital signs: T = 37.2 oC P = 82/min R = 20/min BP = 112/76 mmHg
General Appearance: Thai female short hair, good conscious, painful, wound on the right leg and a torn wound on the body, Normal growth and development.
Skin: White skin, wound on the right leg and a torn wound on the body
Neurological sign: good conscious alert well cooperated, E4V5M6
การวินิจฉัยโรคการรักษาโรคเบื้องต้น
Dog bite (สุนัขกัด)
การพยาบาลที่สำคัญ
เสี่ยงต่อการติดเชื้อเนื่องจากมีบาดแผลเปิดจากการถูกสุนัขกัด
ล้างแผลด้วยน้ำ ฟอกสบู่หลายๆครั้งทันที ล้างให้ลึกถึงก้นแผลอย่างน้อย 15 นาที ดูแลอย่าให้แผลช้า
เช็ดแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น povidone iodine หรือ hibitane in water ถ้าไม่มีให้ใช้ 70% alcohol
ประเมินสัญญาณชีพ ได้แก่ อุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ความดันโลหิต และค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (Rabies Vaccine) ฉีดวัคซีนทั้งหมด 4 เข็ม โดยเข็มแรกจะต้องฉีดให้เร็วที่สุดหลังถูกกัด ซึ่งแพทย์อาจฉีดอิมมูโนโกลบูลิน (Human rabies immunoglobulin:HRIG) เพื่อฆ่าเชื้อบริเวณแผล จากนั้นจึงรับวัคซีนตามปกติอีก 3 เข็ม โดยวัคซีนปกติเข็มต่อจาก HRIG ฉีดให้วันที่ 3, 7 และ 14 หลังจากเข็มแรกตามล าดับ หากเคยรับวัคซีนมาก่อนในอดีตแล้ว อาจฉีดกระตุ้นเพียง 2เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3 วัน โดยไม่ต้องฉีดอิมมูโนโกลบูลิน แต่ยังคงต้องมารับวัคซีนเร็วที่สุดหลังจากถูกกัดเช่นกัน
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อรักษาการติดเชื้ออาจทำการเพาะเชื้อหนอง ให้ ก า ร รั ก ษ า ด้ ว ยamoxicillin
ให้คำแนะนำหลังรับวัคซีนบาดทะยักในเข็มแรกที่ฉีดที่แผนกฉุกเฉิน ถ้าภายหลังฉีดแล้วประมาณ
4 – 12 ชั่วโมง เกิดปฏิกิริยา ปวด บวมนูน แดง บริเวณที่ฉีด สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
แนะนำข้อมูลวัคซีนพิษสุนัขบ้าแก่ผู้สัมผัสโรคจำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะวันนัด
ป้องกันการหลงลืมหรือผิดวันนัด เพื่อลดความรุนแรงของการเกิดโรคได
การช่วยเหลือเบื้องต้นจากการมีแผลฉีกขาดบริเวณลำตัว
ใช้สำลีเช็ดเลือดและกดห้ามเลือดเพื่อให้หลอดเลือดหดตัวและสามารถห้ามเลือดได้
ชะล้างแผลและทำความสะอาดรอบๆ แผล ถ้าแผลสกปรกมาก
ควรล้างด้วยน้ำสะอาดและสบู่เพื่อลดจำนวนเชื้อโรค
ใช้ผ้าสะอาด หรือผ้าก๊อซสะอาด ซับบริเวณแผลให้แห้งเพื่อลดการอักเสบติดเชื้อ
ใช้ส าลีชุบเบตาดีน (Betadine) หรือโพวิโดนไอโอดีน
(Povidone iodine) และปิดบาดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
รีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการดูแลและรักษาต่อไป
การเย็บแผล
เลือกไหม nylonเบอร์ 3-0 หรือ 4-0, ยาชาที่ใช้ฉีด Procaine Hydrochloride หรือ Novocaine: ใช้บ่อยมา ราคาถูก ออกฤทธิ์เร็วเกือบจะทันที มีฤทธิ์ -2 ชั่วโมงฤทธิ์อยู่ได้นานกว่านี้ โดยเติม Adrenaline 0.5cc. : 100 cc. ของยาชา (Adrenaline ท าให้หลอดเลือดหดตัว ยาซึมหายไปได้ช้า ทำให้ฤทธิ์อยู่ได้นาน)
เลือกเย็บแผลรถจักรยานยนต์ล้มบริเวณล าตัวขนาด 3*1 cm. เนื่องจากแผลที่ถูกสุนัขกัดมีความ
เสี่ยงเกิดหนองมากกว่าปกติ ถ้ามีหนอง อาจจะต้องเลาะทั้งหมดเปิดใหม่ เมื่อเย็บแผลปิดไปแล้ว หากเกิดการ อักเสบติดเชื้อมา แผลอาจจะเสียหายมากกว่าเดิม การเย็บแผลนั้นสามารถช่วยให้แผลเป็นที่อาจเกิดขึ้นภายหลังดูดีขึ้น แต่ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
การให้วัคซีน
วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
หากไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน และถูกสุนัขกัด อาจต้องฉีดวัคซีนทั้งหมด 4 เข็ม โดยเข็มแรกจะต้องฉีดให้เร็วที่สุดหลังถูกกัด ซึ่งแพทย์อาจฉีดอิมมูโนโกลบูลิน (Human rabies immunoglobulin: HRIG) เพื่อ ฆ่าเชื้อบริเวณแผล จากนั้นจึงรับวัคซีนตามปกติอีก 3 เข็ม โดยวัคซีนปกติเข็มต่อจาก HRIG ฉีดให้วันที่ 3, 7 และ 14 หลังจากเข็มแรกตามลำดับ
หากเคยรับวัคซีนมาก่อนในอดีตแล้ว อาจฉีดกระตุ้นเพียง 2 เข็ม โดยเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3 วัน
โดยไม่ต้องฉีดอิมมูโนโกลบูลิน แต่ยังคงต้องมารับวัคซีนเร็วที่สุดหลังจากถูกกัดเช่นกัน
วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยัก
เนื่องจากกรณีศึกษาไม่มีประวัติการได้รับวัคซีนควรซักประวัติเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาการให้วัคซีนดังนี้ ในกรณีที่ผู้ป่วยเคยได้วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักมาแล้ว อย่างน้อย 3 ครั้ง และได้เข็มสุดท้ายนานกว่า 5 ปี มาแล้ว ให้ใช้ tetanus-diphtheria toxoid (Td) หรืออาจใช้ tetanus toxoid (TT) 1 เข็มเข้ากล้าม (TTอาจผสมกับ rabies vaccine ชนิด PVRV (Vero Rabie) ในกรณีที่ฉีด เข้ากล้ามเหมือนกัน) ถ้าผู้ป่วยไม่เคยได้หรือเคยได้วัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักน้อยกว่า 3 ครั้ง ให้วัคซีน Td หรือ TT เข้ากล้าม 3 ครั้งคือวันที่ 0, 1 เดือนและ 6 เดือนสาม
การรักษาอื่น
การตรวจ CT-Scan เพื่อตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะต่างๆในร่างกาย ได้แก่ บริเวณสมอง เนื่องจากอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนบริเวณศีรษะจากอุบัติเหตุได้
การตรวจ Chest X-ray เพื่อตรวจบริเวณทรวงอกเพื่อดูความผิดปกติของปอด หัวใจ หรือระบบหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากผู้ป่วยมีแผลบริเวณลำตัวอาจจะได้รับการกระทบกระเทือนบริเวณทรวงอกได้
การตรวจ Abdomen X-ray เพื่อตรวจบริเวณช่องท้อง ได้แก่ กระเพาะ ตับ ม้าม เนื่องจากผู้ป่วยมีแผลบริเวณลำตัวอาจจะมีการกระทบกระเทือนภายในช่องท้องได้
นางสาวนันทิกานต์ สินพิทักษ์
เลขที่ 36 62111301038