Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
"ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น" - Coggle Diagram
"ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น"
ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง (มาตรา425)
ความรับผิดของนายจ้าง
เหตุ ที่กฎหมายให้นายจ้างต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของลูกจ้างนั้น เนื่องจากลักษณะของสัญญาจ้างแรงงานนั้น นายจ้างมีอำนาจออกคำสั่งบังคับบัญชาให้ลูกจ้างทำงานได้ สิ่งที่ลูกจ้างกระทำไปจึงเปรียบเสมือนการกระทำของนายจ้าง ประโยชน์ที่เกิดจากการกระทำของลูกจ้างย่อมเป็นของนายจ้างทั้งสิ้น
EX . นายจุ้บ ทำสัญญาจ้างให้นายจิ้บไปตัดต้นมะพร้าวให้ เมื่อนายจิ้บตัดต้นมะพร้าวโดยวัดระยะผิด ทำให้ต้นมะพร้าวตกไปทับหลังคาบ้านของนายแจ้บเสียหาย นายจุ้บจึงจำต้องรับผิด ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่นายแจ้บ เพราะการทำละเมิดของนายจิ้บ :red_flag:
EX. นายแจ่ว ทำสัญญาจ้างให้นายจอบขับรถส่งน้ำแข็งให้กับโรงงานของตน เมื่อนายจอบขับรถไปชนเข้ากับกำแพงบ้านของนางสาวจอย นายแจ่วจึงต้องรับผิดแก่นางสาวจอยเนื่องจากการทำละเมิดของนายจอบ** :red_flag:
มาตรา 575 "อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือ สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่ง เรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทำงานให้แก่อีกบุคคลหนึ่งเรียกว่านายจ้าง ตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้"
ในทางปฏิบัตินั้น ไม่จำเป็นต้องเรียกว่าลูจ้างนายจ้างเสมอไป การเรียกชื่อสํญญากันอย่างไรจึงไม่สำคัญ
EX. นางสาวไก่ ทำสัญญาจ้างกวาดหอพัก โดยการจ้างนางสาวเป็ดให้มากวาดหอพักให้ตนเอง :red_flag:
EX. นายบอม ทำสัญญาจ้างเเปรงฟันให้สุนัข โดยให้นางสาวขนมจีบมาแปรงฟันให้สุนัขของตน :red_flag:
สินจ้างนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินเสมอไป อาจเป็นวัตถุหรือสิ่งอื่นด็ย่อมด้เช่นเดียวกัน
EX. นายเล็ก ทำสัญญาจ้างทำนาเกลือ โดยให้นางสาวจิ๋วและเพื่อนมาทำนาเกลือให้ตน โดยให้สินจ้างเป็นเกลือคนละ 5 กระสอบเมื่อเสร็จงาน :red_flag:
EX. นางสาวขนมจีบ ทำสัญญาจ้างปีนต้นมะพร้าว โดยการจ้างให้นายบอมมาปีนต้นมะพร้าวให้ โดยให้สินจ้างเป็นมะพร้า 2 เครือต่อการปีน 1 ครั้ง :red_flag:
ข้อสังเกต ข้าราชการในกระทรวง ทบวง กรม มิได้เป็นนายจ้างลูกจ้างซึ่งกันและกัน เนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการกับกระทรวง ทบวง กรม ที่ตนสังกัดอยู่นั้น ย่อมเป็นไปตามกำหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ
EX. นายบอมมีฐานะเป็นข้าราชการในกระทรวงยุติธรรม ดังนั้นนายบอมจึงมิใช่ลูกจ้างหรือนายจ้างในสัญญาจ้างแรงงาน :red_flag:
EX. นายไก่เป็นนายกอบจ.ทำงานเป็นข้าราชการ ดังนั้นนายไก่จึงมิใช่ลูกจ้างหรือนายจ้างตามสัญยาจ้างแรงงาน :red_flag:
สิทธิไล่เบี้ย (มาตรา 426)
มาตรา 426 "นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น"
การที่นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างนั้นเป็นความรับผิดต่อผู้เสียหาย ซึ่งกรณีนี้นั้น นายจ้างไม่จำต้องรับผิดกับผลแห่งการละเมิดนั้นด้วย
เมื่อนายจ้างชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายไปแล้ว จึงมีสิทธิไล่เบี้ยเรียกให้ลูกจ้างชดใช้ให้แก่ตนได้
:!!:
EX. นายไก่จ้างให้นายกุ้กขับรถขนส่งน้ำแข็งให้โรงงานของตน ต่อมาในขณะทำงาน นายกุ้กได้แอบดื่มสุราไปด้วยขณะขับรถ จึงมีอาการมึนเมาทำให้ขับรถไปชนนายกิ้กซึ่งกำลังขับรถมาโดยปกติ
กรณีนี้เมื่อนายไก่ซึ่งเป็นนายจ้างได้ชดใช้ค่าสินไหมให้แก่นายกิ้กผู้เาียหายแล้ว นายไก่ก็ย่อมสามารถใช้สิทธิไล่เบี้ยเอากับนายกุ้กซึ่งเป็นลูกจ้างได้
:red_flag:
ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
"ทางการที่จ้าง" นี้แสดงว่านายจ้างจะต้องรับผิดนั้นมิใช่แต่เพียงในการงานที่สั่งให้ทำเท่านั้น แต่หมายความกว้างถึงว่า เมื่อลูกจ้างทำการงานให้นายจ้างในทางการที่จ้างเป็นละเมิดต่อบุคคลอื่น แม้จะผิดวิธีการไปจากที่นายจ้างสั่ง นายจ้างก็ยังต้องรับผิด
EX. นายไก่เป็นลูกจ้างขับรถของบริษัทนายกุ้ก ต่อมานายไก่ยอมให้ลูกจ้างคนอื่นขับรถแทนตน เมื่อเกิดเหตุละเมิด ลูกจ้างขับรถต้องรับผิดชอบและการละเมิดนี้ย่อมนับว่าอยู๋ในกรอบแห่งการจ้าง ฉะนั้นนายกุ้กนายจ้าง ก็จำต้องรับผิดชอบร่วมด้วย :red_flag:
EX.นายจ้าบเป็นลูกจ้างทำความสะอาดพื้นที่บริเวณหน้าบ้านของนายจ้วบ ต่อมาระหว่างนายจ้าบตัดหญ้าอยู่นั้นมีนายจุ้บซึ่งเป็นคู่อริเดินผ่านมา นายจ้าบจึงใช้ก้อนหินที่วางอยู่ข้างๆปาไปที่นายจุ้บได้รับบาดเจ็บ กรณีนี้ นายจ้วบผู้เป็นนายจ้างก็ไม่จำต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของนายจ้าบ :red_flag:
ซึ่งมีข้อยกเว้น
โดยแม้การกระทำนั้นจะก่อขึ้นโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่ามิใชการกระทำในทางที่จ้างแล้ว นายจ้างก็ไม่จำต้องร่วมรับผิด เช่น
มาตรา 430
มาตรา 430 "ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งคราวก็ดีจำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการทำละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่า บุคคลนั้นๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมคว
วิธีการปฏิบัติ
เมื่อนายจ้างมิได้แจกแจงวิธีการกระทำเพื่อให้ละเอียดเพื่อให้ลูกจ้างปฏิบัติตาม ลูกจ้างอาจใช้วิธีตามที่เห็นสมควรเพื่อให้กิจการนั้นลุล่วงไป อันเป็นการสมแก่ประ โยชน์ของนายจ้าง ซึ่งนายจ้างนั้นยังคงต้องรับผิด แม้จะเป็นการกระทำที่ตนไม่ได้ให้อำนาจ แต่ก็เป็นการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการมอบอำนาจของตนให้อำนาจ ซึ่งอาจเป็นวิธีการก็ได้ แม้วิธีการนั้นมิได้เหมาะสมตามควร
EX. นายแดงจ้างให้นายดำมาตัดหญ้าบริเวณพื้นที่ข้างบ้านของตนโดยมิได้บอกขอบเขตที่แน่ชัดว่าเคหสถานของต้นนั้นมีความกว้างเท่าใด เนื่องจากมิได้ทำการล้อมรั้วแสดงอาณาเขตของตนเอาไว้ เมื่อนายดำได้ทำการตัดหญ้าลุกล้ำอาณาเขตของเพื่อนบ้านของนายแดงทำให้เกิดความไม่พอใจ กรณีนี้นายแดงจึงต้องรับผิดในการทำละเมิดของนายดำด้วย :red_flag:
ลักษณะสัญญาจ้างแรงงานตามมาตรา 575 "อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ้งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทำงานให้แก่บุคคลอีกคนอีกคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้างและนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้
กรณีนายจ้างมีคำสั่งห้าม การที่นายจ้างนั้นมีคำสั่งห้ามการกระทำอันเป็นการละเมิดไว้โดยชัดแจ้งย่อมไม่เป็นคู่ต่อสู้ของนายจ้าง
คือ การที่นายจ้างนั้นจ้างลูกจ้างทำงานให้แก่ตน หากลูฏจ้างฝ่าฝืนคำสั่งหรือระเบียบ แต่ยังคงปฏิบัติงานของนายจ้างอยู่ นายจ้างจะนำคำสั่งหรือระเบียบภายในมาอ้างต่อบุคคลภายนอกไม่ได้
EX.นายบอมเป็นพนักงานปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งของนายบิว ซึ่งมีกฎห้ามให้สูบบุหรี่ขณะอยู่ใกล้ถังเชื่อเพลิง แต่นายบอมฝ่าฝืนกฎโดยการสูบบุหรี่ภายในบริเวณการเติมน้ำมันจนทำให้เกิดระเบิดเพลิงใหม้เสียหายต่อรถของโจทย์ นายบิวก็ย่อมต้องรับผิดร่วมรับผิดในการทำละเมิดของนายบอม :red_flag:
ลูกจ้างกระทำกิจส่วนตัวในขณะเดียวกัน
ในกรณีที่ถือว่าลูกจ้างปฏิบัติการงานของนายจ้างอย่างแท้จริงแล้ว แม้ลูกจ้างจะได้ทำกิจส่วนตัวในขณะเดียวกันนั้นจนเกิดกาารละเมิด ก็ยังถือว่าเป้นเหตุที่เกิดขึ้นในทางการที่จ้าง
EX. นายไก่จ้างให้นายเป็ดไปไถนาให้ตน ในขณะไถนาอยู่นั้นนายเป็ดได้คุยโทรศัพท์ไปด้วย ทำให้เผลอข้ามไปไถนาของบุคคลภายนอกทำให้เกิดความเสียหายเนื่องจากได้ทำการหว่านข้าวเรียบร้อยแล้ว กณรีนี้นายไก่ก็ยังคงจำต้องรับผิดร่วมกับนายเป็ดเนื่องมาจ้างยังคงอยู่ในทางการที่จ้าง :red_flag:
ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวเเทน (มาตรา 427 )
มาตรา 427 "บทบัญญัติในมาตราทั้งสองก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทนด้วย โดยอนุโลม" (มาตราทั้งสองก่อนหน้านั้น ในที่นี้จึงหมายถึง มาตรา 425 และ 426)
หมายความว่า ตัวการต้องร่วมกันรับผิดกับตัวแทนในผลแห่งละเมิด ซึ่งตัวแทนได้กระทำไปในการทำการแทนตัวการ เหตุที่กฎหมายให้ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทนนั้น เนื่องจากกิจการที่ตัวแทนทำไปย่อมเป็นงานของตัวการ ดังที่ ป.พ.พ. มาตรา 807 วางหลักไว้ว่า ตัวแทนต้องทำตามคำสั่งของตัวการ ดังนั้น
ลักษณะของตัวการตัวแทนจึงคล้ายคลึงกันกับนายจ้างลูกจ้าง :!!:
ตัวแทนตาม มาตรา 797 "อันว่าสัญญาตัวแทนนั้น คือสัญญาซึ่งให้บุคคลหนึ่ง เรียกว่าตัวแทน มีอำนาจทำการแทนบุคคลหนึ่ง เรียกว่าตัวการ และตกลงจะทำการดังนั้น" ตัวแทนเป็นเอกเทศสัญญาเช่นเดียวกับสัญญาจ้างแรงงานซึ่งเป็นความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างลูกจ้าง จึงต้องเพิเคราะห์ดูก่อนว่ากรณีใดที่บุุคคลเป็นตัวการตัวแทนระหว่างกัน หากมิใช่เป็นการตั้งตัวเเทนก็ไม่จำต้องมีการรับผิดของตัวแทนนั้น
ความผิดของตัวการ
เป็นเหตุที่ได้เกิดขึ้นในขอบเขตแห่งการปฏิบัติตามหน้าที่เพื่อตัวการหรือในฐานที่ตัวแทนได้ทำการเป็นตัวแทน จึงต้องทราบเบื้องต้นว่าขอบเขของการเป็นตัวเเทนเสียก่อนว่ามีเพียงไร ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจอำนาจแต่เฉพาะการ ย่อมจะทำการแทนตัวการได้เพียงสิ่งที่จำเป็นต่อการงานเท่านั้น
ตัวแทนเฉพาะการ คือ มีหน้าที่เฉพาะเจาะจงในเรื่องนั้นๆ มีหน้าที่กระทำการเฉพาะเรื่องที่มีการมอบอำนาจ (มาตรา 800)
ตัวแทนทั่วไป คือ มีอำนาจในการกระทำการนั้นๆทั้งสิ้น แต่ต้องเป็นการที่สอดคล้องกับการงานที่กระทำนั้นๆ (มาตรา 801)
สิทธิไล่เบี้ยของตัวการ
มาตรา 427 นั้นบัญญัติถึงการนำ 426 มาใช้โดยอนุโลม ดังน้้น เมื่อตัวการได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้เเก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันตัวแทนได้ทำไปแล้วนั้น ก็สามารถใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาจากทตัวแทนได้
มาตรา 425 "นายจ้างต้องรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้น"
การละเมิดโดยจงใจ
ตามมาตรา 420 ซึ่่งเป็นหลักทั่วไปว่าด้วยการละเมิดนั้น เห็นได้ว่าการกระทำโดยประมาทเลินเล่อนั้น แตกต่างกับการกระทำละเมิดโดยจงใจ (wilful wrongdoing) การกระทำโดยจงใจเป็นเรื่องที่ผู้กระทำเล็งเห็นได้ว่า การกระทำของตนถ้าทำลงไปแล้วจะทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย การกระทำโดยจงใจนั้นบางทีก็แยกได้โดยชัดแจ้ง ไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานเพื่อนายจ้าง แต่เป็นเรื่องที่ลูกจ้างกระทำไปโดยความแค้นส่วนตัว กรณีนี้ลูกจ้างได้กระทำไปโดยมีเจตนาเพื่อประโยชน์ของตนเอง และมิใช่เป็นการกระทำแทนนายจ้าง เน้นการกระทำเพื่อความมุ่งหมายส่วนตัวหรือมีเจตนาร้ายส่วนตัวแล้ว กรณีนี้
" นายจ้างก็ไม่จำต้องร่วมรับผิด "
EX. นายจ้าบได้จ้างให้นายจุ้บมาเป็นยามเฝ้าโรงงานของตน ต่อมายามดึกนายจุ้บได้เห็นนายจ้วบ คู่อริของตนขับรถผ่านไปทางหน้าโรงงาน เกิดความแค้นจึงใช้หินปาไปที่นายจ้วบได้รับบาดเจ็บ กรณีนี้การกระทำละเมิดเกิดขึ้นจากการทำละเมิดโดยเฉพาะตัวของนายจุ้บ นายจ้าบผู้เป็นนายจ้างจึงไม่จำต้องร่วมรับผิดในการทำละเมิดนั้น :red_flag:
ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิด (มาตรา 430)
มาตรา 430 "ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลไร้ความสามารถอยู่เป็นนิจก็ดี ชั่วครั้งชั่วคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
ผู้ที่ต้องร่วมรับผิดร่วมกับบุคคลผู้ไร้ความสามารถตามมาตรานี้ คือ ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลดังกล่าว หากไม่รับดูแลก็เป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรานี้ จะดูแลอยู่เป็นนิจหรือชั่วคราวก็ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน แต่ไม่หมายถึงผู้ดูแลแทนหรือผู้ช่วยเหลือในการดูแล ความสำคัญของมาตรานี้จึงอยู่ที่หน้าที่ดูแลอันมีอยู่ระหว่างผู้ไร้ความสามารถกับตัวผู้ที่จะต้องรับผิดซึ่งเกิดขึ้นโดยข้อเท็จจริงที่บุคคลหนึ่งเข้ารับดูแลผู้ไร้ความสามารถ อาจเป็นผู้ปกครองที่ไม่ใช่บิดามารดา หรือผู้รับเลี้ยงดูแล พี่เลี้ยงเด็ก เป็นต้น
EX.นางจุ้บเป็นพี่เลี็ยงเด็กให้กับครอบครัวของนายบอม ซึ่งมีหน้าที่ดูแลลูกสาวของนายบอม ต่อมาลูกสาวของนายบอมซึ่งเป็นเด็กที่ซุกซน ได้ปาก้อนหินไปที่หลังคาบ้านเพื่อนบ้านในขณะอยู่ในความดูแลของนางจุ้บ กรณีนี้นางจุ้บผู้เป็นพี่เลี้ยงก็จำต้องรับผิดในการละเมิดลูกสาวนายบอม :red_flag:
ความระมัดระวังอันสมควรแก่หน้าที่
เป็นหน้าที่ของผู้เสียหายนำสืบให้ได้ความว่าผู้มีหน้าที่ดูแลมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ต้องดูแล ถ้าไม่นำสืบหรือนำสืบให้ฟังไม่ได้ บุคคลที่รับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถก็ไม่ต้องรับผิด ตามมาตรา 429 ที่ให้บิดามารดาหรือผู้อนุบาลนั้นมีหน้าที่นำสืบว่าตนได้ใชช้ความระมัดระวังตามสมควรจึงจะพ้นจากความรับผิดนั้น
EX.นายจุ้บครูประจำชั้นของเด็กชายบอย เห็นเด็กชายบอยนำหนังสติ๊กมาเล่นที่โรงเรียน เกรงจะเกิดอันตรายจึงยึดเเละนำไปเก็บและห้ามมิให้เล่นต่อไป แต่นายบอยใช้หนังสติ๊กยิ่งโดนเพื่อนได้รับบาดเจ็บช่วงพักกลางวัน กรณีนี้ถือได้ว่าได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว นายจุ้บจึงไม่ต้องรับผิด :red_flag:
บุคคลต้องรับผิด
สิทธิไล่เบี้ยของครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถ
เมื่อครูบาอาจารย์หรือบุคคลซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุุคลภายนอกไปแล้ว ย่อมใช้สิทธิไล่เบี้ยเอากับบุคคลผู้ไร้ความสามารถและไล่เบี้ยเอาจนครบจำนวนที่ได้ชดใช้ได้
EX. นายไก่เป็นผู้อนุบาลของนายเป็ด เมื่อนายเป็ดได้ขับรถไปชนกำแพงหน้าบ้านเพื่อนบ้านเสียหาย เมื่อนายไก่ชดใช้แก่เพื่อนบ้านให้นายเป็ดครถ้วนแล้ว ย่อมใช้สิทธิไล่เบี้ยเอากับนายเป้ดได้ :red_flag:
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ (มาตรา 428)
มาตรา 428 "ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ หรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้ หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง"
คามรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
กฎหมายได้บัญญัติถึงผู้ว่าจ้างเป็นผู้ผิด คือ ผู้ว่าจ้างจะต้องรับผิด ถ้าหากเป็นผู้ผิดแล้ว ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ ตามมาตรา 428 ไม่ใช่ความเรื่องความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น จึงเป็นความรับผิดของผู้ว่าจ้างในการกระทำของตนเองตาม มาตรา 420
EX. นายไก่ ได้ทำสัญญาจ้างทำของโดยให้นายเป็ดทำประตูไม้สักให้ตน ต่อมาขณะที่นายไก่ขนต้นไม้สักเพื่อนำไปให้นายเป็ด ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุไม้สักหล่นไปทับรถของนายหมู ดังนั้นนายไก่ต้องรับผิดต่อนายหมูแต่เพียงผู้เดียว นายเป็ดเป็นผู้รับจ้างย่อมไม่ต้องรับผิดต่อความเสียหายนั้นด้วย :red_flag:
ตัวบทมาตรา 428 ใช้คำว่า "ความเสียหาย" มิใช่คำว่า "การทำละเมิด" ตาม 425 429 และ 430 ดังนั้น ความเสียหายจึงมิได้เกิดขึ้นจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้รับจ้างก็ได้ ผูัรับจ้างจึงไม่ต้องรับผิดทางละเมิด แต่ผู้ว่าจ้างก็ยังต้องรับผิดเพราะได้มีส่วนผิด
EX. นายต้นได้ทำสัญญษจ้างทำของโดยให้นายติ้กทำกระท่อมปลายนาให้แก่ตน โดยกระท่อมปลายนานั้นมีลักษณะเป็นไม้แห้งติดไฟได้ง่าย ต่อมานายต้นต้องการไปตรวจสอบความเรียบร้อยของกระท่อมที่นายติ้กกำลังสร้าง ซึ่งเมื่อนายติ้กเห็นผู้ว่าจ้างมา นายติ้กได้ขอไปเข้าห้องน้ำ ต่อมาเมื่อนายต้นไม่ระมัดระวังสูบบุหรี่และทิ้งก้นบุหรี่ลงในทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามไปยังที่นาของเพื่อนบ้าน กรณีนี้นายต้นก็จำต้องรับผิด เนื่องจากมิใช่ความประมาทเลินเล่อของนายติ้ก :red_flag:
โดยเหตุที่ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น เมื่อผู้ว่าจ้างได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกไปแล้ว จึงไม่มีบทบัญญัติให้ผู้ว่าจ้างไล่เบี้ยเอาจากผู้รับจ้างได้
EX. นายบอมทำสัญญาจ้างทำของโดยให้นายบิวทำตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ให้ ต่อมาในขณะที่นายบิวกำลังทำตู้เสื้อผ้าอยู่นั้น นายบอมต้องการให้นายบิวย้ายตู้เสื้อผ้าขงฃองตนให้ไปทำอยู่อีกหนึ่งสถานที่ ในขณะขนย้ายนั้นตู้ได้หล่นลงไปทับดอกไม้หน้าบ้านนายบัว กรณีนี้ เมื่อนายบอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายบัวแล้ว นายบอมนั้นย่อมไม่สามารถไล่เบี้ยเอากับนายบิวซึ่งเป็นผู้รับจ้างได้ :red_flag:
หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ทั้งนี้ก็เพราะว่าจ้างไม่มีสิทธิควบคุมวิธีการทำงาน จึงถือว่าเป็นงานของผู้รับจ้างเอง ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิที่จะออกคำสั่งบังคับบัญชาผู้รับจ้างดังนายจ้างกับลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงาน
1.ความรับผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ
ความผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำเป็นเรื่องสั่งให้ทำตามสัญญาจ้างที่มีต่อกัน
EX. นายตะวันทำสัญญาจ้างให้นายบอมทำถนนเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นเพื่อผ่านเข้าไปถึงที่นาของตน กรณีนี้จึงเป็นการทำละเมิด :red_flag:ฃ
2.ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้
แม้การงานที่สั่งให้ทำจะไม่เป็นละเมิดในตัวเอง แต่อาจสั่งให้ผู้รับจ้างทำโดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งอันเป็นผลให้ผู้อื่นเสียหายก็ได้ ซึ่งเป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น ไม่ใช่คำสั่งบังคับให้กระทำ
EX. นายไก่ ได้แนะนำนายเป็ดซึ่งเป็นช่าง ให้ทำกำแพงสูงเกินความเหมาะสม ซึ่งอาจทำให้ไปบดบังทัศนวิสัยของบ้านตรงข้าม กรณีนี้ถือว่านายไก่มีความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้ :red_flag:
3.ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง หรือ เลือกหาผู้รับจ้าง คือ การจ้างนั่นเอง เป็นกรณีการจ้างคนที่ตนรู้ว่าไม่ใช่ผู้ที่มีความสามารถหรือระมัดระวังอันควรแก่สภาพของการงานที่จ้างให้ทำ จึงเป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นโดยละเมิด แต่ถ้าหากไม่รู็เชื่อโดยสุจริตตามที่ผู้รับจ้างอวดอ้าง ผู้ว่าจ้างก็ไม่จำต้องรับผิด
ข้อสังเกต
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของตามมาตรา 428 นี้ เป็นความรับผิดในฐานะผู้ว่าจ้างเป็นผู้ทำละเมิด ไม่ใช่ความรับผิดชอบในการกระทำของบุคคลอื่น หรือความรับผิดในการกระทำละเมิดของผู้จ้างอย่างเช่นที่บัญญัติไว้ในมาตรา 425 429 และ 430
EX.นายไก่เป็นผู้ว่าจ้างรับเหมาก่อสร้างตึก 5 ชั้น ซึ้งลูกจ้างรับเหมาของนายไก่ได้ประมาทเลินเล่อทำเศษปูนหล่นลงไปทับรถยนต์ของนายหมู กรณีนี้ไม่ปรากฎว่านายไก่เป็นผู้ผิดในการกระทำของลูกจ้าง นายไก่จึงไม่ต้องรับผิด :red_flag:
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ (มาตรา429)
มาตรา 429 "บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น"
ความสามารถของผู้ทำละเมิดนั้นไม่เป็นข้อสำคัญ เเม้เป็นผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตก็ยังต้องรับผิด เนื่องจากการทำละเมิดนั้น เป็นการล่วงสิทธิ ไม่ใช่การใช้สิทธิ คำว่า "ผู้ใด" ตามมาตรา 420 จึงหมายถึงบุคคลทุกชนิดซึ่งรวมทั้งผู้เยาว์และบุคคลวิกลจริตด้วย
แต่มิได้หมายความว่าผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตก่อความเสียหายขึ้นแล้วจะต้องรับผิดฐานละเมิดทุกกรณีไป จะเห็นได้ในกรณีที่เด็กแบเบาะ ซึ่งเป็นเด้กไร้เดียงสาปัจสาวะรดบุคคลอื่น จะถือว่าเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเด็กหาได้ไม่ จึงเป็นไปตามหลัก มาตรา 420 คือ จะต้องมีการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ซึ่งอยู่ในขอบเขตของการรู้สำนึกในการกระทำนั้นๆอีกด้วย
บิดามารดาหรือผู้อนุบาลนั้น ต้องหมายถึงผุ้ที่มีหน้าที่ดูแลผู้เยาว์ตามความในตอนท้ายของมาตรา 429 เท่านั้น ซึ่งต้องพิจารณาถึงอำนาจปกครองตามมาตรา 1566 และ 1567 อีกด้วย
ผู้เยาว์นั้น หมายถึง บุคคลที่อายุยังไม่ครบ 20 ปี บริบูรณ์ ยังไม่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตาม มาตรา 19 ส่วนบุคคลวิกลจริตนั้นไม่มุ่งหมายเฉพาะคนไร้ความสามารถเพราะวิกลจริตซึ่งศาลได้มีคำสั่งตามมาตรา 30 เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลวิกลจริตซึ่งศาลยังไม่ได้สั่งอีกด้วย
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลตามมาตรา 429 เป็นความรับผิดเนื่องจากความบกพร่องในหน้าที่ดูแลผู้ไร้ความสามารถระหว่างการดูแลของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล จึงทำให้บุคคลเหล่านี้ต้องรับผิด แต่ถ้าหากเหตุละเมิดที่เกิดขึ้นในระหว่างที่อยู่ในความดูแล ก็ไม่จำต้องรับผิด
EX.เด็กชายบอม อายุ 14ปี เป็นเด็กที่ซุกซน อยู่มาวันหนึ่งเห็นรถของนายไก่ เพื่อนของบิดามารดาของตนมาจอดที่หน้าบ้าน นึกสนุกจึงแอบใช้ตะปูเจาะยางรถของนายไก่ กรณีนี้ บิดามารดาของเด็กชายบอมจึงต้องรับผิดในการกระทำของบุตรของตนเองด้วย :red_flag:
EX.นายบอมเป็นบิดาของเด็กชายบิว ซึ่งเป็นทารก มีอายุเพียง 1 ขวบเศษ ต่อมาเด็กชายบิวได้ปัจสาวะรดตัวนายบัวซึ่งเป็นอาที่ได้เข้ามาอุ้ม กรณีนี้แม้เด็กชายบิวจะได้ทำละเมิดต่อนายบัว แต่เนื่องจากเด็กชายบิวเป็นเด็กทารกยังมิได้รู้สำนึกในการเคลื่อนไหวนั้นๆของตน กรณีนี้นายบอมซึ่งเป็นบิดาก็ไม่จำต้องรับผิด :red_flag: