Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
1ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง - Coggle…
1ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
1.1 ความรับผิดของนายจ้าง
-เราพึงจะเข้าใจว่าแม้ตัวบทจะใช้ความว่า บุคคลหนึ่ง เรียกว่าลูกจ้าง บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้าง
-นายจ้างจะต้องรับผิดจะต้องเป็นกรณีที่ลูกจ้างได้กระทำละเมิดเข้าองค์ประกอบตามมาตรา420ไม่ว่าจะกระทำละเมิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
ตัวอย่าง ฎ.1425/2539 การที่ลูกจ้างมิได้ขับรถยนต์ทับขาผู้เสียหายโดยประมาทเลินเล่อ การกระทำของลูกจ้างจึงไม่เป็นละเมิด นายจ้างจึงไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย
1.3สิทธิไล่เบี้ย
-มาตรา 426 วางหลักว่า นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น -การละเมิดนั้นเป็นการกระทำของลูกจ้างต่อบุคคลภายนอกเองโดยลำพัง นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในผลที่ลูกจ้างทำละเมิดนั้นด้วย นายจ้างใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายไปแล้วจึงชอบที่จะช่วงสิทธิผู้เสียหายไล่เบี้ยเรียกให้ลูกจ้างชดใช้ให้แก่ตนได้
ตัวอย่าง ฎ.648/2522 ลูกจ้างทำละเมิด นายจ้างถูกฟ้อง ได้ใช้ค่าเสียหายไปตามคำพิพากษาแล้วไล่เบี้ยเอาจาก
ลูกจ้างได้ แต่ค่าฤชาธรรมเนียมที่นายจ้างต้องใช้แก่ผู้เสียหายตามคำพิพากษานั้น ไม่ใช่ค่าเสียหายอันเป็นผลโดยตรงจากการละเมิดของลูกจ้าง นายจ้างไล่เบี้ยไม่ได้
1.2 ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
-หลักกฎหมายทั่วไปว่า ผู้ใดทำสิ่งใดโดยบุคคลอื่นเท่ากับทำด้วยตนเอง
-การกระทำละเมิดของลูกจ้างได้เกิดขึ้นในทางการที่จ้างหรือไม่นั้นต้องพิเคราะห์ดูว่าได้จ้างกันให้ทำงานชนิดใด ประเภทใด ลักษณะของงานที่จ้างเป็นอย่างไรเสียก่อน
ตัวอย่าง ก.จ้าง ข.เป็นลูกจ้างไว้คอยรับใช้ทำงานในบ้านเรือนตลอดจนทำความสะอาดต่างๆ เช่น ซักรีด กวาดถูบ้าน ข.ซักผ้าเสร็จแล้ว เทน้ำที่ใช้ซักผ้าเข้าไปในบริเวณบ้านของ ค. ที่อยู่ข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ย่อมถือว่าเป็นเหตุที่เกิดในทางการที่จ้าง ก.ต้องรับผิดในการกระทำของ ข. แต่เมื่อว่างงาน ข.เกิดไปรับจ้าง ง.เพื่อนบ้านของ ก.ซักผ้าแล้วโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อได้เทน้ำที่ใช้ซักผ้าทิ้งลงไปในบริเวณบ้านของ ค. ดังนี้ ก.ไม่ต้องรับผิดในการกระทำของ ข. แต่ ง.นายจ้างต้องรับผิดต่อ ค.
1.4 ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
-ตัวแทนมิใช่ลูกจ้าง จึงไม่อยู่ในบังคับของสิทธิของตัวการที่จะควบคุมดูแลเกี่ยวกับความประพฤติทางปฏิบัติของตัวแทน ตัวแทนจึงย่อมมีความรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ตัวการไม่ต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ตัวแทนอาจก่อขึ้น -ตัวแทนเป็นสัญญาอย่างหนึ่งและเป็นเอกเทศสัญญาเช่นเดียวกับจ้างแรงงานอันเป็นความสัมพันธ์กันระหว่างนายจ้างลูกจ้าง
ตัวอย่าง ฎ.2385/2518 เจ้าของเรือขับเรือไม่เป็น จึงให้ก.ขับเรือไปรับขบวนผ้าป่า เจ้าของเรือนั่งไปด้วย ดังนี้ ก.เป็นตัวแทน เจ้าของเรือต้องรับผิดร่วมกับ ก.ที่ขับเรือชนโจทก์เสียหาย
2.ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
2.1 ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของเป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น กล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นความรับผิดแทนกัน มีเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ ไม่เป็นความรับผิดในการ กระทำของบุคคลอื่นตามมาตรา 428
2.2 หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น เพราะว่าผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิควบคุมวิธีการทำงาน จึงถือว่าเป็นงานของผู้รับจ้างเอง
ตัวอย่าง ฎ.1176/2510 เจ้าของรถยนต์นำรถไปซ่อมที่อู่ซ่อมรถ แล้วเจ้าของรถวานให้ช่างซ่อมรถคันนั้นไปส่งที่อื่น เมื่อส่งเสร็จแล้วช่างซ่อมรถขับรถกลับอู่ เกิดชนกับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายระหว่างทาง ดังนี้ช่างซ่อมไม่ได้เป็นตัวแทนหรือเป็นลูกจ้างของเจ้าของรถยนต์ เป็นเรื่องจ้างทำของ เจ้าของรถยนต์ไม่ต้องร่วมรับผิดในการละเมิดนั้น
3.ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและ ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
3.1 ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลตามมาตรา 429 เป็นความรับผิดเนื่องจากความบกพร่องในหน้าที่ดูแลผู้ไร้ความสามารถและเหตุละเมิดที่เกิดขึ้นนั้นต้องเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ไร้ความสามารถอยู่ในระหว่างการดูแลของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล ถ้าหากมิใช่เหตุละเมิดที่เกิดขึ้นในระหว่างที่อยู่ในการดูแล ก็ไม่ต้องรับผิด
ตัวอย่าง ฎ.1315/2520 บิดาเคยใช้บุตรชับขี่รถจักรยานยนต์ไปซื้อของและไปทำธุระ ดังนี้ นอกจากบิดาจะไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำนั้นแล้ว บิดากลับสนับสนุนให้บุตรผู้เยาว์ขับขี่จักรยานยนต์อีกด้วย จึงต้องรับผิดร่วมกับบุตรตามมาตรา 429
3.2 ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
มาตรา 430 วางหลักว่า ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือ บุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับ ผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแล ของตน ถ้าหาก พิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
ผู้ที่ต้องรับผิดร่วมกับบุคคลผู้ไร้ความสามารถตามมาตรานี้ คือ ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่น
มาตรา430เป็นหน้าที่ของผู้เสียหายนำสืบให้ได้ความว่าผู้มีหน้าที่ดูแลมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ต้องดูแล
ตัวอย่าง ฎ.356/2511 ในตอนเช้า ครูประจำชั้นของเด็กผู้ทำละเมิดเห็นเด็กนักเรียนเอากระบอกพลุมาเล่นกันเกรงจะเกิดอันตรายให้เก็บไปทำลายและห้ามเด็กมิให้เล่นต่อไป แต่เด็กได้ใช้พลุยิงกันในเวลาพักกลางวันและนอกห้องเรียน ถือว่าได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น