Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น - Coggle Diagram
ความรับผิดกระทำละเมิดในการกระทำของผู้อื่น
ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
ความรับผิดของนายจ้าง
การเป็นนายจ้างและลูกจ้างนั้น ย่อมต้องเป็นไปตามมาตรา 575 " อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าลูกจ้าง ตกลงจะทำงานให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้ "
ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
สำหรับกรณีที่ผู้ทำละเมิดนั้นเป็นลูกจ้าง เนื่องจากนายจ้างมีหน้าที่จะต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดที่ลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างเท่านั้น
ต้องพิจารณาต่อไปว่า การกระทำละเมิดของลูกจ้างนั้นได้กระทำไปในทางการที่จ้างหรือไม่ หรือการทำละเมิดของลูกจ้างนั้นเป็นผลมาจากการปฏิบัติงานหรือไม่ โดยจะเกิดละเมิดในเวลาปฏิบัติงานหรือนอกเวลาปฏิบัติงานก็ได้ แต่ต้องเป็นงานตามที่มอบหมายให้ปฏิบัติไปตามหน้าที่ แต่หากมอบหมาย
สิทธิไล่เบี้ย
เมื่อตัวการใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายไปแล้วย่อมมีสิทธิไล่เบี้ยเอาจากตัวแทนได้ ตามมาตรา 427 ประกอบมาตรา 426 โดยมีอายุความ 10 ปี
ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
มาตรา 425 "นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้น"
มาตรา 426 "นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น"
มาตรา 427 "บทบัญญัติในมาตราทั้งสองก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทนด้วย โดยอนุโลม"
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการ กระทำของบุคคลอื่น
การฟ้องร้องมีอายุความ สองปี และการฟ้องร้องดำเนินคดีเพื่อให้ผู้รับจ้างผิดในความชำรุดบกพร่อง ต้องฟ้องภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ความชำรุดบกพร่องได้ปรากฏขึ้น
มาตรา 605 ถ้าการที่จ้างยังทำไม่แล้วเสร็จอยู่ตราบใด ผู้ว่าจ้างอาจบอกเลิกสัญญาได้ เมื่อเสียค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับจ้างเพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่การเลิกสัญญานั้น
มาตรา 596 ถ้าผู้รับจ้างส่งมอบการที่ทำไม่ทันเวลาที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาก็ดีหรือถ้าไม่ได้กำหนดเวลาไว้ในสัญญาเมื่อล่วงพ้นเวลาอันควรแก่เหตุก็ดี ผู้ว่าจ้างชอบที่จะลดสินจ้างลง หรือถ้าสาระสำคัญแห่งสัญญาอยู่ที่เวลา ก็ชอบที่จะเลิกสัญญาได้
หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า ผู้รับจ้าง ตกลงรับจะทำการสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จ ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำ
ผู้รับจ้างจะต้องทำงานอย่างหนึ่งอย่างใดจนสำเร็จให้แก่ผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างต้อง ให้สินจ้างเพื่อผลงานนั้น ทั้งนี้สินจ้างดังกล่าวอาจเป็นเงินตราหรือทรัพย์สินอย่างอื่นก็ได้ตามแต่จะตกลงกัน
วัตถุประสงค์ของสัญญาจ้างทำของ คือ “ผลสำเร็จของงาน”
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
ผู้อนุบาล มาตรา ๔๒๙ “บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือ วิกลจริต ก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของ บุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่า ตนได้ใช้ ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น”
ความรับผิดของบิดา มารดา และ ผู้ไร้ความสามารถรับผิด มาตรานี้ยืนยันว่าคนที่ไร้ความสามารถไม่ว่า จะเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ต้องรับผิดในผลละเมิดที่ตนได้ก่อให้เกิดขึ้น เรื่อง ความสามารถของผู้ไร้ความสามารถเพราะเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตตามกฎหมาย มีเฉพาะเรื่องการทำนิติกรรม
ผู้ไร้ความสามารถมีแต่ถูกจำกัดในการ ใช้สิทธิโดยลำพัง จึงอาจไม่ต้องรับผิดในการแสดงเจตนาทำนิติกรรม แต่ ในทางละเมิดเป็นการกระทำที่ไม่มีสิทธิ ผู้ไร้ความสามารถจึงต้องรับผิดในทาง ละเมิดเช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา
ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
มาตรา 430 "ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วคราวก็ดี จำต้องรับผิด ร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิด ซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้น ๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร"
ครูบาอาจารย์นั้นมีหน้าที่ดูแลนักเรียนผู้เยาว์ด้วย หากนักเรียนผู้เยาว์ไปทำละเมิดก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ใดในระหว่างอยู่ในความดูแลของครูบาอาจารย์และปรากฏว่าครูบาอาจารย์นั้นมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร ครูบาอาจารย์นั้นย่อมต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2511 เช้าวันเกิดเหตุ ครูได้เก็บเอาไม้กระบอกพลุที่เด็กนักเรียนเล่นมาทำลายและห้ามไม่ให้เล่นต่อไปตอนหยุดพักกลางวันนักเรียนคนหนึ่งได้เล่นกระบอกพลุที่นอกห้องเรียนไปโดนนัยน์ตานักเรียนอีกคนหนึ่งบอดพฤติการณ์เช่นนี้ครูได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วเหตุที่เกิดละเมิดเป็นการนอกเหนืออำนาจและวิสัยที่ครูจะดูแลให้ปลอดภัยได้ครูจึงไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1488/2515 จำเลยที่ 3 ครูใหญ่ ได้ให้ อ. ครูรองคอยควบคุมดูแลนักเรียนซึ่งรวมทั้งโจทก์และจำเลยที่ 1 ด้วย เมื่อจำเลยที่ 1 ได้เล่นบันไดโหนอย่างผาดโผน อ.เห็นก็ห้ามปรามจำเลยที่ 1 พอขาดคำบันไดก็ล้มทับโจทก์ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 3 ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 1 ก่อให้เกิดขึ้น (เรื่องนี้ฟ้องครูใหญ่ ไม่ได้ฟ้องครูรอง)