Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น - Coggle Diagram
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
1.1ความรับผิดของนายจ้าง
มาตรา 425 นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางที่จ้างนั้น
คำว่า “นายจ้าง” “ลูกจ้าง” ซึ่งมีความหมายว่า บุคคล2ฝ่าย มีความสัมพันธ์กันตามสัญญาแรงงานตามที่บัญญัติไว้ใน ปพพ. มาตรา575
ในสัญญาจ้างแรงงานนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งบุคคลหนึ่งมีคำสั่งและควบคุมงานซึ่งทำโดยบุคคลอีกคนหนึ่ง นายจ้างมีอำนาจสั่งให้ลูกจ้างทำงานที่ตนต้องการและลูกจ้างต้องปฎิบัติตามคำสั่งของนายจ้างเสมอ แต่ต้องเป็นคำสั่งกับงานที่จ้าง
การที่นายจ้างจะต้องรับผิดจะต้องเป็นกรณีที่ลูกจ้างได้กระทำละเมิดเข้าองค์ประกอบตามมาตรา420 ไม่ว่าจะเป็นการกระทำละเมิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อก็ตาม
ตัวอย่างเช่น ฎีกา 1425/2539 การที่ลูกจ้างมิได้ขับรถยนต์ทับขาผู้เสียหายโดยประมทาเลินเล่อ การกระทำของลูกจ้างจึงไม่เป็นละเมิด นายจ้างจึงไม่ต้องรับผิดร่วมด้วย
การที่นายจ้างรับผิดอันเนื่อฃจากจากกระทำละเมิดโดยจงใจของลูกค้านั้นจะต้องอยู่ภายฝต้เงื่อนไขลูกจ้างกระทำไปเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง ถ้าลูกจ้างปฎิบัติโดยมีเจตนาจูงใจเป็นการส่วนตัวซึ่งไม่เกี่ยวกับประโยชน์ของนายจ้างแล้วก็ย่อมถือว่าลูกจ้างนั้นออกจากงานที่จ้างและนายจ้างไม่ต้องรับผิด
1.2 ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
การพิจารณาการกระทำละเมิดของลูกจ้าง
ดูลักษณะงาน
ลูกจ้างได้ปฎิบัติตามหน้าที่ของลูกจ้างหรือไม่
ลูกจ้างต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของนายจ้าง
ความรับผิดชองนายจ้างจะมีอยู่เฉพาะเมื่อลูกจ้างได้กระทำอันเป็นการเสียหายระหว่างที่ตนกำลังปฎิบัติหน้าที่
ลูกจ้างได้กระทำไปนั้นต้องปฎิบัติงานให้ลุล่วงไป
ตัวอย่าง เช่น บริษัท ก. จ้าง ข. เฝ้ายามโกดังสินค้าของ บริษัท ข. เห็น ค. เดินมาใกล้โกดัง ข.คิดว่า ค. จะมารับสินค้าในโกดังซึงเป็นความเข้าใจผิด ข. จึงใช้ปืนยิง ค. บาดเจ็บก็ดี ค. ซึ่งไม่มีอาวุธในมือจะเข้ามาลักสินค้าในโกดังโดยปีนเข้ามาทางหน้าต่างแล้ว ข.จึงใช้ปืนยิงก็ดี เป็นเหตุที่เกิดในการที่จ้าง บริษัท ก. ต้องร่วมรับผิดด้วย
วิธีการปฎิบัติ
ในการกระทำกิจการงานใดนั้น ย่อมมีวิธีการที่จะปฎิบัติงานให้ลุล่วงไปเพื่อประโยชน์ของนายจ้าง ในการสั่งให้กระทำนั้น นายจ้างไม่ได้แจกแจงวิธีการกระทำให้ละเอียดเพื่อให้ลูกจ้างไม่ปฎิบัติตาม ลูกจ้างอาจใช้วิธีตามเห็นสมควรเพื่อให้กิจการสั่นล่วงลุไปและสมประโยชน์ของนายจ้างและนายจ้างต้องรับผิดในวิธีการกระทำการบางอย่างที่ตนได้สั่งหรือมอบอำนาจให้ทำ แม้เ็นการกระทำที่ตนไม่ได้มอบอำนาจแต่เป็นการกระทำที่เกี่ยวข้องกัยการที่ตนให้อำนาจ ซึ่งอาจเป็นวิธีการแม้จะเป็นวิธีการที่ไม่สมควร
หลักกฎหมายทั่วไปว่า “ผู้ใดทำสิ่งใดด้วยบุคคลอื่นเท่ากับทำด้วยตนเอง” แต่หลักที่ว่านี้ใช้เฉพาะแต่การที่ได้รับมอบอำนาจมซึ่งแม้ลูกจ้างจะกระทำแต่ไม่ได้รับอำนาจโดยเฉพาะ การที่นายจ้างต้องรับผิดมนการทำละเมิดของลูกจ้างไม่ใช่เพราะมอบอำนาจให้ทำแทน แต่เพราะลูกจ้างได้เกี่ยวข้องกับงานที่จ้าง
1.3 สิทธิไล่เบี้ย
มาตรา 426 นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะชดใช้จากลูกค้านั้น
สิทธิไล่เบี้ยของนายจ้างจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อนายจ้างได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายแล้ว
ตัวอย่างเช่น ฎีกา 648/2522 ลูกจ้างทำละเมิด นายจ้างถูกฟ้อง ได้ใช้ค่าเสียหายไปตามคำพิพากษาแล้วไล่เบี้ยเอาจาก
ลูกจ้าง แต่ค่าฤชาธรรมเนียมมี่นายจ้างต้องใช้อก่ผู้เสียหายตามคำพิพากษานั้น ไม่ใช่ค่าเสียหายอันเป็นผลโดยตรงจากการละเมิดของลูกจ้าง นายจ้างไล่เบี้ยไม่ได้
1.4 ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
ลักษณะตัวการตัวแทน
โดยเหตุตัวแทนมิใช่ลูกจ้าง จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งสิทธิของตัวการที่ควบคุมดูแลเกี่ยวกับความประพฤติทางปฎิบัติของตัวแทน โดยปกติตัวแทนจึงย่อมมีความผิดแต่เพียงผู้เดียว ตัวการไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดที่ตัวแทนอาจก่อขึ้น
มาตรา427 จึงบัญญัติให้นำมาตรา425และมาตรา426 มาใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทนโดยอนุโลม เพราะความสัมพันธ์ระหว่างตัวการตัวแทนมีความใกล้ชิดกับความสัมพันธ์ระหว่างน้ายจ้างลูกจ้าง
มาตรา 427 บทบัญญัติในมาตราทั้งสองก่อนนั้น ท่านสห้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทนด้วย โดยอนุโลม
ตัวอย่างเช่น ฎีกา 2385/ 2518 เจ้าของเรือขับเรือไม่เป็น จึงให้ ก. ขับเรือไปรับขบวนผ้าป่า เจ้าของเรือ
นั้งไปด้วย ดังนี้ ก.เป็นตัวแทน เจ้าของเรือต้องรับผิดร่วมกับ ก. ที่ขับเรือชนโจทย์เสียหาย
ความรับผิดของตัวการ
เหตุบะเมิดที่จะให้ตัวการรับผิดต้องเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในขอบเขตแห่งการปฎิบัติหน้าที่เพื่อตัวการหรือฐานที่ตัวแทนได้ทำการเป็นตัวแทน ฉะนั้น จึงต้องทราบขอบเขตของตัวแทน ถ้าตัวแทนได้รับมอบอำนาจแต่เฉพาะการ ย่อมจะทำการแทนตัวการได้เพียงในสื่งที่จำเป็นเพื่อให้กิจการอันตัวการได้หมอบหมายแก่ตนนั้นสำเร็จลุล่วง
สิทธิไล่เบี้ยของตัวการ
มาตรา 427 บัญญัติให้นำมาตรา 426 มาใช้บังคับแก่ตัวการด้วยโดยอนุโลม
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างรับของ
2.1 ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอิ่น
บุคคลที่ต้องรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่นตะต้องมิได้กระทำละเมิดด้วยตนเอง แต่ตามมาตรา 428 ที่บัญญัติให้ผู้ว่าจ้างทำของต้องรับผิด ผู้ว่าจ้างทำของต้องเป็นผู้รับผิด ฉะนั้น ความรับผิดของผู้ว่าจ้างรับของจึงมิใช่บทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
2.2 หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
หลักทั่วไปว่าความผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ก็เพราะว่าผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิควบคุมวิธีการทำงานจึงถือว่าเป็นงานของผู้รับจ้างเอง ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิที่จะออกคำสั่งบังคับบัญชาผู้รับจ้างดังนายจ้างกับลูกจ้างในสัญญาแรงงาน
มาตา 428 บัญญัติว่า ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสีนหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้ หรืแในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ความผิดที่ผู้ว่าจ้างตามที่กฎหมายกำหนดไว้มี 3 กรณี
ความผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ
2.ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้
3.ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง
ความรับผิดของมารดาบิดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลสิกลจริต และความรัยผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคบอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไรความสามารถ
3.1 ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
ตามมาตรา 420 ได้อธิบายคำว่า “ผู้ใด” หมายถึงบุคคลทุกชนิดซึ่งรวมทั้งผู้เยาว์และบุคคลวิกลจริตด้วย
ความสามารถของบุคคลผู้ทำละเมิดไม่เป็นข้อสำคัญ แม้เป็นผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดเพราะการทำละเมิดเป็นการช่วงสิทธิ
มาตรา 429 บัญญัติว่า บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นนี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
ตัวอย่างเช่น ฎีกา 847/ 2498 บุตรผู้เยาว์มีนิสัยชอบเล่นปืนมาก เพียงแต่บิดาเก็บปืนไว้บนหลังตู้ซึ่งผู้เยาว์หยิบไม่ถึง แล้วสั่ง ก. ให้เก็บปืนไว้เฉยๆ มิได้กำชับว่าอย่าให้บุตรผู้เยาว์เอาไป บุตรผู้เยาว์หลอกเอาปืนไปจาก ก. แล้วยิงบุตรโจทย์ตาย เรียนไม่ได้ว่าบิดาใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลตาม มาตรา 429
3.2 ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
บุคคลต้องรับความผิด
ผู้ที่ต้องรับความผิดกับบุคคผู้ไร้ความสามารถ คือ อาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นที่รับดูแลบุคคลดังกล่าว จะดูรับดูแลอยู่เป็นนิจหรือชั่วคราวก็ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน
มาตรา 430 บัญญัติว่า ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วครั้งชั่งคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ดูแล
ตามมาตรา 430 เป็นหน้าที่ของผู้เสียหายนำสืบให้ได้ความว่าผู้มีฟน้าที่ดูแลมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ต้องดูแล ถ้าไม่นำสืบหรือนำสืบให้ฟังไม่ได้ บุคคลที่รับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถก็ไม่ต้องรับผิด
สิทธิไล่เบี้ยของครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถ
เมื่อครูาอาจารย์หรือบุคคลซึ่งได้รับความดูแลผู้ไร้ความสามารถได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก้บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ชอบที่จะชดใช้จากบุคคลผู้ไร้สามารถและไล่เบี้ยเอาได้จนครบจำนวนที่ได้ชดใช้ ( มาตรา 431 และมาตรา 426 ) เช่นเดียวกับกรณีตามมาตรา 429