Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดเพื่อละเมิด ในการกระทำของตนเอง - Coggle Diagram
ความรับผิดเพื่อละเมิด
ในการกระทำของตนเอง
มาตรา 420 “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”
4.ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจาก
การกระทำของผู้ทำเสียหาย
2.ทฤษฎีมูลเหตุเหมาะสม
-การต้องรับผิดเฉพาะในกรณีที่ได้รับบัตรเจ็บธรรมดาเฉพาะแต่เห็นตามปกติย่อมก่อให้เกิดผลเช่นนั้น เท่านั้นที่ผู้กระทำต้องรับผิด
Ex.เอย่อมไม่รู้ว่าบีเป็นโรคดังกล่าวอาจถึงตายได้ เอจึงต้องรับผิดธรรมดาเท่านั้นไม่ต้องรับผิดในความตายของบี
1.ทฤษฎีความเท่าเทียมกันแห่งเหตุหรือทฤษฎีเงื่อนไข
-ถ้าไม่มีการกระทำ แล้วความเสียหายก็ย่อมไม่เกิด ผู้นั้นจึงต้องรับผิด
Ex.เอเเกล้งหลอกผีบี บีเป็นโรคหัวใจอาจเกิดอันตรายถึงตายได้เเต่เอไม่ทราบมาก่อน บีตายเเม้เอไม่รู้ว่าบีเป็นโรคดังกล่าวเอก็ต้องรับผิด เเก่บี
1.ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
จงใจ
-การกระทำโดยรู้สำนึก
-ผู้กระทำไม่จำเป็นต้องประสงค์ต่อผลหรือ
ย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
-ผู้กระทำกระทำลงไปเเล้วรู้ว่าการกระทำของตน
นั้นจะทำให้เกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่น
ประมาทเลินเล่อ
-ไม่จงใจ
-ไม่ใข้ความระมัดระวังตามสมควรที่จะใช้
Ex.แดงมีประวัตินอนละเมออยู่เป็นประจำวันหนึรงได้ไปเที่ยวกับดำพักห้องเดียวกันแดงนอนละเมอตบหัวดำแตก(เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย)แดงผิดมาตรา 420 กระทำโดยประมาทเลินเล่อ
ผู้ใด
-ต้องเป็นการกระทำของมนุษย์
-บุคคลธรรมดา
(รวมถึงผูู้เยาว์ คนวิกลจริต)
-นิติบุคคล
2.การกระทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฏหมาย
การกระทำโดยเคลื่อนไหวร่างกาย
-ความเคลื่อนไหวโดยรู้สำนึกในการกระทำ
-การเเสดงให้ปรากฏออกมาภายนอก
การกระทำโดยงดเว้น
1.หน้าที่อันเกิดจากกฎหมายบัญญัติ
-สามีภรรยามมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูกัน (มาตรา 1461)
-บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา (มาตรา 1563)
-บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์ บุตรทุพพลภาพหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ (มาตรา 1564)
Ex.นางส้มมีบุตรอายุ 3 เดือนประชดแฟนไม่ยอมให้บุตรกินนมบุตรร้องไห้จนตายนางส้มต้อง รับผิดฐานงดเว้นตามมาตรา 420
2.หน้าที่อันเกิดจากสัญญา
-หน้าที่ตามกฎหมาย
Ex.มีสัญญาจ้างให้แพทย์รักษาโรค แต่แพทย์ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่อันเกิดจากสัญญาคือไม่ยอมรักษา มีผลให้เกิดความเสียหายแก่เขาจึงเป็นผิดสัญญาและละเมิด
3.หน้าที่อันเกิดจากการกระทำครั้งก่อนของตนเอง
-หน้าที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางข้อเท็จจริงที่มีอยู่ระหว่างผู้งดเว้นกับผู้เสียหาย
Ex.เอเห็นบีจมน้ำ-เอว่ายน้ำไปช่วย-ขณะช่วยบีกอดเอแน่น-เอตกใจกลัวจมน้ำตายตามจึงสลัดแขนบีทิ้ง-บีจมน้ำตาย เอต้องรับผิดเพราะการกระโดดลงไปช่วยนั้นก่อให้เกิดหน้าที่ของเอแล้ว
โดยผิดกฎหมาย
กฎหมายบัญญัติไว้โดยชัดเเจ้ง
เช่น ปอ.มาตรา 295 หรือ มาตรา 362
-เเต่ความรับผิดฐานละเมิดไม่จำต้องมีกฎหมายบัญญัติไว้โดยชัดเเจ้ง
1.การใช้สิทธิซึ่งมีเเต่จะให้เกิดความ
เสียหายเเก่บุคคลอื่น
“มาตรา 421 การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น
ท่านว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย”
-การใช้สิทธิอาจถือว่าเป็นการอันมิชอบโดยกฎหมาย
-ผู้ทำความเสียหายมีสิทธิตามกฎหมายมาก่อน
ผลอันสืบเนื่องมาจากมาตรา 5
-ในการใช้สิทธิบุคคลต้องทำการโดยสุจริต
-ถ้าใช้สิทธิโดยไม่สุจริตอาจต้องรับผิดฐานละเมิด ม.421
เป็นบทขยายของคำว่า โดยผิดกฎหมาย ใน ม.420
ความยินยอมไม่เป็นละเมิด
-ความยินยอมของผู้เสียหาย
-บทบัญญัติหมวด 3 ว่าด้วยนิรโทษกรรม มาตรา 449-452
2.การกระทำฝ่าฝืนบังคับบทบัญญัติเเห่งกฎหมาย
มาตรา 422 ถ้าความเสียหายเกิดแต่การฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายใดอันมีที่ประสงค์เพื่อจะปกป้องบุคคลอื่นๆ ผู้ใดทำการฝ่าฝืนเช่นนั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นผู้ผิด
-ได้มีผลเสียหายเป็นผลเนื่องมาจาก
การกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย
3.การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่น
1
.มีความเสียหายต่อสิทธิ
-ชีวิต ร่างกาย อนามัย ทรัพย์สิน
Ex.เอใช้ก้อนหินขว้างปาบ้านของบี ถูกกระเบื้องมุงหลังคา
เเต่ไม่เเตก ในทางกฎหมายย่อมถือว่าเกิดความเสียหายเเก่
บ้านของบีเเล้ว
2.ลักษณะเเห่งสิทธิ
สิทธิ คือประโยชน์ที่บุคคลมีอยู่และบุคคลอื่นมีหน้าที่ต้องเคารพตามบทบัญญัติมาตรา 420 ที่กล่าวถึง ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สินหมายถึงว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ เป็นวัตถุแห่งสิทธิซึ่งไม่ไม้เฉพาะสิ่งที่เป็นตัวตนเท่านั้นแต่หมายถึงสิ่งที่ไม่เป็นตัวตนซึ่งไม่สามารถสัมผัสแตะต้องได้ด้วยเช่น ชื่อเสียง
3.ความเสียหายที่คำนวณเป็นตัวเงินได้ เเละ ไม่อาจ
คำนวณเป็นตัวเงินได้
ความเสียหายที่คำนวณเป็นตัวเงินได้
Ex.ก.ขว้างปาหลังคาบ้านของ ข.เเตกเสียหายเป็นความเสียหายที่คำนวณเป็นตัวเงินได้
คำนวณตัวเงินไม่ได้
Ex.ก.ด่าหมิ่นประมาท ข.ย่อมเป็นความเสียหายอันคำนวณเป็นตัวเงินไม่ได้
ละเมิดโดยการหมิ่นประมาท
ม.423 หมิ่นประมาททางเเพ่ง
การหมิ่นประมาทด้วยข้อความจริง แม้ไม่เป็นละเมิด ตามมาตรา 423 นี้ ถ้าหากทำให้เสียหายแก่สิทธิของบุคคลอื่น ก็อาจเป็นละเมิด ตามมาตรา 420 ได้ (ฎีกาที่ 124/2487)
การกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความหรือภาพ ไม่ว่าด้วยวิธีใดไปสู่สาธารณชน อันเป็นการละเมิดหรือกระทบสิทธิดังกล่าว จะกระทำมิได้ เว้นแต่ กรณีเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
Ex.กล่าวถ้อยคำเปรียบเทียบว่าเหมือนสัตว์ หรือด่าว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพื่อให้เห็นว่าผู้เสียหายเป็นคนไม่ดี ไม่ใช่เป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความเป็นจริงตาม ป.พ.พ.มาตรา 423 แต่เป็นละเมิดตามมาตรา 420 เพราะทำให้เสียชื่อเสียง อันเป็นสิทธิอย่างหนึ่งตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ ดูฎีกาที่ 891/2557
การพิพากษาคดี
ม.424 การพิพากษาความรับผิดเพื่อละเมิด
เกณฑ์ความรับผิดทางอาญาและทางแพ่งว่าด้วยละเมิด ไม่เหมือนกันบางครั้งไม่ผิดอาญา แต่อาจเป็นละเมิด เช่น ประมาททำให้เสียทรัพย์ไม่ผิดอาญา แต่เป็นละเมิดตาม ม.๔๒๐ แล้ว
การร่วมกันทำละเมิด
ม.432
1.ลักษณะการร่วมกันทำละเมิด
-ต้องเป็นการกระทำโดยมีเจตนาหรือความมุ่งหมายเดียวกัน
-ต้องกระทำร่วมกัน
Ex.ฎ.1077/2497 เจ้าของร่วมคนหนึ่งขนข้าวเปลือกไปเกินส่วนได้ของตน ผู้ที่รับจ้างขนก็รู้อยู่ เช่นนั้น เจ้าของร่วมผู้นั้นกับผู้ที่รับจ้างขนทำละเมิดร่วมกัน
2.ความรับผิดระหว่างผู้ร่วมกันทำละเมิด
-มุ่งหมายดูการกระทำมิได้ดูผลเเห่งความเสียหาย
-ทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในผลเเห่งละเมิดนั้นเต็มจำนวนความเสียหาย
Ex.ก.จ้างให้ ข.เเละ ค. ไปทำร้ายโดยชกต่อย ง.นั้น เเม้ก.จะไม่ได้เป็นผู้ชกต่อยเอง ก.ก็ต้องรับผิด
บุคคลหลายฝ่ายก่อความเสียหายโดยประมาทเลินเล่อ
-เหตุสุดวิสัยเเละพฤติการณ์ ใช้ความระมัดระวังไม่เพียงพอ
-ความรับผิดทางเเพ่งปรับด้วยมาตรา 432