Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดกระทำละเมิด ในการกระทำของผู้อื่น, ความรับผิดของบุคคลในก…
ความรับผิดกระทำละเมิด
ในการกระทำของผู้อื่น
ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง(ม. 425 )
ลูกจ้างทำละเมิดในทางที่จ้าง
นายจ้างจะต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดของลูกจ้างนั้น นอกจากจะต้องมีความสัมพันธ์ตามสัญญาจ้าง (ม.575) แล้ว การกระทำของลูกจ้างต้องเป็นการกระทำละเมิดในทางการที่นายจ้างหรือเพื่อประโยนช์ต่อนายจ้าง ไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่เกิดจากความจงใจหรือประมาทเลินเล่อก็ดี
ข้อสังเกต :!: :!:
วิธีการปฎิบัติของลูกจ้าง
การในมอบหมายงานหรือการจ้างงานของนายจ้างนั้น ที่มุ่งให้ลุล่วงสำเร็จตามเป้าหมายของตน บางครั้งอาจมิได้บอกวิธีการหรือรายละเอียดในปฎิบัติงาน ลูกจ้างอาจใช้วิธีตามสำควรซึ่งนายจ้างก็ต้องรับผิดจากการกระทำนั้นด้วย
EX.นายเอได้ว่าจ้างให้นายบีนำรถไปขนดินแล้วมาเท ที่บริเวณบ้านของตน แต่ปากทางก่อนถึงบ้านของนายเอผู้ว่าจ้างนั้นมีเสาไฟที่ทำให้รถขนดินไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งเป็นเสาไฟของนายซี นายเอมิได้บอกวิธีการที่จะนำดินไปสู่บ้านของนายเอ นายบีจึงถอยชนเสาหักเพื่อจะนำดินไปส่งที่บ้านของนาายเอตามสัญญาจ้าง การที่ถอยรถชนเสานี้ย่อมเป็นการกระทำละเมิดทำให้ทรัยพ์ของนายซีเสียหาย นายเอผู้ว่าจ้างจะต้องรับผิดจากการละเมิดของนาายบี ผู้เป็นลูกจ้างนี้ด้วย :red_flag:
ลูกจ้างกระทำกิจส่วนตัวในขณะดียวกัน
ในการปฎิบัติการงานของนายจ้างแล้ว ในขณะนั้นหากลูกจ้างได้กระทำกิจส่วนตัวในขณะเดียวกัน หากมีการละเมิดจาการกระทำที่ประมาทเลินเล่อแล้ว การนี้เจ้านี้ก็ต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดของลูกจ้างที่กระทำกิจส่วนตัวในขณะที่ปฎิบัติการงานของนายจ้าง
EX.ขณะที่นายขับรถไปส่งของให้แก่นายเอผู้ว่าจ้าง โดยระหว่างการขับนาายบีได้คุยโทรศัพท์กับแฟนสาวของตนไปด้วย ซึ่งการคุยโทรศัพท์นี้ทำให้นายบีได้ประมาทไปชนกับนายซีจนได้รับบาดเจ็บ การนี้นายเอผู้ว่าจ้างก็ต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดของนายบีด้วย :red_flag:
นายจ้างได้มีคำสั่งในการห้ามมิให้กระทำการใดๆ
ในกรณีที่นายจ้างนั้นได้มีคำสั่งหรือข้อห้ามที่ให้ลูกจ้างได้ปฎิบัติ โดยเป็นการห้ามเพื่อมิให้เกิดการกระทำละเมิดโดยชัดเเจ้ง ย่อมไม่สามารถยกมาเป็นข้อต่อสู้แก่บุคคลภายนอกที่ได้รัความเสียหายอันเกิดจากการกระทำของลูกจากนั้น
EX.นายเอได้สั่งให้นายบีไปส่งข้าวสารจำนวน 100 ตัน โดยนาายเอนั้นได้สั่งห้ามนายบีว่า ขณะขับรถห้ามดูยูทูบเด็ดขาย แต่นายบีก็ไม่ฟังเนื่องจากต้องการดูยูทูบเพื่อแก้ง่วงขณะขับรถไปส่งของตามที่นายเอได้สั่ง เมื่อนายบีได้ประมาทเลินเล่จนเป็นเหตุให้ไปชนกับ นายซี นายเอผู้ซึ่งเป็นนายจ้างนั้นจะต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดของนายบีด้วย และนายเอไม่สามารถจะยกเรื่องคำสั่งหรือข้อห้ามมาต่อสู้ได้ :red_flag:
สิทธิไล่เบี้ยของเจ้าหนี้(ม.426)
มาตรา 426 " นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้าง
นายจ้างเมื่อได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนแกบุคคลภายนอกซึ่งได้รับความเสียหายจากการกระทำละเมิดของลูกจ้าง นายจ้างย่อมมีสิทธิที่จะไล่เบี้ยที่ตนได้จ่ายแก่บุคคลภายนอกนั้นจากตัวลูกจ้าง
EX. นายเอได้จ่ายค่าสินไหมทดเเทนที่นายบีได้ไปกระทำละเมิด นายเอย่อมมีสิทธิที่จะหักเงินเดินของนายบีเพื่อไล่เบี้ยให้ครบตามจำนวนงินค่าสินไหมทดแทนที่จ่ายให้แก่บุคคลภายนอกที่เสียหายจากการกระทำละเมิดของนายบี ผู้เป็นลูกจ้าง :red_flag:
ความรับผิดของนายจ้าง
นายจ้างและลูกจ้างนั้นต้องมีความสัมพันธ์ตามมาตรา 575 " อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่าลูกจ้างตกลงจะทำงานให้แก่อีกบุคคลหนึ่ง เรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้"
การที่นายจ้างจะรับผิดจากการกระทำละเมิดของลูกจ้างนั้นต้อง
มีความสัมพันธ์ตามสัญญาแรงงานตามตรา 575
ซึ่งนายจ้างนั้นจะมีอำนาจควบคุมหรือสั่งการเพื่อให้ลูกจ้างนั้นกระทำการตามที่ตนสั่งตามสัญญาจ้างนั้น เมื่อลูกจ้างได้กระทำการดังกล่าวแล้วนายจ้างจะต้องให้สินจ้างต่อการทำงานของลูกจ้าง ตามความสัมพันธ์ ม.575
ข้อสังเกต :!: :!:
ข้าราชในกระทรวง ทบวง กรม ไม่ถือว่าเป็นนายจ้างลูกจ้างตาม มาตรา 575
EX.นายเอรู้จักกับนายบี ซึ่งนายเอกำลังก่อสร้างบ้านของตนอยู่ซึ่งนายเอได้สั่งทรายจำนวน 1 กระสอบมายังบ้านของตัวเอง ด้วยความที่นายบีบ้านใกล้กับร้านขายทรายดังกล่าวจึงอาสาไปส่งให้โดยนายเอไม่ทราบ ซึ่งนายบีนั้นได้ไปชนกับนายซีเป็นผลใหเได้รับบาดเจ็บ ซึ่งกการกระทำดังกล่าวนายเอไม่ต้องรับผิดเนื่องจากนายบีนั้นมิได้เป็นลูกจ้างที่ตนได้ตกลงที่จะทำสัญญาจ้างตาม ม.575 :red_flag:
มาตรา 425 " นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้น"
ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน(ม.427)
ตัวแทนและตัวการนั้นไม่ถือว่าเป็นนายจ้างและลูกจ้างตามมาตรา 575 แต่อย่างไรก็ดีกิจการที่ตัวแทนได้ไปทำนั้นย่อมเป็นกิจการที่ตัวการได้มอบอำนาจให้ไปทำ ซึ่งเป็นคำสั่งของตัวการ ดังนั้นแล้วหารตัวแทนได้กระทำละเมิดอันอันเป็นกิจของตัวการ ตัวการย่อมต้องผิดในการนั้นด้วย และตัวการย่อมมีสิทธิไล่เบี้ยตามมาตรา 246 เช่นกัน
ความสัมพันธ์ของตัวการและตัวแทน มาตรา 797 "อันว่าสัญญาตัวแทนนั้น คือสัญญาซึ่งให้บุคคลหนึ่งเรียกว่าตัวแทน มีอำนาจทำการแทนอีกบุคคลหนึ่ง เรียกตัวการและตกลงจะทำการดังนั้น
EX. นายเอได้มอบอำนาจให้นายบีไปขายรถแทนตนกับนาายซี ซึ่งได้ตงลงซื้อขายกันแล้ว นายบีก็ได้นำรถดังกล่าวไปส่งแก่นายซีซึ่งระหว่างทางได้เกิเหตุชนกับต้นไม้ เป็นเหตุให้รถเสียหาย การนี้นายเอและนายบีต้องร่วมกันรับที่จากความเสียหานยที่เกิดขึ้น จากถานะตัวการและตัวแทน:red_flag:
มาตรา 427 "บทบัญญัติในมาตราทั้งสองก่อนนั้น ท่านให้ใช้บังคับแก่ตัวการและตัวแทนด้วย"
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ (ม.428)
มาตรา 428 " ผู้ว่าจ้างทำของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผู้รับจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำการงานที่ว่าจ้าง เว้นแต่ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำหรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้ หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง"
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
กล่าวได้ว่าในการรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของนั้นจะแตกต่างจากการรับผิดของนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งนายจ้างนั้นจะต้องรับผิดจากการกระทำของลูกหนี้ แต่ในเรื่องของผู้ว่าจ้างนั้นจะมิต้องรับผิดจากการกระทำของผู้รับจ้าง ผู้ว่าจ้างจะได้รับผิดก็ต่อเมื่อตนได้มีส่วนในการกระทำนั้นจนให้เกิดความเสียหายนั้น
หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
เหตุที่ผู้ว่าจ้างมิต้องรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น นั้นเนื่องจ้างในการจ้างบุคลลอื่นทำของให้ ผู้ว่าจ้างต้องการเพียงผลสำเร็จจากการที่จ้างนั้น ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิควบคุมการทำงาน ดังนั้นแล้วการทำงานจะถือว่าเป็นการรับผิดชอบของผู้รับจ้าง ซึ่งแตกต่างจากลักษณะของสัญญาจ้าง แต่ไม่ใช่ถือว่าทุการจ้างทำของนั้น ผู้ว่าจ้างจะไม่ต้องรับผิดเสมอไป การใดที่ผู้ว่าจ้างได้ทำการจ้างซึ่งเป็นการละเมิดต่อบุคคลอื่น การนั้นผู้ว่าจ้างก็ต้องรับผิดจากการที่จ้างนั้น
ข้อยกเว้นที่ทำให้ผู้ว่างทำของต้องรับผิด :!!:
ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว
ซึ่งคำสั่งดังกล่าวนี้มิใช้คำสั่งที่ให้ทำแต่อย่างใดแต่เป็นการแนะนำต่อผู้รับจ้างให้กระทำเท่านั้น หากการแนะนำนั้นเป็นการกระทำที่ละเมิดต่อผู้อื่นทำให้เกิดความเสียหาย ผู้ว่าจ้างจะต้องรับผิดจากการนั้นด้วย
EX.นายเอได้จ้างให้นายบีไปเก็บเกี่ยวข้าวของตน ซึ่งนายเอได้แนะนำให้นายบีขับรถทับนาของนายซีไปเลย ไม่ต้องอ้อมไปอีกทาง (เนื่องจากหากจะต้องเข้าไปที่นาของนายเอจะต้องทำการอ้อม) :red_flag:
ความผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ
เป็นการจากที่ผู้จ้างนั้นได้สั่งหรือจ้างผู้รับจากที่มีผลโดยตรงที่จะละเมิดต่อผู้อื่น
EX.นายเอได้จ้างให้นายบีขุดสระซึ่งมีระยะหากจากบ้านนายบีเพียงไม่กี่เมตรซึ่งเป็นแบบที่นายเอได้สร้างไว้ ผู้รับจ้างก็ได้ทำตามที่นายเอสั่ง ต่อมาไม่นานดินบริเวณบ้านของนายบีก็ทรุด จากเหตุข้างต้นนายเอจะต้องรับผิดจากการกระทำของผู้รับจ้างเพราะผู้รับจ้างนั้นได้ทำการในทางที่จ้างของนายเอ :red_flag:
ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง
เป็นการเลือกจ้างบุคคลที่ตนได้รู้ว่าเป็นผู้ที่ไม่มีความสามารถหรือความระมัดระวังในการทำงาน มากระทำงานของตนแล้วก่อให้เกิดความเสียหายแกบุคคลอื่น แต่ถ้าหากผู้จ้างนั้นได้เชื่ออย่างสุจริตว่าผู้รับจ้างเป้นผู้ที่มีความสามารถจ้างคำโฆษณาของผู้รับจ้าง การนี้ผู้จ้างนั้นมิต้องรับผิด
EX. นายเอได้จ้างนายบีซึ่งเป็นบุคคลที่เมาเสเพล ทำการใดก็ไม่รอบครอบ ไม่มีความระมัดระวัง ซึ่งได้จ้างให้มาตัดต้นไม้ใหญ่บริเวณบ้านของตนโดยขณะตัดนั้นเองนายบีก็ยังคงมีอาการเมาอยู่และนายเอรู้ เมื่อได้ตัดเเล้วผลปรากฎว่าต้นไม้ต้นนั้นได้หักโค้นล้มไปถูกบ้านของนายซี ทำให้บ้านของนายซีได้รับความเสียหาย ดังนั้นแล้วนายเอจะต้องรับผิดจากความเสียหายนี้ :red_flag:
ความรับผิดของบิดามารดา หรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริต(ม.429) และความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ(ม.430)
มาตรา 429 "บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น
มาตรา 430 " ครูบาอาจารย์ นายจ้างหรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลไร้ความสามารถอยู่เป้นนิจก็ดี ชั่วครั้งคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกันกับผู้ไร้ความสามารถในการกระทำละเมิดซึ่งเขาได้กระทำลงในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของตน ถ้าหากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆ มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร "
ความรับผิดของบิดามารดา หรือผู้อนุบาล
เป็นการรับผิดของบิดาหรือมารดา และผู้อนุบาล ที่มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ดูแลซึ่งทำอยู่นั้น ซึ่งการกระทำละเมิดของผู้เยาว์ต้องเกิดขึ้นในขณะที่อยู่ในความดูแลของบิดาหรือมารดาและผู้อนุบาล
ข้อสังเกต บางกรณีอาจเป็นเหตุที่บิดามารดาจะต้องร่วมกันรับผิดตามมาตรา :!!: 432
EX.นายเอมีบุตรซึ่งมีลักษณะนิสัยชอบนำมีดไปฟันสิ่งของหรือต้นไม้ นายเอได้ให้มีดยาวแก่ลูกของตน แล้วลูกของตนนั้นก็ได้นำไปฟันทรัพย์สินของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย :red_flag:
ข้อสังเกต :!!: ในการรับผิดของบิดามารดานั้น ให้คำนึงถึงว่าขณะกระทำละเมิดนั้นได้อยู่ภายใต้การดูแลของใคร อาจจะเป็นเพียงบิดา หรือมารดา หรือทั้งบิดาและมารดา
EX.นายเอได้พาบุตรของตนไปที่บริเวณสระน้ำในหมู่บ้าน ซึ่งจากความซุกซนบุตรของนายเอได้ไปจับทรัพย์สินของผู้อื่นโยนลงน้ำ จากเหตุละเมิดนี้จะมีเพียงบิดาเท่านั้นที่จะต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดของผู้เยาว์ :red_flag:
EX. นางเอมีบุตรชื่อเด็กชายบี ซึ่งนางเอนั้นได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัด มีแต่เพียงนางซีผู้ซึ่งเป็นป้าคอยดูและเด็กชายบี วันหนึ่งเด็กชายบีได้ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย เหตุนี้นางเอมิต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดดังกล่าวเนื่องจากตนมิได้ดูแลบุตรขณะทำละเมิดนั้น แต่ผู้ที่รับผิดแทนอาจจะเป็นป้า ซึ่งรับผิดตามมาตรา 430 :red_flag:
ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่น
บางครั้งการในดูแลบุคคลที่ไร้ความสามารถนั้น อาจไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของบิดามารดา หรือผู้อนุบาลเพียงอย่างเดียว ในการรับผิดนี้หากบุคคลอื่นได้มีหน้าที่ในการดูแลบุคคลไร้ความสามารถชั่วคราวหรือเป็นนิจก็ดี ก็ต้องเป็นผู้รับผิดจากการกระทำละเมิดนั้น หากการกระทำละเมิดได้อยู่ในระหว่างการดูแลของตน
EX.นายเอผู้ซึ่งเป็นครูของเด็กชายบี ได้พาเด็กชายบีและเพื่อนๆไปทัศนศึกษา ซึ่งระหว่างนั้นเด็กชายบีได้ไปทุบตีหุ่นจำลองจนเกิดความเสียหาย การนี้ครูเอย่อมต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดของเด็กชายบี เนื่องจากขณะกระทำละเมิดนั้นได้อยู่ภายใต้การดูแลของครูเอ แม้จะเป็นแค่ชั่วครังคร่าว :red_flag:
บุคคลไร้ความสามารถ คือ :!?:
ผู้เยาว์ บุคคลวิกลจริตทั้งที่ถูกศาลสั่งและยังมิถูกศาลสั่ง
สิทธิไล่เบี้ยของ บิดามารดา ผู้อนุบาล ครูบาอาจารย์ หรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับดูแลบุคคลไร้ความสามารถ ตามาตรา 431 ประกอบมาตรา 426
มาตรา 431 "ในกรณีที่กล่าวมาในสองมาตราก่อนนั้นท่านให้นำบมบัญญัติแห่งมาตรา 426 มาบังคับใช้โดยอนุโลม
เมื่อบุคคลดังกล่าวได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกอันได้รับความเสียหายจากการกระทำละเมิดแล้ว ย่อมมีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 431 ในการไล่เบี้ยกับบุคคลไร้ความสามารถ ที่กระทำละเมิดนั้น
ความแตกต่าง 429 VS 430 :!!:
ในมาตรานั้นจะมีการรับผิดเหมือมาตรา 429 แต่แตกต่างเพียงผู้ซึ่งมีหน้าที่ดูแลบุคคลไร้ความสามารถขณะทำละเมิด และในมาตรา 430 นั้นในการนำสืบ จะเป็นหน้าที่ของผู้เสียหายในการนำสืบหาข้อเท็จจริงว่าบุคคลตามมาตรา 430 มิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
ความรับผิดของบุคคลในการกระทำของตน
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น (ม.420)
เกิดความเสียหายต่อสิทธิและลักษณะของสิทธิ
ความเสียหายอันเกิดต่อสิทธินั้น คือการที่ลดน้อยถอยลงทางทรัพย์สินที่เกิดจากเหตุการ์ณหรือข้อเท็จจริงที่ฝ่าฝืนประโยชน์ที่กฎหมายคุ้มครอง ซึ่งคำว่าสิทธินั้นเป็นคำที่มีความหมายโดยกว้าง รวมถึง ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน ตามมาตรา 420 ด้วยหรือสิทธิอื่นๆที่ไม่มีรูปร่างและตัวตน (ชื่อเสียง)
:red_flag:EX. นายเอได้ตั้งใจที่จะทุบรถของนายบีเนื่องจากมีความแค้นส่วนตัว จนทำให้รถของนายบีนั้นเกิดรอยและมีความเสียหาย การนี้ย่อมถือว่าได้มีการกระทำละเมิดต่อนายบี โดยเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สินของนายบี อันนายบีมีสิทธิเหนือทรัพย์สินนั้น
ข้อสังเกต :!!: ในบางครั้งในการพิจารณาว่าความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นหรือไหม อาจใช้จากความคิดเห็นของบุคคลธรรมดามาใช้ แต่การใช้นั้นก็ใช้ไม่ได้เสมอไป ยังคงมีการใช้ความคิดเห็นโดยชอบในสังคมเป็นมาตราฐาน
ในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนนั้น เป็นการเยียวยาความเสียหาย หากไม่เกิดความเสียหายย่อมไม่เป็นการละเมิด
การคำนวณค่าเสีย
คำนวณเป็นตัวเงินได้
สิ่งที่จะคำนวณเป็นตัวเงินชัดเจนได้สิ่งนั้นจะต้องมีราคาหรือระบุเป็นตัวเลขได้ชัดเจนจึงจะคำนวณเป็นตัวเงินได้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ มูลค่าทรัพย์สิน เป็นต้น
:red_flag:EX. นายเอได้กระทำละเมิดต่อนายบีด้วยการที่นายเอนัั้นได้ทำปากกาของนายบีเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้ ความเสียหายต่อทรัพย์สินนี้ย่อมเป็นสิ่งที่คำนวณเป็นตัวเงินได้
คำนวณเป็นตัวเงินไม่ได้
ความเสียหายที่คำนวณไม่ได้ ต้องเป็นความเสียหายในรูปนามธรรมที่ไม่สามารถระบุเป็นตัวเงินได้อย่างแน่นอน หรือ เป็นในรูปธรรมแต่ต้องเป็นสิ่งที่ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้อย่างแน่ชัด เช่น ความรู้สึก เสรีภาพ จิตใจ เป็นต้น
:red_flag:EX. นายเอได้หมิ่นประมาทนายบี จนทำให้นายบีนั้นเกิดความเสียหาย ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้เป็นความเสียหายที่ไม่อาจคำนวณเป็นตัวเลขได้
ความหมายของการกระทำ ( ม.420)
ผู้ใด
นิติบุคคล :red_flag:
นิติบุคคลนั้นย่อมต้องรับผิดหากมีการกระทำละเมิด แม้ตัวนิติบุคคลนั้นจะเป็นบุคคลที่กฎหมายได้สมมุติขึ้นแต่นิติบุคคลจะกระทำละเมิดได้ ต้องเกิดจากผู้แทน ที่คอยกระทำการต่างๆของนิติบุคคลแต่การนั้นต้องเป็นการกระทำที่อยู่ในกรอบของวัตถุประสงค์ของนิติบุคคล หากไม่ใช่จะถือว่าเป็นการละเมิดโดยบุคคลธรรมดา ดังนั้นนิติบุคคลต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดนั้น
:red_flag:EX.ตำรวจได้ไปยึดรถหมายเลขทะเบียน กพ 123 มหาสารคาม ตามคำสั่งของสำนักงาน แต่เมื่อตำรวจได้ไปยึดตามคำสั่งแล้วนำมาเก็บรักษา แต่ไม่มีการดูแลที่ดีจนเป็นเหตุให้อุปกรณ์บางอย่างภายในรถนั้นได้หายไป เช่นนี้ถือว่านิติบุคคลได้กระทำละเมิดต่อเจ้าของรถ
บุคคลธรรมดา :<3:
การทำละเมิดนั้นต้องเป็นการกระทำที่เกิดจากมนุษย์ ไม่ใช่สัตว์หรือสิ่งของ บุคคลทุกคลล้วนมีหน้าที่จะต้องงดเว้นในการกระทำละเมิดแก่ผู้อื่นไม่ว่าจะเป็น
ผู้ที่บรรลุนิติภาวะ ผู้เยาว์ คนวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสาามารถ
เมื่อได้ทำการละเมิดแล้วบุคคลนั้นจะต้องรับผิดจากผลที่ได้กระทำละเมิด
ตามมาตรา 429
มาตรา 429 " บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด...."
:red_flag:EX. สุนัขจรจัดได้มากัดข้าวของ ของนายเอเสียหายการนี้ย่อมไม่ถือว่าเป็นการละเมิดเนื่องจากสุนัขนั้นถือว่าเป็นสัตว์จึงไม่ใช่ "ผู้ใด" หรือ "บุคคล" ดังนั้นสุนัขจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่นายเอ
การกระทำ
การกระทำโดยรู้สำนึก :check: (ถือว่าเป็นการกระทำละเมิด)
เป็นการกระทำที่รู้สึกนึก ในการเคลื่อนไหวนั้นนอกจากจะขยับแล้วยังต้องรู้สำนึกในสิ่งตัวเองได้กระทำการนั้นด้วย หากมีแต่การเคลื่อนไหวแต่ไม่ได้รู้สำนึก การนั้นถือว่าไม่มีการกระทำ
:red_flag:EX. นายเอได้ยกของจากชั้น 5 ไปชั้น 6 การนี้ย่อมถือว่ามีการกระทำ เพราะนายเอได้รู้สึกนึกในการกระทำนั้น
การกระทำโดยไม่รู้สำนึก :red_cross: (ไม่ถือว่าเป็นการทำละเมิด)
การกระทำที่ต้องรับผิดในการละเมิดนั้นต้องเป็นการกระทำที่รู้สำนึกในการกระทำนั้นๆ หากกระทำการนั้นโดยไม่รู้สำนึกย่อมไม่มีการกระทำตามมาตรา 420 ซึ่งการกระทำโดยไม่รู้สำนึกคือมีการเคลื่อนไหวร่างกาย แต่การเคลื่อนไหวร่างการนั้นไม่รู้สำนึก เช่น การละเมอ การเมา การถูกสะกดจิต เป็นต้น
:red_flag:EX. นายเอได้ละเมอไปทุบรถของนายบี จนทำให้รถของนายบีเกิดความเสียหาย การนี้นายเอไม่ต้องรับผิดจากการที่ตนได้ทำให้ทรัพย์ของนายบีเสียหาย เนื่องจากในการกระทำนั้นนายเอไม่ได้รู้สำนึก
งดเว้นการกระทำ
หน้าที่ตามสัญญา
เป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่เกิดจากคู่สัญญาที่ได้กระทำต่อกันตามสัญญา เมื่อเกิดสัญญาแล้วทำให้คู่สัญญานั้นมีหน้าที่ ที่จะต้องกระทำต่อกัน
:red_flag:EX. นายเอซึ่งเป็นพ่อครัว ถูกนายบีทำสัญญาจ้างมาเป็นพ่อครัวของร้านนายบี วันหนึ่งได้มีการสั่งอาหารมายังที่ร้านนายบี แต่นายเอซึ่งเป็นพ่อครัวกลับนิ่งเฉยและไม่ทำอาหารตามที่ได้รับมา การนี้ถือว่านายเอได้งดเว้นการกระทำอันเนื่องจากหน้าที่ ที่เกิดจากสัญญาจ้าง
หน้าที่ตามคำสั่งหรือระเบียบ
หน้าที่ตามกฎหมาย
หน้าที่ตามกฎหมายคือ กฎหมายได้บัญญัติว่าบุคคลนั้นต้องมีหน้าที่ ที่ต้องกระทำการสิ่งใด
:red_flag:EX.พ่อแม่ต้องมีหน้าที่ในการดูแลและอุปการะเลี้ยงดูบุตรหรือบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้วแต่ทุพพลภาคหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ หากพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูบุตรหรืองดเว้นที่จะเลี้ยงดู การนั้นถือว่าพ่อแม่ได้งดเว้นการกระทำอันซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้หระทำตามมตรา 1564
มาตรา 1564 "บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์
วรรค 2 บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้"
หน้าที่ตามวิชาชีพ
หน้าที่ตามวิชาชีพ คือการที่ตนนั้นได้มีหน้าที่ตามอาชีพที่ตนได้กระทำอยู่
:red_flag:EX. นายเอเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต่อมาได้มีเหตุฉุกเฉินจะต้องผ่าตัดด่วน แต่นายเอเมื่อเห็นคนไข้ที่ต้องผ่าตัดนั้นกลับจำได้ว่าเป็นแฟนใหม่ของแฟนเก่านายเอ นายเอจึงไม่ทำการรักษาให้เพราะไม่พอใจที่คนไข้ได้แย่งแฟนของตนไป
การกระทำในมาตรา 420 นี้มิได้หมายความว่าต้องมีการกระทำที่เคลื่อนไหวร่างกายเท่านั้น ยังรวมถึงการไม่กระทำการตามหน้าที่หรือ "การงดเว้น"
หน้าที่ตามความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดขึ้น
เป็นหน้าที่ ที่ได้ก่อขึ้นจาก "ข้อเท็จ" ที่ได้ก่อขึ้นโดยอาจไม่ใช่หน้าที่ตามสัญญา ตามกฎหมาย ตามอาชีพ ที่ตนต้องมีหน้าที่จะต้องกระทำการอยู่แล้ว
:red_flag:EX.นายเอซึ่งเป็นเพื่อนกับนายบีวันหนึ่งนายเอต้องไปทำธุระที่ต่างประเทศเป้นระยัเวลาหลายวันจนไม่สามารถนำลูกของตนไปด้วยได้ นายเอจึงได้ฝากบุตรของตนให้นายบีดูแล ซึ่งได้มีการเตรียมนำ เสื้อผ้า และเงินไว้ให้หมดแล้ว อยู่มาวันหนึ่งนายบีได้ร้องเพลงคาระโอเกะเพื่อความบรรเทิง จนไม่ได้ดูแลบุตรของนายเอ แม้ลูกนายเอจะร้องเพียงใดนายเอก็นิ่งเฉยจนเป็นเหตุให้ลูกนายเอนั้นได้หยิบลูกแก้วเข้าปากจนติดคือตาย การนี้นายบีถือได้งดเว้นการกระทำอันเนื่องจากมีหน้าที่ ที่ตนได้สร้างขึ้นกับนายเอผู้ซึ่งเป็นพ่อของเด็ก
การกระทำโดยจงใจหรือ
ประมาทเลินเล่อ
(ม.420)
จงใจ
การจงใจคือการที่รู้สำนึกถึงผลเสียหาย ที่เกิดจากการกระทำของตน การจงใจนี้ต้องเป็นการรู้สึกนึกทั้งการเคลื่อนไหวของตนเองและรู้สำนึกถึงผลที่เกิดขึ้น
จงใจทำให้บุคคลอื่นเสียหาย
:red_flag:EX.นายเอต้องการที่จะแก้แค้นนายบี ที่นายบีได้แย่งแฟนของตน นายเอจึงใช้ไม้ตีรถของนายบี เช่นนี้ถือว่านายเอได้จงใจที่จะทำให้นายบีเสียหายตามความตั้งใจของตน
จงใจรู้ว่าจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย
(อาจไม่ได้ตั้งใจที่จะให้คนอื่นเสียหายแต่รู้ว่าการกระทำนั้นจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย)
:red_flag:EX. นายเอต้องการที่จะกำจัดหญ้าในบริเวรที่นาของตน ซึ่งที่นาของนายเอนั้นได้ติดกับสวนของนายบีที่ได้ปลูกพืชไว้ ซึ่งนายเอก็รู้ว่าถ้าหากเผาหญ้าบริเวณนาของตนก็จะก่อให้เกิดความเสียหายอันเนื่องมาจากความร้อนของไฟจากการเผา แม้ไฟนั้นจะไม่ได้ถูกกับพืชของนายบีโดยตรงก็ตาม แต่ยังมีไอความร้อนจากไปที่ส่งผลถึงพืชของนายบี เช่นนี้ถือว่านายเอได้กระทำละเมิดโดยเป็นการจงใจที่รู้ว่าผลจะทำให้บุคคลอื่นเสียหาย
ประมาทเลินเล่อ
การประมาทเลินเล่อ หมายถึงการไม่จงใจ แต่ก็ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ จนเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ด้านภาวะวิสัย
การประมาทที่ฝ่าฝืนข้อบังคบ กฎเกณฑ์ กฎหมาย จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น
:red_flag:EX. นายเอได้ขับรถเกินความเร็วที่กำหนดจนไม่สามารถควบคุมรถได้ จนเป็นเหตุให้ไปชนรถผู้อื่น
ด้านอัตวิสัย
การประมาทจากตนเองที่ไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง เช่นสะเพร่า ไม่รอบคอบ ไม่ระวัง
:red_flag:EX. นายเอได้ตั้งใจจะเผาหญ้าในบริเวณนาของตน แต่ใช้ความระมัดระวังไม่เพียงพอจนไฟนั้นได้ล่ามลุกไหม้ไปยังนาของนายบี จนทำให้นาของนายบีเกิดความเสียหาย
การกระทำโดยผิดกฎหมาย
(ม.420)
การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น (ม.421)
มาตรา 421 " การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ท่านว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย"
การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะทำให้บุคคลอื่นเสียหายนั้น ก่อนอื่นบุคคลนั้นจะต้องมีสิทธิก่อนจึงจะใช้สิทธินั้นในการก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นได้ ซึ่งในการใช้สิทธินั้นต้องมุ่งหมายที่จะก่อเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
:red_flag:EX. นายเอมีสิทธิที่จะสร้างบ้านบนที่ของตน แม้นายเอจะสร้างบ้านของตนจนมีความสูงหลายชั้นจนบดบังแสงแดดและลมของบ้านนายบีซึ่งอยู่ติดกัน ถ้าหากนายเอมิได้มีจุดมุ่งหมายที่จะกระทำให้นายบีเสียหายการนั้นยังถือว่าใช้สิทธิโดยชอบ แต่ถ้าหากการสร้างบ้านหลายชั้นของนายเอนั้นมุ่งประสงค์ที่จะไม่ให้แดดและลดตกถึงบ้านของนายบี การนนี้ย่อมถือว่าเป็นการใช้สิทธิที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ความยินยอมไม่ทำให้เป็นละเมิด :!!:
ถ้าหากมีการตกลงหรือยินยอมที่จะให้ผลเสียหายนั้นเกิดขึ้นต่อตน ย่อมไม่ถือว่าเป็นการละเมิด เพราะได้มีการยิมยอมที่จะให้เกิดละเมิดนั้น การยินยอมจะต้องให้ก่อนหรือขณะที่ทำละเมิด ถ้าหากให้ความยินยอมหลังการทำละเมิดการนั้นไม่ถือว่าเป็นการให้ความยินยอมในการให้ทำละเมิด
:red_flag:EX.นายเอได้ยินยอมที่จะให้นายบีตีแขนเพื่อทดสอบความแข็งของกระดูกตน แม้การตีนั้นจะส่งผลให้เเขนของนายเอหัก ก็ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดแต่อย่างใด เนื่องจากนายเอได้ให้การยินยอมที่จะถูกละเมิดแก่นายบีแล้ว
การกระทำละเมิดโดยฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมาย
เป็นการกระทำละเมิดที่กฎหมายหรือข้อบังคับต่างๆได้บัญญัติไว้ว่าการกระทำนั้นถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยกฎหริอข้อบังคับเหล่านั้นจะต้องมีที่ประสงค์จะป้องกันความเสียหายแก่บุคคลอื่น และหากผู้ใดเป็นผู้ฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายนั้น จะถูกสันนิษฐานว่าเป็นคนผิดตามมาตรา 422
:red_flag:EX. นายเอได้ทำร้ายร่างกายนายบี การเช่นนี้นายเอได้ฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายในกฎหมายอาญา ที่ได้กฎหมายอาญาได้มีการห้ามโดยชัดเเจ้ง
มาตรา 422 " ถ้าความเสียหายเกิดแต่การฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายอันที่มีประสงค์เพื่อปกป้องบุคคลอื่นๆ ผู้ใดทำการฝ่าฝืนเช่นนั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นผู้ผิด
:red_flag:EX. นายเอได้ขับรถในช่องเดินทางผิดเลน ซึ่งเป็นเหตุให้รถของนายบีที่เดินทางในเลนที่ถูกต้องมาชน เหตุนี้นายเอจะถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้ผิด เนื่องจากได้กระทำการอันฝ่าฝืนกฎหมายจราจรทางบก
ข้อสังเกต :!!: มาตรานี้เป็นเพียงการสันนิษฐานเท่านั้น แต่ยังคงต้องมีการพิสูจน์ต่อไปเพื่อหาความจริงหากพิสูจน์ไม่ได้จึงจะถือว่าเป็นตามข้อสันนิษฐาน
มาตรา 420 "ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น"
ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของผู้ทำความเสียหาย (ม.420)
ความเสียหายที่เกิดนั้นจะต้องสัมพันธ์กับผู้กระทำด้วย หากความเสียหายไม่ได้เกิดจากผู้กระทำนั้นเเล้ว ถือว่าความเสียหายไม่ใช่เป็นผลจากการละเมิดของผู้กระทำ
ทฤษฎีเงื่อนไข(เท่าเทียม)
ทฤษฎีนี้จะถือว่าการกระทำทุกอย่างที่เกิขึ้นนั้นล้วนเป็นเหตุให้ผลเกิดขึ้นโดยไม่คำนึงว่าการกระทำใดจะมากหรือน้อย แต่ทุกการกระทำล้วนมีน้ำหนักเท่ากัน
:red_flag:EX. นายเอ นายบี และนายซี ต่างคนต่างมีความเเค้นนายดี นายเอได้ใช้ปืนยิงนายดี นายบีใช็ไม้ตีนายดี นายซีหยิกนายดี จนสุดท้ายนายดีถึงแก่ความตาย จากทฤษฎีนี้ทุกคนล้วนมีความผิดเท่ากันแม้นายเอนั้นจะกระทำมากที่สุด
ทฤษฎีเหมาะสม (ทำมากจ่ายมาก ทำน้อยจ่ายน้อย)
ทฤษฎีนี้จะคำนึงถึงการกระทำแต่ละการกระทำย่อมมีน้ำหนักที่ต่างกัน การกระทำที่มากย่อมเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความเสียหายมาก การกระทำที่น้อยย่อมทำให้เกิดความเสียหายที่น้อย โดยจะไม่นำทุกการกระทำมามีน้ำหนักเท่ากัน
:red_flag:EX. นายเอ นายบี และนายซี ต่างคนต่างมีความเเค้นนายดี นายเอได้ใช้ปืนยิงนายดี นายบีใช็ไม้ตีนายดี นายซีหยิกนายดี จนสุดท้ายนายดีถึงแก่ความตาย จากทฤษฎีนี้นายเอที่ใช้ปืนยิงซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการทำให้นายดีตาย ย่อมจะต้องชดใช้ค่าเสียหายนั้นมากกว่าผู้อื่น