Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Vesical calculi นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ, พยาธิสภาพ, สาเหตุ, การรักษา, :,…
Vesical calculi
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
การตรวจวินิจฉัย
4.1 ตรวจร่างกาย แพทย์อาจตรวจดูบริเวณท้องส่วนล่าง คลำดูว่ากระเพาะปัสสาวะขยายใหญ่ขึ้นหรือไม่ หรืออาจตรวจทางทวารหนักเพื่อดูว่าต่อมลูกหมากขยายใหญ่ขึ้นหรือไม่ รวมไปถึงสอบถามเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วย
4.2 ตรวจปัสสาวะ นำตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อตรวจหาเลือด แบคทีเรีย หรือผลึกของแร่ธาตุ ซึ่งจะช่วยให้พิจารณาได้ว่ามีการติดเชื้อทางเดินปัสสาววะหรือไม่ เพราะอาจเกิดจากนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้
4.3 เอกชเรย์คอมพิวเตอร์หรือชีที่สแกน (ComputerizedTomography: CT) เป็นการเอกซเรย์ที่จะช่วยให้ได้ภาพของอวัยวะภายในร่างกายอย่างรวดเร็ว เพื่อตรวจจับก้อนนิ่วที่มีขนาดเล็กได้ และเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการช่วยวินิจฉัยนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้หลายประเภท
4.4อัลตราชาวด์ (UItrasound) เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อตรวจอวัยวะและโครงสร้างส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งมีประโยชน์ช่วยตรวจจับนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
Ultrasonography of KUB เมื่อวันที่11 มีนาคม 2565
Suspected vesical stone and urine debris, size up to 1.6 cm
mild right hydronephrosis or extra renal pelvic
Pt. หญิงไทยวัยสูงอายุ
Dx. R/O VC 1.6 cm
4.5 เอกชเรย์ (X-ray) การเอกชเรย์ใต ท่อไตและกระเพาะปัสสาะวะ ช่วยให้แพทย์สามารถพิจารณาได้ว่ามีนิ่วอยู่ใน ระบบทางเดินปัสสาวะหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเอกซเรย์อาจไม่สามารถทำให้เห็นนิ่วบางประเภทได้
พยาธิสภาพจะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับขนาด รูปร่าง และระยะเวลาที่ก้อนนิ่วที่อุดกั้นอยู่ถ้าปรากฏนิ่วเป็นสาเหตุของการอุดกั้นมักจะมีการติดเชื้อตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งเป็นผลทำให้กระเพาะปัสสาวะหดเล็กลง มักพบได้เร็วกว่าปกติเนื่องจากไฟโบรลีสผนังกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้น เพราะมีรอยแผลเป็น(Trabeculation)ไม่ค่อยพบว่ามีกระเพาะปัสสาวะโป่งขยาย
สาเหตุของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีปัสสาวะตกค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะและมีการตกตะกอนหรืออาจเกิดจากการติดเชื้อบางประเภท และภาวะบางอย่างที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของกระเพาะปัสสาวะรวมไปถึงสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะก็ทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้เช่นกัน ภาวะที่ทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะบ่อยที่สุด
ทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้นำออก เบื้องต้นอาจใช้วิธีดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้นิ่วที่มีขนาดเล็กออกมาตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม นิ่วในกระเพาะปัสสาวะมักเกิดจากกระเพาะปัสสาวะไม่สามารถปัสสาวะออกไปจนหมดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการทางการแพทย์เพื่อช่วยในการนำนิ่วออกจากระเพาะปัสสาวะวิธีที่มักใช้ในการนำนิ่วออกจากกระเพาะปัสสาวะเรียกว่าการขบนิ่ว(Cystolitholapaxy)เป็นการนำท่อขนาดเล็กที่มีกล้องตรงส่วนปลาย สอดเข้าไปทางท่อปัสสาวะเพื่อส่องดูนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ จากนั้นแพทย์จะใช้เลเซอร์ อัลตราชาวด์ หรือเครื่องมือบางอย่างเข้าไปสลายนิ่วให้แตกเล็กลงและล้างออกจากกระเพาะปัสสาวะy
Pt.S/P Cystolitholapaxy วันที่3 สิงหาคม2565
Admit เพื่อทำการผ่าตัด ตั้งแต่วันที่29-2 สิงหาคม 2565
และHold warfarin และติดตามผล PT PTT INR
เสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในอวัยวะภายใน
SD: ผู้ป่วยให้ประวัติว่า เป็นโรคIHD DLP AF และStroke
OD: ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ วันที่22/07/2565
PT: 28.30 sec สูงกว่าปกติ (10.7-12.7)
PTT: 40.30 secสูงกว่าปกติ (23.3-30.9)
INR:2.50 สูงกว่าปกติ (<2.0)
วันที่29/07/2565
PT: 28.80 sec สูงกว่าปกติ (10.7-12.7)
INR:2.55 สูงกว่าปกติ (<2.0)
วันที่31/07/65
INR:1.79 ต่ำกว่าปกติ
วันที่01/08/65
INR 1.6
วันที่03/08/65
INR :1.29
15.50 น.
PT 14.30 sec
INR 1.29 ต่ำกว่าปกติ
กลไกการเกิดโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะคือ จากมีการตกตะกอนของสารที่ประกอบขึ้นเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เมื่อเกิดเรื้อรัง สารเหล่านี้จึงรวมตัวกันเกิดเป็นก้อนซึ่งคือนิ่วนั่นเอง โดยสาเหตุที่ทำให้สารเหล่านี้ตกตะกอนได้ง่ายมักเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกัน แต่อาจเกิดจากสาเหตุเดียวได้ สาเหตุต่างๆได้แก่
จากมีการกักค้างของปัสสาวะเรื้อรังในกระเพาะปัสสาวะ
จากมีการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ เช่น จากท่อปัสสาวะตีบแคบอาจตั้งแต่กำเนิด (โรคทางพันธุกรรม) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของนิ่วในกระเพาะปัสสาวะในเด็ก
จากโรคต่อมลูกหมากโตในผู้ชายตั้งแต่วัยกลางคนขึ้นไป
จากโรคสมองหรือโรคทางเส้นประสาทที่ทำให้ปัสสาวะไม่คล่อง เช่น โรคอัมพฤกษ์/อัมพาต หรือ
จากมีปริมาณสารตกตะกอนในปัสสาวะ
จากดื่มน้ำน้อย
จากกินอาหารที่มีสารเหล่านั้นสูง
แคลเซียม จากการเสริมอาหารด้วยเกลือแร่แคลเซียมในปริมาณสูง
จากกินอาหารที่มีออกซาเลตสูงหรือสูงปานกลางต่อเนื่อง
จากกระเพาะปัสสาวะมีการระคายเคืองเรื้อรัง
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง
มีประวัติทางเดินติดเชื้อทางปัสสาวะเรื้อรัง เริ่มเป็นตั้งแต่1ปีก่อน
การใส่สายสวนปัสสาวะเรื้อรัง เช่น ในผู้ป่วยอัมพาต หรือ
On foley’ s catheter เนื่องจากเป็นผู้ป่วย Bed ridden
มีโรคถุงในกระเพาะปัสสาวะ (Diverticulum)
จากมีนิ่วหลุดลงมาจากไตแล้วมาสะสมโตขึ้นในกระเพาะปัสสาวะ
อาการและอาการแสดง
ปวดท้องน้อยเรื้อรัง อาจร่วมกับปวดหลังเรื้อรัง
อาจปัสสาวะเป็นเลือด อาจขุ่นผิดปกติ อาจมีก้อนนิ่วหลุดออกมาด้วย
ญาติให้ประวัติว่า มีปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะขุ่น
แพทย์ DX. UTI Admit ที่รพ.สิงห์บุรี วันที่22 กรกฎาคม 2565
การปัสสาวะผิดปกติเช่น บ่อย เบ่ง ปวดแสบปวดร้อน สะดุด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย (ปวดท้องน้อย ปวดหลัง ปัสสาวะปวดแสบปวดร้อนโดย เฉพาะตอนปัสสาวะสุด มีไข้ ปวดเนื้อตัว อาจปวดข้อร่วมด้วย
พยาธิสภาพ
สาเหตุ
การรักษา
:
Case
Case
Case
กลไกการเกิดโรค