Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษา มารดาอายุ 35 ปี G1 P0 อายุครรภ์ 40 สัปดาห์ - Coggle Diagram
กรณีศึกษา
มารดาอายุ 35 ปี G1 P0 อายุครรภ์ 40 สัปดาห์
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่ 2 ทารกเสี่ยงต่อภาวะคลอดติดไหล่
1.ประเมินภาวะ macrosomia
ประเมิน high of fundus จากการตรวจครรภ์
ประเมิน น้ำหนักตัวของทารก จากการU/S
หากทารกมีภาวะคลอดไหล่ติดควรให้การพยาบาลดังนี้
2.1 ร้องขอความช่วยเหลือจากทีมตามที่กำหนดบทบาทไว้ประสานงานกุมารแพทย์ในการช่วยเหลือทารกหลังคลอด
2.2 สวนปัสสาวะทิ้ง
2.3. ตัด Rt episiotomy ให้กว้างมากขึ้นฉีดยาชาให้เพียงพอตามแผนการรักษา
2.4. ใช้ลูกยางแดงดูดเลือกในปากและจมูกทารก
2.5 ช่วยคลอดไหล่โดยจัดท่า McRoberts maneuver โดยให้ผู้ช่วย 2 คนยกขามารดาทั้ง 2 ข้างออกจาก stirrup แล้วงอช่วงสะโพกขึ้นมาจนชิดหน้าท้องหรือให้มารดาดึงขาของตนเองขึ้นมาแนบกับหน้าอกผู้ทำคลอดดึงศีรษะทารกลงล่างเพื่อให้ไหล่หน้าคลอดโดยจะไปทำให้กระดูก pubic symphysis เคลื่อนขึ้นมาด้านบนหลุดออกจากไหล่หน้าได้
2.6 ตรวจการฉีกขาดของแผลฝีเย็บและรีบช่วยเหลือแพทย์เย็บซ่อมแซมโดยเร็ว
2.7 หลังเย็บซ่อมแซมแผลฝีเย็บสังเกตเลือดที่ออกก้อนเลือดที่นั่งอยู่ใต้แผลเพื่อป้องกันภาวะตกเลือด
2.8 ประเมิน Apgar score นาที 1, 5, 10 และส่งต่อกุมารแพทย์ดูแล
2.9 ตรวจวัดสัญญาณชีพภายหลังทารกคลอดอย่างใกล้ชิดทุก 15 นาที
ข้อวินิจฉัยพยาบาลที่ 1 เสี่ยงต่อระยะที่2 ของการคลอดยาวนานเนื่องจากทารกอยู่ในท่าผิดปกติ
ช่วยจัดท่ามารดานอนตะแคงหรือท่าคลาน4 ขา และส่ายสะโพกไปมา เพื่อส่งเสริมการหมุนของศรีษะทารกจากท่า OP เป็นท่า OA
ช่วยบรรเทาปวดและลดความไม่สุขสบาย โดยนวดบริเวณกระเบนเหน็บ และให้ยาบรรเทาปวดตามแผนการรักษา
ประเมินอาการและอาการแสดงของทารกท่า OP ซึ่งได้แก่ ตรวจภายใน คลำพบขม่อมหน้าอยู่ที่บริเวณเชิงกรานส่วนหน้า มีการหยุดเคลื่อนต่ำของส่วนนำ เป็นต้น
ช่วยสูติแพทย์ทำคลอดโดยใช้สูติศาสตร์หัตถการ หรือเตรียมผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง ถ้ามีการผิดสัดส่วนระหว่างศีรษะทารกกับเชิงกรานมารดา
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่ 3 ไม่สุขสบายจากการเจ็บครรภ์คลอด เนื่องจากมีการหดรัดตัวของมดลูก
1.ประเมิน Pain score ทุก 1 ชั่วโมง ในระยะ Latent phase และทุก 30 นาที ในระยะ Active phase
2.อธิบายเกี่ยวกับกลไกการคลอด ภาวะความ เจ็บปวดที่ผู้คลอดจะต้องเผชิญ
3.แนะนำวิธีการผ่อนคลายความเจ็บปวดและการเผชิญความเจ็บปวดได้อย่างเหมาะสมในขณะที่มดลูกหดรัดตัว ได้เเก่ สอนการหายใจ การลูบท้อง
ดูแลจัดสิ่งแวดล้อม บนเตียงนอนให้หมอนรองท้อง หรือรองหลังผู้คลอด
5 เบี่ยงเบนความสนใจจากการเจ็บปวดเช่น พูดคุยกับหญิงตั้งครรภ์ให้หญิงตั้งครรภ์เบ่งเบนความสนใจ
จากการเจ็บปวด
6.ดูแลผู้ป่วยให้ได้รับยา pethidine ตามแผนการรักษา และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับยา
ข้อมูลกรณีศึกษา
CC : มาโรงพยาบาลด้วยอาการเจ็บครรภ์ มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด 2 ชั่วโมง ก่อนมาโรงพยาบาล
PH : GDM type 2
PI : 02.00 น. ตรวจครรภ์พบว่า HF = 35 > ระดับสะดือ ตรวจหน้าท้องคลำไม่พบ large part Ultrasound ประเมินน้ำหนักตัวทารกในครรภ์ประมาณ 3,800 กรัม FHR 142 ครั้ง/นาที ฟังได้ยินบริเวณต่ำกว่าสะดือค่อนไปทางสีข้างด้านขวา มดลูกหดรัดตัวทุก 7-8 นาที วัด
สาเหตุของความผิดปกติด้าน Passenger
1.ฟังได้ยินบริเวณต่ำกว่าสะดือค่อนไปทางสีข้างด้านขวา
2.ตรวจหน้าท้องคลำไม่พบ large part
3.คลำพบกระหม่อมลักษณะสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนอยู่ตรงกลางช่องเชิงกราน คลำ Sagittal suture ได้ ศีรษะทารกมี caput
สำหรับกรณีศึกษากรณีนี้ ทารกอยู่ในท่า Right Persistent Occiput Posterior (RPOPP
แนวทางการรักษาและการพยาบาล
ระยะคลอด
ระยะที่ 1 ของการคลอด
ท่า OP ที่มีการวินิจฉัยได้ตั้งแต่ระยะ active phase สูติแพทย์จะให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด (managed expectantly) อาจมีแผนการรักษาให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและให้ยา oxytocin เร่งคลอดร่วมด้วย
ระยะที่ 2 ของการคลอด
ในรายที่ มีระยะที่ 2 ของการคลอดยาวนาน และเชิงกรานมีพื้นที่เพียงพอ สูติแพทย์จะพยายามใช้นิ้วมือหมุนศีรษะทารก ในครรภ์ (manual rotation)
แต่ถ้าการหมุนไม่สำเร็จและไม่มีการเคลื่อนต่ำของส่วนนำหลังจากเบ่งนาน 1 ชั่วโมง สูติแพทย์การหมุนด้วยคีม (forceps rotation)
แต่ถ้ามีการผิดสัดส่วนระหว่างศรีษะทารกกับเชิงกรานมารดา สูติแพทย์ จะผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง
ช่วยบรรเทาปวดและลดความไม่สุขสบาย โดย นวดบริเวณกระเบนเหน็บ
ช่วยจัดท่าเพื่อส่งเสริมการหมุนของศรีษะทารกจากท่า OP เป็นท่า OT และเป็นท่า OA ตามลำดับ
จัดให้มารดานอนตะแคง
จัดให้อยู่ในท่าเข่าชิดอก (knee-chest position)
ท่าคลาน 4 ขา (hands and knees position)
ส่ายสะโพกไปมา (pelvic rocking)
กระตุ้นให้ให้ถ่ายปัสสาวะทุก 2 ชั่วโมง เพื่อให้กระเพาะปัสสาวะว่าง ไม่ขัดขวางการเคลื่อนต่ำของส่วนนำ
ดูแลด้านร่างกายและจิตใจระหว่างการเจ็บครรภ์และการคลอด เนื่องจากมารดาท่ีทารกอยู่ในท่า OP จะมีความเหนื่อยล้า
ข้อวินิจฉัยพยาบาลที่ 5 ทารกในครรภ์อาจเกิดภาวะ ขาดออกซิเจนเนื่องจากการ คลอดยาวนาน
ดูแลให้มารดาได้รับ O2 อัตรา 8-10 ลิตร/นาที
จัดท่าให้มารดานอนตะแคงซ้าย เพื่อให้เลือดไหลไปเลี้ยงมดลูกเพิ่มขึ้น และหลีกเลี่ยงท่านอนหงาย
ราบเพื่อป้องกันการกดทับเส้นเลือดเอออร์ต้า ซึ่งทำให้การไหลเวียนเลือดไปสู่รกและทารกในครรภ์ลดลง
ประเมินและบันทึก FHR อย่างน้อยทุก15 นาที หรือติดเครื่อง electronic fetal monitor (EFM) เพื่อประเมิน FHR อย่างต่อเนื่อง
ดูแลให้มารดาได้รับ 5% D/NSS 1000 ml IV drip 120 ml/hr ตามแผนการรักษาของสูติแพทย์ เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณเลือดและความดันโลหิตของมารดา และทำให้การไหลเวียนของเลือดไปสู่รกมากขึ้น
ช่วยสูติแพทย์ทำคลอดด้วยคีมช่วยคลอดเพื่อให้การคลอดสิ้นสุดลงโดยเร็ว