Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

R/O Diverticulitis, ไม่มีชั้นกล้ามเนื้อ (muscular layer) ห่อหุ้ม,…

- - - - ให้คําแนะนําในเรื่องการรับประทานอาหารไฟเบอร์สูง เช่นผักและผลไม้ที่สดจํานวนมากอย่างน้อย 20-35 g/day ลดอาหารไขมันและเนื้อสัตว์สีแดง ช่วยป้องกันการเกิดโรคได้
        
        หลีกเลี่ยงอาหารที่มีเป็นเมล็ดใหญ่ เช่น ถั่วเพราะอาจทําให้ diverticular sac อุดตันได้
        
        ขณะที่มีอาการปวด ควรรับประทานอาหารกากน้อย และรับประทานยาช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวตามแผนการรักษา เพื่อให้ลําไส้ได้พัก
  - - - ประเมินอาการปวดท้องระดับความ รุนแรง ร่วมกับอาการในระบบทางเดิน อาหารอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ไม่ผายลม ไม่ถ่ายอุจจาระ
        
        ตรวจสอบสัญญาณชีพ และ Pain score ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการ ปวดและความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น
        
        จัดสิ่งแวดล้อม ในการให้นอนในท่าศีรษะสูง Fowler’s position
        
        ติดตามอุณหภูมิของร่างกาย ถ้ามีไข้ ขึ้นทันทีทันใดให้รายงานแพทย์
  - - - ประเมินภาวะไม่สมดุลของอิเล็กโตรไลต์ในร่างกายจากอาการแสดง และ Lab
      - Record I/O
      - ประเมินการรับประทานอาหารและบ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
      - ขออนุญาตผู้ป่วย/ให้เหตุผลก่อนให้การพยาบาล
      - ดูแลให้ได้รับยาและสารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา ด้วย Acetar 500 mL v drip in 1 hr, Acetar 1000mL rate 100 cc/hr
      - ติดตามผลการตรวจทางห้อง Lab
      - ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะ Electrolyte imbalance เช่น มีอาการกล้ามเนื้อ อ่อนแรง สับสน เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
  - - - 1.ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพอาการและอาการแสดงทุก 4 ชั่วโมง
      - ลดปัจจัยจะส่งเสริมให้ผู้ป่วยเกิดภาวะการติดเชื้อเพิ่มขึ้นใช้ เทคนิคในการพยาบาลอย่างมีมาตรฐานเทคนิคปลอดเชื้อต่างๆ
      - ติดตามผลโลหิตวิทยาโดยดูจากเม็ดโลหิตขาว (WBC) และค่านิวโตรฟิว (neutrophil) เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อ
      - 4.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยา Ceftriaxone 1 กรัม INJ ทุก 24 ชั่วโมง Metronidazole 40 mg INJ ทุก 12 ชั่วโมง
- - - - false diverticulum
        
        ส่วนของผนังชั้นในสุดของลําไส้(mucosa)
        
        ที่ยื่นออกไปจากลําไส้ (lumen)
        
        คลุมด้วยเยื่อบุลําไส้ชั้นนอก (serosa)
      - มีความความบางมากที่สุด
        
        ทำให้เกิดแรงดัน
        
        โดยเฉพาะส่วน sigmoid
        
        เพราะมีเส้นผ่านศูนย์กลางที่เล็กที่สุดของลำไส้ใหญ่
        
        ซึ่งแรงดันจะแปรผกผันกับเส้นผ่านศูนย์กลาง
        
        Diverticulosis
        
        สาเหตุ
        
        การขาดมวลกล้าเนื้อหรือคอลเจน
        
        รับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตอย่างเดียว
        
        เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย
        
        Diverticulitis
        
        อยู่ที่ sigmoid
        
        การอักเสบ
        
        การแตกทะลุ (perforation)
        
        หนอง (abscess)
        
        เยื่อบุช่องท้องอักเสบ (peritonitis)
        
        การอุดตัน (obstruction)
        
        เลือดออก (hemorrhage)
        
        กลไกการเกิดแรงดัน
        
        ปกติแรงดันลำไส้จะเท่ากัน
        
        • เมื่อลำไส้บีบตัว
        
        • จะเกิดแรงที่เป็นปล้องๆ (segmentation)
        
        • แรงดันมากจะทำให้ผนังลำไส้ยื่นออกมาเป็นกระเปราะ
        
        1 more item...
      - เกิดการติดเชื้อ
      - การจับตัวของหนองภายในกระเปาะของลำไส้ใหญ่
        
        เกิดการอุดตัน
        
        เมื่อ Diveticula อักเสบ