Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ลักษณะชุมชน (Community), นางสาวอารียา ทองอินทร์ 4A เลขที่ 87 …
ลักษณะชุมชน (Community)
ชุมชน หมายถึง ประชาชนที่มาอยู่ร่วมกันในอาณาเขตหนึ่ง
มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน มีความเอื้ออาทรต่อกัน มีความสนใจ
บางสิ่งบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน มีค่านิยมบางอย่างร่วมกัน
มีความรู้สึกเป็นเจ้าของชุมชนร่วมกัน และรู้สึกเป็นหนึ่้งเดี่ยวเมื่ออยู่ร่วมกัน
การแบ่งประเภทของชุมชน
1.แบ่งตามจำนวนพลเมือง เป็นการแบ่งตามขนาดของชุมชน เอาจำนวนพลเมืองในชุมชนเป็นเกณฑ์ เช่น หมู่บ้าน เมือง
นคร มหานคร
2.แบ่งตามหน้าที่การงานหรือตามลักษณะกิจกรรม ที่เกิดขึ้นในชุมชน ได้แก่ ศูนย์การค้า ศูนย์กลางการขนส่ง ศูนย์กลางการบริการ
3.แบ่งตามความสัมพีนธ์ของบุคคล คำนึงถึงความเป็นอยู่และการติดต่อสัมพันธ์ของสมาชิกในกลุ่ม ได้แก่ ชุมชนชนบท ชุมชนเมือง
1.ชุมชนเมือง (Urban community) จะเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตปกครองแบบใดแบบหนึ่ง เช่น เทศบาลเมือง เขตเทศบาลนคร เขตปกครองพิเศษ ประชากรในชุมชนมีจำนวนมากและอยู่กันอย่างหนาแน่น เป็นศุูนย์กลางความเจริญทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สังคม การปกครอง
ประชากรอยู่กันอย่างหนาแน่น อย่างน้อย 10,000 คนขึ้นไป บ้านเรือนปลูกสร้างอย่างแออัด มีตึกสูง ขาดธรรมชาติและสถานที่
พักผ่อนหย่อนใจ มีความเจริญด้านสาธารณูปโภค การสื่อสารและบริการต่างๆ ตามสมัยนิยม คมนาคมสะดวก
ประชาชนมีลักษณะต่างคนต่างอยู่ วิถีชีวิตมีการแข่งขันสูง
ต้องขวนขวายหาเลี้ยงชีพ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพงานบริการ
เป็นศูนย์กลางของความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์ ใกล้ชิดกับวัฒนธรรมต่างชาติ เทคโนโลยีล้ำสมัย มีการคิดค้น
สิ่งใหม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
-
-
2.ชุมชนชนบท (Rural community) ชุมชนที่ตั้งอยู่นอกเขตเมือง หรือเขตปกครองพิเศษ ประชากรไม่หนาแน่น บ้านเรือนกระจัดกระจายทั่วไป
-
ประชาชนในชุมชนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด ติดต่อกันเป็นประจำ มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา เศรษฐกิจและสังคมที่คล้ายคลึงกัน มีขนบธรรมเนียมประเพณี ค่านิยม ความเชื่อ และทัศนคติที่ใกล้เคียงกัน มีความเหลื่อมล้ำทางสังคมต่ำ
ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ ประมง
มีความสามารถทำงานหลายด้าน เนื่องจากชีวิตอยู่กับธรรมชาติ มีการทำงานตามฤดูกาล มีเวลาว่างเป็นระยะ การแข่งขันทางด้านอาชีพ
และเศรษฐกิจไม่สูง จึงมีชีวิตเรียบง่าย ขาดความกระตือรือร้นในการทำงาน ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในงานสังคมซึ่งถือว่าเป็นหน้าเป็นตา
-
-
ชุมชนแออัด (Slum)
การแบ่งประเภทชุมชนแออัด
ชุมชนดั้งเดิม คือ ชุมชนแออัดที่มีประวัติการตั้งถิ่นฐานมาเป็นเวลานานหลายชั่วอายุคน จนในปัจจุบันไม่สามารถบอกได้ว่ารุ่นของตนนั้นอพยพย้ายถิ่นมาตั้งแต่เมื่อใด
ชุมชนใหม่ คือ กลุ่มคนที่ย้ายถิ่นฐานใหม่มาตั้งถิ่นฐานในเขตเมือง น้อยกว่า 15 ปี แต่อพยพเคลื่อนย้ายไปอยู่ในชุมชนแห่งใหม่ตามแหล่งประกอบอาชีพ เช่น กรรมกรก่อสร้าง รับจ้างขนส่งสินค้า
ชุมชนบุกรุก คือ กลุ่มคนที่บุกรุกเข้าไปครอบครองที่ดินสาธารณะหรือที่ดินที่เจ้าของทิ้งร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์
ลักษณะของชุมชนแออัด
ที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม สิ่งปลูกสร้างไม่คงทนถาวร
มักเป็นห้องเดียวอยู่กันอย่างแออัด มักมีน้ำเน่า ขาดการสุขาภิบาล
-
-
-
-
ปัญหาของชุมชน
ปัญหาทางด้านการเปลี่ยนแปลงประชากร มีประชากรเพิ่มมากชึ้น ทำให้มีการใช้ทรัพยากรในการบริโภคเพิ่มขึ้นเป็นอันมาก
ทำให้ขาดแคลนทรัพยากรเพื่อการลงทุนในการพัฒนาประเทศ
ทำให้ประเทศด้อยพัฒนาอยู๋ในวงจรความยากจน
ปัญหาความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ส่วนใหญ่มาจากการกระทำของมนุษย์ที่มีการบริโภคทรัพยากรธรรมชาติฟุ่มเฟือย และขาดการดูแล เช่น ตัดไม้ทำลายป่า น้ำท่วม น้ำแล้ง มลพิษทางอากาศ เป็นต้น
ปัญหาการเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บทั่วไป และโรคระบาดที่เกิดขึ้น เป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ส่งผลทำให้ความสามารถในการผลิตต่ำลง เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาทางด้านเกษตร อุตสาหกรรม
ทำให้ประเทศขาดเสถียรภาพทางการเมืองได้
ปัญหาความยากจน ก่อให้เกิดปัญหาสังคม อาชญากรรม
เด็กขาดโอกาสทางการศึกษา เกิดปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ โสเภณี และขาดความเข้าถึงบริการที่จำเป็นในการดำรงชีวิต
ปัญหาขาดโอกาสทางการศึกษา ขาดโอกาสทางสังคมหลายประการ ได้แก่ การประกอบอาชีพ การเรียนรู้การดำเนินชีวิต การพัฒนาชีวิตและสุขภาพ
-
อ้างอิง
ปาหนัน กนกวงศ์นุวัฒน์.(2564).การบริหารโครงการในชุมชน : กลยุทธ์ที่ท้าทายของพยาบาล.กรุงเทพมหานคร : โอ เอส พริ้นติ้ง เฮ้าส์