Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 5 ปี 10 เดือน - Coggle Diagram
ผู้ป่วยเด็กหญิงไทย อายุ 5 ปี 10 เดือน
อาการสำคัญ : ไข้สูง ปัสสาวะแสบขัด 5 ชั่วโมง ก่อนมาโรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน :
3 วัน ก่อนมา มีอาการไข้สูง หนาวสั่น มารับการรักษาที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท ได้รับยา
Paracetamol และ เกลือแร่ กลับไปรับประทานที่บ้าน
5 ชั่วโมงก่อนมาอาการไม่ขึ้น มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ร้องไห้บ่นแสบขณะปัสสาวะ จึงมารับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์จึงให้นอนพักรักษาตัวที่ หอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 4
วินิจฉัยโรคครั้งแรก : Acute Febrile illness day 2 with Urinary tract infection
วินิจฉัยโรคปัจจุบัน : Acute Pyelonephritis
ความหมาย: กรวยไตอักเสบแบบเฉียบพลัน (acute pyelonephritis : Ac PLN) เป็นการติดเชื้อแบบเฉียบพลันของกรวยไต ท่อต่างๆ ภายในไต (renal
tubules) และเนื้อเยื่อไต (interstitial tissue) อาจเป็นการติดเชื้อเพียงที่ไตข้างเดียว หรือทั้ง 2 ข้างก็ได้
พยาธิสรีรวิทยา :เมื่อมีการอักเสบไตจะขยายใหญ่ขึ้น มีการคั่งของเลือดและบวม มีการติดเชื้ออย่างรุนแรง ตามผนังของกรวยไตน้อย (calyces) กรวยไตจะบวม และมีลักษณะแดงจัด อาจมีเลือดออกด้วย ถ้าการติดเชื้อไม่รุนแรงและถ้าได้รับการรักษาทันท่วงทีจะมีรอยแผลเป็นบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นเรื้อรังทำให้เกิดแผลเป็น(fibrosis) จนทำให้ท่อต่างๆ ของ ไตอุดตัน เส้นเลือดฝอยของโกเมอรูไล (glomeruli) ตีบแคบทำให้ไตขาดเลือด ขนาดของไตเล็กลง หน้าที่ของไตจะเล็กลงจนในที่สุดจะเกิดภาวะ ไตวายได้ (renal failure)
อาการและอาการแสดง
กรณีศึกษา มีไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะขุ่นสีเหลืองเข้ม
ทฤษฎี
ส่วนมากจะมีอาการปวดที่บริเวณสีข้างขึ้นอย่างเฉียบพลัน
โดยจะปวดมากที่ข้างใดข้างหนึ่ง และอาจปวดร้าวลงมาที่บริเวณขาหนีบ พร้อมกับมีไข้สูง หนาวสั่นมากเป็นพัก ๆ อาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาจ มีอาการขัดเบาร่วมด้วย ปัสสาวะมักมีลักษณะขุ่น บางครั้งอาจข้นเป็นหนอง
สาเหตุ
ทฤษฎี
กรวยไตอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E. Coli) ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอักเสบต่อเนื่องของกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ การอุดตันของทางเดินปัสสาวะ บางกรณีเชื้อแบคทีเรียอาจแพร่กระจายเข้าสู่กรวยไตผ่านทางกระแสเลือดได้
กรณีศึกษา
ผลตรวจ Specimen urine culture (27/12/2563)
พบ Escherichia coli > 105 CFU/ml
ภาวะแทรกซ้อน
1.ความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีการติดเชื้อเกิดขึ้นจึงทำให้เนื้อเยื่อไตเกิดแผลเป็น รวมทั้งเส้นโลหิตแดงที่เข้าไปเลี้ยงใตด้วย จึงทำให้เส้นโลหิตเล็กและหดแคบลง ทำให้เกิดสภาวะขาดโลหิตไปเลี้ยงเนื้อไตเป็นส่วนๆ มีการสร้างเรนิน (Renin) และแอนจิโอเทนซิน (Angiotensin) มี ผลกระตุ้นให้เกิดความดันโลหิตสูงขึ้น
ภาวะยูเรียเมีย (Uremia) จากการติดเชื้อมีการอักเสบเป็นฯ หายๆ เรื้อรังที่ไตทั้ง 2 ข้างทำให้ไตเสียหน้าที่ไปเกือบทั้งหมด สารยูเรีย และคริอะตินิน ซึ่งจะต้องถูกขับออกทางไต ก็จะดั่งอยู่ในกระแสเลือดมากกว่าปกติ เกิดภาวะการดั่งค้างของเสียในเลือด (Azotemia) ขึ้น ต่อมาเมื่อยูเรียและ คริอะตินินสูงขึ้นจนถึงระดับที่ทำให้เกิดอาการทางกระเพาะลำไ ส้ ได้แก่ อาการเบื่ออาหารคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน บางครั้งอาจจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง หรือมีอาการทางประสาทได้แก่ อาการคล้ายกล้ามเนื้อกระตุก กล้ามเนื้ออ่อนเพลีย ปวดแสบร้อนตามแขนและขา ซึม สุดท้ายอาจหมดสติ ชัก และถึงแก่ความตาย
อาการอื่นๆ ที่พบได้ทั่วไปมี เหนื่อยง่าย หายใจหอบ ซีด ปวดศีรษะ
การรักษา
การรักษา
กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute pyelonephritis) ขาปฏิชีวนะเป็นสิ่งจำเป็นซึ่งควรให้ยาตามbacteria sensitive ให้โดยทันทีและมีการตรวจติดตามผลการตรวจปัสสาวะ (urine) ว่ายาที่ให้ได้ผลตามที่ต้องการ ร่วมกับการให้ยาจำพวกต้านการหดเกร็งของกระเพาะปัสสาวะ ให้รับประทานอาหารมีประโยชน์ให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้สารน้ำอย่างเพียงพอ และกำจัดสาเหตุการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะหากจำเป็นต้องทำผ่าตัดก็ควรทำ
กรณีศึกษา
Ceftriaxone 1 gm IV OD (50 mg/kg/day)
Paracetamol (500) ½ tab po prn q 6 hr
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 1 มีการอักเสบของกรวยไตเนื่องจากมีการติดเชื้อ
ข้อมูลสนับสนุน
S:ผู้ป่วยบอกหนาวและร้องไห้บ่นแสบขณะปัสสาวะ
O:ผลการตรวจร่างกายริมฝีปากแห้งเล็กน้อย มีปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
O:สัญญาณชีพ วันที่ 25 ธันวาคม 2563 เวลา 10.00 น. 38.8 องศาเซลเซียส
O: ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ วันที่ 24 ธันวาคม 2563
CBC Neutrophils สูง ผลตรวจ 92% WBC count สูง ผลตรวจ 12,960 Cells/mm3
O: แพทย์วินิจฉัยเป็น Acute Pyelonephritis
จุดมุ่งหมาย
การอักเสบที่กรวยไตลดลง
เกณฑ์การประเมิน
1.ผู้ป่วยไม่เกิดการติดเชื้อ
2.อุณหภูมิร่างกายอยู่ระหว่าง 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
3.ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการมีค่า
Neutrophils 55-75%
WBC count 5,000-10,000 Cells/mm3
กิจกรรมการพยาบาล
1.ดูแลให้ได้รับยา Ceftriaxone 1 gm IV OD ตามแผนการรักษาของแพทย์ เนื่องจากยา Ceftriaxone เป็นยาปฏิชีวนะออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ระบบทางเดินปัสสาวะ
2.ดูแลให้ได้รับ 5% DN/2 500 ml v rate 60 ml/hr เพื่อให้พลังงานและทดแทนปริมาณน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
3.กระตุ้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆวันละ 3,000 ml เพื่อให้ถ่ายปัสสาวะมากๆ เป็นการชะล้างการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
4.วัดและบันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงโดยอุณหภูมิร่างกาย เพื่อประเมินภาวะการติดเชื้อ
5.แนะนำการทำความสะอาดหลังการขับถ่ายทุกครั้ง โดยทําความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ ด้วยการฟอกสบู่ทุกครั้งหลังการขับถ่ายอุจจาระ และล้างด้วยน้ำสะอาดทุกครั้งหลังการขับถ่ายปัสสาวะ หลังจากนั้นซับให้แห้งเพื่อลดความอับชื้น เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคจากภายนอกร่างกายเข้าสู่ระบบทางเดินปัสสาวะ
6.สังเกตลักษณะของน้ำปัสสาวะ เพื่อประเมินสี กลิ่น และตะกอนในน้ำปัสสาวะ
7.ติดตามผลการตรวจปัสสาวะและเลือดทางห้องปฏิบัติการ เพื่อประเมินภาวะการติดเชื้อ
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 2 ไม่สุขสบายเนื่องจากมีไข้ ข้อมูลสนับสนุน
S:ผู้ป่วยบอกหนาว
O:สัญญาณชีพ วันที่ 25 ธันวาคม 2563 เวลา 10.00 น. 38.8 องศาเซลเซียส จุดมุ่งหมาย
ผู้ป่วยสุขสบายขึ้น
เกณฑ์การประเมิน
1.ผู้ป่วยสุขสบาย
2.อุณหภูมิร่างกายอยู่ระหว่าง 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
3.ผู้ป่วยสามารถนอนหลับพักผ่อนได้
กิจกรรมการพยาบาล
1.ดูแลเช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดา โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำพอหมาดๆ วางไว้ที่หน้าผาก ซอกคอ รักแร้ และหน้าอก เพื่อให้น้ำเป็นตัวพาความร้อนออกจากร่างกาย
2.ดูแลให้ยา Paracetamol (500) ½ tab po prn q 6 hr ตามแผนการรักษาเวลามีไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส เนื่องจากยา Paracetamol ออกฤทธิ์เป็นยาลดไข้
3.ดูแลให้ได้รับ 5% DN/2 500 ml v rate 60 ml/hr และกระตุ้นให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสีย ไปเวลามีไข้สูงและน้ำจะช่วยพาความร้อนออกจากร่างกาย
4.วัดและบันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินอุณหภูมิของร่างกาย
5.ให้ผู้ป่วยพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อลดกิจกรรมของร่างกาย ลดการเผาผลาญและการทํางานของกล้ามเนื้อ ซึ่งช่วยให้ความร้อนของร่างกายลดลง
6.แนะนําให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้พลังงานและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 3 มีโอกาสติดเชื้อซ้ำเนื่องจากไม่มีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตน
ข้อมูลสนับสนุน
S: ผู้ป่วยด็กหญิงไทย อายุ 5 ปี 10 เดือน
จุดมุ่งหมาย
ผู้ป่วยไม่เกิดการติดเชื้อซ้ำ
เกณฑ์การประเมิน
1.ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำได้ถูกต้อง
2.ผู้ป่วยไม่กลับมาโรงพยาบาลด้วยสามเหตุเดิม
กิจกรรมการพยาบาล
1.ให้ความรู้เกี่ยวกับการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและสาเหตุของการเกิดการติดเชื้อซ้ำแก่ผู้ป่วยและครอบครัว เพื่อให้ผู้ป่วยมีความรู้และเข้าใจถึงสาเหตุของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
2.ให้คำแนะนำผู้ป่วยและครอบครัวเกี่ยวกับยาที่ได้รับ ในเรื่องสรรพคุณ ข้อบ่งใช้ ขนาด เวลาในการรับประทานและผลข้างเคียงของยา เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้เข้าใจถึงวิธีการใช้ยาและสามารถรับประทานยาได้ครบตามจำนวนที่แพทย์สั่ง
3.แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดวันละ 6-8 แก้ว เพื่อให้แบคทีเรียออกสู่ภายนอกร่างกาย
4.แนะนำให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ ควรถ่ายปัสสาวะทุก 4-6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบที่กรวยไตซ้ำ
5.แนะนำให้ผู้ป่วยทำความสะอาดบริเวณอวัยวะขับถ่ายหลังถ่ายปัสสาวะทุกครั้ง โดยการทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลังแล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและป้องการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
6.แนะนำให้ผู้ป่วยสังเกตสี จำนวน ลักษณะกลิ่นของปัสสาวะที่ขับถ่ายออกมา เพื่อตรวจสอบการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซ้ำ
7.แนะนำให้ครอบครัวพาผู้ป่วยมาตรวจตามแพทย์นัด เพื่อตรวจดูความก้าวหน้าของการรักษา