Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วัตถุแห่งหนี้, :explode: นางสาวเกศรินทร์ นะสะแทน 64012310010 เลขที่42…
วัตถุแห่งหนี้
-
การเลือกวัตถุแห่งหนี้
1.ผู้เลือก โดยปกติแล้วสิทธิในการเลือกตกอยู่แก่ฝ่ายลูกหนี้เว้นแต่จะตกลงกันเป็นอย่างอื่น (มาตรา 198) แต่ถ้าลูกหนี้ไม่เลือกภายในเวลากำหนดสิทธิในการเลือกตกอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่ง (มาตรา 200) หากตกลงให้บุคคลภายนอกเป็นผู้เลือกแล้วบุคคลภายนอกไม่เลือกสิทธิในการเลือกตกอยู่แก่ลูกหนี้ (มาตรา 201 วรรคสอง)
2.วิธีการเลือก การเลือกให้ทำโดยแสดงเจตนาแก่คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง (มาตรา 199 วรรคแรก) แต่ถ้าบุคคลภายนอกเป็นผู้เลือกให้แสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ และลูกหนี้จะต้องแจ้งความนั้นแก่เจ้าหนี้ (มาตรา 201 วรรคแรก)
3.กำหนดเวลาที่ต้องเลือก
(1)กรณีกำหนดเวลาเลือกถ้ามีกำหนดเวลาให้เลือกไว้ ฝ่ายที่มีสิทธิเลือกต้องเลือกภายในเวลาที่กำหนดนั้น หากไม่เลือกสิทธิในการเลือกตกอยู่แก่อีกฝ่ายหนึ่ง (มาตรา 200 วรรคเเรก) หากบุคคลภายนอกเป็นผู้เลือก แล้วไม่ใช้สิทธิ สิทธิที่จะเลือกตกอยู่แก่ลูกหนี้ (มาตรา 201 วรรคสอง)
(2)กรณีมิได้กำหนดระยะเวลาเลือก เมื่อนี่ถึงกำหนดชำระ ฝ่ายที่ไม่มีสิทธิเลือกอาจกำหนดเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้อีกฝ่ายใช้สิทธิเลือกภายในเวลาอันนั้น (มาตรา 200 วรรคสอง)
4.ผลของการเลือก
เมื่อฝ่ายที่มีสิทธิเลือก ใช้สิทธิเลือกแล้วให้ถือว่าเป็นวัตถุแห่งหนี้ประการเดียวที่ลูกหนี้ต้องปฏิบัติชำระหนี้มาแต่ต้น และเจ้าหนี้จะเรียกร้องให้ชำระหนี้อย่างอื่นไม่ได้ (มาตรา 199 วรรคสอง)
5.วัตถุแห่งหนี้บางอย่างตกเป็นอันพ้นวิสัย
กรณีที่มีวัตถุแห่งหนี้หลายอย่างแต่เมื่อถึงเวลาชำระหนี้ปรากฏว่าวัตถุแห่งหนี้บางอย่างตกเป็นพ้นวิสัยไม่ว่าจะตกเป็นพ้นวิสัยแต่ต้นหรือแต่ภายหลังก็ตาม กฎหมายให้จำกัดวัตถุแห่งหนี้อย่างอื่นที่ไม่พ้นวิสัย เว้นแต่การพ้นวิสัยจะเป็นความผิดของผู้เลือก(มาตรา 202)
หากมีเจ้าหนี้คนเดียว ลูกหนี้คนเดียวและวัตถุแห่งหนี้มีอย่างเดียวเรียกได้ว่า "หนี้เดียว" แต่หากมีวัตถุแห่งหนี้หลายอย่างเรียกว่า "หนี้ผสม" หนี้ผสมนี้อาจเป็นหนี้ซึ่งต้องกระทำทุกอย่างหรือเป็นหนี้เลือกชำระอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
วัตถุแห่งหนี้เป็นเงินตรา (ม.196, ม.197)
เงินตรามีลักษณะพิเศษกว่าทรัพย์อื่น เพราะทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดราคาหรือมูลค่าของทรัพย์สินเป็นเครื่องกำหนดค่าแรงและค่าบริการเงินตราจึงกลายเป็นสื่อกลางในการซื้อขายหรือการโอนโดยมีค่าตอบแทนในรูปแบบอื่น เงินตราจึงเป็นวัตถุทั่วไปของหนี้
-
-
-
ชนิดของวัตถุแห่งหนี้
:<3:1.การกระทำการ
คือการกระทำตามบทบัญญัติของ ปพพ.มาตรา 213 เช่น ก. จ้าง ข. มาปลูกต้นไม้ในบ้าน วัตถุแห่งหนี้คือการกระทำในที่นี้คือปลูกต้นไม้หากลูกหนี้ละเลยไม่ชำระหนี้อันมีวัตถุแห่งหนี้เป็นการกระทำแล้วเจ้าหนี้มีสิทธิ์ตาม ปพพ.มาตรา 213 วรรคสอง คือ อาจร้องขอต่อศาลให้บุคคลอื่นมาทำแทนลูกหนี้โดยให้ลูกหนี้นั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายก็ได้ เช่น หาก ข.ละเลยไม่ปลูกต้นไม้ ก. จะร้องขอต่อศาลสั่งเพื่อให้บุคคลอื่นผู้สมัครใจเข้ามาทำแทน ข. และค่าใช้จ่ายที่เสียไปนั้นก็บังคับได้จาก ข.
ปพพ. มาตรา 213 วรรคสอง บัญญัติว่า "...ถ้าวัตถุแห่งนี้เป็นการให้กระทำการอันหนึ่งอันใด เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับให้บุคคลภายนอกกระทำการอันนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่ายให้ก็ได้ แต่ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งไซร้ ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนี้ได้ "
:<3:2.การงดเว้นกระทำการ
ตาม ปพพ. มาตรา 194 ประกอบกับ ปพพ.มาตรา 213 วรรคสาม ซึ่งบัญญัติว่า " ส่วนหนี้ซึ่งมีวัตถุเป็นอันจะให้งดเว้นการอันใด เจ้าหนี้จะเรียกร้องให้หรือถอนการที่ได้กระทำลงแล้วนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่าย และให้จัดการอันควรเพื่อการภายหน้าด้วยก็ได้ " วัตถุแห่งหนี้เป็นการงดเว้นกระทำการก็มีได้ เช่น ก. ทำสัญญาว่าจะไม่เปิดร้านขายเครื่องสำอางแข่งกับร้านของ ข. หาก ก. ฝ่าฝืนข้อตกลงอันมีวัตถุแห่งหนี้อันต้องงดเว้นกระทำโดยไม่ตั้งร้านขายเครื่องสำอางนั้นแข่งขันกับร้านของ ข. ข.จะร้องขอต่อศาลเพื่อสั่งให้ ก. หยุดกิจการนั้นเสียได้
ส่วนกรณี ปพพ.ตามมาตรา 213 วรรคสาม นั้นหมายความว่าเป็นกรณีที่ลูกหนี้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติการอันเป็นการงดเว้นการกระทำซึ่งก็เท่ากับว่าลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้ศาลสั่งให้รื้อถอนการที่ได้กระทำลงแล้วนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่ายก็ได้ เช่น ก. แบ่งซื้อที่ดินของ ข. โดยมีข้อตกลงกันว่า ข.จะไม่ปลูกตึกแถวบังทางด้านทิศตะวันออกต่อมาทข. ฝ่าฝืนข้อตกลงโดยปลูกตึกแถวบังที่ดินด้านดังกล่าว เช่นนี้ ก. ฟ้อง ข. ให้รื้อถอนตึกแถวไปได้โดยให้บุคคลภายนอกมาหรือถอนแล้วให้ ข.เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน
การงดเว้นคือการไม่ทำการอันใดที่สัญญากับเจ้าหนี้ไว้ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้
การงดเว้นกระทำการถือว่าเป็นการชำระหนี้ได้เช่นกัน
:<3:3.การส่งมอบทรัพย์สิน
ปพพ. มาตรา 213 มิได้กำหนดวิธีบังคับไว้เป็นพิเศษดังเช่นการงดเว้นกระทำการจึงได้แต่บังคับกัน ตามมาตรา 213 วรรคหนึ่ง ซึ่งบัญญัติว่า " ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งนี้จะไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้ "
เช่น ก. ทำสัญญาให้ ข. เช่าบ้านในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ 2557 ต่อมาเมื่อถึงวันดังกล่าว ก. ไม่ยอมส่งมอบบ้านที่จะให้ ข. เช่า ข. มีสิทธิ์เพียงแต่จะฟ้องร้องให้ศาลบังคับให้ ก. ส่งมอบบ้านให้ตนเท่านั้น
การส่งมอบทรัพย์สินนั้นบางครั้งถือว่ารวมอยู่ในพวกวัตถุแห่งหนี้ที่เป็นการกระทำการก็ได้ ในหนี้รายหนึ่งๆอาจมีวัตถุแห่งหนี้ซึ่งเป็นการกระทำการ งดเว้นกระทำการ หรือการส่งมอบทรัพย์สินเพียงอย่างเดียวหรืออาจมี 2 อย่าง หรือมีทั้ง 3 อย่าง ในนี้รายเดียวกันก็ได้
-
-