ความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง
การกระทำ
คือ การเคลื่อนไหวของบุคคลโดยรู้สำนึกในความเคลื่อนไหวของตน และ หมายถึงการงดเว้นหรือละเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่ที่ต้องกระทำด้วย
ผู้เยาว์และบุคคลวิกลจริต ไม่ต้องรับผิดผลที่ตนละเมิด เพราะ ถ้าผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตไม่รู้สำนึกในการเคลื่อนไหวของตนเองก็ย่อมไม่ถือว่ามีการกระทำ แต่ถ้ารู้สำนึกในการกระทำ ก็ย่อมต้องรับผิดกับผลที่ทำ
การกระทำโดยงดเว้น หมายความถึง การให้เกิดผลอันใดอันหนึ่งขึ้นด้วยการงดเว้นไม่กระทำในสิ่งที่ตนมีหน้าที่ต้องกระทำ ซึ่งเป็นหน้าที่โดยเฉพาะที่จะต้องกระทำเพื่อป้องกันมิให้เกิดผลนั้น
การกระทำโดยละเว้น หมายความว่า ผู้กระทำไม่กระทำในสิ่งซึ่งกฎหมายบังคับให้กระทำซึ่งเป็นเรื่องทั่วๆไป มิใช่กรณีโดยเฉพาะที่จะต้องป้องกันมิให้เกิดผลนั้นขึ้น
การกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
ประมาทเลินเล่อ คือ ไม่ใช้ความระมัดระวังตามควรที่จะใช้มาตรา 59 วรรค 4 (ขับรถแรงในขณะที่ฝนตกจนเกิดอุบัติเหตุ)
จงใจ คือ การกระทำโดยรู้สำนึกถึงผลเสียที่จะเกิดจากการกระทำของตนแต่ก็ยังทำ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียว่าจะมากน้อยเพียงใด (แดงจะขับรถชนดำให้ดำเกิดแผลถลอกแต่ชนไปแล้วดำขาหักถึงแม้ใจจริงแดงจะชนให้ถลอกแต่แดงก็ต้องรับผิดฐานทำร้ายร่างกาย)
การกระทำโดยผิดกฎหมาย
การกระทำโดยผิดกฎหมาย คือ ไม่ใช่เพียงแค่ฝ่าฝืนกฎหมายเพียงอย่างเดียวแต่ยังรวมไปถึงการกระทำโดยไม่มีสิทธิหรือข้อแก้ตัวตามกฎหมาย
การใช้สิทธิก่อความเสียหาย ตามมาตรา 421 เป็นการได้สิทธิทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย (รถบรรทุกดินขี่ผ่านถนนเกิดความเสียหาย รถบรรทุกมีสิทธิใช้ถนนแต่ไม่มีสิทธิพังถนน เพราะกฎหมายไม่มีอำนาจให้ทำ)
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
คือ ความเสียหายที่เกิดแก่สิทธิของบุคคลอื่น ทำให้เสียหายแก่ทรพย์ แก่ร่างกาย แก่ชีวิต เป็นต้น หรือ(นายแดงเอาหินปาหลังคาบ้านแต่ไม่แตก ไม่เกิดความเสียหายแต่ละเมิดต่อสิทธิเพราะเจ้าของบ้านไม่ให้ปา)
สิทธิ คือ อำนาจที่กฎหมายคุ้มครอง
ความยินยอมที่ไม่ทำให้เป็นการละเมิด
ม.8 ว.1 องค์ประกอบ 1.ตกลงเพื่อละเมิดต่างๆให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย(เอามีดฟันทดลองอาคมถ้าเข้าจะไม่เอาความ) 2.ข้อตกลงที่ทำไว้ต้องทำไว้ล่วงหน้า เป็นโมฆะ
ม.8 ว.2 องค์ประกอบ 1.ตกลงเพื่อละเมิดต่างๆให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์ 2 ตกลงที่ทำไว้ต้องทำล่วงหน้า (แดงตกลงกับเจ้าของหอว่าถ้าแก้วแตกต้องจ่ายให้เจ้าของหอ500) ไม่เป็นโมฆะแดงต้องจ่าย 500
ม.9 ต่างจาก ม.8 คือเกิดจากหลังการกระทำ เอาความเสียหายทุกกรณี ทั้งทรัพย์และร่างกาย (แดงชนดำ ดำสงสารไม่เอาความแดง เกิดข้อตกลงภายหลัง) ไม่สามารถอ้าง ม.9ได้
ความเสียหายที่คำนวณเงินได้ และ คำนวณเงินไม่ได้ 1.ความเสียหายที่คำนวณเงินได้ เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย เข้าโรงพยาบาล ค่ารักษาจากโรงพยาบาล คือสามารถคำนวณได้ 2. ความเสียหายที่คำนวณเงินไม่ได้ เช่น แผลเป็น
ความเสียหายเป็นผลจากการกระทำของผู้ทำความเสียหาย
มี 2 ทฤษฎี 1.ทฤษฎีเงื่อนไข 2.ทฤษฎีเหตุเหมาะสม 1.ทฤษฎีเงื่อนไข คือ ผู้ใดทำก็ต้องรับผิดแก่ผลที่ทำ เช่น นายแดง นายดำ ใช้ไม้มะยมตีนายเขียว นายขาวใช้ไม้หน้าสามตีผลคือนายเขียวตาย ตามทฤษฎีเงื่อนไขทุกคนต้องรับผิดฐานฆ่าคนหมดทุกคน 2.ทฤษฎีเหตุเหมาะสม คือ ดูว่าใครน้ำหนักในการกระทำผิดเยอะกว่าผู้นั้นคือคนที่ผิด เช่น นายแดง นายดำ ใช้ไม้มะยมตีนายเขียว นายขาวใช้ไม้หน้าสามตีผลคือนายเขียวตาย ตามทฤษฎีเหตุเหมาะสม นายขาวต้องรับผิดฐานฆ่าผู้อื่น นายแดงและดำรับโทษน้อยกว่า
1.ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
1.1 ความรับผิดของนายจ้าง
1.4 ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
1.3 สิทธิไล่เบี้ย
1.2 ลูกจ้างทำละเมิดในทางการที่จ้าง
มาตรา 425 นายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด ที่ลูกจ้างกระทำไปในทางการที่จ้าง (แดงซื้อทีวีกับดำ ดำจ้างเขียวให้ไปส่งทีวีแดงแต่ขี่รถโดยประมาททำให้ทีวีแตก ดำก็ต้องรับผิด) ข้าราชการไม่ใช่ลูกจ้าง
(1)การกระทำลูกจ้างเป็นการละเมิด 420 (2)ลูกจ้างทำละเมิดในขณะเป็นลูกจ้าง
(3) ลูกจ้างกระทำละเมิดในทางการที่จ้าง
มาตรา 426 นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น
❤ นายจ้างเมื่อร่วมรับผิดไปแล้วก็สามารถไล่เบี้ยเอาจากลูกจ้างได้ เพราะนายจ้างไม่ใช่ผู้กระทำผิด
❤ไล่เบี้ยค่าสินไหมทดแทน คือ ค่าเสียหายที่ฝ่ายผู้เสียเรียกร้องและศาลบังคับใช้ ดังนั้นนายจ้างได้ชดใช้ให้บุคคลภายนอกไปเท่าใด ก็มีสิทธิไล่เบี้ยกับลูกจ้างได้เท่านั้น
มาตรา 427 นำมาตรา 425 426 มาปรับใช้กับตัวการและตัวแทนด้วย
สัญญาตัวแทนตาม 797 คือ สัญญาซึ่งให้บุคคลหนึ่ง เรียกว่าตัวแทน มีอำนาจทำการแทนบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ตัวการ และตกลงทำการดังนั้น
2.ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
2.1 ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
2.2 หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
มาตรา 428 ผู้ว่างจ้างทำของไม่ต้องรับผิดจากความเสียหายจากผู้รับจ้างในระหว่างที่ว่าจ้างที่ก่อกับบุคคลภายนอก เว้นแต่ว่าผู้จ้างจะเป็นฝ่ายผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ หรือในคำสั่งที่ตนให้ไว้ หรือในการเลือกหาผู้รับจ้าง
- ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้ผิดในส่วนการงานที่ทำ
(คือ ว่าจ้างให้ผู้รับจ้างทำอะไรแล้วเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายขึ้นเพราะงานที่สั่งให้ทำ ถือว่า ผู้ว่าจ้างทำละเมิด เช่น แดงจ้างดำให้สร้างบ้านรุกล้ำเขตของเพื่อนบ้านโดยแดงรู้อยู่แล้วว่ารุกล้ำ แดงต้องรับผิดฐานละเมิด) - ในคำสั่งที่ตนให้ไว้
(แม้ในงานที่สั่งไปจะไม่เป็นละเมิดในตัวเอง แต่อาจสั่งให้ผู้รับจ้างทำโดยให้ผู้อื่นเสียหาย เช่น แนะนำช่างทำรางน้ำชายคาบ้านใกล้ชิดกับแนวเขต เวลาฝนตกน้ำจะไหลไปบ้านคนอื่น) - ในการเลือกหาผู้รับจ้าง
(คือ การจ้างคนที่ตนรู้ว่าไม่ใช่ผู้ที่มีความสามารถในการทำงานที่ตนจ้าง จนทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เว้นแต่ไม่รู้โดยสุจริต เช่น จ้างสร้างบ้านไม้แต่ไปจ้างผู้ที่ไม่มีความชำนาญมาสร้างให้เป็นผลทำให้บ้านทรุดตัวพังลงถูกทรัพย์ของคนอื่นเสียหาย)
3.ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตและความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
3.1 ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
3.2 ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
มาตรา 429 คนไร้ความสามารถ ผู้เยาว์ต้องรับผิด ในผลละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลย่อมต้องรับผิดกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ดูแลแล้ว
❗ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลตามมาตรา 429 ต้องเกิดขึ้นในขณะที่ผู้ไร้ความสามารถอยู่ในการดูแลของบิดามารดาหรือผู้อนุบาล
❗ ผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตต้องรับผิดฐานละเมิดได้ ต้องเข้าเกณฑ์ตามมาตรา 420
❗เมื่อผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริตทำละเมิดต่อคนอื่นผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาลต้องร่วมรับผิดด้วยเว้นแต่จะดูแลตามหน้าที่แล้ว ถ้าพิสูจน์ได้ก็พ้นผิด
⚠เด็กไร้เดียงสา บุคคลวิกลจริตที่ไม่รู้สำนักไม่ถือว่าจงใจหรือประมาทไม่เข้า420
มาตรา 430 ครูบาอาจาร์ย น้ายจ้าง หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลผู้ไร้ความสามารถอยู่เสมอไป ชั่วคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิดด้วย ซึ่งได้กระทำลงไปในระหว่างความดูแลของตนอยู่ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆไม่ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร
เหมือนมาตรา 429 แต่ต่างแค่ผู้ดูแล
❗เป็นผู้ดูแลบุคคลไร้ความสามารถ ดูแลประจำหรือชั่วคราวก็ได้
❗บุคคลไร้ความสามารถทำละเมิด ต้องละเมิดในขณะที่ตนดูแลอยู่
❗ผู้ดูแลไม่ได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร