Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เทคนิคการบริหารทางการพยาบาล, นางสาวสรัญญา ศรีวันดี รหัสนักศึกษา…
เทคนิคการบริหารทางการพยาบาล
การเจรจาต่อรอง (Negotiations)
เป้าหมาย
เน้นถึงผลลัพธ์และประเด็นเนื้อหา (Substance goals)
คำนึงถึงกระบวนการ (Relationship goals) ยึดมั่นในแนวทางที่กลุ่มบุคคลทำงานร่วมกันในขณะที่เจรจาต่อรอง และสัมพันธภาพที่บุคคลเหล่านั้นจะทำงานร่วมกันอีกในอนาคต
กลยุทธ์
พิจารณาเฉพาะเรื่องที่สนใจไม่ดูว่าใครแพ้ใครชนะ
มองหาทางออกอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อทุกฝ่ายก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้าย
แยกตัวบุคคลออกจากปัญหาที่ต่อรอง “ปัญหาบุคคล” ควรแยกออกจากปัญหาที่จะต่อรองกันเสียก่อน
ใช้บรรทัดฐานในการวัดผลเสมอ
หลักการเจรจาต่อรอง
เสียผลประโยชน์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ทำให้อีกทุกฝ่ายรู้สึกพึงพอใจกับผลการเจรจา
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายหลักการที่ต้องการ
เกณฑ์ในการประเมินความสำเร็จ
มีความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย ยังคงนับถือตนเอง (selfrespect) แค่ไหน
ทั้งสองฝ่ายมีความรู้สึกที่ดีต่อกันหรือไม่
มีก้าวหน้าของการเจรจาต่อรองคุ้มค่าทั้งสองฝ่ายแค่ไหน
ทั้งสองฝ่ายแครค์ วามต้องการของ
แต่ละฝ่ายในการเจรจาต่อรองหรือไม่
ทั้งสองฝ่ายได้รับวัตถุประสงค์
คส่วนใหญ่ที่ต้องการหรือไม่
แต่ละฝ่ายอยากเจรจาต่อรองกันในโอกาสหน้าหรือไม่
การตัดสินใจแก้ปัญหา (DECISION MAKING)
ความหมาย
กระบวนการในการคัดเลือกเพื่อการปฏิบัติที่ มีทางเลือก
อยู่หลายทาง และผลลัพธ์มีความแตกต่างกัน
การที่ได้ตระหนักถึงปัญหา และขั้นตอนสุดท้ายจะนำไปสู่การตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
รูปแบบการตัดสินใจ (Decision –making Model)
1. จำแนกตามแนวคิดการศึกษาพฤติกรรมองค์กร
1.1 รูปแบบการตัดสินใจแบบดั้งเดิม (Classical Decision Model)
3)การเลือกทางเลือก
4)การปฏิบัติตามแผนที่กำหนด
2) การวิเคราะห์ทางเลือก
5)การประเมินผล
1) การกำหนดปัญหา
1.2 รูปแบบการตัดสินใจเชิงพฤติกรรม (Behavioral Decision Model)
แนวคิดในการตัดสินใจของผู้ตัดสินใจรับรู้ว่าจะทำอะไรใน
สถานการณ์นั้นๆ
2. จำแนกตามแนวคิดทางการบริหาร
2.1 รูปแบบของ Vroom and Yetton
อัตตาธิปไตยสูงสุด
Autocratic (A)
AI
ผู้นำแก้ปัญหาหรือตัดสินใจด้วยตนเองโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนั้น
AII
ผู้นำได้รับข้อมูลที่จำเป็นจากผู้ใต้บังคับบัญชา และตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยตนเอง
ที่ปรึกษา
Consultative (C)
CI
ผู้นำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ามาร่วมรับรู้ปัญหาเป็นรายบุคคล เพื่อรับฟังความคิดเห็นและคำแนะนำโดยไม่สอบถามเป็นกลุ่ม จากนั้นจึงตัดสินใจ
CII
ผู้นำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมรับรู้ปัญหาเป็นกลุ่มรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแล้วจึงตัดสินใจ
ประชาธิปไตยสูงสุด Group (G)
GII
ผู้นำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมรับรู้ปัญหาเป็นกลุ่มบทบาทของผู้นำอยู่ในฐานะประธาน ที่จะไม่เข้าไปมีอิทธิพลในการตัดสินใจของกลุ่ม แต่จะเต็มใจยอมรับและดำเนินการแก้ไขปัญหาตามที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งกลุ่ม
ทฤษฎีหมวก 6 ใบ กลยุทธ์
เพื่อการตัดสินใจ
หมวกสีฟ้า
เป็นตัวแทนของการควบคุมความคิดทั้งหมดหรือมุมมองในทางกว้างที่ครอบคลุมทุกสรรพสิ่งซึ่งเปรียบเหมือนท้องฟ้า
หมวกสีเหลือง
เป็นการคิดในเชิงบวก การมองโลกในแง่ดี การมุ่งมองที่ประโยชน์ การคิดก่อที่ให้เกิดผล หรือทำในสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ การคิดแบบหมวกเหลืองเกี่ยวข้องกับการประเมินค่าทางบวก
หมวกสีแดง
เป็นตัวแทนของอารมณ์และความรู้สึกที่มีต่อเรื่องราวนั้นๆโดยไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลใดๆ
หมวกสีเขียว
ความคิดที่เกี่ยวข้องกับความคิดใหม่ๆและวิธีการใหม่ๆในการมองสิ่งต่างๆดั้งนั้นหมวกสีเขียวจึงเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง การคิดแบบหมวกเขียวเป็นการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
หมวกสีขาว
เป็นตัวแทนของข้อเท็จจริง
หมวกสีดำ
เป็นหมวกคิดที่มีเหตุผล
การจัดการเวลา
เคล็ดลับการบริการเวลา (Elsenholwer box)
2. งานที่เร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ
เป็นงานที่มีเวลาเร่งรัดให้ต้องลงมือหรือสะลางให้ลุล่วง แต่เมื่อพิจารณาความสำคัญแล้วจะจัดให้อยู่ในลำดับหนึ่งๆได้ งานประเภทนี้กำหนดเวลากำกับหรือให้ต้องลงมือโดยเร็ว ไม่อาจผัดวันประกันพรุ่งได้ (Quadrant 2)
3. งานที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน
งานประเภทนี้มักจะคิดว่าจะทำตอนไหนก็ได้ เนื่องจากเวลาที่ไม่เร่งรัดมักทำให้ไม่จริงจัง งานประเภทนี้สามารถวัดประสิทธิภาพการทำงานของคนได้ (Quadrant 3)
1. งานสำคัญและงานเร่งด่วน
งานประเภทนี้จะไม่ค่อยพบปัญหาการจัดเวลาจะเป็นตัวบังคับให้ต้องทำประเภทนี้ในอันดับแรก (Quadrant 1)
4. งานเล็ก ๆ น้อย ๆ
งานประเภทนี้ไม่ใช่งานสำคัญและเร่งด่วนทำให้บางคร่าว จะทำก่อนงานสำคัญ เพราะงานประเภทนี้จะทำหรืออยากทำเพราะให้ความเพลิดเพลิน (Quadrant4)
การจัดการความขัดแย้ง Conflict Management
ประเภทของความขัดแย้ง
ความขัดแย้งระหว่างบุคคล (Interpersonal Conflict)
เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างบุคคล 2 คนหรือมากกว่าที่จำเป็นต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกัน อาจเกิดขึ้นภายในองค์กรหรือนอกองค์กร ซึ่งมีทั้งเรื่องของการทำงานและเรื่องส่วนตัว
ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม (Intergroup Conflict)
เป็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มบุคคลทั้ง 2 กลุ่มที่มีเป้าหมายไม่ตรงกัน อาจเกิดจากกลุ่มในระดับเดียวกันหรือต่างระดับกันภายในองค์กรหรือระหว่างองค์กร
แยกเป็น 2 ประเภท
ความขัดแย้งภายในกลุ่ม (Within Group Conflict)
ความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม (Between Group Conflict)
ความขัดแย้งภายในตัวบุคคล (Intrapersonal Conflict)
เป็นความขัดแย้งภายในจิตใจของตัวเอง เมื่อเผชิญกับเป้าหมาย ค่านิยม ความเชื่อหรือความต้องการหลายๆอย่างที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน
แบบพฤติกรรมในการจัดการความขัดแย้ง 5 แบบ
1. การหลีกเลี่ยง(Avoiding)
ลักษณะแบบ "เต่า"
(ถอนตัว, หดหัว) มีลักษณะหลีกหนีความขัดแย้งยอม โดยการหลีกเลี่ยงไม่เผชิญกับคู่กรณี จะไม่ตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อแก้ปัญหา
เกิดสถานการณ์ “ไม่มีผู้ชนะ” (No-win situation)
2.Accommodation (โอนอ่อน/การปรองดอง)
ยอมสละความคิดเห็นส่วนตัวเพื่อคงสายสัมพันธ์ของทีมไว ้
ลักษณะแบบ
"ตุ๊กตาหมี"
(สัมพันธภาพราบรื่น)
เชื่อว่าความขัดแย้งหลีกเลี่ยงได้เพื่อเห็นแก่ความกลมเกลียว ยอมยกเลิกเป้าหมาย เพื่อรักษาสัมพันธภาพอันดีไว้
เกิดสถานการณ์ “แพ้ -ชนะ” (Lose-win situation)
3. การประนีประนอมหรือเจรจาต่อรอง (Compromising or negotiating)
ใช้การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน ต่างฝ่ายต่างได้บางส่วนและเสียไปบางส่วน ไม่มีฝ่ายใดได้เต็มทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างพยายามประสานผลประโยชน์กันในบางกรณี
ลักษณะแบบ "สุนัขจิ้งจอก" (ประนีประนอม,แก้ปัญหาเฉพาะหน้า)
เกิดสถานการณ์ "แพ้-แพ้, ชนะ-ชนะ"
4.การต่อสู้/การแข่งขัน (Competing)
ลักษณะแบบ "ฉลาม"
(บังคับ, ชอบใช้
กำลัง)
เป็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยใช้อำนาจตามตำแหน่ง คำนึงถึงเป้าหมายงานหรือความต้องการของตนเองมากกว่าความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
เกิดสถานการณ์ “ชนะ-แพ้” (win-lose situation)
5. การร่วมมือร่วมใจ (Collaborating)
"นกฮูก“/นกเค้าแมว ผู้เฉลียวฉลาด
(เผชิญหน้ากัน, สุขุม)
จะมองความขัดแย้งว่าเป็นปัญหาที่จะต้องแก้ไข ให้คุณค่าแก่เป้าหมายและสัมพันธภาพ สิ่งที่ต้องการคือการบรรลุเป้าหมายของตนเองและผู้อื่น
เกิดสถานการณ์ “ชนะ-ชนะ” (Win-win situation)
การบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management)
การแก้ปัญหาความขัดแย้ง
การป้องกันปัญหาความขัดแย้งในองค์การ
การกระตุ้นความขัดแย้ง
การเสริมสร้างพลังอำนาจ
กระบวนการพัฒนาและส่งเสริมความรู้ความสามารถแก่บุคคลทีไม่สามารถดูแลตนเองหรืออยู่ในภาวะไร้พลังให้เป็นผู้มีพลัง
การนำการเปลี่ยนแปลง
ความหมาย
กระบวนการการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดขึ้นมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน
รูปแบบการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงเชิงรุก (Proactive)
การเปลี่ยนแปลงเชิงรับ (Reactive)
นักวิชาการบางคนแบ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีแบบแผนและไม่มีแบบแผน
นางสาวสรัญญา ศรีวันดี
รหัสนักศึกษา 62113301077