Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
CBD Stone obstruction, ข้อมูลผู้ป่วย - Coggle Diagram
CBD Stone obstruction
สาเหตุ
มี 3 ปัจจัยหลัก คือ
- ความอิ่มตัวของน้ำดีจากองค์ประกอบในการสร้างน้ำดีไม่เหมาะสม จึงเกิดการตกตะกอน
- การบีบตัวของถุงน้ำดีไม่ดีหรือมีการอุดตันของทางเดินน้ำดี
- การติดเชื้อในทางเดินน้ำดี
-
-
1.เพศ พบว่าหญิงเกิดได้มากกว่าเพศชายประมาณ2-3เท่า
2.อายุ พบนิ่วในคนอายุมากกว่า 60 ปี ในผู้ชายพบได้ถึง60% และผู้หญิง20%
3.เชื้อชาติ พบในคนอเมริกัน และชาวยุโรป มากกว่าในอเมริกันนิโกร (African American) อาฟริการใต้ และชาวญี่ปุ่น
4.ประวัติครอบครัวที่เป็นนิ่ว
5.ภาวะอ้วน โดยเฉพาะในคนที่ลดน้ำหนักเร็วๆ หรืออดอาหารบ่อยๆ
6.กิจวัตรประจำวันที่ต้องนั่งหรือนอนมากๆและไม่ออกกำลัง
7.ในหญิงที่ตั้งครรภ์หรือมีการใช้ยาฮอร์โมน estrogen เช่น ยาคุมกำเนิด เป็นต้น
8.ปัจจัยอื่น เช่น โรคเบาหวานติดเชื้อแบคทีเรียในลำไส้บ่อยๆโรคเลือด Sickle cell disease และโรคเม็ดเลือดแดงแตกง่ายบ่อย เช่น โรคทาลัสซิเมีย หรือโรคลิ้นหัวใจรั่วตับแข็งรวมทั้งการได้รับยาบางอย่าง เช่น octreoide, estrogen, clofibrate เป็นต้น
-
-
-
-
-
-
การรักษาผู้ป่วยโดยการผ่าตัด (25/07/65)Choledochoscope c- stone extraction คือผ่าตัดส่องกล้องในท่อน้ำเพื่อเอานิ่วออกมา และExplore T-tube drainge ไว้ในท่อทางเดินน้ำดี
การรักษา
-
-
ปัญหาที่3 เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
(Urinary tract infection) เนื่องจากคาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน
-
-
-
การพยาบาล
- ดูแลความสะอาดบริเวณPerineum อยู่สม่ำเสมอโดยเฉพาะบริเวณรอบๆสายสวนปัสสาวะ(Foley catheter)
-
- สังเกตลักษณะปริมาณและสีของน้ำปัสสาวะ
- ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อยวันละ 2,000 ซีซี
- บันทึกปริมาณน้ำที่ผู้ป่วยได้รับและปริมาณน้ำปัสสาวะที่ออกทุก 8 ชั่วโมง
- ประเมินอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง
- ดูแล Foley catheter ให้อยู่ในระบบปิด
-
- ดูแลถุงรองรับน้ำปัสสาวะ (Urine bag) ให้อยู่ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะและจัดให้ Urine bag อยู่สูงกว่าระดับพื้นห้องเสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อจาก Urine bag ไหลย้อนเข้าไปในสายสวนปัสสาวะ (Ascending infection)
- ดูแลให้น้ำปัสสาวะไหลลง Urine bag ได้อย่างสะดวก ไม่คั่งค้างอยู่ตามสายสวนปัสสาวะโดยรูดสายยางบ่อยๆและดูแลไม่ให้สายสวนปัสสาวะบิดงอ หรือถูกกดทับ
- เปลี่ยน Foley catheter และ Urine bag
ทุก 2-4 สัปดาห์ หากประเมินว่าผู้ป่วยเริ่มมีอาการของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะควรเปลี่ยนสายสวนปัสสาวะและถุงปัสสาวะใหม่ทันทีและอาจต้องส่งปัสสาวะตรวจเป็นระยะๆ
- ใช้ Aseptic technique ในการเทน้ำปัสสาวะออกทุกครั้งแหละ ปิดท่อที่เทน้ำปัสสาวะออกตลอดเวลา
-
-
-
-
-
-