Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน (Peripheral Arterial Disease – PAD),…
โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน (Peripheral Arterial Disease – PAD)
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลส่วนบุคคล(Personal data)
ผู้ป่วยเพศ หญิง อายุ 56 ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ ระดับการศึกษา ประถมศึกษา สถานภาพ สมรส อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อสม รายได้ 4,000 บาท/เดือนที่อยู่ปัจจุบัน 136 หมู่ 13 ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี วันที่รับไว้ในโรงพยาบาล 22 กรกฎาคม 2565
สภาพแรกรับในปัจจุบัน
25/07/2565
หญิงไทย อายุ 56 ปี รู้สึกตัวดี พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตนเองได้ลุกเดินไม่ได้ on cannula 3 l/mim มีอาการหอบเหนื่อย สีผิวคล้ำ มีไข้ต่ำ ๆ On Heparin Look แขนข้างซ้ายและขวา ผู้ป่วยได้รับ CEFAZOLIN 1 GM ทุก6ชั่วโมงและ Heparin 10,000 unit+Nss 100 ml IV
26/07/2565
ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 56 ปี รู้สึกตัวดี พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตนเองได้ลุกเดินไม่ได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สีผิวคล้ำมีไข้ต่ำ ๆ On Heparin Look แขนข้างซ้าย off Heparin Look แขนข้างขวา ได้รับ CEFAZOLIN 1 GM ทุก6ชั่วโมงและ Heparin 10,000 unit+Nss 100 ml IV
27/07/2565
หญิงไทย อายุ 56 ปี รู้สึกตัวดี พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตนเองได้ลุกเดินไม่ได้ on cannula 4 l/mim ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สีผิวคล้ำ On Heparin Look ข้อมือข้างขวา ปวดแผลขาด้านซ้าย Pain score=5 มีไข้ต่ำ ๆ ผู้ป่วยได้รับ CEFAZOLIN 1 GM ทุก6ชั่วโมง
28/07/2565
หญิงไทย อายุ 56 ปี รู้สึกตัวดี พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตนเองได้ลุกเดินไม่ได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สีผิวคล้ำ On Heparin Look แขนข้างซ้าย ปวดแผลขาด้านซ้าย Pain score=5 ไม่มีไข้ ผู้ป่วยได้รับ CEFAZOLIN 1 GM ทุก6ชั่วโมง และ Paracetamol 1 Tab
29/07/2565
หญิงไทย อายุ 56 ปี รู้สึกตัวดี พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตนเองได้ลุกเดินไม่ได้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย สีผิวคล้ำ On Heparin Look แขนข้างซ้าย ปวดแผลขาด้านซ้าย Pain score=5 ไม่มีไข้ ผู้ป่วยได้รับ CEFAZOLIN 1 GM ทุก6ชั่วโมง
ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา
วินิฉัยแรกรับ(First Diagnosis): Acute left External Iliac Artery (EIA) with popliteal artery embolism Rutherford คือโรคหลอดเลือดแดงบริเวณ external iliac ด้านซ้าย และ หลอดเลือดแดงบริเวณเข่า (popliteal) อุดตัน
โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน (Peripheral Arterial Disease – PAD) เกิดจากการที่ตะกอนติดตามผนังด้านในเส้นเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เส้นเลือดแดงส่วนปลายที่แขนและขาตีบและอุดตัน ซึ่งความรุนแรงของโรคมีหลายระดับขึ้นอยู่กับระดับการอุดตัน
สาเหตุ มาจากการมีไขมันหรือหินปูนไปเกาะที่ผนังเส้นเลือดแดง จนเกิดการอักเสบและเกิดพังผืดเกาะสะสมบริเวณดังกล่าว จนทำให้รูของผนังเส้นเลือดแคบและตีบลง โดยกระบวนการเหล่านี้เรียกว่า Atherosclerosis เมื่อเกิดการอุดตันของเส้นเลือดแดง จะทำให้เลือดไหลผ่านได้น้อยลง และทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายของเส้นเลือดไม่เพียงพอ โรคนี้มักเกิดในผู้ป่วยสูงอายุและมีปัจจัยเสี่ยงในผู้ที่สูบบุหรี่ , ผู้ป่วยโรคเบาหวาน , โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูง
การตรวจวินิจฉัยโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน มักใช้การทำ ABI คือ วัดความดันเลือดที่แขนและขาแล้วมาเทียบกัน ปัจจุบันมีการตรวจสุขภาพหลอดเลือดด้วย Pulse Volume Recoding (PVR) ที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัย ทำให้วิเคราะห์สมรรถภาพหลอดเลือดตีบแข็งได้ชัดเจน รู้ความเสี่ยงและแนวโน้มการอุดตันของหลอดเลือดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
อาการและอาการแสดง
-อาการปวดขา
-อาการชาหรืออ่อนแรงของแขนหรือขา
-ความรู้สึกเย็นที่ขาส่วนล่าง
-แผลที่นิ้วเท้า
-การเปลี่ยนสีของขา
-การเจริญเติบโตของเส้นขนช้าลงหรือขนบริเวณเท้าและขาร่วง
-เล็บเท้าเจริญเติบโตช้าลง
-ผิวที่ขามีลักษณะมันเงา
-ชีพจรอ่อนที่ขาหรือเท้า หรืออาจตรวจไม่พบชีพจรในบริเวณขาหรือเท้าในบางกรณี
-สมรรถภาพทางเพศเสื่อมในผู้ชาย
พยาธิ
มีการเกิดพยาธิสภาพของหลอดเลือดแดงที่อุคตันเฉียบพลัน 3 ขั้นตอนดังนี้ คือ1. มีการอุดตันของหลอดเลือดแดงที่เป็นเพิ่มมากขึ้นโดยเลือดที่อยู่ในหลอดเลือดแดงมีการจับตัวกันเป็นลิ่มเลือดในหลอดเลือดแดง (hrombus) และแผ่ขยายเพิ่มมากขึ้น บริเวณที่เหนือต่อตำแหน่งที่อุดตันและใต้ต่อตำแหน่งที่อุดตัน (propagation of thrombus)2. เนื้อเยื่อ (tisue) ที่ขาดเลือด รวมถึงกล้ามเนื้อที่ขาดเลือดจะเกิดบวมน้ำ ซึ่งทำให้ความดันในช่องของชั้นกล้ามเนื้อ (compartment) สูงมากยิ่งขึ้น เกิดภาวะที่เรียกว่า compartment syndrome3. เซลล์ของหลอดเลือดขนาดเล็ก (small! vease!s) บวม ซึ่งส่งผลทำให้มีการอุดตันที่เพิ่มมากยิ่งชี้ในระดับ arterioles capillarics และ venules
พยาธิสภาพของผู้ป่วย
มีการอุดตันของหลอดเลือดบริเวณ external iliac ด้านซ้าย และ หลอดเลือดแดงบริเวณเข่า (popliteal) ไม่มีการบวมน้ำมีความดันในช่วงกล้ามเนื้อขาซ้าย
การผ่าตัด / หัตการ
Embolectomy
การกำจัดลิ่มเลือด (Emboli) ที่อยู่ในหลอดเลือด วิธีการดังกล่าวสามารถดำเนินโดยการใส่สายที่ชื่อว่า Fogarty balloon catheter โดย catheter จะมีลูกโป่งที่หุบอยู่ที่ปลาย การกำจัดก้อนเลือดหรือ Emboli ทำได้โดยเปิดหลอดเลือด (arteriotomy) หลังจากนั้นใส่สายเหล่านี้เข้าไปจนสุดเกินบริเวณก้อนเลือด หลังจากนั้นก็ใส่ลมเพื่อให้ balloon ที่ปลายของสายนั้นให้โป่งออกมา หลังจากนั้นก็ดึงสายออกมาอย่างระมัดระวังก็จะทำให้ emboli หลุดออกมาทางแผลผ่าเปิดเส้นเลือดแดง (arteriotomy)
Angioplasty
คือเป็นการรักษาการตีบของหลอดเลือดโดยใช้ balloon ไปถ่างขยายหลอดเลือด เช่น ถ้ามีการอุดตันที่ superficial femoral artery รังสีแพทย์ก็จะใส่สายเข้าไปในหลอดเลือดนี้ โดยเอาส่วนที่มีลูกโป่งไปอยู่ระหว่างบริเวณหลอดเลือดที่มีการตีบตัน ภายใต้การเห็นด้วยเครื่อง fluoroscopy หลังจากรังสีแพทย์ใส่อากาศเข้าไปใน balloon แล้ว balloon ก็จะทำหน้าที่ถ่างขยายยืดหลอดเลือดที่อุดตันให้เปิ ดจากนั้นจึงใช้วาง stent คาไว้เพื่อขยายเส้นเลือดที่ตีบ ข้อจำกัดของ Angioplasty คือมักจะได้ผลในหลอดเลือดใหญ่ เช่น aorta หรือ iliac artery แต่มักจะไม่ได้ผลในกรณีเส้นเลือดขนาดเล็ก เช่น anterior tibial artery หรือ posterior tibial artery และ ยังทำได้เฉพาะในกรณีของหลอดเลือดตีบแต่ไม่ตัน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นว่าเทคนิคดังกล่าวจะต้องสอดสายลูกโป่งเข้าไปคร่อมจุดที่ตีบ ดังนั้น ถ้าหลอดเลือดตัน สายเหล่านี้ก็ไม่สามารถผ่านไปคร่อมจุดตีบได้
Fascitomy
คือ การผ่าตัดระบายความดันในช่องระหว่างกล้ามเนื้อ
การรักษาคือ การผ่าตัดเปิดผิวหนังและเนื้อเยื่อที่หุ้มกล้ามเนื้อบริเวณแขน หรือขาที่สงสัยว่ามีความดัน ในช่อง
ระหว่างกล้ามเนื้อสูงขึ้น
วิธีการใช้ยาระงับความรู้สึก คือ การดมยาสลบ ซึ่งจะได้รับการดูแลจากวิสัญญีแพทย์
ข้อดีเมื่อใช้วิธีนี้ คือ เพื่อระบายความดันในช่องระหว่างกล้ามเนื้อ ซึ่งจะลดภาวะแทรกซ้อนอื่นที่จะเกิดขึ้น ตามมาได้ได้แก่ เส้นประสาทถูกกด, กล้ามเนื้อขาดเลือด, ไตวายจากของเสียที่เกิดจากกล้ามเนื้อตาย
ข้อเสียเมื่อใช้วิธีนี้ คือ อาจมีบาดแผลผ่าตัดติดเชื้อได้
ผลการรักษา ส่วนใหญ่จะสามารถเย็บปิดผิวหนังเข้าหากันได้ หากไม่สามารถเย็บปิดผิวหนังเข้าหากันได้ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริม หรือใช้ผิวหนังส่วนอื่นมาปิดในภายหลังเมื่อกล้ามเนื้อยุบบวมแล้ว
ยาที่ผู้ป่วยได้รับ
CEFAZOLIN 1 GM ทุก 6 hr.
กลุ่มยา :First generation Cephalosporins
สรรพคุณ: รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
อาการข้างเคียง: ลมพิษ ผื่น คัน บวม แดง มีตุ่มพุพอง ผิวลอก ซึ่งอาจเกิดพร้อมกับมีไข้หรือไม่มีไข้ หายใจเสียงดัง แน่นหน้าอกหรือลำคอ มีปัญหาในการหายใจหรือการพูด เสียงแหบ หน้าบวม ปากบวม ริมฝีปากบวม หรือคอบวมหายใจ กลืนอาหารลำบาก
Paracetamol 1 Tab
อาการข้างเคียง: อุจจาระเป็นเลือด หรือมีสีดำ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะน้อยลงอย่างไม่มีสาเหตุ มีอาการไข้ หนาวสั่น มีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามผิวหนัง
สรรพคุณ: ลดอาการปวดที่ไม่รุนแรงและลดไข้
กลุ่มยา : analgesics
Heparin 10,000 unit + Nss 100 ml IV rate 9 cc/hr
สรรพคุณ: ป้องกันภาวะหลอดเลือดอุดตันหลังจากการผ่าตัด
อาการข้างเคียง: -บริเวณที่ฉีดยามีอาการปวด รู้สึกอุ่น ผิวหนังแดงหรือมีสีเปลี่ยนไปจากเดิม
-เลือดออกง่ายผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล เกิดจ้ำเลือดตามร่างกาย
เป็นต้น
-ผิวหนังมีรอยช้ำ
-มีอาการคันเล็กน้อยที่เท้า
กลุ่มยา : Glycosaminoglycans
ผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการ
CH
24 กรกฎาคม 2565
Creatinine=0.48ต่ำ mg/dL
CKD stage=1สูง
Total CO2=34 mmol/L
PT/PTT
26 กรกฎาคม 2565
PT=42.8 second สูง
INR=4.04 สูง
APTT=54.1 secondสูง
APTT ratio=2.18สูง
CBC
22 กรกฎาคม 2565
WBC = 21.42 K/uL สูง
HGB=9.3 g/dL ต่ำ
HCT=28.1 %ต่ำ
MCV=60.8 fL ต่ำ
MCH=20.1 pg ต่ำ
RDW=17 %สูง
Neutrophil=80.3 %Nสูง
Lymphocyte=15.3 %Lต่ำ
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพของผู้รับบริการ
อาการสำคัญที่มาโรงพยาบาล(Chief complaint) มึนชา เท้าซ้าย 12 ชั่วโมงก่อนญาตินำส่งโรงพยาบาลประวัติการเจ็บป่วยในปัจจุบัน (Present illness) 22.00น.ให้ประวัติว่าผู้ป่วยบอกญาติว่าปวดมึนเท้าข้างซ้าย ซึมลง ถามตอบเป็นไม่ค่อยรู้เรื่องญาติเรียกกู้ชีพ นำส่ง โรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บป่วยในอดีต (Past history)โลหิตจาง (Anemia)เป็นมาแล้ว 56ปี+
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว (Family history) ผู้ป่วยมีพี่น้องทั้งหมด 4คน ผู้ป่วยเป็นบุตรคนที่ 2 น้องสาวหนึ่งคนเป็นโรคเลือดจาง(Anemia) บิดามารดาไม่มีโรคประจำตัว
ข้อวินิฉัยทางการพยาบาล
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่2 ผู้ป่วยปวดเนื่องจากมีแผลผ่าตัดบริเวณขาหนีบและขาด้านซ้าย
ข้อมูลสนับสนุน
Subjective data: ผู้ป่วยบอกว่าปวดขณะทำแผล
Objective data:ผู้ป่วยแสดงสีหน้าไม่สุขสบายคิ้วขมวดPian score =5
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการปวดแผลทุก 4-6 ชั่วโมง โดยประเมิน Pain Score เป็นNumerical rating Score (การใช้ ตัวเลขมาช่วยบอกระดับความรุนแรง ของอาการปวดใช้ ตัวเลขตั้งแต่ 0 – 10 อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจก่อนว่า 0 หมายถึง ไม่มีอาการปวด และ 10 หมายถึงอาการ ปวดมากที่สุดให้ผู้ป่วยบอกถึงตัวเลขที่ แสดงถึงความปวดทีผู้ป่วยมี ณ ขณะนั้น ที่สุด สังเกตสีหน้าของผู้ป่วย
แนะนำเทคนิคการหายใจบรรเทาปวด โดย การหายใจเข้าออกยาวๆ ลึกๆ ทาง ปาก
3.สอนและช่วยผู้ป่วยและญาติประคองแผลด้วย มือและหมอนขณะที่ผู้ป่วยพลิกตะแคง ตัว เช่นใช้มือประคองบริเวณขาหรือใช้ หมอนประคองขณะพลิกตัวและ เคลื่อนไหวร่างกาย
4.แนะนำการเคลื่อนไหวของร่างกายให้ ถูกต้องเพื่อลดอาการปวด เช่น จัดท่า นอนให้สุขสบาย คือ ท่านอนหงายศีรษะ สูง (High-Fowler Position) 60-90 องศา และส่งเสริมให้ร่างกายมีเกิดการ เคลื่อนไหวมากขึ้น เพื่อลดอาการเกิดข้อ ติดให้น้อยลง
5.พูดคุยและสัมผัสอย่างอ่อนโยนให้การ พยาบาลด้วยท่าทีนุ่มนวล ความสนใจ ไม่ทาให้ผู้ป่วยรู้สึกปวดเพิ่ม
6.ดูแลให้ยาตามแผนการรักษาบรรเทา อาการปวดตามแผนการรักษาของแพทย์
เกณฑ์การประเมิน
-ผู้ปวดมีสีหน้าที่ไม่บ่งบอกถึงอาการปวดเช่น คิ้วขมวด
Pian score <3
ประเมินผล
27/07/2565
ผู้ป่วยแสดงสีหน้าไม่สุขสบายคิ้วขมวด
Pian score =5
28/07/2565
ผู้ป่วยแสดงสีหน้าไม่สุขสบายคิ้วขมวด
Pian score =5
29/07/2565
-ผู้ป่วยแสดงสีหน้าไม่สุขสบายคิ้วขมวด
-Pian score =5
วัตถุประสงค์
เพื่อบรรเทาอาการปวด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่5 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน(แผลกดทับ ข้อติดแข็ง ท้องผูก) เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้จากการเป็นอัมพาต (CVA)
ข้อมูลสนับสนุน
Subjective data: ญาติบอกว่า ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลเมื่อหนึ่งเดือนก่อนก็ไม่สามารถพูดและเดินได้เลย
Objective data
แขนขาอ่อนแรง
เคลื่อนไหวร่างกายเองไม่ได้ ผิวหนังบริเวณก้นกบเริ่มมีรอยแดง
ควบคุมการขับถ่ายอุจจาระปัสสาวะไม่ได้
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสภาพผิวหนัง โดยการสังเกตว่ามีรอยแดงหรือรอยกดทับหรือไม่โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณที่มีปุ่มกระดูกต่างๆ
แนะนำญาติให้ช่วยเหลือ
ผู้ป่วยในการพลิกตะแคงตัวอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง การเลื่อนตัวผู้ป่วยขึ้นหัวเตียง การพลิกตะแคงตัวผู้ป่วยควรทำด้วยความนุ่มนวลไม่ควรให้ผิวหนังถูเสียดสีกับที่นอนเพราะจะทำให้เกิดแผลถลอกได้ง่าย
สอนญาติให้นวดหลังและ
ผิวหนังบริเวณที่มีปุ่มกระดูก เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ถ้าผิวหนังแห้งให้ทาน้ำมันหรือโลชั่นช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นขึ้น
4.ดูแลผ้าปูที่นอนให้สะอาด
แห้ง และเรียบตึงอยู่เสมออาจเสริมที่นอนฟองน้ำหรือที่นอนลม (Alpha-bed) ให้ผู้ป่วยเพื่อช่วยกระจายแรงกดทับไม่ให้กดผิวหนัง
บริเวณหนึ่งบริเวณใดมากเกินไป
5.ดูแลการขับถ่ายไม่ให้ผู้ป่วยนอนแช่อุจจาระปัสสาวะ สังเกตการขับถ่ายอุจจาระของผู้ป่วยถ้าไม่ถ่ายอาจต้องช่วยล้วงอุจจาระออก หรือรายงานแพทย์
แพทย์อาจให้ยาระบายหรือสวนอุจจาระ
6.แนะนำให้ญาติเตรียมอาหารที่มีกากใยเพิ่มขึ้นมาให้ผู้ป่วย เช่น ข้าว ซ้อมมือ ผัก ผลไม้ และให้ผู้ป่วยได้
รับน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
สอนญาติให้ช่วยบริหาร
ข้อต่างๆ ตามหลักของ ROM.(Range of motion) และทำ Passive exercise
ดูแลส่วนต่างๆ ของร่างกายให้อยู่ในท่าที่ถูกต้องโดยใช้เครื่องช่วย เช่น หมอนทราย เพื่อป้องกันข้อสะโพกบิดออกด้านนอก การใช้ foot board ป้องกันปลายเท้าตก (foot drop)
เกณฑ์การประเมิน
ผิวหนังไม่มีรอยแดง
ไม่เกิดการฉีกขาดของผิวหนังหรือแผลถลอกผิวหนังชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่นดีข้อต่างๆ ไม่เกิดการ
ติดยึดสามารถเคลื่อนไหวได้ตามขอบเขตการเคลื่อนไหวของแขนขา(ROM)ขับถ่ายอุจจาระได้
ไม่เกิน 2-3 วันต่อครั้งลักษณะอุจจาระไม่แห้งแข็ง
ประเมินผล
27/07/2565ผิวหนังผู้ป่วยมีความชุ่มชื้น ไม่แตกแห้งข้อต่อต่างๆ ยังไม่เกิดการยึดติดผู้ป่วยถ่ายอุจจาระได้เอง ไม่ต้องล้วง
หรือสวนอุจจาระให้
-ไม่มีหอบ เหนื่อย จมูกบานผิวหนังผู้ป่วยมีความชุ่มชื้น ไม่แตกแห้งข้อต่อต่างๆ ยังไม่เกิดการยึดติดผู้ป่วยถ่ายอุจจาระได้เอง
28/07/2565 ผิวหนังผู้ป่วยมีความชุ่มชื้น ไม่แตกแห้งข้อต่อต่างๆ ยังไม่เกิดการยึดติดผู้ป่วยถ่ายอุจจาระได้เอง ไม่ต้องล้วง
หรือสวนอุจจาระให้ไม่มีหอบ เหนื่อย จมูกบานผิวหนังผู้ป่วยมีความชุ่มชื้น ไม่แตกแห้งข้อต่อต่างๆ ยังไม่เกิดการยึดติดผู้ป่วยถ่ายอุจจาระได้เอง
29/072565 ผิวหนังผู้ป่วยมีความชุ่มชื้น ไม่แตกแห้งข้อต่อต่างๆ ยังไม่เกิดการยึดติดผู้ป่วยถ่ายอุจจาระได้เอง ไม่ต้องล้วง
หรือสวนอุจจาระให้ไม่มีหอบ เหนื่อย จมูกบานผิวหนังผู้ป่วยมีความชุ่มชื้น ไม่แตกแห้งข้อต่อต่างๆ ยังไม่เกิดการยึดติดผู้ป่วยถ่ายอุจจาระได้เอง
วัตถุประสงค์
ไม่เกิดแผลกดทับ ไม่เกิดข้อติดแข็ง ท้องไม่ผูก
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่3 มีภาวะ Deep VeinThrombosis เนื่องจากความสามารถในการเคลื่อนไหวลดลง
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินอาการแสดง
ของภาวะหลอดเลือดดำอุดกั้นเช่น ขาบวม อุณหภูมิและสีผิวส่วนปลายเย็น
2.แนะนำกับผู้ป่วยให้ออกกำลังข้อเท้าโดยวิธีกระดกข้อเท้าทั้งสองข้างขึ้นลง(Footankleexercise,ankle
pump) ทำซ้ำบ่อยๆเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
3.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการใช้เครื่องนวดบีบไล่เลือดเป็นจังหวะ(Sequential Compression Device) เพื่อป้องกันการเกิดหลอดเลือดดำอุดกั้น
4.กระตุ้นให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ป้องกันการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
5.สังเกตติดตามประเมินอาการและอาการแสดง
ของภาวะหลอดเลือดดำอุดกั้นเช่น ขาบวม อุณหภูมิและสีผิวส่วนปลายเย็นซีดร่วมกับอาการปวดน่องเวลากระดกปลายเท้าถ้าพบให้รีบรายงานแพทย์
ประเมินผล
28/07/2565ไม่มีอาการขาบวม อุณหภูมิและสีผิวส่วนปลายไม่เย็นซีด
ข้อมูลสนับสนุน
Objective data:
-มีข้อจำกัดการเคลื่อนไหวให้นอนปรับศีรษะสูงไม่เกิน 30 องศา
-ใช้เวลาผ่าตัด 2ชั่วโมง 40 นาที
เกณฑ์การประเมิน
ไม่มีอาการแสดง
ของภาวะหลอดเลือดดำอุดกั้นเช่น ขาบวม อุณหภูมิและสีผิวส่วนปลายเย็น
วัตถุประสงค์
ไม่เกิดภาวะ Deep VeinThrombosis
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่4 ผู้ป่วยมีภาวะซีดเนื่องจากตัวนำออกซิเจนลดลง
ข้อมูลสนับสนุน
Subjective data: คนไข้พยักหน้าเมื่อถามว่า หายใจเหนื่อยไหมคะ
Objective data:
ลักษณะการหายใจ หายใจปกติ หายใจสะดวกไม่ต้องใช้แรง ไม่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องช่วยon oxygen cannula 3 L/minRR=20 ครั้ง/นาที
นอนศีรษะสูง 45 องศา
กิจกรรมการพยาบาล
1.บันทึกและประเมินสัญญาณชีพ โดยเฉพาะอัตราการ หายใจอยู่ในช่วง 16-24 ครั้ง/นาที ลักษณะการหายใจ ปกติ ไม่มีอาการหายใจเร็ว แรง หรือปีกจมูกบาน เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของอาการผิดปกติ
2.ดูแลและประเมินค่า O2 Saturation เนื่องจากเป็นการวัด ระดับความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด
3.ประเมินอาการแสดงของภาวะซีด คือ ดูสีของผิวหนัง ซีดเหลือง เพื่อประเมินอาการผิดปกติ
4.ประเมินระบบไหลเวียนของเส้นโลหิตฝอย ที่บริเวณ ปลายมือปลายเท้า โดยใช้นิ้วกดบริเวณปลายนิ้วมือ/นิ้ว เท้าแล้วปล่อยทันที ถ้าระบบไหลเวียนไม่ดี บริเวณปลายนิ้วมือนิ้วเท้าที่ถูกกดจะยังคง ชาวอยู่เป็นเวลานานกว่า2วินาที
จัดท่านอนศีรษะสูง 30 องศา เพื่อให้กระบังลมหย่อนตัวปอดขยายตัวได้เต็มที่ส่งเสริมการระบายอากาศ
6.กระตุ้นให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหายใจเข้าทางจมูกช้า ๆ จนหน้าท้องตึงและหายใจออกทางปากขณะกล้ามเนื้อหน้าท้องหดตัว โดยแนะนำให้ผู้ป่วยทำแบบนี้ซ้ำทุกชั่วโมง
7.ดูแลให้ผู้ป่วยทํากิจกรรมและพักผ่อนบนเตียง เพราะจะช่วย ลดอาการเหนื่อย และลดการใช้ออกซิเจนในการทำกิจกรรม
8..ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยเฉพาะ ค่า Hb และ Hct. เพราะเป็นค่าที่แสดงถึงความเข้มข้นของเลือดในร่างกาย
9.ดูแลให้ได้รับ O2 Cannula 3 L/min
10.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาตามแผนการรักษา
เกณฑ์การประเมิน
อัตราการหายใจอยู่ในช่วง 16-20ครั้ง/นาที ลักษณะการหายใจปกติ ไม่มีอาการหายใจเร็ว แรง หรือปีกจมูกบานค่า Hb อยู่ในระดับปกติ (ค่าปกติ 12-16g/dL)O2 sat มากกว่าหรือเท่ากับ 95%
ประเมินผล
25/07/2565ไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจนRR=20 ครั้ง/นาที26/07/2565
ไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจน หายใจไม่หอบเหนื่อยไม่มีอาการหายใจเร็วRR=20 ครั้ง/นาที
-off oxygen cannula
27/07/2565ไม่มีหอบ เหนื่อย จมูกบานon oxygen cannula 4 L/min
28/07/2565-ไม่มีหอบ เหนื่อย จมูกบาน
29/07/2565-ไม่มีหอบ เหนื่อย จมูกบาน
วัตถุประสงค์
ไม่เกิดภาวะพร่องออกซิเจน
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่1
วัตถุประสงค์
: เพื่อไม่เกิดอันตรายจากภาวะเลือดออกหยุดยาก
ข้อมูลสนับสนุน
Subjective data:ญาติบอกว่า “ผู้ป่วยเคยเส้นเลือดในสมองแตกและเป็นโลหิตจาง”
Objective data:
ได้รับยา Heparin
INR= 4.04
PT= 42.8 second
BP=122/80 mm.Hg
P=61ครั้ง/นาที
เกณฑ์การประเมิน
มีระดับ INR , PT ปกติ
ไม่มีอาการ และอาการ
แสดงของภาวะเลือดออกทั้งภายในและภายนอกร่างกาย
-สัญญาณชีพปกติโดยเฉพาะ
P อยู่ระหว่าง 60-100 ครั้ง/นาที
BP ไม่ต่ำกว่า 85/60 mm.Hg.
-ไม่เกิดอุบัติเหตุ
กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินสภาพผิวหนัง ว่ามีจ้ำเลือด petichiae หรือไม่ประเมินสภาพผิวหนัง
หลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ หรือเจาะเลือด ถ้าจำเป็นต้องกดบริเวณที่เจาะเลือดจนแน่ใจว่าเลือดหยุดไหลแล้ว
3.สังเกตเลือดออก ซึ่งอาจจะออกจากบาดแผล drainอุจจาระดำ หรือเป็นเลือดสด
4.ประเมินสัญญาณชีพ ทุก4 ชม.
6.ติดตามผล INR PT PTT ตามแผนการรักษา
7.ป้องกันการเกิดอุบติเหตุเช่นนำไม้กั้นเตียงขึ้นเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยพลัดตก
ประเมินผล
25/07/2565-29/04/2565
-ไม่มีรอยจ้ำเลือดหรือpetichiae
หลังการเจาะเลือด ฉีดยา ได้กดบริเวณนั้นนาน และ
ไม่มีอาการเลือดออกdrain
สัญญาณชีพปกติ
-ไม่เกิดอุบัติเหตุ
ไม่มีเลือดออกจากแผล หรือdrain
-สัญญาณชีพปกติ
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาลที่6 ผู้ป่วยไม่สามารถสื่อสารได้ตามปกติเนื่องจากมีพยาธิสภาพของสมองส่วนควบคุมการพูด
ข้อมูลสนับสนุน
Subjective data: ญาติบอกว่า ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลเมื่อหนึ่งเดือนก่อนก็ไม่สามารถพูดและเดินได้เลย
Objective data: - ผู้ป่วยต้อบโต้ด้วยคำสั้นๆบางครั้ง
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินสภาพผิวหนัง โดยการสังเกตว่ามีรอยแดงหรือรอยกดทับหรือไม่โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณที่มีปุ่มกระดูกต่างๆ
แนะนำญาติให้ช่วยเหลือ
ผู้ป่วยในการพลิกตะแคงตัวอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง การเลื่อนตัวผู้ป่วยขึ้นหัวเตียง การพลิกตะแคงตัวผู้ป่วยควรทำด้วยความนุ่มนวลไม่ควรให้ผิวหนังถูเสียดสีกับที่นอนเพราะจะทำให้เกิดแผลถลอกได้ง่าย
สอนญาติให้นวดหลังและ
ผิวหนังบริเวณที่มีปุ่มกระดูก เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ถ้าผิวหนังแห้งให้ทาน้ำมันหรือโลชั่นช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นขึ้น
4.ดูแลผ้าปูที่นอนให้สะอาด
แห้ง และเรียบตึงอยู่เสมออาจเสริมที่นอนฟองน้ำหรือที่นอนลม (Alpha-bed) ให้ผู้ป่วยเพื่อช่วยกระจายแรงกดทับไม่ให้กดผิวหนังบริเวณหนึ่งบริเวณใดมากเกินไป
5.ดูแลการขับถ่ายไม่ให้ผู้ป่วยนอนแช่อุจจาระปัสสาวะ สังเกตการขับถ่ายอุจจาระของผู้ป่วยถ้าไม่ถ่ายอาจต้องช่วยล้วงอุจจาระออก หรือรายงานแพทย์แพทย์อาจให้ยาระบายหรือสวนอุจจาระ
6.แนะนำให้ญาติเตรียมอาหารที่มีกากใยเพิ่มขึ้นมาให้ผู้ป่วย เช่น ข้าว ซ้อมมือ ผัก ผลไม้ และให้ผู้ป่วยได้
รับน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
สอนญาติให้ช่วยบริหาร
ข้อต่างๆ ตามหลักของ ROM.(Range of motion) และทำ Passive exercise
ดูแลส่วนต่างๆ ของร่างกายให้อยู่ในท่าที่ถูกต้องโดยใช้เครื่องช่วย เช่น หมอนทราย เพื่อป้องกันข้อสะโพกบิดออกด้านนอก การใช้ foot board ป้องกันปลายเท้าตก (foot drop)
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยสามารถสื่อสารบอกความต้องการของตนเองกับผู้อื่นได้ผู้ป่วยเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดและปฏิบัติตามได้
ประเมินผล
27/07/2565-ผู้ป่วยสามารถพูดได้เป็นคำ
-พยาบาลและผู้อื่นสามารถเข้าใจความต้องการของ
ผู้ป่วย และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยได้ถูกต้อง
28/07/2565
-ผู้ป่วยสามารถพูดได้เป็นคำ
-พยาบาลและผู้อื่นสามารถเข้าใจความต้องการของ
ผู้ป่วย
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยสามารถสื่อสารให้
ผู้อื่นเข้าใจได้มากขึ้น
D-METHOD
H Health
ส่งเสริมการออกกำลังกาย
โดยการกระดกข้อเท้าและข้อมือบ่อยๆ
ให้ความรักและความอบอุ่น
หมั่นพูดคุย ใกล้ชิด ให้ความรัก ความอบอุ่น สร้างเสียงหัวเราะ รวมถึงหาเวลาว่างท ากิจกรรมร่วมกันในครอบครัว เช่น รับประทานอาหาร ท าบุญ ท่องเที่ยวช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกอุ่นใจ รู้สึกว่าตนเองยังมีคุณค่าและมีความสำคัญ
ส่งเสริมความมีคุณค่าในตนเอง
ช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกภาคภูมิใจและมีความเชื่อมั่นในตนเอง โดยอาจปล่อยผู้สูงอายุพยายามช่วยเหลือตนเองในเรื่องง่าย ๆ
ฝึกระบบความคิด
ส่งเสริมความสามารถของผู้สูงอายุด้านความจำ การฝึก การวางแผน และการแก้ไขปัญหาเพื่อชะลอความเสื่อมของสมองในด้านต่าง ๆเช่น ฝึกการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ลองทำกิจกรรมด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด หรือทำกิจกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำ
ส่งเสริมการเข้าสังคม
ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ หรือกลุ่มวัยอื่น ๆ เพื่อพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รู้สึกผ่อนคลายลดปัญหาการเก็บตัวหรือปลีกวิเวกจากสังคม
ผ่อนคลาย
ฝึกสมอง
เล่นเกมที่ช่วยฝึกฝนด้านความจ าหรือฝึกสมองได้เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหา การจัดล าดับความคิด เช่น หมากรุก อักษรไขว้ ต่อคำ คิดเลข หรือการจดจำข้อมูลต่าง ๆ เช่น วัน เวลา สถานที่ บุคคล หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น
เป็นที่ปรึกษา
สังเกตปัญหาและรับฟังความต้องการของผู้สูงอายุ หมั่นสอบถามสารทุกข์สุขดิบเสมอ แสดงความเห็นใจ เข้าใจ รับฟัง และให้ผู้สูงอายุได้ระบายความรู้สึกร่วมกันหาแนวทางในการปรับตัวกับปัญหา
E Environment /Environment
-บริเวณที่อยู่อาศัยควรมีแสงสว่างที่เพียงพอต่อการมองเห็น
-เตียงนอนควรมีลักษณะที่นุ่มและมีที่กั้นเตียงเพื่อป้องกันการพลัดตก
-มีอากาศถ่ายเท
-ควรมีผู้ดูแลตลอดเวลา
O Out patient
แนะนำให้ผู้ป่วยไปล้างแผลที่สถานที่พยาบาลใกล้บ้าน จนแผลแห้งดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ตามการรักษาของแพทย์ หากพบอาการแทรกซ้อนหรือผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ทันที และเมื่อเจ็บป่วยฉุกเฉินควรให้ญาตินำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือโทรเรียกรถพยาบาล 1669
M Medicine
1.Heparin(เฮพาริน)
สรรพคุณ:ป้องกันภาวะหลอดเลือดดำอุดตันหลังจากการผ่าตัด
ขนาดที่ได้รับ: 10,000 Unit + Nss 100 ml IV rate 9 cc/hr
อาการข้างเคียง-บริเวณที่ฉีดยามีอาการปวด รู้สึกอุ่น ผิวหนังแดงหรือมีสีเปลี่ยนไปจากเดิม-เลือดออกง่ายผิดปกติ เช่น เลือดกำเดาไหล เกิดจ้ำเลือดตามร่างกาย เป็นต้น-ผิวหนังมีรอยช้ำ
-มีอาการคันเล็กน้อยที่เท้า
CEFAZOLIN
สรรพคุณ:รักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ขนาดที่ได้รับ : 1 GM ทุก 6 hr.
อาการข้างเคียง: ลมพิษ ผื่น คัน บวม แดง มีตุ่มพุพอง ผิวลอก ซึ่งอาจเกิดพร้อมกับมีไข้หรือไม่มีไข้ หายใจเสียงดัง แน่นหน้าอกหรือลำคอ มีปัญหาในการหายใจหรือการพูด เสียงแหบ หน้าบวม ปากบวม ริมฝีปากบวม หรือคอบวมหายใจ กลืนอาหารลำบาก
Paracetamol
ขนาดที่ได้รับ: 1 Tab
อาการข้างเคียง: อุจจาระเป็นเลือด หรือมีสีดำ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะน้อยลงอย่างไม่มีสาเหตุ มีอาการไข้ หนาวสั่น มีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามผิวหนัง
D Diet
1.ควรเป็นอาหารอ่อนย่อยง่าย หลีกเลี่ยง อาหารไขมัน และกากใยสูงเพื่อป้องกันการเกิดท้องผูก 2. ควรรับประทานให้ครบ5หมู่
D Diagnosis
สาเหตุโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน เกิดจากการที่ตะกอนติดตามผนังด้านในเส้นเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เส้นเลือดแดงส่วนปลายที่แขนและขาตีบและอุดตัน ซึ่งความรุนแรงของโรคมีหลายระดับขึ้นอยู่กับระดับการอุดตัน
อาการและอาการแสดง
-อาการปวดขา
-อาการชาหรืออ่อนแรงของแขนหรือขา
-ความรู้สึกเย็นที่ขาส่วนล่าง
-แผลที่นิ้วเท้า
-การเปลี่ยนสีของขา
-การเจริญเติบโตของเส้นขนช้าลงหรือขนบริเวณเท้าและขาร่วง
-เล็บเท้าเจริญเติบโตช้าลง
-ผิวที่ขามีลักษณะมันเงา
-ชีพจรอ่อนที่ขาหรือเท้า หรืออาจตรวจไม่พบชีพจรในบริเวณขาหรือเท้าในบางกรณี
T Treatment
แนะนำ ให้ผู้ป่วยสังเกตลักษณะของแผลที่ผ่าตัด บวม แดง หรือมีแผลแยก ปวดมากขึ้น และไม่ให้แผลโดนน้ำ ถ้ามีอาการเหล่านี้ผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์ทันที