Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

เคสกรณีศึกษา - Coggle Diagram

- - - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        ประเมินความเจ็บปวดของผู้คลอด ลักษณะความรุนแรงของความเจ็บปวดเพื่อให้การช่วยเหลือได้ถูกต้อง
        
        จัดท่านอนผู้คลอดให้อยู่ในท่าตะแคงซ้าย เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงมดลูกได้ดี
        
        5.ดูแลเกี่ยวกับความสุขสบายทั่วไป โดยการทำความสะอาดร่างกาย การจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ อุณหภูมิพอเหมาะ และมีการถ่ายเทอากาศที่ดี
        
        6.แนะนำในการเผชิญกับการเจ็บครรภ์คลอด โดยการกำหนดสติอยู่ที่ลมหายใจ (Mindfulness) ดูแลให้ทำอย่างถูกวิธีทุกครั้งขณะที่มดลูกหดรัดตัวและคลายตัว
        
        7.กระตุ้นผิวหนังโดยการนวด การลูบ การคลึงเบา ๆ บริเวณที่มีความเจ็บปวด คือบริเวณ กลางกระดูกก้น หลัง ต้นขา และหน้าท้อง
        
        อธิบายหรือทบทวนให้ผู้คลอดเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการคลอดรวมทั้งแผนการรักษา และการพยาบาล เพื่อให้เกิดการรับรู้ที่ถูกต้อง
        
        ประคับประคองด้านจิตใจโดยอยู่ใกล้ชิดและให้กำลังใจแก่ผู้คลอดด้วยการพูดปลอบโยน แสดงความเห็นใจในความเจ็บปวดที่เผชิญอยู่
- - - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินอาการและอาการแสดงของภาวะfetal distres เช่น อัตราการเต้นของหัวใจทารกช้ากว่า 110 bpm. หรือมากกว่า 160 bpm,น้ำคร่ำมีขี้เทาปน,มี contraction : I<2’,D>60”
        
        2.ประเมินสภาพทารกในครรภ์โดยการฟังเสียง FHS น้อยกว่า 110 ครั้ง/นาที หรือมากกว่า 160 ครั้ง/นาที ดูแลให้หญิงตั้งครรภ์นอนตะแคงซ้าย เพื่อประเมินสภาวะของทารกในครรภ์และฟังเสียงหัวใจของทารกในครรภ์
        
        3.ประเมิน Contraction ทุก 1 ชั่วโมง เพื่อประเมินความก้าวหน้าของการคลอด
        
        4.ประเมินการดิ้นของทารกโดยการนับการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ แบบModified cardiff “count to ten” ถ้าภายใน 4 ชั่วโมงนี้นับได้ไม่ถึง 10 ครั้ง ให้รีบแจ้งพยาบาล เพื่อประเมินการมีชีวิตของทารกในครรภ์
        
        5.Monitor EFM เป็นระยะ เป็นเวลานาน 20 นาทีและอ่านกราฟ
        
        สังเกต FHS ต้องเป็น Moderate variability หากเป็น Minimal ให้กระตุ้นทารก
        
        สังเกต FHS ว่ามี Acceleration หรือไม่ คือFHSเพิ่มขึ้นจาก baseline 15 bpm นาน 15 sec - 2min แสดงว่าทารกได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
        
        สังเกตความผิดปกติของ EFM ดังนี้
        
        -สังเกต FHS ร่วมกับ UC ว่ามี Deceleration หรือไม่ ดังนี้
        
        Early deceleration คือ FHS ลดลงเมื่อมี UC 15bpm นาน 15 sec - 2 min และกลับสู่ baselineเมื่อคลายตัว เป็นภาวะปกติ
        
        Late deceleration คือ FHS ลดลงภายหลัง UC สูงสุดและกลับสู่ baseline หลังคลายตัวไปแล้วบ่งบอกถึงภาวะ Fetal distress
        
        Variable deceleration คือ FHS ลดลงต่ำกว่าbaseline มากกว่า 15 bpm แต่น้อยกว่า 2 นาที ไม่สัมพันธ์กับ UC อาจแสดงถึงภาวะสายสะดือถูกกด หากพบความผิดปกติให้ทำ Intrauterine resuscitation (IUR)
        
        รายงานแพทย์
        
        ให้หญิงตั้งครรภ์นอนตะแคงซ้าย เพื่อให้เลือดไหลเวียนสู่ทารกได้ดีขึ้น
        
        ดูแลให้ได้รับ Oxygen mask with bag 10 LPM เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่ทารกในครรภ์
        
        ดูแลมารดาให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำ เพื่อเพิ่ม plasma ในเลือดให้เลือดไหลเวียนเลี้ยงทารกในครรภ์เพื่อประเมินทารกในครรภ์
        
        6.ดูแลให้ได้รับยาลดการหดตัวของมดลูกตามแผนการรักษาAdalat 10 mg q 15 min X 4 dose เพื่อยับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก อาการข้างเคียง คือ ปวดศีรษะ มึนงง คลื่นไส้ อาเจียนความดันโลหิตต่ำ ใจสั่น โดยข้อบ่งห้าม : ความดันโลหิตต่ำ, โรคหัวใจชนิด preload-dependent, Blood pressure<90/60mmHg, การทำงานของตับบกพร่อง ,ได้รับยาMgSO4 ร่วมด้วย เพื่อให้ผู้คลอดได้รับตามแผนการรักษาของแพทย์พร้อมทั้งติดตามผลข้างเคียงของยา