Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Septicemia/sepsis, - Coggle Diagram

- - - - 1.ประเมินอาการติดเชื้อ เช่น ไข้สูง หนาวสั่น ซึม กระสับกระส่าย เป็นต้น
        
        2.ตรวจสอบและบันทึกสัญญาณชีพอาการและอาการแสดงทุก 15นาทีในชั่วโมงแรกที่ให้สารน้ำทุก30 นาทีในชั่วโมงที่ 2 แล้วยืดเวลาออกไปเป็นทุก 4 ชั่วโมง
        
        3.ลดปัจจัยจะส่งเสริมให้ผู้ป่วยเกิดภาวะการติดเชื้อเพิ่มขึ้นใช้เทคนิคในการพยาบาลอย่างมีมาตรฐานเทคนิคปลอดเชื้อต่างๆ
        
        บันทึกสารน้ำที่ผู้ป่วยได้รับและปริมาณปัสสาวะที่ออกมาทุก 8 ชั่วโมง
        
        5.ดูแลให้ยาเพื่อลดการติดเชื้อ Ceftriaxone 1gm + NSS 50 cc. iv drip in 1 hr. q 8 hr.
        
        6.ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ WBC Neutrophil เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อ
        
        7.ล้างมือก่อนและหลังทำหัตถการ
  - - - 1.ให้การพยาบาลโดยยึดหลัก Aseptic technique โดเฉพาะอย่างยิ่งในการดูดเสมหะ
      - 2.วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
      - 3.ช่วยระบายเสมหะด้วยการทำกายภาพบำบัดทรวงอกและดูดเสมหะ
      - 4.แยกผู้ป่วยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและการติดเชื้อในโรงพยาบาล
      - 5.จำกัดผู้เยี่ยม และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ที่ติดเชื้อในระบบหายใจ
      - 6.ให้การพยาบาลเช็ดตัวลดไข้ เมื่ออุณภมิร่างกายมากกว่า 38 องศาเซลเซียส และดูแลให้ยา Paracetamol 10 ml oral prn. For fever q 4-6 hr.
      - 7.ดูแลให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
      - 8.ล้างมือก่อนและหลังทำหัตถการ
  - - - เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำธรรมดาอย่างนุ่มนวลเพราะน้ำจะช่วยพาความร้อนออกจากร่างกายทางผิวหนังทำให้อุณหภูมิลดลงและทำให้ผู้ป่วยสบายขึ้น
      - ดูแลให้ผู้ป่วยพักผ่อนเพราะเป็นการลดอัตราการเผาผลาญภายในเซลล์ ลดการทำงานของกล้ามเนื้อ เป็นการลดการผลิตความร้อน ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลง
      - ดูแลให้ผู้ป่วยดื่มน้ำบ่อย ๆเพราะเป็นการทดแทนการขาดน้ำและเป็นการลดความร้อนของร่างกายโดยการขับออกทางเหงื่อและปัสสาวะ
      - ดูแลให้ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์รบกวนการสังเคราะห์สารเปบทิโดไกลแคน(Peptidoglycan) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผนังเซลล์ในแบคทีเรีย ส่งผลให้แบคทีเรียหยุดการเจริญเติบโตและตายในที่สุด(Ceftriaxone 1 gm. ทางหลอดเลือดดำ ทุก 8 ชั่วโมง)
      - เฝ้าระวังติดตามและประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชม. เพื่อประเมินความรุนแรงของการติดเชื้อทางเดินหายใจ
      - .6 เฝ้าระวังผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการได้แก่ WBC Neutrophil Lymphocyteเพราะ WBCเป็นจำนวนเม็ดเลือดขาว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีค่าผิดปกติเมื่อมีการติดเชื้อในร่างกาย เช่น จากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส Neutrophil จะพบสูงขึ้นในภาวะติดเชื้อจำพวกแบคทีเรีย และ Lymphocyte จะพบสูงขึ้นนภาวะที่มีการติดเชื้อไวรัสอย่างเฉียบพลันหรือภาวะที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียเรื้อรัง
  - - - 1.จัดท่านอนให้อยู่ในท่าศีรษะสูงประมาณ 30 องศา ใช้ผ้าหนุนให้คอแหงนเล็กน้อยในเด็กเล็ก เพื่อให้ปอดขยายตัวได้ดี และมีการระบายอากาศที่ดี
      - ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจน on O2 canula 3 LPM. ตามแผนการรักษา
      - ดูแลให้พักผ่อนโดยจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบรบกวนผู้ป่วยเมื่อจำเป็น และพยายามทำการพยาบาลให้เสร็จสิ้นในช่วงเวลาเดียวกัน
      - แนะนำให้ผู้ปกครองสังเกตลักษณะการหายใจที่ผิดปกติอาการ เช่น หายใจหอบมากขึ้น หายใจลำบาก
      - สังเกตอาการ เช่น หายใจหอบมากขึ้น หายใจลำบาก หายใจเข้ามีเสียงดัง (inspiratory stridor มีหายใจหน้าอกบุ๋มรุนแรงมากขึ้น ระดับความรู้สึกตัวลดลงกระสับกระส่าย ร้องกวน ซึม ร่วมกับการประเมินสัญญาณชีพ
      - ประเมินสภาพร่างกายก่อนและหลังทำทุก 1-4 ชั่วโมง ตามความรุนแรงของผู้ป่วย เมื่อพบความผิดปกติให้รายงานแพทย์เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
      - เตรียมรถฉุกเฉินและอุปกรณ์ช่วยชีวิตในรายที่มีอาการรุนแรงและเกิดภาวะหายใจล้มเหลว
  - - - 1.จัดท่านอนให้อยู่ในท่าศีรษะสูงประมาณ 30 องศา ใช้ผ้าหนุนให้คอแหงนเล็กน้อยในเด็กเล็ก เพื่อให้ปอดขยายตัวได้ดีและมีการระบายอากาศที่ดี
      - 2.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับ Oxygen ตามแผนการรักษา
      - 3.ดูแลให้พักผ่อนโดยจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ รบกวนผู้ป่วยเมื่อจำเป็น และพยายามทำการพยาบาลให้เสร็จภายในช่วงเวลาเดียวกัน
      - 4.แนะนำให้ผู้ปกครองสังเกตลักษณะการหายใจที่ผิดปกติ เช่น หายใจหอบมากขึ้น หายใจลำบาก
      - 5.สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะพร่องออกซิเจน เช่น หายใจลำบาก ระดับความรู้สึกตัวลดลง กระสับกระส่าย ร้องกวน ซึม ร่วมกับประเมินสัญญาณชีพทุก 1-4 ชั่วโมง
      - 6.ช่วยระบายเสมหะด้วยการทำกายภาพบำบัดทรวงอกและดูดเสมหะ
      - 7.ดูแลให้ได้รับยา Bromhexine 10ml oral tid pc.
        
        Ventolin ½ NB + NSS up to 4 cc. NB q 8 hr.ตามแผนการรักษา
- - - - มีความเสี่ยงต่อภาวะเกล็ดเลือดสูง
    - - ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงน้อยไปทำให้เกิดโรคโลหิตจาง
    - - อาจมีภาวการณ์ติดเชื้อแบคทีเรีย
        หรือไวรัสต่างๆ
  - - - แสดงการแทรกซึมของปอดและ LLL effusion
        การเพาะเลี้ยงเสมหะแสดงเชื้อ Staphylococcus และ Streptococcus
- - - - ผู้ป่วยซึม พูดคุยรู้เรื่อง ไอมีเสหะ หายใจเหนื่อยหอบ เจ็บหน้าอก มี subcostal & substernal retractions ฟังปอดได้ยินเสียง crepitation both lung, vital
      - น้ำหนัก 22 kgs ส่วนสูง 115 cm
    - - Temp. 38.4 'C, Pulse 98 bpm, BP 102/58 mmHg RR 30 bpm, 02 Sat 93% (room air)