Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดเพื่อละเมิด ในการกระทำของตนเอง - Coggle Diagram
ความผิดเพื่อละเมิด
ในการกระทำของตนเอง
ลักษณะทั่วไปของความรับผิดของบุคคล
ในการกระทำของตนเอง
การกระทำโดยผิดกฎหมาย
ถ้าได้กระทำโดยไม่มีสิทธิหรือข้อเเก้ตัวตามกฎหมายให้ทำได้เเล้ว ก็ถือว่าเป็นการกระทำโดยผิดกฎหมาย หากการกระทำนั้นเป็นการกระทำโดยมีสิทธิตามกฎหมาย เเม้จะเกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่น ก็ไม่เป็นการผิดกฎหมาย
เช่น
มาตรา 1567 สิทธิของบิดามารดาที่จะทำโทษบุตรตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน
1.การใช้สิทธิซึ่งมีเเต่จะให้เกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่น
เเม้จะทำโดยมีสิทธิ เเต่ถ้าใช้สิทธินั้นในลักษณะที่มีเเต่จะให้เกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่น ก็ถือว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมายหรือผิดกฎหมาย
มาตรา 421 การใช้คือ สิทธินั้นมีอยู่เเล้วเเต่จะนับว่าเป็นการกระทำโดยผิดกฎหมายหรือไม่นั้นอยู่ที่วิธีการใช้สิทธินั้นเหมาะสมหรือไม่
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่น
1.มีความเสียหายต่อสิทธิ
จะถือว่าเป็นความเสียหายนั้น ต้องอาศัยการวินิจฉัยของบุคคลธรรมดา หรือปกติชนที่คิดเห็นโดยชอบในสังคมเป็นมาตรฐาน
เช่น
นาย ก จับมือนางสาวข ตามความคิดเห็นปกติชนย่อมถือว่านางสาวข ได้รับความเสียหาย และกฎหมายอาญาก็ได้บัญญัติรับรองว่าเป็นการที่ นาย ก กระทำอนาจารต่อนางสาว ข
2.ลักษณะเเห่งสิทธิ
สิทธิ
คือ ประโยชน์อันบุคคลมีอยู่ เเต่จะเป็นสิทธิหรือไม่ ต้องเเล้วเเต่ว่าบุคคลอื่นมีหน้าที่ต้องเคารพหรือไม่ สิทธิต้องได้รับการรับรองเเละคุ้มครองของกฎหมาย
สิทธิที่จะใช้ที่หรือทางสาธารณะ ผู้ใดมาขัดขวาง ย่อมเป็นการละเมิด
สิทธิที่จะใช้น้ำจากทางน้ำสาธารณะ เมื่อมีผู้ใดมาขัดขวาง ย่อมเป็นการละเมิด
การกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
จงใจ
จงใจไม่เพียงเเค่รู้สำนึกถึงความเคลื่อนไหวของตนเท่านั้น เเต่ยังต้องรู้สำนึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดจากการกระทำของตนอีกด้วย
ตัวอย่าง
นาย ก ยกเเก้วน้ำขึ้นราดบนศรีษะของ นาย ข ดังนี้ย่อมเป็นการที่ ก กระทำไปโดยรู้สำนึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดเเก่ ข จากการกระทำของตน
การกระทำโดยผิดหลง หรือ พลั้งพลาด หรือ การเข้าใจโดยสุจริต คือการเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง จึงไม่เป็นจงใจ
(เข้าใจโดยสุจริต คือ ไม่ได้รู้สำนึกว่าจะเกิดผลเสียหายเเก่บุคคลอื่นนั้นเอง)
ตัวอย่าง
หนังสือ กเเละข วางอยู่ใกล้กัน ทำให้ ก เผลอหยิบเอาหนังสือของ ข กลับไป ดังนี้ ก ไม่ได้กระทำโดยจงใจ
จงใจไม่ต้องคำนึงถึงผลเสียหายที่จะเกิดขึ้น เเตกต่างจากเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 เพราะจงใจไม่ได้มุ่งหมายต่อผลของการกระทำ
ประมาทเลิ่นเลอ
ความหมาย
ไม่จงใจเเต่ไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรที่จะใช้ รวมถึงในลักษณะที่บุคคลผู้มีความระมัดระวังจะไม่กระทำด้วย
ความระมัดระวังเช่นว่าต่างจากับความระมัดระวังในความรับผิดทางสัญญาซึ่งกฎหมายวางระดับไว้โดยทั่วไปไว้ในระดับของวิญญูชน เว้นเเต่บางกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ใช้ความระมัดระวังยิ่งหรือหย่อนกว่านั้น
ความรับผิดทางละเมิดนั้น ต้องเปรียบเทียบกับุคคลที่มีความระมัดระวังตามพฤติการณ์เเละตามฐานะในสังคมเช่นเดียวกับผู้กระทำความเสียหาย
เช่น
ความระมัดระวังของผู้เยาว์อาจอ่อนกว่าความระมัดระวังของบุคคลผู้บรรลุนิติภาวะเเล้วก็ได้ หรือ อาจยิ่งกว่าบุคคลธรรมดา
ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของผู้ทำความเสียหาย
ทฤษฎีความเท่ากันเเห่งเหตุหรือทฤษฎีเงื่อนไข
คือ ถ้าไม่มีการกระทำดังกล่าว ผลจะไม่เกิด กล่าวคือ ผลที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลอันเกิดจากการกระทำที่ถูกกล่าวหาผลอันใดอันหนึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากเหตุหลายประการ ถ้าเหตุอันใดอันหนึ่งคือการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเเล้ว ผู้นั้นก็ต้องรับผิดโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่ายังมีเหตุอื่นที่ก่อให้เกิดความเสียหายนั้นด้วยเหมือนกัน
ตัวอย่าง
ก ทำร้ายร่างกาย ข โดยเตะท้องเบาๆ เเต่ ข มีโรคประจำตัวร้ายเเรง หากถูกกระทบกระเทือนอย่างเเรงอาจถึงตายได้ เเต่ ก ไม่ทราบมาก่อน คิดเพียงเเค่ว่า ข ได้รับบาทเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เเต่ ก ก็ต้องรับผิดในความตายของ ข
2.ทฤษฎีมูลเหตุเหมาะสม
ถือว่าในบรรดาเหตุทั้งหลายที่ก่อให้เกิดผลขึ้นนั้น ในเเง่ความรับผิดของผู้กระทำการใดๆเเล้วเฉพาะเเต่เหตุที่ตามปกติย่อมก่อให้เกิดผลเช่นว่านั้นที่ผู้กระทำจะต้องรับผิด
ตัวอย่าง
ถือว่าในบรรดาเหตุทั้งหลายที่ก่อให้เกิดผลขึ้นนั้น ในเเง่ความรับผิดของผู้กระทำการใดๆเเล้วเฉพาะเเต่เหตุที่ตามปกติย่อมก่อให้เกิดผลเช่นว่านั้นที่ผู้กระทำจะต้องรับผิด
ความหมายของการกระทำ
ผู้เยาว์เเละบุคคลวิกลจริต มาตรา 429
จะถือว่ามีการกระทำหรือไม่ก็ดูที่ข้อเท็จจริงว่ามีการเคลื่อนไหวโดยรู้สำนึกในการเคลื่อนไหวหรือไม่
ความเคลื่อนไหวในอิริยาบถโดยรู้สำนึกในการเคลื่อนไหว บุคคลจำต้องรู้สำนึกในการเคลื่อนไหวของตนด้วย
เช่น นายก.หยิบขนมขึ้นมากิน ดังนี้ ย่อมเป็นการกระทำของนายก.เพราะ ก.รู้สำนึกในการเคลื่อนไหวของตนเองที่หยิบขนมขึ้นมากิน
การงดเว้นไม่กระทำ มาตรา 420
ตามมาตรา 420 มิได้หมายความเเต่ การกระทำในการเคลื่อนไหวอิริยาบถ เเต่รวมถึง การงดเว้นไม่กระทำ เเต่ต้องเป็นการงดเว้นหรือละเว้นไม่กระทำการที่
1.มีหน้าที่ตามกฎหมาย
เช่น
มาตรา 1461 สามีภริยามีหย้าที่ต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกัน
(หากไม่อุปการะเลี้ยงดูย่อมเป็นการละเมิดซึ่งเกิดจากการงดเว้นการกระทำของผู้มีหน้าที่)
มาตรา 1563 บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา
(หากไม่อุปการะเลี้ยงดูย่อมเป็นการละเมิดซึ่งเกิดจากการงดเว้นการกระทำของผู้มีหน้าที่)
มาตรา 1564 บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์หรือบุตรที่บรรลุนิติภาวะเเล้ว เเต่ทุพพลภาพเเละหาเลี้ยงตัวเองมิได้
(หากไม่อุปการะเลี้ยงดูย่อมเป็นการละเมิดซึ่งเกิดจากการงดเว้นการกระทำของผู้มีหน้าที่ )
ตัวอย่าง
จำเลยเป็นนายอำเภอ ไม่จดทะเบียนการซื้อขายที่ดินให้ตามที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อได้ร้องขอย่อมเป็นการละเมิด จากข้อเท็จจริง การจดทะเบียนซื้อขายที่ดิน
2.หน้าที่ตามสัญญา
หน้าที่ตามสัญญาก็คือหน้าที่ตามกฎหมาย เพราะสัญญาที่ใช้บังคับกันได้ย่อมเป็นกฎหมายระหว่างคู่สัญญา
ตัวอย่าง
สัญญาจ้างเเพทย์รักษาโรค เเต่เเพทย์ไม่ปฎิบัติตามหน้าที่อันเกิดจากสัญญา ไม่รักษา ย่อมเป็นการงดเว้น เป็นทั้งผิดสัญญาเเละลเมิด
3.หน้าที่ที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางข้อเท็จจริงที่มีอยู่ระหว่างผู้งดเว้นกับผู้เสียหาย
กรณีบุคคลที่อยู่ในฐานะอันสามารถควบคุมสิ่งของหรือบุคคลใดเพื่อความปลอดภัยของบุคคลอื่นย่อมมีหน้าที่ต้องทำการตามสมควรเพื่อความปลอดภัยของบุคคลอื่น เเละหน้าที่อันเป็นผลมาจากฐานะทางข้อเท็จจริงซึ่งจำเลยหรือผู้งดเว้นได้ก่อขึ้น
ตัวอย่าง
เเขกมาเยี่ยมที่บ้าน เจ้าบ้านจัดโต๊ะเก้าอี้สภาพดีไม่ชำรุดให้แขกนั่ง
ผลมาจากฐานะทางข้อเท็จจริงซึ่งผู้งดเว้นได้ก่อขึ้น
หน้าที่อันเป็นผลมาจากฐานะทางข้อเท็จจริงซึ่งจำเลยหรือผู้งดเว้นได้ก่อขึ้น
ตัวอย่าง
ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เเพทย์ได้พบเห็นผู้ป่วยก็เข้าช่วยเหลือ
หมิ่นประมาททางเเพ่ง การพิพากษาคดี เเละการร่วมกันทำละเมิด
หมิ่นประมาททางเเพ่ง มาตรา 423
ข้อความที่กล่าวหรือไขข่าวต้องเป็นข้อความที่ฝ่าฝืนความจริง อาจเป็นการกระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพยนตร์ ตัวอักษร เเผ่นเสียง หรือการกระทำโดยการกระจายเสียงหรือป่าวประกาศด้วยวิธีใด ไม่จำกัดว่าต้องทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ เเม้ไม่ตั้งใจก็ไม่เป็นข้อเเก้ตัว ถ้าหากได้กระทำโดยสำนึกในการกระทำนั้น ก็ถือว่าเป็นการกล่าวหรือไขข่าว
ตัวอย่าง
ห้างหุ้นส่วนยังไม่เลิกกัน เเต่จำเลซึ่งเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งประกาศทางหนังสือพิมพ์ว่าเลิกกันเเล้ว ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนอีกคนเสียหาย จำเลยต้องรับผิดตามมาตรา 423
การพิพากษาคดี มาตรา 424
บุคคลถูกฟ้องทั้งคดีส่วนเเพ่งเเละคดีส่วนอาญาในเรื่องเดียวกัน การพิพากษาคดีส่วนเเพ่งนั้น ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เเละคู่ความที่จะผูกพันโดยข้อเท็จจริงที่วินิจฉัยเเล้วนั้น ต้องเป็นคู่ความในคดีอาญาด้วย หากข้อเท็จจริงเป็นยุติตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาเเล้ว การวินิจฉัยความรับผิดทางเเพ่งก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายส่วนเเพ่ง
ตัวอย่าง
ศาลพิพากษายกฟ้องคดีอาญา เพระาจำเลยไม่มีเจตนาบุกรุกที่ดิน ไม่ได้ชี้ว่าเป็นที่ดินของใคร โจทก์ฟ้องคดีเเพ่งให้ศาลวินิจฉัยเเสดงกรรมสิทธิ์ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้องได้
การร่วมกันทำละเมิด มาตรา 432
การร่วมกันทำละเมิดเป็นเรื่องที่บุคคลหลายคนร่วมกันทำละเมิด ไม่ใช่เรื่องใช้บุคคลเป็นเครื่องมือการทำละเมิด
เช่น
ก วาน ข ให้เอาวัตถุระเบิดไปส่งให้ ค โดย ข ไม่รู้ว่าเป็นระเบิด ก กระทำการละเมิดตามมาตรา 420 โดยใช้ ข เป็นเครื่องมือ ข มิได้ทำการละเมิดด้วย
ลักษณะการร่วมกันทำละเมิด
เป็นการกระทำโดยมีเจตนาหรือความุ่งหายร่วมกัน เเละมีการกระทำร่วมกันเพื่อความมุ่งหมายร่วมกันด้วย
ตัวอย่าง
ก ข คบคิดกันจะฆ่า ค โดยตกลงกันว่าจะใช้ปืนยิง ค ย่อมถือว่า ก ข มีเจตนาหรือความมุ่งหมายร่วมกัน จากนั้นจึงวางเเผนเเละเเบ่งหน้าที่ให้ ก เป็นคนหาอาวุธเเละสภานที่ ส่วน ข เป็นคนยิง ค ดังนี้ถือว่า ก ข ร่วมกันทำละเมิด
ความรับผิดระหว่างผู้ร่วมกันทำละเมิด
กรณีที่บุคคลหลายคนได้ร่วมกันกระทำละเมิดกฎหมายถึงการกระทำมิได้ดูผลเเห่งความเสียหายว่าเเยกกันได้หรือไม่ เเม้หากจะไม่รู้ว่าในระหว่างกระทำละเมิดนั้นใครทำอะไรลงไปบ้าง หรือใครทำให้เสียหายมากน้อยเพียงใด ทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในผลเเห่งละเมิดนั้นเต็มจำนวนความเสียหาย
ตัวอย่าง
ก ข ร่วมกันทำร้าย ค เเม้ ก จะยืนดูอยู่เฉยๆเพียงเเค่ให้คำเเนะนำก็ดี หรือเป็นผู้ใช้ไม้ตีก็ดี เเล้ว ข เป็นผู้ชกต่อยก็ดี ก ข ในฐานะผู้ทำละเมิดร่วมกัน ก็ต้องรับผิดในการกระทำของอีกคนหนึ่งด้วย