ความหมายของการกระทำ
คำว่า "ผู้ใด" จะถือว่าเป็นการกระทำละเมิดได้นั้น
ต้องเป็นการกระทำของมนุษย์ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
การกระทำย่อมหมายถึง ความเคลื่อนไหวในอริยบถโดยรู้สำนึกในความเคลื่อนไหว
⚠ อาการที่แสร้งทำก็ย่อมถือได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่รู้สำนึกในความเคลื่อนไหว
ผู้เยาว์และบุคคลวิกลจริต
ตามมาตรา 429 บัญญัติว่า "บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือบุคคลวิลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด"
จะถือว่ามีการกระทำหรือไม่ก็แล้วแต่ข้อเท็จจริงที่ว่ามีความเคลื่อนไหวโดยรู้สำนึกในความเคลื่อนไหวหรือไม่
การงดเว้นไม่กระทำ
คือการงดเว้นหรือละเว้นไม่กระทำการที่มีหน้าที่ต้องทำ หน้าที่อาจเกิดจากกฎหมายก็ได้ หรือเกิดจากาสัญญาหรือความสัมพันธ์ทางข้อเท็จจริงที่มีอยู่ระหว่างผู้งดเว้นกับผู้เสียหายก็ได้ หรือเป็นผลมาจากฐานะข้อเท็จจริง ซึ่งผู้งดเว้นได้ก่อขึ้งก็ได้
click to edit
- หน้าที่ตามสัญญา
ความจริงหน้าที่ตามสัญญา คือ หน้าที่ตามกฎหมาย เพราะสัญญาที่ใช้บังคับกันได้ย่อมเป็นกฎหมายระหว่างคู่สัญญา
ยกตัวอย่างเช่น มีสัญญาจ้างแพทย์รักษาโรค แต่แพทย์ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่อันเกิดจากสัญญาคือไม่ยอมีรักษา เป็นผลให้เกิดความเสียหายแก่ตัวเขา ย่อมเป็นการงดเว้น จึงเป็นทั้งผิดสัญญาและละเมิด
- หน้าที่ที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางข้อเท็จจริงที่มีอยู่ระหว่างผู้งดเว้นกับผู้เสียหาย หรือเป็นผลมาจากฐานะข้อเท็จจริงซึ่งผู้งดเว้นได้ก่อขึ้น
ที่ว่าหน้าที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางข้อเท็จจริงที่มีอยู่ระหว่างผู้งดเว้นกับผู้เสียหาย ได้แก่กรณีบุคคลที่อยู่ในฐานะอันสามารถควบคุมสิ่งของหรือบุคคลใดเพื่อความปลอดภัยของบุคคลอื่นย่อมมีหน้าที่ต้องทำตามสมควรเพื่อความปลอดภัยของบุคคลอื่น
- หน้าที่ตามกฎหมาย
ยกตัวอย่างเช่น บิดดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรผู้เยาว์หรือบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้วแต่ทุพพลภาพและหาเลี้ยงดูตัวเองไม่ได้ตามมาตรา 1564
⚠ ถ้าไม่อุปการะเลี้ยงดูจนผู้มีสิทธิได้รับการอุปการะเลี้ยงดูได้รับความเสียหายย่อมเป็นละเมิด
การกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
หลักเกณฑ์ตามมาตรา 420 อีกข้อหนึ่ง คือ "โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ" ซึ่งแยกพิจารณา เปแ็น 2 กรณี
- จงใจ
จงใจ หมายถึง รู้สำนึกถึงผลเสียหาย ที่เกิดจากการกระทำของตน
⚠ จงใจนั้นไม่เพียงแต่รู้สำนึกถึงความเคลื่อนไหวของตนเท่านั้น แต่ยังต้องรู้สำนึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตนอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ก.ชกต่อย ข. โดยหวังจะให้ ข. ปากแตก บังเอิญ ข.ล้มลงศรีษะฟาดลงพื้นศรีษะแตกสลบไปห ดังนี้ก็เป็นการที่ ก. ทำร้ายร่างกาย ข. โดยจงใจ
- ประมาทเลินเล่อ
ประมาทเลินเล่อ หมายถึง ไม่จงใจ แต่ไม่ใช้ความระมัดระวังตามสมควรที่จะใช้ ต่างกับความระมัดระวังในความรับผิดทางสัญญา
ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. รับเหมาก่อสร้าง ซ่อมบำรุงถนน แต่ไม่ได้กั้นเขตห้ามเข้า และไม่มีสัญญาณเตือน ต่อมา นาย ข. ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุในยามวิกาล จึงทำให้มองไม่เห็นถนนที่กำลังซ่อมบำรุงทำให้เกิดอุบัติเหตุ จึงถือว่าเป็ยคยามประมาทเลินเล่อของนาย ก.
การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
การใช้สิทธินั้นอาจถือว่าเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมายได้ และสิทธิใดสิทธิหนึ่งย่อมจะสิ้นสภาพจากการเป็นสิทธิทันที ถ้าหากใช้เพื่อความมุ่งหมายให้แตกต่างไปจากความมุ่งหมายที่ก่อตั้งสิทธินั้น
การกระทำผิดโดยกฎหมาย
ถ้าได้กระทำโดยไม่มีสิทธิหรือข้อแก้ตัวตามกฎหมายให้ทำได้แล้วก็ถือว่้าเป็นการกระทำโดยผิดกฎหมาย
ถ้ากระทำโดยมีสิทธิทางกฎหมาย คือ ผู้มีอำนาจทำได้แม้จะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นก็ไม่เป็นผิดกฎหมาย
ยกตัวอย่างเช่น สิทธิของบิดามารดาที่จะทำโทษบุตรตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน
- การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น มาตรา 421
การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่น คำว่าใช้สิทธิในมาตรานี้ จึงหมายถึงกรณีที่ทำให้ผู้เสียหายมีสิทธิตามกฎหมายเสียก่อน ถ้าเป็นการกระทำโดยไม่มีสิทธิหรือทำเกินกว้่าสิทธิที่มีอยู่ตามกฎหมายแล้วต้องพิจารณาตามมาตรา 420 อันเป็นหลักทั่วไป ไม่มีกรณีที่จะนำมาพิเคราะห์กันตามมาตรา 421
ยกตัวอย่างเช่น ก. เอารถยนต์ของ ข. ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
- การกระทำฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมาย
มาตตรา 422 บัญญัติว่า ถ้ามีความเสียหายเกิดจากการฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายใดอันมีที่ประสงค์เพื่อปกป้องบุคคลอื่นๆ ผู้ใดทำการฝ่าฝืนเช่นนั้ ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นผู้ผิด
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
จะต้องมีความเสียหายเกิดขึ้น เมื่อยังไม่เกิดความเสียหายถือว่ายังไม่เป็นละเมิด
1.มีความเสียหายต่อสิทธิ
ทำต่อบุคคล
หมายถึงทำต่อสิทธิของบุคคล ย่อมหมายถึง ความเสียหายแก่สิทธิของบุคคลทั้งสิ้น
ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. ตบศีรษะ นาง ข.แม้ไม่มีอะไรเปรอะเปื้อนนางสาว ข. แต่ก็ได้ถือว่านาย ก. ได้ทำความเสียหายแก่ร่างกายนางสาว ข.
- ลักษณะแห่งสิทธิ
สิทธิได้แก่ ประโยชน์อันบุคคลมีอยู่ แต่ประโยชน์เป็นสิทธิหรือไม่ก็ต้องแล้วแต่ว่าบุคคลอื่นมีหน้าที่ต้องเคาระหรือไม่
- ความเสียหายที่คำนวนเป็นตัวเงินได้และไม่อาจคำนวนเป็นตัวเงินได้
ยกตัวอย่างเช่น ก. ขว้างปาหลังคาของ ข. กระเบื้องแตกเสียหาย เป็นความเสียหายอันคำนวนเป็นตัวเงินได้ แต่ถ้าหากกระเบื้องไม่แตก ไม่มีรอยชำรุด เป็นความเสียหายอันคำนวนเป็นตัวเงินไม่ได้
ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของผู้ทำความเสียหาย
- ทฤษฎีความเท่าเทียมแห่งเหตุหรือทฤษฎีเงื่อนไข
ถือว่าหากปรากฎว่าถ้าไม่มีการกระทำดังที่ถูกกล่าวหาแล้ว ผลจะไม่มีความเสียหายดีงกล่าวอ้าง ผลที่เกิดขึ้นั้นเป็นผลอันเกิดจากการกระทำที่ถูกกล่าวหา ผลอันใดอันหนึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายประการ
ยกตัวอย่างเช่น ก.ชกที่ท้องของ ข. เบาๆ แต่ปรากฎว่า ข.มีโรคประจำตัวร้ายแรง แต่ ก. ไม่ทราบมาก่อน ทำให้ ข.ถึงแก่ความตาย ก.ต้องรับผิดในความตายของ ช.
- ทฤษฎีมูลเหตุเหมาะสม
ถือว่าในบรรดาเหตุทั้งหลายที่ก่อให้เกิดผลขึ้นั้น ในแง่ความรับผิดของผู้กระทำใดๆแล้ว เฉพาะแต่เหตุที่ตามปกติย่อมก่อให้เกิดผลที่ว่านั้นที่ผู้กระทำจะต้องรับผิด
ยกตัวอย่างเช่น