Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง - Coggle Diagram
ความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง
การกระทำ
การกระทำ หมายถึงความเคลื่อนไหวของบุคคลโดยรู้สึกในความเคลื่อนไหวของตน และหมายถึงการงดเว้นหรือละเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่ที่ต้องกระทำ
ตัวอย่าง นายดำยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ย่อมเป็นการกระทำ เพราะนายดำรู้สำนึกในความเคลื่อนไหวของตนที่ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
การกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
จงใจ หมายถึง กระทำโดยรู้สำนึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดจากการกระทำของตน
ตัวอย่าง นายเขียว ชกต่อย นายขาว โดยคิดจะให้นายขาวปากแตก บังเอิญ นายขาวล้มศรีษะกระแทกพื้นจนสลบ ดังนี้ก็เป็นการที่นายเขียว ทำร้ายร่างกาย นายขาว โดยจงใจ
ประมาทเลินเล่อ หมายถึง ไม่จงใจแต่ไม่ใช้ความระมัดระวังตามควรที่จะใช้ รวมถึงในลักษณะที่บุคคลผู้มีความระมัดระวังจะไม่กระทำด้วย
ตัวอย่าง นาย ก.เป็นเจ้าของสุนัข ที่เขารู้ว่าเป็นอันตรายและนาย ก.พาสุนัขไปที่สวนสาธารณะที่สุนัขกัดเด็กเล็ก ๆ อาจถือได้ว่าประมาท
การกระทำโดยผิดกฎหมาย
การกระทำโดยผิดกฎหมายมีความหมายกว้าง มิใช่หมายแต่เพียงฝ่าฝืนกฎหมายที่บัญญัติไว้โดยชัดแจ้ง แต่หมายรวมถึงการกระทำโดยไม่มีสิทธิหรือข้อแก้ตัว ตามกฎหมาย
1.การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดความเสียหาย แก่บุคคลอื่น ตามมาตรา ๔๒๑ การใช้ สิทธิ ซึ่งมีแต่จะให้เกิด เสียหาย แก่บุคคลอื่นนั้น ท่านว่าเป็นการอันมิชอบ ด้วยกฎหมาย
ตัวอย่าง ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องผู้ที่อาศัยอยู่บ้านใกล้เคียงก่อสร้างแผ่นเหล็กในที่ดินของตนแต่เป็นเหตุให้ปิดกั้นแสงแดดและทางลงที่จะเข้าตึกของเพื่อนบ้านอีกคนหนึ่ง
2.ความยินยอมไม่ทำให้เป็นละเมิด
ตาม มาตรา๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น
ตัวอย่าง การปลูกสร้างรุกล้ำไปในเขตห้องของโจทก์โดยโจทก์ยินยอมไม่เป็นละเมิดก็ไม่ทำให้สิทธิที่จะให้ปลูกสร้างรุกล้ำอยู่ได้ตลอดไป
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
ความเสียหายแก่ผู้อื่น หมายถึง ความเสียหายที่เกิดแก่สิทธิของบุคคลอื่น
1.ความเสียหายต่อสิทธิ ความเสียหายนั้น อาจไม่ตรงกับความคิดเห็นของบุคคลธรรมดาบางคนนัก การทำร้ายร่างกายหรือลักทรัพย์กันย่อมถือว่าเป็นความเสียหายแน่นอน บุคคลธรรมดาทั่วไปยาอมคิดเห็นกันอย่างนั้น
ตัวอย่าง นาย ก.ใช้มือที่สะอาดตบศรีษะ นาง ข.ไม่มีอะไรเปรอะเปื้อนร่างกายของนางสาว ข. ความคิดเห็นของบุคคลธรรมดาโดยทั่วไปอาจเห็นว่าไม่เกิดความเสียหายแก่นางสาว ข. ในสายตาทางกฎหมายย่อมถือว่าเกิดความเสียหายแก่นางสาว ข.
2.ลักษณะแห่งสิทธิ ตามมาตรา ๔๒๐ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น เหล่านี้ย่อมเป็นวัตถุแห่งสิทธิ
ตัวอย่าง ก.เช่าบ้าน ข.เพื่ออยู่อาศัย ก.จึงมีสิทธิที่จะได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่ได้เช่ามา
3.ความเสียหายที่คำนวณเป็นตัวเงินได้และไม่อาจคำนวณเป็นตัวเงินได้
ตัวอย่าง
ก.ด่าหมิ่นประมาท ข.ย่อมเป็นความเสียหายอันคำนวณเป็นตัวเองเงินไม่ได้
ก.จับ ช.เอาไปกักขังอันเป็นการกระทำต่อเขาให้เสียหายในเสรีภาพ เป็นความเสียหายที่คำนวณเป็นตัวเงินได้
ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของผู้ทำความเสียหาย
ความเสียหายอันเป็นผลมาจากการกระทำความเสียหายนั้นตามกฎหมายไทยเห็นว่าควรใช้ทฤษฎีความเท่ากันแห่งเหตุหรือทฤษฎีเงื่อนไขบังคับ แต่ศาลอาจให้จำเลยรับผิดทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วนหรือยกเว้นความรับผิดเสียเลยก็ได้
1.ทฤษฎีความเท่ากันแห่งเหตุหรือทฤษฎีเงื่อนไข ถ้าไม่มีการกระทำแล้ว ความเสียหายก็ย่อมไม่เกิด ผู้นั้นจึงต้องรับผิด
ตัวอย่าง ก. ทำร้ายร่างกาย ข.โดยการเตะเบาๆที่ท้อง แต่ปรากฎว่า ข.มีโรคร้ายประจำตัว ซึ่งถ้าหากถูกกระทบกระเทือนอย่างแรง ข.อาจตายได้ แต่ ก.ไม่ทราบมาก่อน ข.ถึงแก่ความตาย ดังนี้ความตายของ ข.เป็นผลมาจากการกระทำของ ก. แม้ ก.จะไม่รู้ว่า ข.เป็นโรค คิดเพียงว่า ข.อาจจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ ก.ก็ต้องรับผิดในความตายของ ข.
2.ทฤษฎีมูลเหตุความเหมาะสม ในบรรดาเหตุทั้งหลายที่ก่อให้เกิดผลขึ้นนั้น ในแง่ความรับผิดของผู้กระทำ เฉพาะแต่เหตุที่ตามปกติย่อมก่อให้เกิดผลเช่นว่านั้นที่ผู้กระทำจะต้องรับผิด
ตัวอย่าง ตามตัวอย่างข้างต้น ก.ย่อมไม่ทราบว่า ข.มีโรคประจำตัว ถ้าทำร้ายเช่นนั้น ข.อาจได้รับอันตรายถึงตายได้ ก.จึงต้องรับผิดเฉพาะในกรณีที่ ข.ได้รับบาดเจ็บอย่างธรรมดาเท่านั้น ไม่ต้องรับผิดในความตายของ ข.