ความรับผิดของบุคคลในการกระทำของตน
นิติบุคคล 🚩
บุคคลธรรมดา ❤
การทำละเมิดนั้นต้องเป็นการกระทำที่เกิดจากมนุษย์ ไม่ใช่สัตว์หรือสิ่งของ บุคคลทุกคลล้วนมีหน้าที่จะต้องงดเว้นในการกระทำละเมิดแก่ผู้อื่นไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่บรรลุนิติภาวะ ผู้เยาว์ คนวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสาามารถ เมื่อได้ทำการละเมิดแล้วบุคคลนั้นจะต้องรับผิดจากผลที่ได้กระทำละเมิด ตามมาตรา 429
มาตรา 429 " บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์หรือวิกลจริตก็ยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด...."
🚩EX. สุนัขจรจัดได้มากัดข้าวของ ของนายเอเสียหายการนี้ย่อมไม่ถือว่าเป็นการละเมิดเนื่องจากสุนัขนั้นถือว่าเป็นสัตว์จึงไม่ใช่ "ผู้ใด" หรือ "บุคคล" ดังนั้นสุนัขจึงไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่นายเอ
นิติบุคคลนั้นย่อมต้องรับผิดหากมีการกระทำละเมิด แม้ตัวนิติบุคคลนั้นจะเป็นบุคคลที่กฎหมายได้สมมุติขึ้นแต่นิติบุคคลจะกระทำละเมิดได้ ต้องเกิดจากผู้แทน ที่คอยกระทำการต่างๆของนิติบุคคลแต่การนั้นต้องเป็นการกระทำที่อยู่ในกรอบของวัตถุประสงค์ของนิติบุคคล หากไม่ใช่จะถือว่าเป็นการละเมิดโดยบุคคลธรรมดา ดังนั้นนิติบุคคลต้องรับผิดจากการกระทำละเมิดนั้น
🚩EX.ตำรวจได้ไปยึดรถหมายเลขทะเบียน กพ 123 มหาสารคาม ตามคำสั่งของสำนักงาน แต่เมื่อตำรวจได้ไปยึดตามคำสั่งแล้วนำมาเก็บรักษา แต่ไม่มีการดูแลที่ดีจนเป็นเหตุให้อุปกรณ์บางอย่างภายในรถนั้นได้หายไป เช่นนี้ถือว่านิติบุคคลได้กระทำละเมิดต่อเจ้าของรถ
การกระทำโดยรู้สำนึก ✅ (ถือว่าเป็นการกระทำละเมิด)
การกระทำโดยไม่รู้สำนึก ❌ (ไม่ถือว่าเป็นการทำละเมิด)
เป็นการกระทำที่รู้สึกนึก ในการเคลื่อนไหวนั้นนอกจากจะขยับแล้วยังต้องรู้สำนึกในสิ่งตัวเองได้กระทำการนั้นด้วย หากมีแต่การเคลื่อนไหวแต่ไม่ได้รู้สำนึก การนั้นถือว่าไม่มีการกระทำ
การกระทำที่ต้องรับผิดในการละเมิดนั้นต้องเป็นการกระทำที่รู้สำนึกในการกระทำนั้นๆ หากกระทำการนั้นโดยไม่รู้สำนึกย่อมไม่มีการกระทำตามมาตรา 420 ซึ่งการกระทำโดยไม่รู้สำนึกคือมีการเคลื่อนไหวร่างกาย แต่การเคลื่อนไหวร่างการนั้นไม่รู้สำนึก เช่น การละเมอ การเมา การถูกสะกดจิต เป็นต้น
🚩EX. นายเอได้ยกของจากชั้น 5 ไปชั้น 6 การนี้ย่อมถือว่ามีการกระทำ เพราะนายเอได้รู้สึกนึกในการกระทำนั้น
หน้าที่ตามสัญญา
หน้าที่ตามคำสั่งหรือระเบียบ
หน้าที่ตามกฎหมาย
หน้าที่ตามวิชาชีพ
การกระทำในมาตรา 420 นี้มิได้หมายความว่าต้องมีการกระทำที่เคลื่อนไหวร่างกายเท่านั้น ยังรวมถึงการไม่กระทำการตามหน้าที่หรือ "การงดเว้น"
หน้าที่ตามกฎหมายคือ กฎหมายได้บัญญัติว่าบุคคลนั้นต้องมีหน้าที่ ที่ต้องกระทำการสิ่งใด
🚩EX.พ่อแม่ต้องมีหน้าที่ในการดูแลและอุปการะเลี้ยงดูบุตรหรือบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้วแต่ทุพพลภาคหาเลี้ยงตัวเองไม่ได้ หากพ่อแม่ไม่ได้เลี้ยงดูบุตรหรืองดเว้นที่จะเลี้ยงดู การนั้นถือว่าพ่อแม่ได้งดเว้นการกระทำอันซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้หระทำตามมตรา 1564
มาตรา 1564 "บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์
วรรค 2 บิดามารดาจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วแต่เฉพาะผู้ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองมิได้"
เป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่เกิดจากคู่สัญญาที่ได้กระทำต่อกันตามสัญญา เมื่อเกิดสัญญาแล้วทำให้คู่สัญญานั้นมีหน้าที่ ที่จะต้องกระทำต่อกัน
🚩EX. นายเอซึ่งเป็นพ่อครัว ถูกนายบีทำสัญญาจ้างมาเป็นพ่อครัวของร้านนายบี วันหนึ่งได้มีการสั่งอาหารมายังที่ร้านนายบี แต่นายเอซึ่งเป็นพ่อครัวกลับนิ่งเฉยและไม่ทำอาหารตามที่ได้รับมา การนี้ถือว่านายเอได้งดเว้นการกระทำอันเนื่องจากหน้าที่ ที่เกิดจากสัญญาจ้าง
หน้าที่ตามความสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดขึ้น
เป็นหน้าที่ ที่ได้ก่อขึ้นจาก "ข้อเท็จ" ที่ได้ก่อขึ้นโดยอาจไม่ใช่หน้าที่ตามสัญญา ตามกฎหมาย ตามอาชีพ ที่ตนต้องมีหน้าที่จะต้องกระทำการอยู่แล้ว
หน้าที่ตามวิชาชีพ คือการที่ตนนั้นได้มีหน้าที่ตามอาชีพที่ตนได้กระทำอยู่
🚩EX. นายเอเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ต่อมาได้มีเหตุฉุกเฉินจะต้องผ่าตัดด่วน แต่นายเอเมื่อเห็นคนไข้ที่ต้องผ่าตัดนั้นกลับจำได้ว่าเป็นแฟนใหม่ของแฟนเก่านายเอ นายเอจึงไม่ทำการรักษาให้เพราะไม่พอใจที่คนไข้ได้แย่งแฟนของตนไป
🚩EX.นายเอซึ่งเป็นเพื่อนกับนายบีวันหนึ่งนายเอต้องไปทำธุระที่ต่างประเทศเป้นระยัเวลาหลายวันจนไม่สามารถนำลูกของตนไปด้วยได้ นายเอจึงได้ฝากบุตรของตนให้นายบีดูแล ซึ่งได้มีการเตรียมนำ เสื้อผ้า และเงินไว้ให้หมดแล้ว อยู่มาวันหนึ่งนายบีได้ร้องเพลงคาระโอเกะเพื่อความบรรเทิง จนไม่ได้ดูแลบุตรของนายเอ แม้ลูกนายเอจะร้องเพียงใดนายเอก็นิ่งเฉยจนเป็นเหตุให้ลูกนายเอนั้นได้หยิบลูกแก้วเข้าปากจนติดคือตาย การนี้นายบีถือได้งดเว้นการกระทำอันเนื่องจากมีหน้าที่ ที่ตนได้สร้างขึ้นกับนายเอผู้ซึ่งเป็นพ่อของเด็ก
🚩EX. นายเอได้ขับรถในช่องเดินทางผิดเลน ซึ่งเป็นเหตุให้รถของนายบีที่เดินทางในเลนที่ถูกต้องมาชน เหตุนี้นายเอจะถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้ผิด เนื่องจากได้กระทำการอันฝ่าฝืนกฎหมายจราจรทางบก
ข้อสังเกต ‼ มาตรานี้เป็นเพียงการสันนิษฐานเท่านั้น แต่ยังคงต้องมีการพิสูจน์ต่อไปเพื่อหาความจริงหากพิสูจน์ไม่ได้จึงจะถือว่าเป็นตามข้อสันนิษฐาน
เกิดความเสียหายต่อสิทธิและลักษณะของสิทธิ
ความเสียหายอันเกิดต่อสิทธินั้น คือการที่ลดน้อยถอยลงทางทรัพย์สินที่เกิดจากเหตุการ์ณหรือข้อเท็จจริงที่ฝ่าฝืนประโยชน์ที่กฎหมายคุ้มครอง ซึ่งคำว่าสิทธินั้นเป็นคำที่มีความหมายโดยกว้าง รวมถึง ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน ตามมาตรา 420 ด้วยหรือสิทธิอื่นๆที่ไม่มีรูปร่างและตัวตน (ชื่อเสียง)
ในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนนั้น เป็นการเยียวยาความเสียหาย หากไม่เกิดความเสียหายย่อมไม่เป็นการละเมิด
🚩EX. นายเอได้ตั้งใจที่จะทุบรถของนายบีเนื่องจากมีความแค้นส่วนตัว จนทำให้รถของนายบีนั้นเกิดรอยและมีความเสียหาย การนี้ย่อมถือว่าได้มีการกระทำละเมิดต่อนายบี โดยเป็นความเสียหายต่อทรัพย์สินของนายบี อันนายบีมีสิทธิเหนือทรัพย์สินนั้น
การคำนวณค่าเสีย
ข้อสังเกต ‼ ในบางครั้งในการพิจารณาว่าความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นหรือไหม อาจใช้จากความคิดเห็นของบุคคลธรรมดามาใช้ แต่การใช้นั้นก็ใช้ไม่ได้เสมอไป ยังคงมีการใช้ความคิดเห็นโดยชอบในสังคมเป็นมาตราฐาน
คำนวณเป็นตัวเงินได้
คำนวณเป็นตัวเงินไม่ได้
สิ่งที่จะคำนวณเป็นตัวเงินชัดเจนได้สิ่งนั้นจะต้องมีราคาหรือระบุเป็นตัวเลขได้ชัดเจนจึงจะคำนวณเป็นตัวเงินได้ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ มูลค่าทรัพย์สิน เป็นต้น
🚩EX. นายเอได้กระทำละเมิดต่อนายบีด้วยการที่นายเอนัั้นได้ทำปากกาของนายบีเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้ ความเสียหายต่อทรัพย์สินนี้ย่อมเป็นสิ่งที่คำนวณเป็นตัวเงินได้
ความเสียหายที่คำนวณไม่ได้ ต้องเป็นความเสียหายในรูปนามธรรมที่ไม่สามารถระบุเป็นตัวเงินได้อย่างแน่นอน หรือ เป็นในรูปธรรมแต่ต้องเป็นสิ่งที่ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้อย่างแน่ชัด เช่น ความรู้สึก เสรีภาพ จิตใจ เป็นต้น
🚩EX. นายเอได้หมิ่นประมาทนายบี จนทำให้นายบีนั้นเกิดความเสียหาย ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้เป็นความเสียหายที่ไม่อาจคำนวณเป็นตัวเลขได้
วัตถุแห่งหนี้
หนี้กระทำการ ( ม.213 วรรค 2)
ลูกหนี้อาจไม่ต้องกระทำด้วยตนเอง
เป็นการที่ลูกหนี้เป็นผู้รับผิดชอบในสัญญา แต่ไม่จำเป็นที่ตัวลูกหนี้จะกระทำตามสัญญานั้นด้วยตัวเอง สามารถที่จะจัดหาผู้อื่นหรือจ้างผู้อื่นมากระทำเพื่อให้เสร็จตามสัญญานั้นๆ
EX. นายบอมอยากจะสร้างบ้านจึงว่าจ้างนายอาร์มให้มารับเหมา ในการสร้างบ้านหลังนี้ให้แกนายบอม นายอาร์มนั้นไม่ต้องจำเป็นที่ตนต้องกระทำการสร้างบ้านหลังนี้ด้วยตนเองทั้งหมด แต่ตนนั้นต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างบ้านนี้ นายอาร์มสามารถที่จะจ้าง วิศวกร กรรมกร หรือสถาปนิก ได้เพื่อให้การสร้างบ้านนั้นเสร็จตามสัญญาจ้าง
ความหมาย
หนี้กระทำการคือ การที่ลูกหนี้ต้องกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแก่เจ้าหนี้ไม่ว่าการนั้นจะเกิดจากนิติกรรมสัญญาหรือเกิดจากที่ตัวลูกหนี้ได้ทำละเมิดแก่เจ้าหนี้ เพื่อให้การชำระหนี้นั้นสำเร็จลูกหนี้จะต้องกระทำการเพื่อชำระหนี้ให้สมบูรณ์
มาตรา 213 วรรค 2 "เมื่อสภาพแห่งหนี้ไม่เปิดช่องให้บังคับชำระหนี้ได้ ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำการอันหนึ่งอันใด เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับให้บุคคลภายนอกกระทำการอันนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จ่ายให้ก็ได้ แต่ถ้าวัตถุแห่งหนี้เป็นอันให้กระทำนิติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งไซร้ ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนำของลูกหนี้ก็ได้
ความหมาย
วัตถุแห่งหนี้ คือสิ่งที่ลูกหนี้จะต้องดำเนินการเพื่อการปฎิบัตการชำระหนี้แก่เจ้าหนี (ม.208) และตัวเจ้าหนี้ก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องจากตัวของลูกหนี้
มาตรา 208 วรรคแรก " การชำระหนี้จะทำให้สำเร็จผลเป็นอย่างใดลูกหนี้จะต้องปฎิบัติการชำระหนี้ต่อเจ้าหนี้เป็นอย่างนั้นโดยตรง"
หนี้งดเว้นกระทำการ(ม.194)
มาตรา 194 "ด้วยอำนาจแห่งมูลนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิจะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ อนึ่งการชำระหนี้ด้วยงดเว้นการอันใดอันหนึ่งก็ย่อมมีได้"
ความหมาย
เป็นการที่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ตกลงจะไม่ให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจระบุไว้ในสัญญาอันชัดเเจ้ง เพื่อให้การชำระหนีี้นั้นสมบูรณ์ลูกหนี้จะต้องงดเว้นกระทำการตามที่ได้ตกลงกันไว้
ตัวอย่าง
การงดเว้นเกี่ยวกับการก่อสร้าง ม.213 วรรค 2 )
มาตรา 213 วรรค 3 " ส่วนหนี้ซึ่งมีวัตถุประสงค์อันจะให้งดเว้นการอันใด เจ้าหนี้จะเรียกร้องให้รื้อถอนการที่ได้กระทำลงแล้วนั้นโดยให้ลูกหนี้เสียค่าใช้จายและให้จัดการอันควรเพื่อกาลภายหน้าด้วยก็ได้"
EX. นายแดงผู้ที่มีที่ดินรกร้างจึงได้ตัดสินใจให้นายดำได้เช่าเพื่อใช้สร้างอาคารพาณิชย์ และนายดำนั้นจะต้องสร้างไม่เกิน 2 ชั้นเนื่องจากบริเวณที่ให้เช่าและบ้านของนายแดงอยู่ติดกัน หากตึกมีความสูงเกิน 2 ชั้นจะทำให้บทบังวิว และแสงแดด(ในบางช่วงเวลา) หากนายดำได้สร้างตึกเกินกว่า 2 ชั้น ที่นายแดงได้ให้งดเว้นกระทำการในสัญญา นายแดงมีสิทธิที่จะรื้อถอดสิ่งก่อสร้างนั้นได้ตามาตรา 213 วรรค 2 อันเนื่องมาจากนายดำซึ่งเป็นลูกหนี้ ได้ฝ่าฝืนการชำระหนี้ซึ่งให้งดเว้นกระทำการ
การงดเว้นกระทำการแบบอื่นๆ
EX. นายเอ ได้ไปสมัครเป็นเชฟร้านอาหารแห่งหนึ่งโดยในสัญญาจ้างนั้นได้ระบุไว้ว่าห้ามนายเอผู้ซึ่งเป็นเชฟนำสูตรอาหารของทางร้านไปเผยแพร่กับผู้อื่นตลอดระยะเวลาที่ตนได้ทำงานที่ร้านอาหารแห่งนี้
หนี้งดเว้นกระทำการต้องมีสภาพเป็นหนี้
ในการงดเว้นการกระทำการใดๆต้องเป็นการงดเว้นกระทำจากการเป็นหนี้ ซึ่งลูกหนี้มีหน้าที่ต้องงดเว้นกระทำการสิ่งนั้น ไม่ใช่การงดเว้นทั่วๆไป
EX. การสั่งให้นางสาวเอ ไม่มียุ่งกับสามีของตนเองอีกในอนาคต ซึ่งการให้งดเว้นนี้ไม่ใช่การงดเว้นที่เกิดจากการเป็นหนี้ตามกฎหมายลักษณะหนี้ ถือว่าไม่สามารสั่งให้นางสาวเองดเว้นกระทำการได้
หนี้งดเว้นกับหลักเสรีภาพ
การงดเว้นกระทำการอันเกิดจากหนี้นั้นจะต้องไม่ขัดกับหลักเสรีภาพ ในการงดเว้นกระทำการนั้นจะต้องมีข้อจำกัดด้านระยะเวลาหรือด้านสถาน หากไม่มีข้อจำกัดนั้นหนี้งดเว้นกระทำการอาจจะขัดกับหลักเสรีภาพได้ เมื่อขัดกับหลักเสรีภาพแล้วสัญญานั้นย่อมตกเป็นโมฆะ
EX. การให้งดเว้นกระทำการห้ามเดินทางโดยใช้ยานพหนะตลอดชีวิต การงดเว้นนี้ย่อมตกเป็นโมฆะแม้การงดเว้นนี้จะเกิดจากหนี้ก็ตาม เนื่องจากการนั้นขัดต่อหลักเสรีภาพ
หนี้งดเว้นกระทำการต้องไม่ขัดต่อกฎหมายและความสงบเรียบร้อยของประชาชน และจะต้องไม่พ้นวิสัย
การงดเว้นอันขัดต่อความสงบเรียบร้อย
EX.นายเอและนายบี เป็นพี่น้องกันได้ทำสัญญาให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา สัญญาอันเป็นงดเว้นกระทำการนี้ย่อมตกเป็นโมฆะเพราะขัดต่อความสงบเรียบร้อยละศีลธรรมอันดีของประชาชน
การงดเว้นอันเป็นการพ้นวิสัย
EX. นายเอได้ทำสัญญากับนายบี ซึ่งสัญญานั้นได้ให้นายบีห้ามหายใจ ซึ่งการงดเว้นนี้ย่อมถือว่าเป็นการพ้นวิสัยและตกเป็นโมฆะ
การงดเว้นอันขัดกับหลักกฎหมาย
EX. นายเอได้ให้นายบี ห้ามไปใช้สิทธิในการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน การงดเว้นกระทำการนี้ย่อมตกเป็นโมฆะเนื่องจากขัดต่อกฎหมาย
หนี้ส่งมอบทรัพย์
ความหมาย
วัตถุแห่งหนี้อันเป็นการส่งมอบทรัพย์สิน คือลูกหนี้มีหน้าที่จะต้องส่งมอบทรัพย์สินนั้นๆที่ได้ทำสัญญาให้แก่เจ้าหนี้ เพื่อให้การปฎิบัติการชำระหนี้นั้นสมบูรณ์ โดยเป็นการส่งมอเพื่อให้ทรัพย์นั้นได้ไปอยู่ภายใต้การปกครองของตัวเจ้าหนี้
การโอนกรรมสิทธิ์
สังหาริมทรัพย์
ในการทำสัญญาซื้อขายหากเป็นสังหาริมทรัพย์และเป็นทรัพย์เฉพาะสิ่ง กรรมสิทธิ์นั้นย่อมถูกโอนไปตั้งแต่ตกลงซื้อขายกัน ลูกหนี้นั้นจะเหลือหน้าที่เพียงส่งมอบทรัพย์สินเท่านั้น
นายเอตกลงซื้อปากกากับป้าบี กรรมสิทธิ์ของปากกาย่อมตกเป็นของนายเอตั้งแต่ตกลงกัน โดยป้าบีมีหน้าที่ส่งมอบก๋วยเตี๋ยวนั้นให้นายเอ
สังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ/อสังหาริมทรัพย์
ในการซื้อขายทรัพย์ที่เป็นสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษและอสังหาริมทรัพย์นั้น การซื้อขายนอกจากลูกหนี้จะมีหน้าที่ส่งมอบทรัพย์สินให้แก่ลูกหนี้แล้วยังมีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ของทรัพย์นั้นให้แก่เจ้าหน้าอีกด้วยซึ่งอาจจะแตกต่างกันไป เช่น ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่
นายเอได้ตกลงซื้อขายบ้านของนายบี ซึ่งนอกจากที่นายบีจะต้องส่งมอบทรัพย์สินให้แก่นายเอแล้ว นายบียังต้องโอนกรรมสิทธิ์ของบ้านดังกล่าวนั้นให้กับนาบเออีกด้วย เนื่องจากบ้านนั้นถือว่าเป็นอสังการัมทรัพย์ การโอนกรรมสิทธิ์ จะต้องมีการทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่
วิธีการส่งมอบทรัพย์ (ม.462 )
การส่งมอบทรัพย์สินนั้นมีหลากหลายวิธี และแต่ละทรัพย์นั้นมีความแตกต่างในการส่งมอบ ตามมาตรา 462 ระบุเพียงว่าการส่งมอบนั้นทำอย่างไรก็ได้แต่ขอให้ทรัพย์สิน นั้นได้ไปอยู่ในเงื่อมมือของผู้ซื้อ
นายเอตกลงซื้อปากกากับป้าบี ป้าบีได้ส่งปากกาให้นายเอ การกระทำนี้ถือว่าป้าบีซึ่งเป็นลูกนี้ได้ทำการส่งมอบทรัพย์แก่นายเอแล้ว
มาตรา 462 " การส่งมอบทรัพย์นั้นจะทำอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้สุดแต่ว่าเป็นผลให้ทรัพย์สินย์สินนั้นไปอยู่ในเงื้อมมือของผู้ซื้อ"
ลูกหนี้อาจไม่ต้องกระทำด้วยตนเอง
เป็นการที่ลูกหนี้เป็นผู้รับผิดชอบในสัญญา แต่ไม่จำเป็นที่ตัวลูกหนี้จะกระทำตามสัญญานั้นด้วยตัวเอง สามารถที่จะจัดหาผู้อื่นหรือจ้างผู้อื่นมากระทำเพื่อให้เสร็จตามสัญญานั้นๆ
EX. นายบอมอยากจะสร้างบ้านจึงว่าจ้างนายอาร์มให้มารับเหมา ในการสร้างบ้านหลังนี้ให้แกนายบอม นายอาร์มนั้นไม่ต้องจำเป็นที่ตนต้องกระทำการสร้างบ้านหลังนี้ด้วยตนเองทั้งหมด แต่ตนนั้นต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างบ้านนี้ นายอาร์มสามารถที่จะจ้าง วิศวกร กรรมกร หรือสถาปนิก ได้เพื่อให้การสร้างบ้านนั้นเสร็จตามสัญญาจ้าง