Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง - Coggle Diagram
ความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง
ลักษณะความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง
ความหมายของการกระทำ
ผู้ใด
บุุคคลธรรมดา/นิติบุคคล
ผู้ที่จะต้องรับผิดจะต้องเป็นมนุษย์อันอยู่ในความหมายของ "ผู้ใด" ต้องมีการกระทำของบุคคลผู้ต้องรับผิดด้วย
การกระทำ
คือ ความเคลื่อนไหวของบุคคลโดยรู้สึกสำนึกในความเคลื่อนไหวของตนและหมายถึงการงดเว้นหรือละเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่ที่จะต้องทำ
EX. เด็กชายดื้อ ซุกซน เอื้อมไปจับของในร้านและตกแตกทำให้ข้าวของเสียหาย ตามข้อเท็จจริงได้ความว่า ลูกซึ่งเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุเพียงแค่ 6 เดือน ด้วยความซุกซนเอื้อมมือไปจับสิ่งของแล้วทำหล่นตกแตก แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้บุคคลภายนอกเสียหายแต่การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำของเด็กที่มีอายุเพียงแค่ 6 เดือน ซึ่งทำไปด้วยความไร้เดียงสาและไม่รู้ถึงความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของตน
การกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
จงใจ
คือ กระทำโดยรู้สำนึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดจากการ
กระทำของตน
EX. นาง ก. ยกแก้วน้ำราดหัวใส่ นาง ข. ดังนั้นย่อมเป็นการที่ นาง ก. กระทำไปโดยรู้สึกถึงผลเสียหายที่จะเกิดแก่ นาง ข. จากการกระทำของตน
ประมาทเลินเล่อ
คือ ไม่จงใจแต่ไม่ใช้ความระมัดระวังตามควรที่จะใช้ รวมถึง ลักษณะที่บุคคลผู้มีความระมัดระวังจะไม่กระทำอีกด้วย
EX. นาย ก. ขับรถยนต์ผ่านทางรถไฟ แม้ว่าจะไม่มีสัญญาณ "หยุด" บอกไว่ แต่มีป้ายบอกเครื่องหมายว่ามีทางรถไฟข้างหน้าแสดงไว้ ซึ่งควรใช้ความรพมัดระวังดูความปลอดภัยให้แน่เสียก่อนโดยชะลอความเร็วและหยุดมองรถซ้ายและขวา ต่อเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงขับต่อไป แต่นาย ก.ไม่ได้ปฏิบัติตามที่กล่าวข้างต้น จึงทำให้นาย ก. ขับชนรถไฟจึงเป็นความประมาทของนาย ก.
การกระทำโดยผิดกฎหมาย
การกระทำโดยผิดกฎหมายมีความหมายกว้าง มิใช่หมายแต่เพียงฝ่าฝืนกฎหมายที่บัญญัติไว้โดยชัดแจ้ง แต่รวมถึงการกระทำโดยไม่มีสิทธิหรือข้อแก้ตัวตามกฎหมาย
การใช้สิทธิแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
EX. บิดาและมารดาผู้ใช้อำนาจปกครองสิทธิทำโทษบุตรตามสมควรเพื่อกล่าวสั่งสอน ถ้าทำเกินสมควรย่อมเป็นการทำมากเกินไปกว่าสิทธิที่มีอยู่แล้วตามกฎหมาย
การกระทำฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมาย
EX. นาย ก. ขับรถด้วยความเร็วสูงโดยขับผิดทางเป็นการประมาทเลินเล่อ
ลักษณะความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
ความเสียหายแก่ผู้อื่น
คือ ความเสียหายที่เกิดแก่สิทธิของบุคคลอื่น
มีความเสียหายต่อสิทธิ
EX. นาย ก. จับมือถือแขน นาง ข. ตามความคิดบุคคลธรรมดาย่อมถือว่านาง ข. ได้รับตวามเสียหาย กฎหมายอาญาได้บัญญัติรับรองว่าเป็นการที่นาย ก. ทำอนาจารใส่ นาง ข.
ลักษณะแห่งสิทธิ
EX. สิทธิที่จะใช้ที่หรือทางสาธารณะ ผู้ใดมากีดขวางย่อมเป็นละเมิด
สิทธิ คือ ประโยชน์ที่บุคคลมีอยู่และบุคคลอื่นมีหน้าที่เคารพ
ความเสียหายที่คำนวณเป็นตัวเงินได้และไม่อาจคำนาณเป็นตัวเงินได้
EX.นาย ก. ชกต่อย นาย ข. แต่นาย ข. ไม่บาดเจ็บไม่จำเป็นต้องรักษานาย ข. ดังนั้นจึงเป็นความเสียหายอันคำนวณเป็นเงินไม่ได้
EX. นาย ก. จับนาย ข. ไปกักขังอันเป็นการกระทำต่อเขาให้เสียหายในเสรีภาพ ย่อมเป็นความเสียหายที่ไม่อาจคำนวณเป็นตัวเงินไม่ได้ แต่ถ้านาย ข. หนีออกมาได้ ต้องเสียค่าพาหนะในการหลบหนีกลับมาบ้านย่อมเป็นความเสียหายที่คำนวณเป็นตัวเงินได้
ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของผู้ทำความเสียหาย
มี ๒ ทฤษฎี
ทฤษฎีความเท่ากันแห่งเหตุหรือทฤษฎีเงื่อนไข
ถ้าไม่มีการกระทำของจำเลยผลก็จะไม่เกิดขึ้น
เช่นนี้ต้องถือว่าผลที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากการกระทำของจำเลย
EX. นาย ก. ทำร้ายร่างกายนาย ข. โดยเตะที่ท้องเบาๆ แต่ปรากฏว่า ข. มีโรคร้ายประจำตัว ซึ่งถ้าหากถูกกระทบกระเทือนอย่างแรงนาย ข. อาจตายได้แต่นาย ก. ไม่ทราบมาก่อน ดังนี้ความตายของนาย ข. เป็นผลกระทบมาจากนาย ก. แม้นาย ก. จะไม่รู้ว่านาย ข. เป็นโรคดังว่านั้น คิดแต่เพียงว่านาย ข. อาจได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่นาย ก. ก็ต้องรับผิดในความตายของนาย ข.
ทฤษฎีมูลแห่งเหตุเหมาะสม
แม้เหตุหลายเหตุจะก่อให้เกิดผลอันใดอันหนึ่งขึ้นได้ก็ตาม แต่เหตุที่ผู้กระทำจะต้องรับผิด คือ เหตุที่ตามธรรมดาย่อมให้เกิดผลเช่นนันได้เท่านั้น กล่าวคือจะต้องนำเหตุและผลมาพิจารณาควบคู่กันได้ว่า ตามธรรมดาเหมาะสมกันหรือไม่ที่จะเป็นเหตุเป็นผลของกันและกัน
EX. ปกติชนอย่างนาย ก. ย่อมไม่ทราบว่านาย ข. มีโรคร้ายประจำตัว ถ้าทำร้ายเช่นนั้นนาย ข. อาจได้รับอัตรายถึงตายได้นาย ก. จึงต้องรับผิดเฉพาะในกรณีที่นาย ข. ได้รับบาดเจ็บอย่างธรรมดาเท่านั้นไม่ต้องรับผิดในความตายของนาย ข.