Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง - Coggle Diagram
ความผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง
ความหมายของการกระทำ
องค์ประกอบ ผู้ใด+การเคลื่อนไหว+กระทำเเบบรู้สำนึก
การกระทำการเคลื่อนไหวร่างกายหรือไม่เคลื่อนไหวร่างกายโดยรู้สำนึกคืออญู่ใต้บังคับของจิตใจ
1.4การกระทําที.ก่อใหเ้กิดความเสียหายแก่บุคคล
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่นจะต้งมีความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อยังไม่เกิดความเสียหายก็ยังไม่เป็นการละเมิด เเยกได้ 3 กรณี
2.ลักษณะแห่งสิทธิ
3.ความเสียหายที่เป็นตัวคำนวณเป็นตัวเงินได้เเละไม่อาจคำนวณเป็นตัวเงินได้
1.มีความเสีบสิทธิ เช่น นางเเดงใช้ผ้าตีเเขนนางดำ ไม่มีอะไรเปื้อนร่างกายนางดำ
1.3การกระทำโดยผิดกฎหมาย
คือการที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยชัดเเจ้งกรณีที่เห็นได้ชัดคือกฎหมายอาญาบัญญํติว่าการกระททำอันใดเป็นการผผิดดังนั้นย่อมเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างไม่มีปัญหา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา295 และประมวลเเพ่งมาตรา362
เว้นแต่การกระทำโดยมีสิทธิตามกฎหมาย เช่น บิดามารดาสั่งสอนบุตร
การกระทำฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมาย มาตรา422 ถ้าความเสียหายเกิดเเต่การฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายใดอันมีที่ประสงค์เพื่อปกป้องคนอื่นๆ
การใช้สิทธิซึ่งมีเเต่จะเกิดความเสียหายเเก่บุคคลอื่นเมื่อมีสิทธิ์เเล้วมิได้หมายความว่าจะใช้สิทธิ์อย่างไรก็ได้ตามใจชอบการใช้สิทธิอาจถือว่าเป็นการอันชอบด้วยกฎหมายได้ตามมาตรา421
1.5ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของผู้ทำความเสียหาย
ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการกระทำของผู้ทำความเสียหายเเบ่งได้ 2 ทฤษฎี
1.ทฤษฎีความเท่ากันแห่งเหตุหรือทฤษฎีเงื่อนไข
ตัวอย่าง นายดำทำร้ายร่างกายนายเเดงโดยชกเข้าที่ท้องเเต่นายแดงมีโรคประจำตัวซึ่งถ้าถูกกระทบอย่างเเรงนายเเดงอาจตายได้เเต่นายดำไม่ทราบมาก่อน นายเเดงถึงเเก่ความตายดังนั้นความตายของนายเเดงเป็นผลมาจากการกระทำของนายดำ ถึงแม้นายดำจะไม่รู้ว่านายเเดงเป็นโรค นายดำก็ต้องรับผิดในความตายของนายเเดง
2.ทฤษฎีมูลเหตุเหมาะสม
ตัวอย่างที่ว่ามา นางเเดงรับผิดแค่ทำให้นางดำได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ต้องรับผิดฐานทำให้นางดำตาย
มาตรา 420 วางหลักว่า ''ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธฺอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดีท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดเเทนเพื่อการนั้น
การกระทำโดยจงใจหรือประเลินเล่อ
ทำต่่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงเเก่ชีวิตร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สินหรือสิทธิ
กระทำโดยรู้สำนึกเเละเกิดผล
อุทาหรณ์1053/2521 จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเชื่อว่าร้านค้าของโจทก์เป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจึงยืนยันให้เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ในร้าน โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าเจ้าจงใจทำให้โจทก์เสียหายไม่เป็นละเมิด
ประมาทเลินเล่อ=การกระทำมิใช่โดยเจตนา แต่ปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีวิสัยเเละพฤติการณ์เเละผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
ความระมัดระวังที่ว่านี้ต่างกับระมัดระวังในความรับผิดทางอาญา
อุทาหรณ์ 608/2521 จำเลยครอบครองใช้ประโยชน์ท่าเรือคนรู้กันจะลงเรือสะพานไม้ที่ทดลองไปสู่โป๊ะหักทำให้คว่ำจึงถือว่ามีความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ไม่ระมัดระวังดูเเลให้สะพานท่าเทียบเรืออยู่ในสภาพเเข็งเเรงมั่นคงปล่อยให้สะพานไม้ที่ทอดไปสู่โป๊ะที่หักจำเลยต้องรับผิดในผลโดยตรงที่คนตกน้ำตายเพียงเเต่ร้องห้ามมิให้คนกรูกันไปลงเรือไม่เป็นการใช้ความคิดระมัดระวังอันเพียงพอ
ละเมิดคือ การกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อต่อบุคคลภายนอกโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้เขา(ผู้ถูกกระทำ)เสียหายเเก่ชีวิตก็ดี เเก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดีทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดีกฎหมายถือว่าผู้นั้นทำละเมิดจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดเเทนเพื่อการละเมิดนั้น
"ละเมิด'' ซึ่งเป็นคำกริยาที่มีความหมายว่า ล่วงเกินหรือฝ่าฝืนจารีตประเพณีหรือกฎหมายที่บัญญัติไว้ หรือล่วงเกิน ฝ่าฝืน ทำไปโดยพลการหากแต่คำนี้ในกฎหมายมีสถานะเป็นหลักกฎหมายสำคัญเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวเพราะละเมิด้ป็นบ่อเกิดเเห่งหนี้ชนิดหนึ่งในกฎหมายซึ่งนักกฎหมายจะเริ่มทำความเข้าใจความหมายของละเมิดก็จากการเรียนเริ่มต้นที่มาตรา 420
มาตรา 420 บัญญัติว่า "ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกานก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งก็ดีท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดเเทนเพื่อการนั้น''