Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง, ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น - Coggle…
ความรับผิดกระทำละเมิดด้วยตนเอง
การกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
ประมาทเลินเล่อ หมายถึง การกระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง (ไม่จงใจ) ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจำต้องมีความระมัดระวังตามพฤติการณ์ และตามฐานะในสังคมเช่นเดียวกับผู้กระทำความเสียหาย
นายก. ขับรถยนต์ไปในถนนที่มีคนเดินจอแจด้วยความเร็ว และไม่ได้ให้สัญญาณแตรแล้วเฉี่ยวชนถูกคนเดินถนนได้รับบาดเจ็บ ดังนี้ถือว่านายก. กระทำละเมิดโดยประมาทเลินเล่อ
จงใจ หมายถึง รู้สำนึกถึงผลหรือความเสียหายจากการกระทำของตน
ตัวอย่างเช่น ก. ชกต่อย ข. โดยคิดจะให้ ข. เพียงปากแตกโลหิตไหล บังเอิญ ข. ล้มลงศรีษะฟาดกับพื้นถนนศรีษะแตกสลบไป ดังนี้ก็เป็นการที่ ก. ทำร้ายร่างกาย ข. โดยจงใจ
การกระทำโดยผิดกฎหมาย
ความหมาย การกระทำโดยไม่มีสิทธิหรือข้อแก้ตัวตามกฎหมายให้ทำได้แล้วก็ถือว่าผิดกฎหมาย (ถ้ากระทำโดยมีสิทธิตามกฎหมาย แม้จะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น ก็ไม่เป็นผิดกฎหมาย)
การใช้ซึ่งสิทธิที่มีแต่จะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น ตามม.421 คือ แม้จะทำโดยมีสิทธิแต่ถ้าใชสิทธินั้นในลักษณะที่มีแต่จะให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นก็ยังถือว่าเป็นการมิชอบด้วยกฎหมายหรือผิดกฎหมาย
การกระทำฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกำหมาย กรณีตามมาตรา 422 กฏหมายสันนิษฐานว่าผู้ใดฝ่าฝืนกฎหมาย (เช่น พรบ.จราจรทางบก) เป็นผู้ผิด
การกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
มีความเสียหายต่อสิทธิ
ตัวอย่างเช่น นายก. ใช้มือที่สะอาดศีรษะนางสาวข. ซึ่งการที่นายก. ตบศีรษะนางสาวข. ในสายตาของกฎหมายย่อมถือว่าเกิดความเสียหายแก่นางสาวข.แล้ว
ลักษณะแห่งสิทธิ
สิทธิ หมายถึง ประโยชน์ที่บุคคลมีอยู่และบุคคลอื่นมีหน้าที่ต้องเคารพ
ตัวอย่างเช่น ก. เช่าบ้าน ข. เพื่ออยู่อาศัย ก. จึงมีสิทธิที่จะได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่ได้เช่ามา ซึ่งบุคคลอื่นมีหน้าที่ต้องเคารพ และในขณะเดียวกัน ก. ที่เป็นผู้เช่าก็มีหน้าที่สงวนทรัพย์สินที่เช่า และบำรุงรักษา
ความเสียหายที่คำนวนเป็นตัวเงินได้และไม่อาจคำนวนเป็นตัวเงินได้
ตัวอย่างเช่น ก. ทำร้ายร่างกาย ข. ข. ต้องเสียค่าพาหนะในการไปโรงพยาบาลตลอดจนค่ารักษาพยาบาล หรือการที่ ข. ทำงานไม่ได้ เป็นการสูญเสียความสามารถประกอบการงานในภายหน้า ดังนี้เป็นความเสียหายที่คำนวนตัวเงินได้
ตัวอย่างเช่น ก. ขว้างปาหินใส่หลังคาบ้าน ข. แต่หลังคาไม่มีรอยชำรุด เป็นความเสียหายอันคำนวนตัวเงินไม่ได้
ความเสียหายเป็นผลมาจากการกระทำของผู้ทำความเสียหาย (ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุกับผล)
ทฤษฎีความเท่ากันแห่งเหตุหรือทฤษฎีเงื่อนไข ถ้าเหตุอันใดอันหนึ่งคือการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ผู้นั้นต้องรับผิดโดยไม่ต้องคำนึงถึงว่ายังมีเหตุอื่นที่ก่อให้เกิดความเสียหายนั้นด้วยเหมือนกัน (เหตุทุกเหตุมีความเท่ากัน)
ตัวอย่างเช่น ก. ทำร้ายร่างกาย ข. โดยเตะที่ท้องเบาๆ แต่ปรากฏว่า ข.มีโรคร้ายประจำตัว ซึ่งหากถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ข. อาจตายได้ แต่ก. ไม่รู้มาก่อน ข. จึงถึงแก่ความตาย ดังนี้ ความตาย ข. เป็นผลมาจากการกระทำของ ก. แม้ ก.จะไม่รู้ว่า ข. เป็นโรคดังว่า คิดแต่เพียงว่า ข. อาจไดรับบาดเจ็บเล็กน้องเท่านั้น แต่ ก. ต้องรับผิดในความตายของ ข.
ทฤษฎีมูลเหตุเหมาะสม ในบรรดาเหตุทั้งหลายที่ก่อให้เกิดผลขึ้น ในแง่ความรับผิดของผู้กระทำการใดๆแล้ว เฉพาะแต่เหตุที่ตามปกติย่อมก่อให้เกิดผลเช่นว่านั้นผู้ที่กระทำจะต้องรับผิด
ตัวอย่างเช่น ตามตัวอย่างทฤษฎีเงื่อนไข ก. ย่มไม่ทราบว่า ข. มีโรคร้ายประจำตัว ก. จึงต้องรับผิดเฉพาะในกรณีที่ ข. ได้รับบาดเจ็บอย่างธรรมดาเท่านั้น
ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น
ความรับผิดของนายจ้างในผลแห่งการละเมิดของลูกจ้างในทางการที่จ้าง
ความรับผิดของนายจ้าง
ม.425 บัญญัติว่า "นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิด ซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้างนั้น" หมายถึง บุคคล 2 ฝ่ายมีความสัมพันธ์กันตามลักษณะสัญญาจ้างแรงงาน จะใช้ถ้อยคำเรียกชื่อสัญญากันว่าอะไรไม่สำคัญ ถ้าเข้าสัญญาจ้างแรงงานแล้วก็ย่อมเป็นสัญญาจ้างแรงงาน
ตัวอย่างเช่น จ้างคนทำงานในบ้านเรือน บ้างก็ใช้คำว่า คนใช้, คนรับใช้ หรือ จ้างให้ทำงานในบริษัท ห้างร้าน ธนาคาร เรียกว่า พนักงาน เป็นต้น
ข้อสังเกต ข้าราชการใรกระทรวง ทบวง กรม ไม่ได้เป็นนายจ้างลูกจ้าง
ลูกจ้างทำการละเมิดในทางการที่จ้าง
นายจ้างจะต้องรับผิดในการกระทำละเมิดร่วมกับลูกจ้าง แม้การละเมิดนั้นจะก่อขึ้นโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ และไม่ว่าการละเมิดนั้นจะก่อขึ้นแก่ผู้ใด (หากไม่ได้เป็นการกระทำในทางการที่จ้างก็ไม่ต้องรวมรับผิด)
ตัวอย่างเช่น ข. เป็นลูกจ้าง ก. มีหน้าที่ซ่อมเครื่องรับโทรทัศน์ ขณะที่ทำการซ่อมแซมตามหน้าที่ ข. ได้ทำเครื่องรับโทรทัศน์ของลูกค้าเสียหาย ก.ต้องรับผิดต่อลูกค้าด้วย
ตัวอย่างเช่น ดำ เป็นลูกจ้างขับรถของ แดง ขณะที่ขับรถไปส่งของให้ลูกค้า ดำ ได้ตะโกนด่า เหลือง ศัตรูคู่อาฆาตกันซึ่งเดินอยู่รืมถนน แดง ไม่ต้องรับผิดในการกระทำของ ดำ เนื่องจากไม่ได้เป็นการกระทำในทางการที่จ้าง
สิทธิไล่เบี้ย
ม.426 บัญญัติว่า "นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแมนให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อละเมิดอันลูกจ้างได้ทำนั้น ชอบที่จะได้ชดใช้จากลูกจ้างนั้น"
โดยเหตุที่การละเมิดนั้นเป็นการกระทำของลูกจ้างต่อบุคคลภายนอก ที่นายจ้างต้องรับผิดร่วมด้วยกับลูกจ้างก็เป็นความรับผิดต่อผู้เสียหาย แต่ในระหว่างนายจ้างลูกจ้างแล้ว นายจ้างไม่ต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในผลที่ลุกจ้างทำละเมิด เมื่อนายจ้างใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายไปแล้ว จึงชอบที่จะช่วงสิทธิของผู้เสียหายไล่เบี้ยเรียกให้ลูกจ้างชดใช้ให้แก่ตนได้
ตัวการรับผิดในการกระทำละเมิดของตัวแทน
ความรับผิดของตัวการ เหตุละเมิดที่จะให้ตวการรับผิดต้องเป็นเหตุที่ได้เกิดขึ้นในขอบเขตแห่งการปฎิบัติตามหน้าที่เพื่อตัวการหรือในฐานที่ตัวแทนได้ทำการเป็นตัวแทน
ลักษณะตัวการตัวแทน โดยปกติตัวแทนย่อมมีความรับผิดแต่เพียงผู้เดียว ด้วยเหตุที่ตัวแทนไม่ใช่ลูกจ้าง จึงไม่อยู่ในบังคับแห่งสิทธิของตัวการที่จะควบคุมดูแลเกี่ยวกับความประพฤติทางปฎิบัติของตัวแทน ออย่างไรก็ดี การที่ตัวแทนต้องทำตามคำสั่งของตัวการ ทำนองเดียวกับนายจ้างลูกจ้าง จึงมีเหตุผลอย่างเดียวกันที่ตัวการจะต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดมี่ที่ตัวแทนได้ไปทำในการกระทำกิจการของตัวการ
*การใช้ หรือวาน ไม่ใช่ตัวแทน
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ
ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของไม่เป็นความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น ตามที่บัญญัติไว้ในม.428 นั้น แสดงว่าผู้รับจ้างเป็นผู้ก่อความเสียหายแก่บุคคลภายนอก จึงเป็นผู้กระทำด้วย แม้ความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของนั้นจะเป็นความรับผิดในฐานะที่ผู้ว่าจ้างเองเป็นผู้กระทำละเมิด มิใช่ผู้ร่วมกับผู้รับจ้าง และแม้บางทีจะถือว่าผู้ว่าจ้างเองกระทำละเมิดโดยลำพังอีกด้วยก็ตาม
หลักความรับผิดของผู้ว่าจ้างทำของ ความรบผิดของผู้ว่าจ้างทำของมิใช่ความรับผิดในการกระทำของบุคคลอื่น จึงถือว่าเป็นงานของผู้รับจ้างเอง ผู้ว่าจ้างไม่มีสิทธิที่จะออกคำสั่งบังคับบัญชาผู้รับจ้าง
ความผิดของผู้ว่าจ้างตามที่กฏหมายกำหนดไว้มี 3 กรณี
1.ความผิดในส่วนการงานที่สั่งให้ทำ เป็นเรื่องสั่งให้ทำตามสัญญาจ้างที่มีต่อกัน
2.ความผิดในคำสั่งที่ตนให้ไว้ แม้การงานที่สั่งให้ทำไม่เป็นละเมิดในตนเอง แต่อาจสั่งให้ผู้รับจ้างทำการอย่างใดอย่างหนึ่งอันเป็นผลทำให้ผู้อื่นเสียหาย เช่น แนะนำให้ช่างทำรางน้ำชายคาบ้านใกล้ชิดกับแนวเขตที่ดินข้างเคียงของผู้อื่น เวลาฝนตกน้ำไหลตกลงในที่ดินข้างเคียง
3.ความผิดในการเลือกหาผู้รับจ้าง คือ จ้างคนที่ตนรู้ว่าไม่ใช่ผู้ที่มีความสามารถหรือความระมัดระวังอันควรแก่สภาพของการงานที่จ้างให้ทำ
ความรับผิดของมารดาบิดาหรือผู้อนุบาลในการกระทำละเมิดของผู้เยาว์หรือบุคคลวิกลจริต และความรับผอดของครูบาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
ความรับผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลในการทำละเมิดของคนไร้ความสามารถ
จะเห็นได้ว่าในกรณีเด็กแบเบาะ ซึ่งเป็นเด็กไร้เดียงสาปัสสาวะรดผู้อื่น จะถือว่าเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิดของเด็กหาได้ไม่ ส่วนความผิดของบิดามารดาหรือผู้อนุบาลถ้าหากจะมีนั้นจะเป็นความรับผิดตามม.420 หรือไม่นั้น เป็นอีกปัญหาหนึ่ง
*คนวิกลจริต ที่ศาลยังไม่ได้สั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถต้องมีผู้อนุบาลตามความเป็นจริงเป็นผู้ร่วมรับผิด
ความสามารถของบุคคลผู้กระทำละเมิดไม่เป็นข้อสำคัญ เพราะการทำละเมิดเป็นการล่วงสิทธิ ไม่ใช่การใช้สิทธิ ตามม.429
ความรับผิดของครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นในการกระทำละเมิดของผู้ไร้ความสามารถ
-บุคคลต้องรับผิด ตามม.430 ความรับผิดอยู่ที่การบกพร่องในหน้าที่ดูแลผู้ไร้ความสามารถ
-ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ดูแล ตามม.430 ผู้เสียหายมีหน้าที่นำสืบให้ได้ว่าผู้มีหน้าที่ดูแลมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ที่ต้องดูแล ถ้าไม่นำสืบหรือนำสืบให้ฟังไม่ได้ บุคคลที่รับดูแลผู้ไร้ความสามารถก็ไม่ต้องรับผิด
-สิทธิไล่เบี้ยของครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถ เมื่อครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถครูบาอาจารย์หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ก็ชอบที่จะได้ชดใช้จากบุคคลไร้ความสามารถและไล่เบี้ยเอาได้จนครบจำนวนที่ได้ชดใช้