Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
1.วัตถุแห่งหนี้ มาตรา 194, หน้าที่ในการชำระหนี้ - Coggle Diagram
1.วัตถุแห่งหนี้ มาตรา 194
1.หนี้กระทำการ
ลูกหนี้ต้องไปทำการงานอย่างใดอย่างหนึ่งหลายอย่างแก่เจ้าหนี้ :red_flag:
เช่น
ก.ต้องการสร้างอาคารให้ ข.ตามสัญญาจ้างก่อสร้างอาคาร
ก.ต้องส่งมอบทรัพย์ให้แก่ข.ตามสัญญาซื้อขาย
2.หนี้งดเว้นกระทำการ
ลูกหนี้ต้องไม่กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด :red_flag:
เช่น
ก. และ ข. ต่างก็เปิดร้านค้าปลีกอยู่คนละอำเภอกัน และทั้งคู่ตกลงทำสัญญาห้ามค้าขายแข่งกัน คือ ก. จะไม่มาเปิดร้านค้าขายปลีกในอำเภอที่ร้านค้าขายปลีกของ ข.ตั้งอยู่ และข. ก็จะไม่มาเปิดร้านค้าขายปลีกในอำเภอที่ร้านค้าขายปลีก ก. ตั้งอยู่
3.หนี้ส่งมอบทรัพย์สิน
หนี้ที่ลูกหนี้มีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินแก่เจ้าหนี้ :red_flag:
เช่น
สัญญาซื้อก๋วยเตี๋ยว ฝ่ายผู้ซื้อก็มีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินคือราคาก๋วยเตี๋ยวแก่คนขาย ในขณะที่คนขายก็มีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินคือก๋วยเตี๋ยวแก่ผู้ซื้อ
หน้าที่ในการชำระหนี้
1.หน้าที่ชำระหนี้ให้ถูกต้อง
2.วัตถุแห่งหนี้กับวัตถุประสงค์แห่งนิติกรรม
3.ทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งหนี้ มาตรา 195
1) ทรัพย์สินที่จะส่งมอบเป็นทรัพย์สินทั่วไป
1.การที่ทรัพย์นั้นจะเป็นวัตถุแห่งหนี้
เช่น หนี้ส่งมอบข้าวสาร 1 กระสอบ เช่นนี้ทรัพย์นั้นก็ยังมิใช่วัตถุแห่งหนี้ เพราะลูกหนี้จะไปเอาข้าวสารกระสอบใดมาส่งมอบได้
2.กรณีทรัพย์ที่จะต้องส่งมอบได้ระบุไว้เป็นเพียงประเภท
เช่น ต้องส่งมอบข้าวสารจำนวน 10 กิโลกรัม ลูกหนี้จะต้องส่งมอบข้าวสารที่มีคุณภาพอย่างไร
2) ทรัพย์สินที่จะส่งมอบเป็นเงินตรา
1.กรณีหนี้เงินได้แสดงไว้เป็นเงินต่างประเทศ
ลูกหนี้ซื้อสินค้าที่แสดงราคาเป็นเงินเหรียญสหรัฐ ลูกหนี้จะชำระเป็นเงินเหรียญสหรัฐหรือจะชำระเป็นเงินไทยก็ได้
2.กรณีเงินตราที่จะพึงส่งใช้เป็นอันยกเลิกไม่ใช้แล้ว
เช่น กู้เงินมาเป็นเงินมาร์คเยอรมัน แต่เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้เงินมาร์คเยอรมันไม่ใช้แล้ว ดังนี้ลูกหนี้จะด้วยเงินมาร์คอีกไม่ได้
4.กรณีวัตถุแห่งหนี้ซึ่งเลือกที่จะชำระได้
1) สิทธิในการเลือก
2) วิธีการเลือก
1.ลูกหนี้หรือเจ้าหนี้เป็นผู้มีสิทธิเลือก
2.บุคคลภายนอกเป็นผู้มีสิทธิเลือก
3) ระยะเวลาในการเลือก
1.มีกำหนดระยะเวลาให้เลือก
2.มิได้กำหนดเวลาให้เลือก
4) ผลของการเลือก
การเลือกนี้มีผลย้อนหลังไปถึงการเกิดหนี้ครั้งแรก และถือว่าหนี้นั้นอย่างเดียวเป็นกำหนดให้กระทำมาตั้งแต่แรก
5) การชำระหนี้บางอย่างเป็นพ้นวิสัย
2.กำหนดเวลาชำระหนี้
1) หนี้ที่มิได้กำหนดเวลาชำระหนี้
2) หนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระหนี้
(1) กำหนดเวลาชำระแต่เป็นที่สงสัย
เช่น เจ้าหนี้ให้ลูกหนี้ยืมเงินจำนวน 25,000 บาท ตกลงกันว่าลูกหนี้จะชำระภายใน 15 วัน เช่นนี้เจ้าหนี้จะเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระหนี้ด้วยการส่งมอบเงินจำนวน 25,000 บาท ก่อนครบกำหนด 15 วันดังกล่าวไม่ได้ แต่ลูกหนี้ จะชำระหนี้ด้วยการส่งมอบเงินจำนวน 25,000 บาท นั้นให้แก่เจ้าหนี้ ก่อนครบกำหนด 15 วันได้
(2) กำหนดเวลาชำระหนี้ไว้ไม่เป็นที่สงสัย
1.กำหนดเวลาชำระหนี้ตามวันแห่งปฏิทิน
เช่น กำหนดชำระหนี้ในวันที่ 4 ธันวาตม
2.กำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน
เช่น ยืมเงินไปและกำหนดว่าจะใช้คืนเมื่อขายข้าวได้แล้ว
3.การผิดนัดไม่ชำระหนี้
1.การผิดนัด(ลูกหนี้)
(1) ลูกหนี้ผิดนัดโดยต้องตักเตือนก่อน
1.หนี้ที่กำหนดเวลาชำระหนี้มิใช่ตามวันแห่งปฏิทิน
เช่น ยืมกระบือไปใช้ไถนาโดยตกลงว่า เมื่อไถนาเสร็จจะส่งคืน ปรากฏว่าในระหว่างไถนาไปได้เพียงบางส่วนกระบืออีกตัวหนึ่งของผู้ให้ยืมถูกคนร้ายลักไป ผู้ให้ยืมจึงมาทวงกระบือตัวที่ยืมมาไถนาคืนทั้งๆที่ยังไถนาไม่เสร็จ แม้ผู้ยืมจะไม่ยอมส่งคืน ก็ไม่ถือว่าผิดนัด เพราะยังไม่ถึงกำหนด
2.หนี้ที่ไม่มีกำหนดเวลาชำระหนี้
(2) ลูกหนี้ผิดนัดโดยเจ้าหนี้ไม่ตักเตือน
1.หนี้ที่มีกำหนดชำระตามวันแห่งปฏิทินหรือหนี้ที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าก่อนการชำระหนี้ ซึ่งอาจคำนวณนับได้ตามวันแห่งปฏิทิน
2.หนี้ละเมิด
(3) กำหนดชำระหนี้กับการผิดนัด
(4) กรณีที่ไม่ถือว่าลูกหนี้ผิดนัด
1.เป็นเหตุที่เกิดจากเจ้าหนี้เอง
2.เหตุเกิดจากบุคคลภายนอก
2.ผลของการผิดนัดของลูกหนี้
(1) ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดแต่การผิดนัด
เช่น ทำสัญญาจ้างรับสร้างบ้านให้ เขาตกลงว่าจะสร้างเสร็จใน 6 เดือน แต่สร้างไม่เสร็จล่าช้าไป ทำให้ผู้ว่าจ้างต้องไปเช่าบ้านเขาอยู่ต้องเสียค่าเช่าบ้านในระหว่างนั้น ส่งคืนบ้านเช่าช้ากว่าที่กำหนดทำให้ต้องเสียหายไม่ได้รับค่าเช่าที่ควรจะได้
(2) เจ้าหนี้อาจไม่รับชำระหนี้
เช่น จ้างให้ขนสินค้าไปส่งลงเรือเดินสมุทร ซึ่งจะออกจากท่าวันที่ 10 ตุลาคม ดังนี้เวลาซึ่งเรือออกจากท่าจึงเป็นสาระสำคัญ
(3) ลูกหนี้ต้องรับผิดในความเสียหายอันเกิดระหว่างผิดนัดเพิ่มขึ้น
1.ความประมาทเลินเล่อของลูกหนี้อย่างหนึ่ง
2.เกิดจากอุบัติเหตุอีกอย่างหนึ่ง