Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่4 การพยาบาลแบบองค์รวม ตามอาการทางจิตที่สำคัญ ความผิดปกติด้านพฤติ…
หน่วยที่4 การพยาบาลแบบองค์รวม
ตามอาการทางจิตที่สำคัญ
ความผิดปกติด้านพฤติกรรมและบุคลิกภาพ
ความหมาย
เป็นแบบแผนและการดําเนินชีวิต ที่เบี่ยงเบนไปจากวัฒนธรรม ของบุคคลนั้น ๆ และเป็นไปอย่างถาวร บุคลิกภาพนี้จะปรากฏในช่วงวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ตอนต้น แล้วจะดําเนินไปเช่นนั้นเรื่อยๆ ไม่มีการยืดหยุ่น อันเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ หรือไม่สามารถใช้ชีวิตเข้ากับ สังคมได้โดยที่บุคลิกภาพผิดปกตินี้ไม่มีความผิดปกติทางจิต
แนวคิดเกี่ยวกับบุคลิกภาพ
1) แบบชอบแสดงตัว (Extrovert) มีลักษณะเปิดเผย กล้าแสดงออก ชอบเป็นจุดเด่น แต่งตัวดี ร่าเริงแจ่มใส ชอบความสนุกสนาน มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือ ชอบเข้าสังคม
2) แบบชอบเก็บตัว (Introvert) มีลักษณะเงียบเฉย ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก ไม่ค่อย พูด ถ้าจะพูดก็มักจะพูดเรื่องของตัวเอง ชอบเขียนมากกว่าพูด ชอบความเงียบสงบ ไม่ชอบเข้าสังคม
3) แบบกลาง ๆ (Ambivert) มีชีวิตเรียบง่าย ไม่ชอบเก็บตัวมากไปและไม่ชอบ แสดงออกมากไป อยู่คนเดียวก็มีความสุข คบหากับคนทั่วไปได้ดี ไม่พูดมากเกินไป ไม่น้อยเกินไป
พฤติกรรมแยกตัว /บุคลิกภาพแบบเก็บตัว
(Withdraw Behavior/Schizoid Personality
Disorder)
หมายถึง ผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมแยกตนเองจากการพบปะติดต่อกับบุคคล และความกดดันต่างๆหนีจากสิ่งแวดล้อมและความเป็นจริง
ในชีวิต เพราะทนต่อปัญหาและความกังวลไม่ได้
ลักษณะทางคลินิก
พฤติกรรมแยกตัว
จะมีลักษณะเย็นชา ห่างเหิน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่น เป็นคนเงียบๆ ที่คนเข้า
ไม่ถึง แยกตัว ไม่เข้าสังคม มีชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ โดยไม่มีอารมณ์ผูกพันกับผู้อื่นและสามารถสร้างความสําเร็จให้กับตนเองโดยไม่ต้องแข่งขันกับใคร
ลักษณะเด่น
ของพฤติกรรม
แยกตัว
1) Autistic Thinking ความคิดจะวกวนอยู่แต่เรื่องของตนเอง
2) Out of Reality อยู่ในโลกของความฝัน (Fantasy)
3) Impairment of Intelligent ความสามารถทางสติปัญญาเสื่อมลง
4) Inappropriate Mood อารมณ์จะราบเรียบ (Apathy)
5)การเคลื่อนไหวช้า ไม่กระฉับกระเฉง
6) ขาดความสนใจด้านการปฏิบัติกิจวัตรประจําวัน
กลไกการเกิด
พฤติกรรมแยกตัว
1) ครอบครัวที่บิดามารดาหรือบุคคลในครอบครัวมีความขัดแย้งกัน
2) ครอบครัวที่บิดามารดามีลักษณะปกป้องคุ้มครองเด็กมากเกินไป
3)ครอบครัวที่บิดามารดามีลักษณะแยกตัวซึมเฉยเงียบไม่ค่อยแสดงออก
4) ครอบครัวมีปัญหาร้าวฉาน ยุ่งยาก บิดามารดาทะเลาะวิวาทกันเสมอ
พฤติกรรมเจ้ากี้เจ้าการ
(Manipulative Behavior)
หมายถึง พฤติกรรมที่มีอิทธิพลควบคุมบุคคลอื่น โดยใช้อํานาจหรืออิทธิพลเหนือผู้อื่น พยายามให้ผู้อื่นทําตามความต้องการของตนเอง โดยไม่คํานึงถึงความ ต้องการของผู้อื่นพฤติกรรมเจ้ากี้เจ้าการมีผลทั้งในทางสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์
สาเหตุการเกิดพฤติกรรม
มักพบในบุคคลมีความวิตกกังวล ความต้องการไม่สมหวัง มีความต้องการโดยไม่คํานึงถึงความต้องการของผู้อื่น การปรับตัวไม่สมดุล โดยจะให้ผู้อื่นทํางานทุกอย่างแทนตนเอง
ลักษณะเด่นของพฤติกรรม
1) ต่อต้านกระบวนการบําบัดรักษา พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญปัญหา
2)แสดงพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ
3) ขออภิสิทธิ์
4) ขัดขืน ขัดแย้ง ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ
กระบวนการวางแผนการพยาบาล
ผู้รับบริการที่มีบุคลิกภาพผิดปกติ
(Personality Disorders)
2) ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
(Nursing Diagnosis)
ตัวอย่างการตั้งข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
การเผชิญปัญหาไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากขาดความตระหนักรู้
มีพฤติกรรมแยกตัวเนื่องจากไม่ต้องการสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น
มีการเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนการคิด เนื่องจากมีการรับรู้เกี่ยวกับตนเองและผู้อื่นบิดเบือน
3) การปฏิบัติการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเชิงบําบัด เพื่อให้ผู้รับบริการเกิด
ความไว้วางใจและความเชื่อมั่น
ให้การยอมรับผู้รับบริการโดยไม่ตําหนิ
พฤติกรรม(แปลกๆ)ที่แสดงออก
ส่งเสริมให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยเริ่มจาก
คนจํานวนน้อยก่อน แล้วค่อยเพิ่มจำนวนขึ้
1) การประเมินสภาพ (Assessment)
ทําได้โดยใช้ทักษะการสังเกตอาการทางคลินิก (Clinical Observation) ร่วมกับการ สัมภาษณ์ประสบการณ์ชีวิต (Life Experience Interviewing) ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน และประเมินปัญหาปัจจุบันที่เกิดขึ้น
4) การประเมินผล (Evaluation)
การประเมินผลควรประเมินจากปัญหา วิธีการเผชิญปัญหา การแสดงพฤติกรรมการ ปรับตัวที่มีประสิทธิภาพ และความร่วมมือในการรักษา เช่น การไม่คิดฆ่าตัวตาย ไม่รู้สึกว่าตนเองด้อย ค่ามีสัมพันธภาพกับผู้อื่นได้เป็นต้น