Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
🌥️📝บทที่4 การบัญชีเกี่ยวกับค่าแรงงาน 🌥️📝 - Coggle Diagram
🌥️📝บทที่4
การบัญชีเกี่ยวกับค่าแรงงาน
🌥️📝
🌈🌟ความหมายของค่าแรง
💐🌼คำว่าค่าแรงในที่นี้หมายถึงค่าจ้างและเงินเดือนการจ่ายค่าจ้างมักจะทำเป็นรายชั่วโมงรายวันรายชิ้นหรือรายเดือนแต่การจ่ายเงินเดือนจะจ่ายเป็นประจำเดือนที่เท่าๆกันทุกเดือนการบัญชีเกี่ยวกับค่าแรงในที่นี้จะกล่าวถึงทั้งค่าจ้างและเงินเดือนของลูกจ้างหรือพนักงานที่ทำการผลิตอยู่ในโรงงาน
💐🌼ดังได้กล่าวมาแล้วว่าในกิจการอุตสาหกรรมจะมีโรงงานแยกจากแผนกขายและแผนกบริการดังนั้นในกิจกรรมดังกล่าวจึงมีการแบ่งแผนกงานเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
แผนกที่ทำการผลิตโดยตรงและแผนกที่ให้บริการแก่แผนกผลิต ดังนั้นจึงแบ่งประเภทของค่าแรงออกเป็น 2 ประเภทคือ 1 ค่าแรงทางตรง
2 ค่าแรงทางอ้อม
💐🌼อย่างไรก็ตามยังมีแรงงานบางประเภทมีลักษณะที่ไม่สามารถบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าเป็นแรงงานประเภทใด กรณีเช่นนี้มีหลักเกณฑ์การพิจารณาว่าแรงงานดังกล่าวเข้าลักษณะแรงงานทางตรงหรือไม่อยู่ 2 ประการคือ
1 แรงงานดังกล่าวต้องเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสินค้าโดยตรง
2 สามารถคำนวณค่าแรงงานเข้าเป็นทุนในการผลิตสินค้า 1 หน่วยได้โดยง่าย
🌈การควบคุมเกี่ยวกับค่าแรง
ในการจัดการเกี่ยวกับแรงงานจึงต้องมีแผนกต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องดังนี้คือ
1 🌼แผนกบุคลากรมีหน้าที่จัดหาแรงงานต่างๆเข้ามาในโรงงานหน้าที่โดยสรุปของแผนกนี้คือ
1.1🌟การกำหนดมาตรฐานแรงงาน
1.2🌟การว่าจ้าง
1.3🌟การฝึกอบรม
1.4🌟สวัสดิการ
2.🌼แผนกวางแผนการผลิตมีหน้าที่ในการกำหนดแผนการผลิตว่าจะใช้แรงงานประเภทใดแผนกใดเป็นจำนวนเท่าใด
3🌼แผนกบัญชีเกี่ยวกับค่าแรงมีหน้าที่เก็บเวลาทำงานของคนทำงานคำนวณค่าแรงวิเคราะห์ค่าแรงเข้างานและจ่ายค่าแรงให้คนงานแผนกที่ทำหน้าที่นี้อาจแบ่งเป็น 3 🌹แผนกย่อยๆคือ
ก แผนกควบคุมเวลาทำงาน
ข แผนกค่าแรง
ค แผนกบัญชีต้นทุน
เอกสารที่ใช้ประกอบกระบวนการเกี่ยวกับค่าแรงได้แก่
1 🌼บัตรลงเวลาหรือบัตรนาฬิกา เป็นบัตรที่จัดทำสำหรับคนงานแต่ละคนในแต่ละงวดค่าแรงเพื่อให้คนงานบันทึกเวลาที่เข้าออกในโรงงาน
2🌼บัตรบันทึกเวลาทำงานคือบัตรที่ใช้บันทึกเวลาที่พนักงานใช้ไปในการผลิตในลักษณะต่างๆเพื่อแสดงให้ทราบว่าพนักงานทำงานประเภทใดที่ไหนใช้เวลาเท่าใด
3🌼 ทะเบียนค่าแรง เป็นหน้าที่ของแผนกค่าแรงที่จะจัดทำทะเบียนค่าแรงขึ้นเพื่อใช้บันทึกค่าแรงของพนักงานทุกคนที่คำนวณได้จากบัตรบันทึกรายทำงาน
4🌼 ใบสรุปต้นทุนค่าแรงงาน เมื่อมีการคำนวณค่าแรงของคนงานแต่ละคนและได้วิเคราะห์จำแนกค่าแรงแล้ว
🌸พนักงานที่ทำงานในตำแหน่งบริหารหรือทำงานในแผนกบริการไม่ต้องทำบัตรบันทึกเวลาทำงานและสามารถจัดทำได้ 2 ประเภทคือ
ก.มันบันทึกเวลาประจำงาน
ข.บัตรบันทึกเวลาประจำวัน🌸
🌈💐การคำนวณต้นทุนแรงงาน
🌹🌼เป็นหน้าที่ของแผนกค่าแรงที่จะต้องคำนวณและจำแนกประเภทของเงินเดือนและค่าแรงต่างๆในแต่ละงวดที่จะต้องจ่ายให้กับพนักงานและคนงานโดยจะคำนวณจากบัตรบันทึกเวลาทำงานของคนงานแต่ละคนเป็นค่าแรงเบื้องต้น
🌼การคำนวณค่าแรงเบื้องต้น
ค่าแรงเบื้องต้นนี้คำนวณได้จากค่าแรงปกติรวมกับค่าแรงล่วงเวลาดังนี้คือ
🌼คือ1 การคำนวณค่าแรงปกติ ค่าแรงปกติคือค่าแรงที่จ่ายให้คนงานที่ทำงานในเวลาทำงานปกติโดยทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์
🌹🌼2การคำนวณค่าแรงล่วงเวลา เวลาทำงานปกติของกิจการอุตสาหกรรมว่านายจ้างกำหนดชั่วโมงทำงานปกติเท่าไหร่ก็ได้แต่ต้องไม่เกินสัปดาห์ละ 48 ชั่วโมง หากลูกจ้างทำงานเกินกว่าเวลาและชั่วโมงปกติที่กิจกรรมกำหนดไว้ นายจ้างจะต้องจ่ายค่าแรงล่วงเวลาให้แก่ลูกจ้างอัตราค่าล่วงเวลาตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานแบ่งได้เป็น
ก.อัตราค่าล่วงเวลาในวันทำงานปกติ
ข.อัตราล่วงเวลาในวันหยุด
🌹🌼การคำนวณค่าแรงสุทธิ
สรุปค่าแรงงานสุทธิ=กับค่าแรงงานเบื้องต้น-รายการหักต่างๆ
🌈🌼การวิเคราะห์และจำแนกประเภทของค่าแรง
🌸🌼เมื่อวิเคราะห์และจำแนกค่าแรงได้แล้วก็จะบันทึกไว้ในใบสรุปต้นทุนค่าแรงงาน ถ้าเป็นค่าแรงทางตรงจะโอนเข้าบัญชีงั้นระหว่างทางแต่ถ้าเป็นค่าแรงทางอ้อมหรือเข้าล่วงเวลาจะโอนเข้าบัญชีค่าใช้จ่ายในการผลิตใบสรุปต้นทุนค่าแรงงานนี้จะใช้เป็นเอกสารประกอบการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกค่าแรงที่เกิดขึ้นการจ่ายค่าแรงและการโอนค่าแรงเข้างานในวันสิ้นงวดค่าแรง
ไป
🌸🌼การจ่ายค่าแรงการจ่ายค่าแรงให้แก่คนงานหรือพนักงานอาจจ่ายให้ตามรายชิ้นของผลงานที่ทำได้หรืออาจจ่ายเป็นรายชั่วโมงที่ทำงาน
🌸🌼โดยกิจการจะจัดทำใบสำคัญจ่ายตามจำนวนค่าแรงสุทธิรวมทั้งหมดเพื่อเขียนเช็คสั่งจ่ายแล้วนำฝากธนาคารพร้อมรายละเอียดของคนงานและพนักงานแต่ละคนตามจำนวนค่าแรงสุทธิที่คำนวณได้จากแผนกค่าแรง
🌈📝การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับค่าแรง
🌼การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับค่าแรงจะประกอบด้วย 3 ขั้นตอนคือ
🌼1.การบันทึกค่าแรงเบื้องต้นรายการหักต่างๆและค่าแรงสุทธิ
🌼2.การบันทึกค่าแรงเป็นต้นทุนการผลิต
🌼3.บันทึกการจ่ายค่าแรงแก่คนงาน
🌼🌸กระบวนการเกี่ยวกับค่าแรงสรุปเป็นลำดับขั้นได้ดังนี้คือ🌼🌸
🌼1.บันทึกเวลาเข้าออกจากโรงงานของคนงานในบัตรลงเวลาทุกวัน
🌼2.บันทึกลักษณะของงานและจำนวนชั่วโมงที่ทำในแต่ละวันในบัตรบันทึกเวลาทำงาน
🌼3.เปรียบเทียบบัตรลงเวลาและบัตรบันทึกเวลาทำงาน
4.คำนวณค่าแรงเบื้องต้น
🌼5.บันทึกค่าแรงเบื้องต้นรายการหักต่างๆและค่าแรงสุทธิในทะเบียนค่าแรง
🌼6.บันทึกค่าแรงเข้าเป็นต้นทุนการผลิตโดยจำแนกเป็นค่าแรงทางตรงและค่าแรงทางอ้อม
🌈🌥️เงินพิเศษต่างๆและสวัสดิการ
🌼🌼ในกิจการโดยทั่วไปมักมีค่าตอบแทนที่ถือเป็นแรงจูงใจหรือเป็นขวัญกำลังใจให้กับพนักงานค่าตอบแทนเหล่านี้
🌼🌼ค่าล่วงเวลา ค่าล่วงเวลาหมายถึง ค่าแรงที่จ่ายให้พนักงานหรือคนงานในช่วงนอกเวลางานปกติซึ่งตามกฎหมายแรงงาน
มีหลักเกณฑ์ดังนี้
🌼1.ค่าล่วงเวลาของคนงานซึ่งไม่ได้ทำการผลิตสินค้าโดยตรงถือเป็นต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิต
🌼2 เข้าล่วงเวลาของคนงานซึ่งทำหน้าที่ในการผลิตสินค้าโดยตรงให้พิจารณาดังนี้
🌼2.1ถ้าการทำงานล่วงเวลาเกิดขึ้นจากการรับงานจากลูกค้า
🌼2.2ถ้ากันทำงานล่วงเวลาเกิดขึ้นจากการที่กิจการรับงานไว้เกินกำลังที่จะผลิตได้ทันในเวลาปกติ
🌼🌼เงินรางวัลพนักงาน
เงินรางวัลพนักงานเป็นผลตอบแทนที่กิจกรรมจ่ายไปเพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจแก่พนักงานนอกเหนือจากค่าจ้างหรือเงินเดือน
การคิดค่าตอบแทนประเภทนี้เป็นต้นทุนการผลิตให้ถือว่าถ้าจ่ายให้คนงานที่ทำงานทางตรงถือเป็นต้นทุนค่าแรงงานทางตรง🌼🌼
🌼🌼ค่าแรงระหว่างวันหยุดพักผ่อน
ตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานพุทธศักราช 2541 ได้บัญญัติเกี่ยวกับวันหยุดพักผ่อนของลูกจ้างไว้ว่าลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาครบ 1 ปีมีสิทธิ์หยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่าปีละ 6 วันทำงาน🌼🌼
🌼เงินบำนาญหมายถึงเงินที่ลูกจ้างจะได้รับเมื่อเกษียณอายุการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับเงินบำนาญกิจการอาจกำหนดเพียงฝ่ายเดียวหรืออาจกำหนดร่วมกับลูกจ้าง🌼
🌼ค่าเข้ากะ เป็นเงินพิเศษที่กิจการจ่ายให้ลูกจ้างกรณีทำงานนอกเวลาปกติซึ่งเป็นการจ่ายให้เป็นกรณีพิเศษเพื่อชดเชยกับการที่ลูกจ้างทำงานในตอนกลางคืน
🌼🌼เงินชดเชยเมื่อออกจากงานเป็นเงินที่บริษัทจะให้พนักงานในกรณีที่ให้พนักงานออกจากงานโดยไม่มีความผิดอาจเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี🌼🌼