Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลแบบองค์รวมตามอาการทางจิตที่สำคัญ, นางสาวณัฐนรี สวนจันทร์ เลขที่ 2…
การพยาบาลแบบองค์รวมตามอาการทางจิตที่สำคัญ
ความผิดปกติด้านความคิด
อาการหลงผิด
สาเหตุของความหลงผิด
ทางด้านจิตใจ เป็นการใช้กลไกทางจิต ซึ่งเกิดขึ้นภายใจจิตใจที่มีความวิตกกังวล
ทางด้านสังคม จากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก มองโลกในแง่ร้ายจนกลายเป็นความคิดหวาดระแวงและหลงผิด
ทางด้านร่างกาย สูญเสียหน้าที่ของอวัยวะของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการคิดการรับรู้
ลักษณะทางคลินิกของผู้ที่มีความหลงผิด
การรับรู้ จะไม่มีอาการประสาทหลอนเด่นชัด
ความคิด มีเนื้อหาความคิดผิดปกติ อาการหลงผิดมักเป็นระบบ
อารมณ์ มักสอดคล้องกับเนื้อหาความคิด
สภาวะแห่งตนและการตระหนักรู้ ไม่มีความผิดปกติของ Orientation
การควบคุมตนเอง เช่น การฆ่าตัวตายตัวแทน การก่อความรุนแรง
การตัดสินใจและการหยั่งรู้ตนเอง ไม่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการหยั่งรู้
แนวคิดการเกิดอาการหลงผิด
แนวคิดชีววิทยา โอกาสเสี่ยงของบุคคลในครอบครัวที่มีสมาชิกมีอาการหลงผิด สารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องคือ Dopamine Serotonin Norepinephrine
แนวคิดด้านสังคม บุคคลที่มีอาการหลงผิดและหวาดระแวง มักเกิดจากประสบการณ์ในวัยเด็ก มักพบในกลุ่มผู้อพยพ
แนวคิดจิตวิเคราะห์ อาการหลงผิดเกิดจากพัฒนาการด้านอารมณ์ล่าช้า ใช้กลไกป้องกันตัวเองโดย การโยนความผิดให้ผู้อื่น ซึ่งเป็นการกระทำที่อยู่ในจิตไร้สำนึก
กระบวนการวางแผนการพยาบาลผู้รับบริการที่มีอาการหลงผิด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล เช่น รู้สึกไม่ปลอดภัยจากความคิดหลงผิดว่าถูกปองร้าย
การปฏิบัติการพยาบาล สร้างสัมพันธภาพเชิงบำบัด พยาบาลต้องเป็นที่พึ่งพาได้ ยอมรับอาการหลงผิดของผู้รับบริการ ให้ความนับถือในความเป็นส่วนตัว สังเกตการปฏิเสธยา ติดตามอาการข้างเคียงของยา
การประเมินปัญหา ประเมินอาการแสดงออกทางภาษากาย ซึ่งบ่งชี้ถึงความไม่ไว้วางใจผู้อื่น
การประเมินผลการพยาบาล ผู้รับบริการสามารถเผชิญความกลัวจากอาการหลงผิด โดยไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง
ความหมาย
เป็นความคิดหรือความเชื่อที่ผิดๆ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่สามารถลบล้างหรือเปลี่ยนความเชื่อนั้นได้
เป็นอาการที่เกิดจากความคิดแปลกๆเข้าใจยาก และเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง
อาการหวาดระแวง
อาการและอาการแสดง
อารมณ์ มีความรู้สึกสงสัย คลางแคลงใจ
พฤติกรรม มีท่าทีป้องกันตัวเองตลอดเวลา
การรับรู้ มักระแวง มองผู้ใกล้ชิดว่าคิดแอบทำร้าย
กลไกการเกิดอาการหวาดระแวง ก่อตัวขึ้น เมื่อบุคคลนั้นเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อบุคคล สิ่งแวดล้อม
สาเหตุ
ด้านการเลี้ยงดู ขาดความอบอุ่นและความรักในครอบครัว
ประสบการณ์ชีวิตประจำวัน เกิดการรับรู้ไปในทางร้าย
ด้านพันธุกรรม มีประวัติบุคคลในครอบครัว
การได้รับสารพิษต่างๆเช่น สุรา
การเจ็บป่วยด้วยโรคจิตเวช
ประเภทของอาการหวาดระแวง
Simple Paranoid State อาจลักษณะแบบฉียบพลันหรือแบบเรื้อรัง
Paranoid เป็นระยะเวลานาน ฝังแน่น โดยไม่มีอาการประสาทหลอนร่วมด้วย
Paraphrenia เป็นอาการหวาดระแวงของจิตเภท
Induced psychosis เกิดจากการกระตุ้นและไม่มีลักษณะชัดเจน
มักจะไม่ไว้ใจผู้อื่น ระแวงสงสัย โดยขาดหลักฐานหรือข้อมูลสนับสนุนที่เพียงพอ
การรักษา
จิตบำบัด ลดอาการเครียดและกระตุ้นให้เข้าใจกัน
พฤติกรรมบำบัด เพื่อลดความอิจฉาที่เกิดขึ้น
การใช้ยา ตรวจสอบการรับประทานยาอย่างเคร่งครัด
กระบวนการวางแผนทางพยาบาล
การประเมินปัญหา ประเมินอาการหวาดระแวงต่างๆ
ข้อวินิจฉัย เช่น กระบวนการคิดผิดปกติ
การปฏิบัติการพยาบาล เช่น สร้างสัมพันธภาพ สนับสนุนให้มีสัมพันธภาพที่เหมาะสม กระตุ้นให้มีสัมพันธภาพทางสังคม ส่งเสริมการดูแลด้านกิจวัตรประจำวัน
การประเมินผลการพยาบาล ผู้รับบริการสามารถเผชิญกับความหวาดระแวงโดยไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
ความผิดปกติด้านการรับรู้
ประสาทลวง Illusion เป็นความผิดปกติของการรับรู้ที่มีสิ่งเร้ากระตุ้นต่อประสาทสัมผัส
ประสาทหลอน Hallucination เป็นรับรู้แบบผิดๆผ่านประสาทการรับรู้ทั้ง 5 โดยปราศจากสิ่งเร้า
อาการและอาการแสดง มักนั่งอยู่คนเดียว จ้องไปที่ใดที่หนึ่งแล้วยิ้ม
การจำแนกประสาทหลอน
ประสาทตาหลอน ภาพหลอน
ประสาทหลอนด้านการรับกลิ่น
ประสาทหลอนทางหู เสียงแว่ว
ประสาทหลอนด้านการรับรส
ประสาทหลอนทางผิวสัมผัส
พยาธิสภาพทางจิต ไม่เป็นที่แน่ชัด หลายทฤษฎีหรือแนวคิดพยายามอธิบายปัจจัยที่สำคัญ ด้านจิตวิทยา สรีรวิทยา และปัจจัยอื่นๆ
กระบวนการวางแผนการพยาบาล
ข้อวินิจฉัย เช่น เสี่ยงต่อพฤติกรรมรุนแรงในการทำร้ายตนเอง/ผู้อื่น
การปฏิบัติการพยาบาล สร้างความวางใจ รับฟัง สังเกตพฤติกรรม กระตุ้นให้เข้าร่วมกิจกรรมบำบัด
การประเมินสภาพ ปัจจัยนำ/ปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยกระตุ้น พฤติกรรมที่บุคคลตอบสนองต่ออาการ
การประเมินผล ผู้รับบริการรับประทานยาตามแผนการรักษาของแผน ไม่มีอาการข้างเคียงของยาและไม่มีอาการประสาทหลอน
สาเหตุ เกิดในผู้รับบริการที่มีความผิดปกติทางจิต
ความผิดปกติด้านพฤติกรรมแและบุคลิกภาพ
พฤติกรรมแยกตัว
ลักษณะเด่น Autistic Thinking, Out of Reality, Impairment of Intelligent, Inappropriate Mood, การเคลื่อนไหวช้า, ขาดความสนใจด้านปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
เกณฑ์การวินิจฉัย
ไม่สนใจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้อื่น
ชอบทำกิจกรรมที่ต้องทำคนเดียว
ไม่มีความสนใจหรือสนใจน้อยเรื่องความสัมพันธ์
มีกิจกรรมด้านความสนุกน้อย
ไม่สนใจในคำชม
แสดงให้เห็นว่าอารมณ์เยือกเย็น
ไม่มีเพื่อนสนิทหรือมีน้อยมาก
ลักษณะทางคลินิก จะมีลักษณะเย็นชา ห่างเหิน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้อื่น กลไกป้องกันทางจิตคือ Fantasy
กลไกการเกิด สะสมมาตั้งแต่วัยทารกและเติบโต
ครอบครัวที่บิดามารดามีความขัดแย้งกัน
ครอบครัวที่บิดามารดาปกป้องเด็กมากเกินไป
ครอบครัวที่บิดามารดามีลักษณะแยกตัว
ครอบครัวที่มีปัญหาร้าวฉาน
พฤติกรรมเจ้ากี้เจ้าการ
ลักษณธเด่น ต่อต้านกระบวนการรักษา เรียกร้องความสนใจ ขออภิสิทธื์
กระบวนการทางพยาบาล
ข้อวินิจฉัย เช่น มีการเปลี่ยนแปลงด้านกระบวนการคิด เนื่องจากมีการรับรู้เกี่ยวกับตนเองและผู้อื่นบิดเบือน
การปฏิบัติการพยาบาล สร้างสัมพันธภาพเชิงบำบัด ให้การยอมรับ ส่งเสริมให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น กระตุ้นให้ผู้รับบริการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มบำบัด ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
การประเมินสภาพ ทำได้โดใช้ทักษะการสังเกตอาการทางคลินิกร่วมกับการสัมภาษณ์ประสบการณ์ชีวิต
การประเมินผล ประเมินจากปัญหา วิธีการเผชิญปัญหา การแสดงพฤติกรรมการปรับตัวที่มีประสิทธิภาพ และความร่วมมือในการรักษา
สาเหตุการเกิด มักพบในบุคคลมีความวิตกกังวล ความต้องการไม่สมหวัง การปรับตัวไม่สมดุล ไม่ทอะไรด้วยตนเองเพราะกลัวความล้มเหลว
แนวคิดเกี่ยวกับบุคลิกภาพ
แบบชอบเก็บตัว มีลักษณะเงียบเฉย ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก
แบบกลางๆ มีชีวิตเรียบง่าย ไม่ชอบเก็บตัวมากไปและไม่ชอบแสดงออกมากไป
แบบชอบแสดงตัว มีลักษณะเปิดเผย กล้าแสดงออก ชอบเป็นจุดเด่น
นางสาวณัฐนรี สวนจันทร์ เลขที่ 2 116312201003-1