Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แนวคิแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชศาสตร์ -…
แนวคิแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวชศาสตร์
อาการวิทยา (symptomatology)
2.1 ความผิดปกติของสติสัมปชัญญะ (disorders of consc)
• Confusion
มีลักษณะมึนงง
• Clouding of consciousness
มีสติสัมปชัญญะเลือน
• Attention and Concentration
การใส่ใจ
• Distractibility
ไม่สามารถคงความใส่ใจอยู่ที่เรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นาน
• Disorientation
การเสียการเสียการรับรู้ในด้านเวลาสถานที่หรือบุคคล
2.2 ความผิความผิดปกติของพฤติกรรมการเคลื่อนไหว (Disorder of motor activity)
• Psycho motor agitation
การเคลื่อนไหวเพื่อนการเพื่อนไหวเพิ่งมาทราบความกระวนกระวายในใจทำให้อยู่เฉยไม่ได้อาจมีพฤติกรรมในทางลบ
• Psycho motor retardation
ความคิความคิดการเคลื่อนไหวการพูดจาโต้ตอบจะช้าลงมาก
• Stereotypy
การกระทำซ้ำๆ
• Negativism
เป็เป็นการกระทำตรงข้ามกับคำสั่ง
• Catalepsy
การอยู่ในการอยู่ในท่าแปลกแปลกเป็นเวลานาน
• Waxy flexibility
การที่การที่จัดผู้ป่วยให้อยู่ถ้าได้ผู้ป่วยก็จะหยุดถ้างั้นเป็นเวลานานผิดปกติ
• Echolalia
การพูดการพูดตามผู้อื่นเหมือนเสียงสะท้อน
• Echopraxia
การทำตามคนอื่น เช่นเห็นคนอื่นเก้าสี่สาก็เก่าตาม
• Mutism
ผู้ป่วยไม่พูดทั้งทั้งที่อวัยวะเกี่ยวกับการพูดเป็นปกติ
• Automatic obedience
การกระทำตามโดยไม่ได้ตั้งใจ
• catatonic stupor
ผู้ป่วยอยู่นิ่งในท่าใดถ้าหนึ่งไม่เคลื่อนไหวเลย
• Rigidity
แขนขาหรือลำตัวของผู้ป่วยแข็งเกร็ง
• selective mutism
ผู้ป่วยไม่พูด เฉพาะกับบางคน
• compulsion
การย้ำทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดซ้ำๆโดยไม่มีเหตุผล
• agitation
ความรู้ความรู้สึกพลุ่งพล่านกระวนกระวาย
2.3 ความผิดปกติของความคิด (Disorders of Tnought)
•ความผิดปกติของเนื้อหาความคิด (Disorder of content of thought)
•ความผิดปกติของรูปแบบความคิด (Disorder of form of thought)
2.4 ความผิดปกติของอารมณ์ (Disorder of affect)
•Anxiety
ความรู้สึกวิตกกังวล
•Ponic
เป็นความรู้สึกตื่นตระหนกและกลัว
•Phobia
คือความกลัววัตถุสิ่งของสถานการณ์
•Euphoria
อารมณ์ที่เป็นสุข
•Elation
อารมณ์ที่เป็นสุขมากกว่า Euphoria
•Irritability
อารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียวกว่าธรรมดา
•Apathy
อารมณ์เฉยไม่แสดงความรู้สึก
•Inappropriate affect
อารมณ์ที่แสดงออกไม่เหมาะสมสอดคล้องกับเหตุการณ์ ขณะนั้น
2.5 ความผิดปกติของการรับรู้ (Disorder of perception)
•Auditory
มีหูแว่วได้ยินเสียงจากภายนอก
•Visual
มีภาพหลอน
•Olfactory
ได้กลิ่นแปลกๆ
•gustatory
รู้รสแปลกๆ
•Tactile
มีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาไต่ตามตัว
•Illusion
ผู้ป่วยแปลภาพที่เห็นหรือเสียงที่ได้ยินผิดไปจากความจริง
•Hallucination
ประสาทหลอน
•Depersonalization
ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองแปลก
•Derealization
ผู้ป่วยรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป
2.6 ความผิดปกติของความจำ (Disorder of memory )
Amnesia การสูญเสียความจำ มี 2 ชนิด
1-organic amnesia
เกิดจากความผิดปกติของสมอง
2-Psychogenic amnesia
ภายหลังประสบกับปัญหาร้ายแรงของชีวิต
ลักษณะสำคัญเกรการจำแนกโรคทางจิตเวช (ICD10/DSM V)
3.1ลักษณะสำคัญของการจำแนกโรคทางจิตเวช
•
ลักษณะสำคัญของการจำแนกโรคมีดังนี้
1)บอกลักษณะสำคัญของโรค
2)แสดงกลุ่มหรือชนิดของโรค
•
เกณฑ์การจำแนกโรคทางจิตเวชมีดังนี้
1)วินิจฉัยตามลักษณะอาการ (Descriptive approach)
2)วินิจฉัยโดยอิงตามเกณฑ์การวินิจฉัย (Diagnostic criteria)
3)Multi axial evaluation
3.2 เกณฑ์การจำแนกโรคทางจิตเวช (ICD10 / DSM-5)
ปัจจุบันมีระบบการจำแนกโรคทางจิตเวชที่นิยมใช้กัน 2ระบบดังนี้
1-International statistical classification of disease and related health problem (ICD)
เป็นระบบการจำแนกโรคตามองค์การอนามัยโลก (would health organization:WHO)
2-Diagnostic and statistical manual of mental disorders (DSM)
เป็เป็นระบบการจำแนกโรคที่พัฒนาโดยสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (American psychiatric Association หรือ APA)
3.3 แนวคิดเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดโรคทางจิตเวช
•
ปัจจัยด้านชีวภาพ
(Biological factors)
•
ปัจจัยด้านสังคม
(Sociocultural factors)
•
ปัจจัยด้านจิตใจ
(psychological factors)
3.4 การศึกษาเพื่อให้เข้าใจสาเหตุของโรคทางจิตเวช
มี 2ประการที่ช้วยให้เข้าใจการเกิดโรคได้ดีขึ้นคือ
1-stress-diathesis model
คือการเกิดโรคข้นอยู่กับความรุนแรงของ Stress
2-case formulation
เป็น การขยายภาพมองจาก stress-diathesis model ให้กว้างขึ้น
3.5เพราะว่ เพราะว่าเป็นโรคจิตหรือไม่
การพิจารณาว่าบุคคลเป็นโรคจิตหรือไม่นั้น ดูว่าบุคคลนั้นลักษณะสำคัญของโรค 3ประการดังนี้
1-personality Change
บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง
2-Out of realty
ไม่ไม่สามารถเข้าใจสภาวะต่างๆตามความ
3-No insight
ขาดความรู้จักตนเอง
องค์ประกอบของผู้มีสุขภาพจิตดี/ผู้มีความผิดปกติทางจิต
1.1 แนวคิดเกี่ยวกับสุขภาพจิต (mental health) สุขภาพจิตเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพ
องค์การอนามัยโลกได้บัญญัตินิยามของ “สุขภาพจิต” ว่าเป็น “สภาพสุขภาพวะที่บุคคลรับรู้ศักยภาพของตนสามารถรับมือกับความเครียดในชีวิตสามารถทำงานให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์และสามารถทำประโยชน์ให้แก่สังคมของตนได้”
สุขภาพจิตหมายความว่าสุขภาพวะทางจิตใจซึ่งเชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุลย์กับสุขภาพวะทางกายทางปัญญาและทางสังคม
1.2 องค์ประกอบของผู้มีสุขภาพจิตดี
ความรู้สึกต่อตนเอง
ความรู้สึกต่อผู้อื่น
ความสามารถในการดำเนินชีวิต
และมีศักยภาพได้อย่างเต็มที่
1.3 แนวคิแนวคิดเกี่ยวกับความผิดปกติทางจิตหรือความเจ็บป่วยทางจิต (Mental disorder or mental illness)
ปรับตัวได้ไม่ดีจะมีลักษณะตรงกันข้ามกับผู้ที่มีสุขภาพจิตดี ไม่รู้จักและเข้าใจตนเอง
ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพจิต
1-ปัจจัยภายในตัวบุคคล >>ร่างกายเเละจิตใจ
• สาเหตุทางร่างกาย > การถ่ายทอดทางพันธุกรรม
• สาเหตุทางจิตใจ > ผิดหวังรุนแรง สูญเสียคนอันเป็นที่รัก สูญเสียทรัพย์สิน
2-ปัจจัยภายนอกตัวบุคคล
• ปัจจัยครอบครัว > สัมพันธ์ตะพาบในครอบครัว >> ปรับตัว
• สถานะทางเศรษฐกิจ > หนี้สินมาก เครียด สุขภาพจิตไม่ดี
• สภาพชีวิตสมรสมีปัญหายุ่งยาก
• ภัยภัยพิบัติต่างๆ natural disaster or man made disaster