Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลสตรีที่มีเลือดออก ในระยะตั้งครรภ์ :, อาการและอาการแสดง, สาเหตุ,…

- - - - 1.อายุ >35 ปี
      - 2.จำนวนครั้งการคลอดที่เพิ่มขึ้น
      - 3.ความผิดปกติของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยง deciduas จากการขูดมดลูก การผ่าตัดเนื้องอกที่มดลูก เป็นต้น
      - 4.รกผิดปกติ เช่นรกใหญ่(ครรภ์แฝด), Erythroblastosis
- - - - Revealed หรือ external hemorrhage
      - Conceale internal hemorrhage
      - Mixed หรือ combined hemorrhage
      - แบ่งเป็น 3 ชนิด
  - - - ในรายที่รกเริ่มลอกจากส่วนกลางจะยังไม่พบเลือดออกทางช่องคลอด เพราะเลือดจะขังอยู่ด้านหลังรก
      - หากเสียเลือดอย่างรุนแรง อาจจะสังเกตพบระดับของยอดมดลูกสูงขึ้น และมดลูกหดรัดตัวแข็งเกร็ง
  - - - ในรายที่ตั้งครรภ์ครบกำหนดแล้ว อาจเจาะถุงน้ำคร่ำเพื่อให้น้ำคร่ำไหลออก ซึ่งจะช่วยให้เลือดออกน้อยลงและลดโอกาสที่จะเกิด amniotic fuid embolism ให้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกเพื่อช่วยเร่งคลอด
      - ในรายที่ตั้งครรภ์ยังไม่ครบกำหนดอาจพิจารณาให้ตั้งครรภ์ต่อโดยอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด หรือให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูกที่เหมาะสมคือmagnesium sulphate
  - - - 7.1 รายงานแพทย์ทันที
      - 7.3 ปรับการให้สารน้ำหรือเลือดให้เร็วขึ้น
      - 7.4 เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์ และยาในรถฉุกเฉินให้พร้อมใช้
      - 7.2 จัดให้นอนราบไม่หนุนหมอน และห่มผ้าให้อบอุ่น
- - - - มีเลือดปนออกมากับน้ำคร่ำ
      - มีภาวะ fetal distress เพราะเลือดที่ออกมาเป็นเลือดจากทารก
    - - ตรวจทางช่องคลอดจะคลำพบหลอดเลือดที่เต้นในจังหวะเดียวกับเสียงของหัวใจทารก
      - ส่องตรวจถุงน้ำคร่ำ (amnioscopy) จะเห็นหลอดเลือดทอดอยู่บนถุงน้ำคร่ำชัดจน
      - ตรวจด้วย ultrasound อาจเห็นหลอดเลือดทอดอยู่ต่ำกว่าส่วนนำ
      - ตรวจพบเสียงการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงจากการที่ส่วนนำกดหลอดเลือดหรือพบว่า FHS มีภาวะ variable deceleration
- - - - ให้การรักษาเพื่อให้เลือดหลุดไหล
      - การตั้งครรภ์ดำเนินต่อไปได้ โดยให้นอนพัก 24-48 ชั่วโมง
      - อาจให้ยานอนหลับอย่างอ่อน และยาระงับปวด morphine หรือ pethidine
      - ลดการกระตุ้นการหดรัดตัวมดลูก โดยงดร่วมเพศ งดทำงานหนัก
      - ติดตามตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อประเมินการเพิ่มขนาด gestational sac และตรวจ FHS
    - - ให้การรักษาเพื่อให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดโดยเร็ว ให้เกิดความเจ็บปวดน้อยที่สุด และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน
      - ให้นอนพักและให้ยาระงับปวด
      - ตรวจความเข้มข้นของเลือด ให้เลือดเมื่อมีข้อบ่งชี้
      - บางรายอาจทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดโดยใช้ Misoprostol เหน็บทางช่องคลอด หรือให้ยา oxytocin IV drip
      - เฝ้าระวังอาการและอาการแสดงของการแท้งติดเชื้อ
    - - ให้การรักษาเพื่อให้เกิดการแท้งครบ
      - ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น การตกเลือด การติดเชื้อที่โพรงมดลูก เป็นต้น
      - มักให้ ergotamine IV เพื่อช่วยให้มดลูกหดรัดตัว
      - อาจใช้ sponge forceps คีบชิ้นเนื้อของทารกและรกที่ยังค้างอยู่ออก หรือขูดมดลูก
    - - ตรวจอัลตราซาวด์ยืนยันว่าไม่มีชิ้นส่วนค้างอยู่ในโพรงมดลูก
      - รักษาตามอาการ เช่น ให้ยากระตุ้นหดรัดตัวมดลูก ferrous sulfate วิตามินบำรุงร่างกาย เป็นต้น
    - - ให้การรักษาเพื่อให้การแท้งสิ้นสุดลงโดยเร็ว และป้องกันภาวะแทรกซ้อน
      - บางรายอาจแท้งออกมาเองภายใน 2-4 สัปดาห์ ในรายที่ไม่แท้งออกมา กรณีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ พิจารณารักษาด้วยการขูดมดลูก กรณีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ พิจารณาชักนำให้เกิดการแท้งด้วยการใช้ยา
      - เฝ้าระวังความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
    - - ให้การรักษาเพื่อให้การตั้งครรภ์ดำเนินต่อไปได้
      - ตรวจหาสาเหตุที่ทำให้แท้ง และให้การรักษาตามสาเหตุ ดังนี้ แท้งสาเหตุจาก corpus outrun ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ พิจารณาให้ฮอร์โมน progesterone และการแท้งจากปากมดลูกเปิดเปิดหรือปิดไม่สนิท พิจารณาเย้บผูกปากมดลูก และการแท้งจากความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ หรือเบาหวาน พิจารณารักษาตามสาเหตุนั้นๆ
    - - ให้การรักษาเพื่อให้การติดเชื้อหายไปและไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา
      - ให้ยาปฏิชีวนะที่ครอบคลุมเชื้อ aerobic,anaerobic ทั้งแกรมบวกและแกรมลบ
      - อาจขูดมดลูกเพื่อนำชิ้นส่วนของทารกออกให้หมด
  - - - สร้างสัมพันธภาพและความไว้วางใจ และให้ระบายความรู้สึก
      - ดูแลให้ได้รับการสนับสนุนด้านอารมณ์จากสามีและครอบครัว
      - กรณีมีปัญหาซับซ้อน หรือมีปัญหาสุขภาพจิต ควรส่งต่อให้รับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
    - - ดูแลให้พักผ่อนบนเตียง ให้ยานอนหลับ หรือยาระงับปวดตามแผนการรักษาของแพทย์
      - ในรายแท้งคุกคาม ให้งดการตรวจทางช่องคลอดและงดสวนอุจจาระ เพื่อลดการกระตุ้นการหดรัดตัวมดลูก ประเมินการหดรัดตัวมดลูกและเลือดที่ออกทางช่องคลอด หากพบมดลูกหดรัดตัวเพิ่มมากขึ้น หรือมีเลือดออกมากขึ้น ให้รายงานแพทย์
      - ในรายแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แท้งไม่ครบ แท้งครบ และแท้งค้าง ให้เตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมทั้งการรักษาด้วยยา หรือด้วยหัตถการ เจาะเลือดส่งตรวจ และเตรียมเลือดไว้ให้พร้อมใช้ ประเมินV/S ปริมาณเลือดที่ออก I/O การหดรัดตัวมดลูกและอาการปวด ให้ยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา ดูแลให้ได้รับน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ ลักษณะสี กลิ่น ปริมาณของสิ่งขับหลั่งออกทางช่องคลอด
    - - สังเกตปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด ซึ่งปริมาณเลือดที่ออกจะค่อยๆลดลงและหนุดภายใน 1-2 วัน
      - สังเกตอาการผิดปกติ ได้แก่ เลือดไม่หยุดไหลมีสิ่งขับหลั่งมีกลิ่นเหม็นออกทางช่องคลอด มีไข้ ปวดท้องน้อย และในรายแท้งคุกคาม ให้สังเกตอาการที่การตั้งครรภ์ดำเนินต่อไป
      - ภายหลังเลือดหยุดไหล ให้พักผ่อนต่อ งดทำงานที่ใช้แรงหรืองานหนักอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายกลับคืนสู่สภาพปกติ และงดการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ