Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กลุ่มอาการไข้ - Coggle Diagram
กลุ่มอาการไข้
สาเหตุ
1.สาเหตุจากภายนอก โดยการสูดลมหรือการหายใจเข้าไป ได้แก่ ฝุ่นละองในบ้าน ละอองดอกไม้ หญ้าบางชนิด ยาบางชนิด ขนสัตว์ ความเย็น ความชื้นโดยการรับประทาน ได้แก่ อาหารบางประเภท เช่น นม เนื้อวัว ถั่วต่างๆ อาหารทะเลบางชนิด ซึ่งทํา ให้เกิดการแพ้ได้ทั้งโดยการรับประทานและการฉดี
- สาเหตุภายใน มักพบเมื่ออายุมากแล้ว มีประวัตติ ดิ เชื้อบ่อยๆหรือเรื้อรัง เช่น หวัดหรือหลอดลมอกั เสบ โพรง จมูกอักเสบ
-
อาการ
อาการสําคัญของโรคหอบหืด ได้แก่ ไอแน่นหน้าอกหายใจมีเสียงวี๊ด หอบเนื่อยหายใจลําบากอาการมัก แย่ลงเวลากลางคืนหรือเช้ามืดอาการอาจเกิดขึ้นเมื่อสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นที่ผู้ป่วยแพ้เช่นสารก่อภูมิแพ้การติดเชื้อไวรัส ความเครียด ควัน อาจมีอาการของโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย เช่น มีน้ำมูกขาวใสไหล คัดจมูก จามเป็นๆหายๆ เวลา อากาศเปลี่ยน
การรักษา
โรคหอบหืดเป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังเกิดขึ้นในผนังหลอดลมและการอักเสบที่เกิดขึ้นนี้มีผลทําให้เยื่อบุ หลอดลมมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารภูมิแพ้ และสิ่งแวดล้อมสูงกว่าคนปกติ ยาหลักที่ใช้ในการรักษาโรคหอบหืดจึงเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบยาในกลุ่มนี้ประกอบด้วยcorticosteroidsชนิดสูดและsodium cromoglycate นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงหรือขจัดสิ่งต่างๆที่ก่อให้เกิดภาวะภูมิแพ้ จะทําให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้ อีกด้วย
ตรวจร่างกาย
อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละราย เช่น ผู้ป่วยโรคหืด ในขณะปลอดอาการจะตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ในขณะที่ผู้ป่วยมีอาการหอบหืด การตรวจทางระบบการหายใจ จะพบว่ามีอัตราการหายใจเพิ่มขึ้น และได้ยินเสียง wheeze หรือ rhonchi จากปอดทั้งสองข้าง
อาการ
เริ่มจากอาการคล้ายไข้หวัด น้ำมูกไหล ไอเล็กน้อย และเมื่อ 2-3 วันผ่านไป เชื้อโรคจะลุกลามไปยังหลอดลม ทําให้เกิดอาการไอมากขึ้น ไอแห้งๆ ไม่ค่อยมีเสมหะหลังจากนั้นอาจลุกลามเป็นโรคปอดอักเสบหรือโรค ปอดบวมได้ อาการส่วนใหญ่ของหลอดลมอักเสบจะหายเป็นปกติดี ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังจากมีอาการ
-
สาเหตุ
- โรคภูมิแพ้
- การติดเชื้อ ได้แก่ เชื้อไวรัส มักเป็นสาเหตุของโรคหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน เชื้อส่วนใหญ่ที่พบได้แก่
Rhinovirus , Respiratory Syncytial virus , Influenza เป็นต้น
- การระคายเคืองจากสารเคมี
การรักษา
- ให้ออกซิเจนที่มีความชื้น (humidified oxygen) ในรายที่มีอาการหอบ หายใจลําบาก หรอื มีภาวะ พร่องออกซิเจน (oxygen saturation ต่ำกว่าร้อยละ 95) เป็นการรักษาที่สําคัญที่สุด
- ให้สารน้ําให้เพียงพอ ในรายที่หอบมาก ดื่มน้ํา ดื่มนมไม่ได้ ควรให้สารน้ําทางหลอดเลือดดํา
- ให้ยาลดไข้และเช็ดตัวในรายที่มีไข้สูง
- ให้ยาขยายหลอดลมชนิดพ่นฝ่อยละออง
- การให้ยาปฏิชีวนะในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
การติดเชื้อที่เชื่อบุหลอดลมแยกทำให้เกิดการอักเสบ ซึ่งต่อมาอาจลุกลามไปยังส่วนของทางเดินหายใจขนาดเล็ก ต่อมสร้างมูกมีขนาคโตและเพิ่มจำนวน มีการทำลายเซลล์ขนกวัด มีการแทรกซึมของเซลล์เม็ดเลือดขาว เช่น Polymorphonuclear leukocyte เข้าไปในหลอดลม ส่งผลให้เกิดเสมหะเป็นหนอง
อาการ
มีไข้ ไอ เจ็บหน้าอก และหอบเหนื่อย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจมีไม่ครบทุกอย่างก็ได้ ส่วนใหญ่มักมีอาการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนต้น หรือโรคหวัดนำมาก่อน หลังจากนั้นจึงมีอาการไอ และหายใจหอบตามมา โดยเฉพาะที่เกิดจากเชื้อสเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี (Streptococcus Pneumoniae) ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ปวดท้อง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน รวมอยู่ด้วย ผู้สูงอายุ อาจมีอาการซึม สับสน และไม่มีไข้
-
สาเหตุ
1.ติดเชื้อจากแบคทีเรีย โดยส่วนใหญ่ปอดบวมที่มาจากแบคทีเรียจะมาจากเชื้อ สเตรปโตค็อกคัส นิวโมเนียอี
- ติดเชื้อจากเชื้อรา โดยส่วนมากจะเกิดในผู้ป่วยที่มีสุขภาพร่างกายย่ำแย่ มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือเป็นโรคเรื้อรังเช่น โรคเบาหวาน โรคไตวาย
3.ติดเชื้อจากไวรัส เป็นสาเหตุที่พบบ่อยในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ แต่จะมีอาการไม่รุนแรงมาก และเชื้อไวรัสบางชนิดที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดสามารถทำให้เป็นปอดบวมได้
การรักษา
- การรักษาทั่วไปให้ออกซิเนในรายที่มีการหายใจเร็วหายใจหอบเขียวให้สารน้ำให้เพียงพอ แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆในร้ายที่มีอาการหอบมากพิจารณาให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำและงดให้อาหารทาง ปากเพื่อป้องกันการสำลัก ให้ยาขยายหลอดลม ยาละลายเสมหะ ยาลคไข้ ทำกายภาพบำบัดทรวงอก กรณีที่มี
ภาวะหัวใจวายหรือหยุดหายใจให้พิจารณาใส่ท่อหลอคลมคอและใช้เครื่องช่วยหายใจ
- การรักษาเฉพาะให้ยาปฏิชีวนะในรายที่มีอาการรุนแรงหรือสงสัยว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มยา รับประทานที่ให้เช่น Amoxicillin, Ethytromycin หรือ Amoxicillin+ Clavulanic acid กลุ่มยาฉีดเช่น
Ampicillin, Gentamicin, หรือ Ceftriaxone เป็นต้น
อาการ
- ระยะไข้ (2-7 วัน) ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกือบตลอดเวลา เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มักมีหน้าแดงและอาจมีผื่นหรือจดุเลือดออกตามลําตัวแขน ขา
2.ระยะช็อคระยะนี้ไข้จะเริ่มลดลงผู้ป่วยจะซึมเหงื่อออกมือเท้าเย็นชีพจรเต้นเบาแต่เร็วปวดท้อง
โดยเฉพาะบริเวณใต้ชายโครงขวาปัสสาวะออกน้อยอาจมีเลือดออกง่ายเช่นมีเลือดกําเดาไหลอาเจียนเป็นเลือด อุจจาระมีสีดําในรายที่รุนแรงจะมีความดันโลหิตต่ำช็อคและอาจถึงตายได้ระยะนี้กินเวลา24-48ชั่วโมงซึ่ง ผู้ป่วยแต่ละรายไม่จําเป็นต้องเป็นรุนแรงและเข้าสู่ภาวะช็อคทกุรายในผู้ป่วยไข้เลือดออกที่อาการไม่รุนแรงเมื่อไข้ลดก็จะมีอาการดีขึ้น รับประทานอาหารได้ เข้าสู่ระยะฟื้นตัว
3.ระยะฟื้นตัว อาการต่างๆจะเริ่มดีขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกอยากรับประทานอาหาร ความดันโลหิตสูงขึ้น ชีพ 3. ระยะฟื้นตัว อาการต่างๆจะเริ่มดีขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกอยากรับประทานอาหาร ความดันโลหิตสูงขึ้น ชพี จร เต้นแรงขึ้นและช้าลงปัสสาวะมากขึ้นบางรายมีผนื่แดงและมีจุดเลือดออกเล็กๆตามลําตว จร เต้นแรงขึ้นและช้าลงปัสสาวะมากขึ้นบางรายมีผื่นแดงและมีจุดเลือดออกเล็กๆตามลําตัว
-
สาเหตุ
เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) โดยมียุงลายเป็นพาหะนําโรค มักพบในประเทศเขตร้อน และระบาดในช่วงฤดูฝนของทกุปี เชื้อไวรัสเดงกี มี สายพันธ์ุ คือ DENV1-, DENV2-, DENV3- และ DENV4- มี ยุงลายเพศเมียเป็นพาหะนําโรค
การรักษา
รักษาตามอาการโดยให้ยาพาราเซทตามอลเช็ดตัวลดไข้ในช่วงที่มีไข้สูงห้ามให้ยาแอสไพรินถ้ามีอาการ คลื่นไส้ อาเจียนให้ยาแก้คลื่นไส้และให้สารอาหารและสารน้ำที่ย่อยง่ายงดอาหารที่มีสีแดงหรือดําแนะนําให้ดื่ม น้ําอย่างเพียงพอหากไมเ่พียงพอจําเป็นต้องให้สารน้ําทางหลอดเลือดและคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดเพื่อจะได้ป้องกันภาวะช็อคได้