Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 การป้องกันอุบัติเหตุและสารพิษ - Coggle Diagram
บทที่ 4 การป้องกันอุบัติเหตุและสารพิษ
ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ภาวะที่เนื้อเยื่อได้รับอันตรายจากการถูกความร้อนที่มากเกินตั้งแต่40องศาเซลเซียส
พยาธิสภาพ
ผิวหนังชั้นนอกสุดและหลอดเลือดถูกทำลายส่งผลให้
เนื้อเยื่อตายเนื้อเยื่อมีเลือดมาเลี้ยงน้อยลงจากหลอดเลือดถูกทำลายทำให้มีการรั่วของสารน้ำออกนอกหลอดเลือด
การประเมินแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก
ขนาดความกว้างของบาดแผล
หมายถึง บริเวณพื้นที่ของบาดแผล บาดแผลที่มีขนาดใหญ่ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ โปรตีน และเกลือแร่ ถึง
กับเกิดภาวะช็อกได้
ตำแหน่งของบาดแผล บาดแผลที่เกิดขึ้นที่มือหรือตามข้อพับต่าง ๆอาจทำให้ข้อนิ้วมือและข้อพับต่าง ๆ มีแผลเป็นดึงรั้ง
ความลึกของบาดแผล หรือ ดีกรีความลึกของบาดแผล ระดับที่ 1 เนื้อเยื่อชั้นผิวหนังจะถูกทำลายเพียงบางส่วน เป็นชั้นตื้นๆ ระดับที่ 2 มีการทำลายของผิวหนังแต่ลึกถึงผิวหนังชั้นใน ต่อมเหงื่อ และรูขุมขน ระดับที่ 3 บาดแผลที่มีการทำลายของหนังกำพร้าและหนังแท้ทั้งหมด รวมทั้งต่อมเหงื่อ ขุมขน และเซลล์ประสาท และอาจกินลึก
ถึงชั้นกล้ามเนื้อหรือ
การสำลักสิ่งแปลกปลอม
ปัญหาที่เกิดตามหลังการสำลัก
ทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจส่วนต้น 2. เกิดการอุดกั้นของหลอดลมส่วนปลาย 3. เกิดการอุดกั้นการระบายของเสมหะในทางเดินหายใจ
จะทำอย่างไร หากมีสิ่งแปลกปลอมอุด
ตันทางเดินหายใจในเด็ก ?
กรณีเกิดกับเด็กที่อายุน้อยกว่า 1ขวบ 1.วางเด็กคว่ำลงบนแขน และวางแขนนั้นลงบนหน้าตัก 2. เคาะหลัง 5 ครั้งติดต่อกัน 3.จากนั้นพลิกเด็กให้หงายบนแขนอีกข้าง 4.ทำซ้ำจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา 5.หากเด็กหมดสติ ให้ทำการประเมินการหายใจ
ในกรณีเด็กที่อายุมากกว่า 1ปี 1)กระตุ้นให้เด็กไอเอง 2)ให้ทำการกดท้อง โดยผู้ช่วยยืนด้านหลังเด็ก แล้วอ้อมแขนมาด้านหน้า 3)กดซ้ำจนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออกมา 4)หากเด็กหมดสติ ให้ประเมินการหายใจ
วิธีของ Heimlich ให้ทำในท่านั่งหรือยืนโน้มตัว ไปทางด้านหน้าเล็กน้อยผู้ช่วยเหลือเข้าทางด้านหลัง ใช้แขนสอดสองข้างโอบผู้ป่วยไว้ มือซ้ายประคองมือขวาที่กำมือวางไว้ที่ใต้ลิ้นปี่ ดันกำมือขวาเข้าใต้ลิ้นอย่างรวดเร็วเพื่อให้เกิดแรงดันในช่องท้อง
การจมน้ำ
พยาธิสภาพ
น้ำจะเข้ากล่องเสียงทำให้เกิดการหดเกร็งของกล่องเสียง อากาศและน้ำเข้าหลอดลมไม่ได้เกิดภาวะขาดออกซิเจน ตามด้วยการสูดหายใจเอาน้ำเข้าไปในปอด ทำให้ไมสามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้
น้ำเค็ม/น้ำจืด
1.การจมน้ำเค็ม ทำให้เกิดภาวะ pulmonary edema
ปริมาตรน้ำที่ไหลเวียนในร่างกายลดลง เกิดภาวะ hypovolemia 2. การจมน้ำจืด จะซึมผ่านเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตของปอดอย่างรวดเร็ว เกิด hypervolemia
กระดูกหักและข้อเคลื่อน
การมีรอยแยก รอยแตก หรือมีความไม่ต่อเนื่องกันของเนื้อกระดูก
พยาธิสภาพ
เกิดการเคลื่อนของกระดูกส่งผลให้อวัยวะนั้นๆ ผิดรูปหรือกระดูกแทงเนื้อเยื่อออกมาภายนอก ส่งผลให้เนื้อเยื่อรอบๆกระดูก เส้นประสาท เกิดการบาดเจ็บ หลอดเลือดถูกทำลาย ทำให้เกิดบาดแผล และภาวะเลือดออก
อาการและอาการแสดง
มีอาการปวดและกดเจ็บ 2. บวม 3. รอยจ้ำเขียว 4. อวัยวะส่วนที่ได้รับบาดเจ็บมีลักษณะผิดรูป
สารพิษ
สารพิษจำแนกตามลักษณะการออกฤทธิ์
1.ชนิดกัดเนื้อ ได้แก่ สารละลายพวก กรดและด่างเข้มข้น น้ำยาฟอกขาว 2.ชนิดทำให้ระคายเคือง ได้แก่ ฟอสฟอรัส สารหนู 3.ชนิดที่กดระบบประสาท ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน พิษจากงูบางชนิด 4.ชนิดที่กระตุ้นระบบประสาท ได้แก่ ยาอะโทรปีน ลำโพง
การประเมินภาวะการได้รับสารพิษ
1.การคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง 2.เพ้อ ชัก หมดสติ 3.หายใจขัด หายใจลำบาก มีเสมหะมาก 4.ตัวเย็น เหงื่อออกมาก
การปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับสารพิษ
ทางปาก 1.ทำให้สารพิษเจือจาง 2.นำส่งโรงพยาบาล 3.ทำให้ผู้ป่วยอาเจียน
สารกัดเนื้อ 1.ถ้ารู้สึกตัวดีให้ดื่มนม 2.อย่าทำให้อาเจียน 3.รีบนำส่งโรงพยาบาล
น้ำมันปิโตเลียม 1.รีบนำส่งโรงพยาบาล 2.ห้ามทำให้อาเจียน 3.ระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ถ้าผู้ป่วยอาเจียน ให้จัดศีรษะต่ำ
ยาแก้ปวด ลดไข้ 1.ทำให้สารพิษเจือจาง 2.ทำให้อาเจียน 3.ให้สารดูดซับสารพิษ ที่อาจหลงเหลือในระบบทางเดินอาหาร
การปฐมพยาบาล
ถูกผิวหนัง 1.ล้างด้วยน้ำสะอาดนาน ๆ อย่างน้อย ๑๕ นาที 2.อย่าใช้ยาแก้พิษทางเคมี 3.บรรเทาอาการปวดและรักษาช็อค 4.ปิดแผล แล้วนำส่งโรงพยาบาล
เข้าตา 1.ล้างตาด้วยน้ำนาน ๑๕ นาที 2.อย่าใช้ยาแก้พิษทางเคมี 3.บรรเทาอาการปวดและรักษาช็อค 4.ปิดตา แล้วนำส่งโรงพยาบาล