Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

สรุปการเรียนวันที่ 1 กรกฎาคม 2565, นางสาวอนัญญา เทพวงค์ ปี 4 เลขที่ 85…

- - - - ระยะแรก 1-5 วัน มีอาการไอ และอาการอื่นๆขึ้นกับเชื้อแต่ละชนิด อาจจะ มีไข้ เหนื่อย ปวดเมื่อตามตัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ คัดจมูก เป็นต้น
      - ระยะที่สอง 5-20 วัน จะมีอาการไอ เสมหะ จาก bronchial hypersensitivity
    - - Tx: ให้ education, β2-agonist ในรายที่มี wheezing,
        antitussive (dextromethorphan, codeine) ให้จำกัดการใช้เฉพาะในรายที่ไอมาก
      - การรักษาจำเพาะในรายที่สงสัย pertussive ให้ ATB กลุ่ม macrolide
      - ในรายที่เป็น influenza มาภายใน 48 ชั่วโมง ให้ Oseltamivir 75 mg PO BID x 5 วัน
      - แม้จะไม่มีหลักฐานสนับสนุน แจ่มักจะมีการให้ ATB ในกลุ่มเสี่ยง เช่น
        อายุมากกว่า 65 ปี, smoking, DM, CHF, on steroid เป็นต้น
  - - - acute consolidative lower respiratory tract infection ในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับเชื้อจากในการดูแลในสถานพยาบาล (ไม่ได้อยู่รพ.เกิน 14 วัน)
      - Ix: CXR; สำหรับใช้ในการประเมิน risk ได้แก่ CBC, BUN, Cr, electrolytes, glucose ซึ่งไม่จำเป็นถ้าอายุ < 50 ปีและมีอาการเล็กน้อย Sputum G/S, sputum C/S; H/C
      - การรักษา
        
        OPD case: Macrolide ให้ยากลับบ้านได้
        
        clarithromycin 1,000mg/d x7d
        
        Azithromycin 500mg d1, 250mg d 2-5
        
        OPD case with significant comorbidity ให้ยาแล้วนอนดูอาการ (heart, lung, kidney, liver, DM, alcoholism, malignancies, immunocompromised) หรือได้ ATB ภายใน 90 วัน: Fluoroquinolone 1. Levofloxacin 750 mg/d for 5d 2. Moxifloxacin 400 mg/d for 7-14d 3. Betalactam (Augmentin 2 gm bid) + Macrolide
  - - - อายุ < 2 ปี, มากกว่าหรือเท่ากับ 65 ปี
        
        < 18 ปีที่ใช้ long-term ASA
        
        BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 40
        
        chronic pulmonary (รวม asthma, cystic fibrosis)
        
        cardiovascular (ยกเว้น HT)
        
        renal, hepatic, hematological (รวม sickle cell anemia)
        
        metabolic disorders (รวม DM)
        
        neurologic (brain, spinal cord, PNS, muscle) เช่น cerebral palsy, epilepsy, stroke, mental retardation, moderate-severe developmental delay, muscular dystrophy, spinal cord injury)
        
        immunocompromised host
        
        pregnant/postpartum ภายใน 2 สัปดาห์
        
        nursing homes resident
    - - Oseltamivir 75mg PO BID x 5 days
        
        < 15 kg 30 mg PO BID
        
        15 - 23 kg 45 mg PO BID
        
        24 - 40 kg 60 mg PO BID
        
        40 kg 75 mg PO BID
- - - - 1. สารคัดหลั่งจากส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น เสมหะ น้ำล้างจากกรพเพาะ หนอง น้ำไขสันหลัง ปัสสาวะ อุจจาระ
        2. ตัวอย่างที่ได้มาจากอวัยวะที่สงสัยว่าเป็นวัณโรค เช่น เลือด น้ำเหลือง
    - - ช่วยยืนยันการวินิจฉัยวัณโรค
        
        ใช้ในการติดตามการรักษา
        
        ตรวจตวามมีชีวิตของเชื้อ
        
        ตรวจสอบรูปแบบการดื้อยาของเชื้อวัณโรค
        
        ตรวจการติดเชื้อวัณโรคระยะแฝง
    - - การตรวจหาเชื้อ acid fast bacilli(AFB)
        
        การตรวจเพาะเลี้ยงเชื้อ และ พิสูจน์ยืนยันชนิด (mycobacterial culture and identification)
        
        การทดสอบความไวต่อยา (drug susceptibility testing)
        
        การทดสอบทางอณูชีววิทยา (molecular biology testing)
        
        การทดสอบแอนติเจนของเชื้อวัณโรค (TB antigen testing)
        
        การทดสอบการตอบสนองของร่างกายต่อการติดเชื้อวัณโรค (immune
        reactivity testing)
- - - - 1.โรคหืด Asthma
        
        อาการ หายใจเสียงหวีด หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก ไอ อาการแย่ช่วงกลางคืนหรือรุ่งเช้า อาการและความรุนแรงแปรปรวนตลอดเวลา
        
        ถูกกระตุ้นโดยการออกกำลังกาย สัมผัสสารก่อภูมิแพ้ สารระคายเคือง การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การติดเชื้อทางดินหายใจ
      - 2. ภาวะหัวใจล้มเหลว Congestive Heart Failure
        
        อาการเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด แต่จะพบอาการและอาการแสดงของภาวะหายใจล้มเหลว ได้แก่ 1. orthopnea 2. edema 3. paroxysmal nocturnal dyspnea ภาพถ่ายทรวงอก มี pulmonary congestion และ cardiomegaly
      - 3. โรคหลอดลมพอง Bronchiectasis
        
        ให้สงสัยในกรณีที่มีเสมหะปริมาณมาก หรือมีอาการกำเริบบ่อยครั้ง มีประวัติเคยเป็นวัณโรคหรือ ภาพถ่ายรังสีทรวงอกมีลักษณะที่ทำให้สงสัย tram-track opacity
        
        ผู้ป่วยอาจถูกวินิจฉัยว่าเป็น COPD หรืออาจมีทั้ง COPD + bronchiectasis รวมกัน
        
        High-resolution computed tomography(HRCT) สามารถยืนยันการวินิจฉัยโรคหลอดลมพองได้
      - 4. โรคอื่นๆ
        
        วัณโรค มะเร็งปอด เป็นต้น
  - - - Intrathoracic
        
        COPD
        
        Bronchial asthma
        
        Central bronchial carcinoma
        
        Endobronchial tuberculosis
        
        Bronchiectasis
        
        Left heart failure
        
        Interstitial lung disease
        
        Cystic fibrosis
      - extrathoracic
        
        Postnasal drip
        
        Gastroesophageal reflux disease
        
        Drug allergy เช่น ACEI inhibitor
  - - - ยาขยายหลอดลม
        
        กลุ่มยา SABA
        
        Salbutamol
        
        Ventolin, Buventol, Bonair, Buto-asma
        
        สูด 1-2 puff ทุก 4-6 ชม. เมื่อมีอาการ
        
        กลุ่มยา SABA/SAMA
        
        Fenoterol/Ipratropium
        
        Berodual
        
        สูด 1-2 puff ทุก 6-8 ชม. เมื่อมีอาการ
        
        กลุ่มยา Methyxanthine
        
        Theophylline SR
        
        Nuelin SR, Theo-dur
        
        กิน 1 เม็ด (200 mg) ทุก 24ชม. หรือ 0.5 เม็ด ทุก 12 ชม.
        
        กลุ่มยา LAMA
        
        Tiotropium
        
        Spiriva handhaler
        
        สูด 1 capsule ทุก 24 ชม.
        
        Spiriva respimat
        
        สูด 2 puff ทุก 24 ชม.
        
        กลุ่มยา LABA
        
        Salmeterol
        
        Serevent accuhaler
        
        สูด 1 dose ทุก 12 ชม.
        
        Serevent evohaler
        
        สูด 1-2 puff ทุก 12 ชม.
        
        Indacaterol
        
        Onbrez
        
        สูด 1 dose ทุก 24 ชม.
        
        Procaterol
        
        Meptin(25,50 ไมโครกรัม)
        
        กิน 1 เม็ด ทุก 12 ชม.
        
        Bambuterol
        
        bambec
        
        กิน 1เม็ด ทุก 24 ชม.
        
        กลุ่มยา LABA/LAMA
        
        Olodaterol/ tiotropium
        
        Spiolto
        
        สูด 2 puff ทุก 24 ชม.
        
        Indacaterol/Glycopyrronium
        
        Ultribo
        
        สูด 1 capsule ทุก 24ชม.
        
        กลุ่มยา ICS/ LABA
        
        Salmeterol/ Fluticasone
        
        Seretide accuhaler
        
        สูด 1 dose ทุก 12 ชม.
        
        Propionate
        
        Seretide evohaler
        
        สูด 1-2 puff ทุก 12 ชม.
        
        Formoterol/Budesonide
        
        Symbicort turbuhaler
        
        สูด 1-2 puff ทุก 12 ชม.
        
        Symbicort forte
        
        สูด 1 puff ทุก 12 ชม.
        
        Symbicort rapihaler
        
        สูด 1-2 puff ทุก 12 ชม.
        
        Fluticasone furoate/vilanterol
        
        Relvar ellipta
        
        สูด 1 puff ทุก 24 ชม.
    - - การสอนเทคนิคการใช้ยาพ่นสูดที่ถูกวิธี
        
        สอนถึงอาการที่บ่งบอกว่า จะมีภาวะกำเริบของโรค ที่ต้องมาพบแพทย์ก่อนนัด 1. เหนื่อยมากขึ้น 2. ไอมากขึ้น 3. เสมหะมากขึ้น 4. เสมหะเปลี่ยนสี 5. ต้องใช้ยาเพิ่ม
        
        การเลิกบุหรี่
        
        การออกกำลังกายโดยการเดินต่อเนื่อง 20 นาที/วัน กางแขนหรือเหวี่ยงแขน
        
        การหายใจ purse lip เพื่อช่วยลด air trapping
        
        การฟื้นฟูสมรรถภาพปอด
        
        ดูแลภาวะโภชนาการ
        
        การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ pneumococcal
- - - - ควรให้ผู้ป่วยพยายามไอ เพื่อนำ FB ออกเอง
    - - Five back blows and Five chest thrusts
        
        วางตัวเด็กนอนคว่ำบนท่อนแขนส่วนปลาย
        
        ใช้มือประคองศีรษะเด็กด้วยการจับที่ขากรรไกรให้แน่น โดยที่ศีรษะอยู่ต่ำกว่าลำตัวเด็ก
        
        วางท่อนแขนไว้บนต้นขา เพื่อประคองเด็กไว้อีกชั้นหนึ่ง จากนั้นใช้สันมืออีกข้างหนึ่ง กระแทกลงตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างกระดูกสะบักทั้ง 2 ข้าง 5 ครั้ง
        
        จับเด็กหงายขึ้น
        
        วางหลังเด็กแนบกับท่อนแขนส่วนปลาย
        
        ใช้มือข้างที่ประคองศีรษะเด็ก ตตรวจดูในปาก ถ้าเห็น FB ให้เอาออก แต่ถ้าไ่เห็น ห้ามลวง
        
        จากนั้นทำ Chest thrust โดยใช้นิ้ว 2 นิ้ววางลงบนส่วนล่างของ sternum ในตำแหน่งต่ำกว่า intermammary line ประมาณ 0.5-1 นิ้ว
        
        กระแทกอย่างแรง 5 ครั้ง แล้วจึงตรวจหา FB อีกครั้ง
        
        หากไม่พบให้ทำ Five back blows and Five chest thrusts ไปเรื่อยๆ จน FB หลุดออกมาหรือจนกว่าเด็กอาการแย่ลง/ไม่รู้สึกตัว
    - - Heimlich maneuver
        
        อาจให้เด็กยืนหรือนั่ง - ผู้ช่วยเหลืออยู่ด้านหลังผู้ป่วย - ใช้แขน 2 ข้างลอดใต้รักแร้ไปโอบที่หน้าอกเด็ก - กำมือข้างหนึ่งโดยเอาด้านหัวแม่มือเข้าหาท้องของเด็กบริเวณกลางลำตัวเหนือสะดือเล็กน้อย - ออกแนงดันขึ้น แรงและเร็ว จนกระทั่ง FB หลุดออกมา หรือเด็กไม่รู้สึกตัว
    - - ปัจจุบัน American heart association (AHA) แนะนำว่าให้รีบตามทีมขอความช่วยเหลือและเริ่มต้นการทำ CPR ทันที เชื่อว่าการกดหน้าอกนั้น นอกจากช่วยในเรื่องการไหลเวียนโลหิตแล้ว แรงดันกดหน้าอกอาจช่วยให้ FB หลุดได้ ดังนั้น ก่อนที่จะช่วยหายใจทุกครั้ง ให้มองหา FB ในปากของผู้ป่วยก่อน หากพบให้นำออกมา แต่หากไม่พบ ห้ามใช้นิ้วควานหรือล้วง และทำ CPR ต่อจนกว่าผู้ป่วยจะดีขึ้นหรือความช่วยเหลือมาถึง
  - - - Downes score (croup score)
        
        อาการและอาการแสดง
        - ไอ ไม่มี = 0, ร้องเสียงแหบ = 1, ไอเสียงก้อง = 2
        - เสียง stridor ไม่มี = 0, มีขณะหายใจเข้า = 1, มีขณะหายใจเข้าและหายใจออก = 2
        - เสียงหายใจเข้า ปกติ = 0, harsh breath sound/rhonchi = 1, ช้าและเข้ายาก = 2
        - Chest retraction และ nasal flaring ไม่มี = 0, มี nasal flaring & suprasternal retraction = 1,
        เหมือน 1 ร่วมกับ subcostal & intercostal retraction = 2
        - เขียว ไม่มี = 0, เขียวขณะไม่ได้ให้ออกซิเจน = 1, เขียวขณะให้ออกซิเจน 40% = 2
        
        แปลผล Downes score
        
        Mild (score < 4)
        
        Dexamethasone 0.15-0.6 มก./กก. กินหรือฉีดครั้งเดียว หรือ prednisolone 1 มก./กก. กินครั้งเดียว
        
        ให้กลับบ้านได้และรักษาตามอาการ
        
        ให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครอง
        
        นัดติดจามอาการภายใน 24-48 ชม.
        
        Moderate (score 4-7)
        
        ให้ออกซิเจนและ - Nebulized epinephrine (1:1,000) 0.05-0.5 มล./กก.
        
        Dexamethasone 0.15-0.6 มก./กก. กินหรือฉีดครั้งเดียวหรือ nebulized budesonide 2 มก. ครั้งเดียว
        
        ติดตามประเมินอาการผู้ป่วยนานอย่างน้อย 4 ชม.
        
        อาการดีขึ้นชัดเจน (score < 4)
        
        ให้กลับบ้านได้และรักษาตามอาการ
        
        ให้คะแนะนำแก่ผู้ปกครอง
        
        นัดติดตามอาการผู้ป่วยภายใน 24-48 ชม.
        
        อาการไม่ดีขึ้นหรือดีขึ้นบ้าง
        
        รับไว้รักษาใรโรงพยาบาล
        
        ทบทวนการวินิจฉัยโรค
        
        Nebulized epinephrine ซ้ำได้อีก 1 ครั้งภายใน 1-2 ชม.
        
        ถ้าอาการเลวลงให้ใส่ท่อช่วยหายใจ
        
        Severe (score > 7)
        
        รับไว้รักษาในโรงพยาบาลทุกราย
        
        งดการรบกวนโดยไม่จำเป็น
        
        ให้ออกซิเจน
        
        ไม่มีภาวะหาายใจล้มเหลว
        
        ให้ออกซิเจนต่อ
        
        Nebulized epinephrine (1:1,000) 0.5 มล./กก. (max 2.5 มล.ในเด็ก < 4 ปี, 5 มล.ในเด็ก > 4 ปี)
        
        Dexamethasone 0.6 มก./กก. (max 10 มก.) ฉีด
        
        ถ้าอาการเลวลงให้ใส่ท่อช่วยหายใจ
        
        เขียว หรือมีภาวะหายใจล้มเหลว
        
        ใส่ท่อช่วยหายใจ
        
        Dexamethasone 0.6 มก./กก. (max 10 มก.) ฉีด
        
        รับไว้รักษาใน ICU
- - - - 1. ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ยาชนิดพ่ดสูด ได้แก่ beclomethasone, budesonide, fluticasone ยาชนิดรับประทาน ได้แก่ prednisolone ยาชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือหลอดลเือดดำ ได้แก่ hydrocortisone, dexamethasone และ methyprednisolone
      - 2.ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ผสมกับยาขยายหลอดลมที่ออกฤทธิ์ยาว(ICS/LABA) ได้แก่ fluticasone propionate-salmeterol, budesonide-formoterol, beclomethasone-formoterol, fluticasone furoate-vilanterol และ fluticasone propionate-formoterol
      - 3. ยาต้านลิวโคไตรอีนชนิดรับประทาน montelukast
      - 4. ยา xanthine ที่ออกฤทธิ์ยาว ได้แก่ theophylline ชนิกรับประทานและ doxophylline
      - 5. Anti-IgE omalizumab
      - 6.Anti-IL-5 และ Anti-IL-5 receptor mepolizumab และ benralizumab
      - 7. Long-acting anticholinergic tiotropium bromine handihaler และ tiotropium bromide soft mist inhaler
    - - 1.ยาขยายหลอดลม (SABA) ยาสูดพ่นชนิดออกฤทธิ์สั้น ได้แก่ salbutamol และ procaterol ยารับประทาน salbutamol, terbutaline, bambuterol และ procaterol
      - 2. ยากลุ่ม xanthine ได้แก่ ยา aminophylline ชนิดฉีดและกิน
      - 3. ยากระตุ้นตัวรับบีต้าผสมกับยาต้านโคลิเอนจิกที่ออกฤทธิ์สั้น fenoterol-ipratropium bromide
  - - - อาการสำคัญ
        
        หายใจเสียงดังหวีด
        
        แน่นหย้าอก
        
        เหนื่อยหอบ หายใจไม่เต็มอิ่ม
        
        ไอ
      - อาการสนับสนุน
        
        อาการเป็นช่วงกลางคืนหรือเข้ามืด
        
        กระตุ้นโดยสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคือง
        
        มีการตอบสนองต่อการรักษา
    - - เพื่อยืนยันความผิดปกติของสมรรถภาพปอดด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
        
        Peak Expiratory Flow Rate (PEEP)
        
        Spirometry & Bronchodilator response test
        
        การตรวจความไวของหลอดลม เช่น Methacholine challenge test/Exercise
- - - - ปัสสาวะไม่พุ่ง ล าเล็ก นาน ไม่สุด ปัสสาวะเล็ด (overflow incontinence)
    - - ปัสสาวะบ่อย กลั้นไม่อยู่ กลั้นได้ไม่นาน
  - - - โรคที่สำคัญ ได้แก่ Acute Cystitis
        
        Acute Cystitis ปัสสาวะบ่อย กะปริดกะปรอย แสบขัด โดยเฉพาะตอนสุด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะขุ่นหรือเหม็นมีเลือดปน การเป็นครั้งแรกในผู้สูงอายุต้องแยกจาก CA bladder
      - อาการและอาการแสดง ได้แก่ frequency, urgency, dysuria, suprapubic tenderness, cloudy urine, hematuria
      - มักมีไข้หรือไข้ไม่ชัดเจน อาจมีอาการต่างๆน้อย หรือมีอาการมากก็ได้
    - - โรคที่สำคัญ ได้แก่ Acute Pyelonephritis
        
        Acute Pyelonephritis
        
        พบในผู้หญิงได ้บ่อยกว่า อาจมี lower UTI นำมาก่อน ให้ระวัง surgical condition
        
        ในผู้ชาย และ recurrent บ่อยๆในผู้หญิง
        
        ในรายที่มีอาการรุนแรงหรือมีความเสี่ยงสูงต่อ sepsis → IV ATB 24-48 hr จากนั้นเปลี่ยนเป็นยารับประทาน รักษาทั้งหมด 14 วัน
        
        ในรายที่มีอาการไม่รุนแรง ใช้นารับประทานได้ เช่น Fluoroquinolone 10-14 วัน
        
        ให้การรักษาแล้ว 72 ชั่วโมงยังไม่ดีขึ้น พิจารณา imaging study เพื่อดูความผิดปกติร่วมด้วย เช่น obstructive uro
      - อาการและอาการแสดง มักมีคล้าย lower tract infection ร่วมกับมีไข้สูงหรือไข้หนาวสั่น ปวดและเคาะเจ็บที่ CVA
      - บางครั้งอาจมาด้วยภาวะ sepsis หรือ septic shock โดยอาการอื่นๆ ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในรายที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน
- - - - เกิดขึ้นเมื่อ volume ในระบบไหลเวียนโลหิตลดลง
        
        Acute hemorrhage
        
        Water and electrolyte loss
        
        Third space loss
        
        Burn
      - การรักษา
        
        2. Supportive and symptomatic treatment
        
        ดูแลเรื่อง Ventilation and oxygenation +/- ET tube & Ventilator
        
        รักษาภาวะสมดุลกรดด่าง (+/- Sodium bicarbonate)
        
        ยา Vasopressor เช่น Dopamine, Norepinephrine
        
        1. Specific treatment
        
        ให้สารน้ำและ electrolytes ชดเชย
        
        รายที่เสียเลือดเกินกว่า 20% ของ blood volume ควรให้เลือด
        
        รักษาสาเหตุ เช่น ผ่าตัดห้ามเลือด, ทำแผล burn, รักษาท้องเสีย
    - - เกิดจากการบีบตัวสูบฉีดเลือดของหัวใจเสียไป ทำให้มีเลือดคั่งตามหลอดเลือดดำ เพราะผ่านหัวใจได้ลำบาก
        
        หลอดเลือดดำทั่วไปจะโป่งเห็นได้ชัดที่คอ, CVP สูง, เลือดจะคั่งในปอด
        
        Cardiac output ที่ต่ำลงทีผลให้ >> มีการหลั่ง catecholamine ออกมามาก ทำให้เส้นเลือดทั่วไปหดตัว >> เลือดก็จะไปเลี้ยงอวัยวะและเนื้อเยื่อต่างๆ น้อบลง
      - สาเหตุ
        
        1. สาเหตุจากหัวใจเอง
        
        1.1 ปัญหาของกล้ามเนื้อหัวใจ เช่น AMI, cardiomyopathy
        
        1.2 โครงสร้างของหัวใจผิดปกติ เช่น โรคลิ้นหัวใจ, ผนังห้องหัวใจรั่ว
        
        1.3 หัวใจเต้นผิดปกติ (arrhythmia)
        
        2.สาเหตุจากภายนอกหัวใจ
        
        2.1 Cardiac tamponade หรือ constrictive pericarditis
        
        2.2 พยาธิสภาพที่ปอดที่ทำให้หัวใจปั๊มเลือดออกไปไม่ได้ เช่น pulmonary embolism, emphysema, bronchopneumonia, severe pulmonary hypertension
        
        2.3 ให้สารน้ำหรือเลือดมากกินไป
        
        2.4 ภาวะท้ายๆ ของ hypovolemic shock
      - อาการและอาการแสดง
        
        ส่วนใหญ่จะคล้ายใน hypovolemic shock แต่มีการตรวจพบบางอย่างที่ต้างออกไปได้ เช่น engorged neck vein, CVP สูง
        
        ผู้ป่วยอาจมีเจ็บแน่นหน้าอก กรณีเป็นกล้ามเนื้อหัวใจตาย
        
        อาจมีการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ
        
        อาจมีเสียงปอดที่ผิดปกติ
      - การรักษา
        
        1.การรักษาเฉพาะ
        
        ให้ยา antiarrhythmic drug ในรายหัวใจเต้นผิดจังหวะ
        
        diuretic ในราย fluid overload
        
        ผ่าตัดแก้ไข cardiac tamponade
        
        coronary revascularization ในราย AMI
        
        2. การรักษาตามอาการและประคับประคอง
        
        ดูแลเรื่องการหายใจและออกซิเจน
        
        ส่งเสรืมการทำงานของหัวใจ อาจใช้ inotropic drug
        
        ลดความต้านทานของหลอดเลือดแดง อาจใช้ยา เช่น Sodium Nitroprusside, Nitroglycerin
    - - มักเกิดจากผลของ endotoxin ของการติดเชื้อแกรมลบ เช่น E.coli,Klebsiella, การเกิดในการติดเชื้อแกรมบวกพบได้น้อย
      - กลไกการเกิด
        
        สารพิษของเชื้อโรค endotoxin ทำให้มีการหลั่งสารหลายชนิดในร่างกายที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เช่น histamine, leukotrienes, prostaglandins, kinins
        
        หลอดเลือดดำที่ถูกทำลายจะเสีย permeability ท าให้ >> น้ำหรือพลาสมาซึมออกนอกหลอดเลือดได้
        
        มีการกระตุ้นระบบ complement ท าให้>> มีการจับกลุ่มของneutrophils เกิดเป็น >> microemboli ไปอุดกั้นใน microcirculation
      - อาการและอาการแสดง
        
        ระยะแรก มักจะต่างจากช็อกอย่างอื่น คือ จะมีผิวหนังอุ่น สีชมพู จากผลของหลอดเลือดขยายตัว (vasodilatation), conscious และ urine output จะดี
        
        ระยะหลัง อาการจะเหมือนช็อกอย่างอื่น
        
        ผู้ป่วยอาจมี > ไข้จากการติดเชื้อ และอาจพบสาเหตุของการติดเชื้อ เช่น UTI, cellulitis
      - การรักษา
        
        1. การรักษาเฉพาะ เช่น การกำจัดการติดเชื้อ ระบายหนอง การให้ยาปฏิชีวนะ
        
        2. การรักษาตามอาการและประคับประคอง
        
        การให้สารน้ำที่เพียงพอ
        
        การ support ระบบต่างๆ เหมือนการรักษาในช็อกแบบอื่นๆ
    - - เป็นภาวะช็อกที่เกิดจากการเสียสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติที่ควบคุมการขยายตัวและหดตัวของหลอดเลือด
        
        เป็นผลให้มีการขยายตัวของหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงขึ้นอย่างทันทีทันใด
        
        เลือดจะไปคั่งที่อยู่หลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงส่วนปลาย ปริมาณเลือดไหลกลับหัวใจน้อยลง
        
        การเสียสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติมักจะทำให้หัวใจเต้นช้าลงด้วย ส่งผลให้ cardiac output ลดลง ความดันลือดลดลง
      - สาเหตุ
        
        สาเหตุจากจิตใจ เช่น เจ็บปวดมาก กลัว ตกใจ
        
        สาเหตุอื่นๆ เช่น อวัยวะภายในโดนดึงรั้ง เช่น gastric dilatation, spinal cord injury, high spinal block
      - อาการและอาการแสดง
        
        เป็นลม เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ หรือมีอาการรุนแรงทางจิตใจ
        
        มือเท้าอุ่นและผิวหนังชมพูจากหลอดเลือดขยายตัว ซึ่งต่างจากช็อกแบบอื่น ความดันโลหิตต่ำแต่ชีพจรอาจเต้นช้า
      - การรักษา
        
        ์1. การรักษาเฉพาะ เช่น
        
        กำจัดสาเหตุอย่างการใส่ NG tube ในรายที่มี gastric dilatation
        
        จัดการสาเหตุที่มีการดึงรั้งอวัยวะภายในหรือสิ่งที่ทำให้กลัวหรือเจ็บปวด
        
        2. การรักษาตามอาการและประคับประคอง
        
        ดูแลเรื่องการหายใจและออกซิเจน - กรณี high spinal block หรือ spinal cord injury หลังให้สารน้ำอย่างเพียงพอแล้วอาจให้ยา vasopressor เช่น Ephedrine หรือ Aramine
        
        ในผู้ป่วยเป็นลม ควรจัดให้มีการถ่ายเทอากาศที่สะดวก นอนราบยกขาสูง ขยายเครื่องรัดร่างกาย อาจให้ดมแอมโมเนีย ใช้ผ้าเย็นเช็ดตัว
        
        รายที่หัวใจเต้นช้ามาก อาจให้ Atropine