Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ตา หู คอ จมูก, นศพต.ภัทระ ตันติเวชกุล เลขที่51 - Coggle Diagram
ตา หู คอ จมูก
-
-
หู👂🏻
อาการนำของโรคหู
-
- หูน้ำหนวก/ ของเหลวไหลออกจากหู
-
-
-
-
-
หลักการวินิจฉัย ต้องมีอาการครบ 3 ข้อ คือ
1) เวียนศีรษะหมุน เป็นๆ หายๆ แต่ละครั้งหมุนนาน 20 นาทีถึง 24 ชม.
2) เสียการได้ยินเมื่อมีอาการกำเริบ และมีการได้ยินกลับคืนมาเมื่ออาการสงบ
3) มีเสียงรบกวนในหู (tinnitus) และตรวจไม่พบสาเหตุเฉพาะอื่น ๆ
จมูก
1.การอักเสบของเยื่อบุจมูกเฉียบพลัน (Acute rhinitis)
การอักเสบเฉียบพลันของเยื่อบุจมูก เกิดจาการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย
อาการ
- มีน้ำมูกไหลและจาม ต่อมาน้ำมูกจะข้นและอาจมีไข้ร่วมด้วย
- มีอาการคัดจมูก เนื่องจากเยื่อบุจมูกบวม
- บางรายอาจปวดบริเวณหน้าผาก แก้ม อาจเกิดจากโพรงอากาศข้างจมูกอักเสบ
การรักษา
- การรักษาที่สาเหตุของการเกิดโรค เช่น รักษาโรคภูมิแพ้ โรคหวัดและรักษาตามอาการ
- บางรายอาจใช้เป็นยาพ่นจมูก ซึ่งเป็นยาสเตียรอยด์ ซึ่งจะช่วยลดอาการคัดจมูก
- หากคัดจมูกมากอาจให้ยาแก้คัดจมูก เช่น Pseudoeqhedrine หรือActifed
2.โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ (allergic rhinitis)
สาเหตุ เกิดจากเยื่อบุโพรงจมูกสัมผัสสาร ก่อภูมิแพ้เป็นระยะเวลานาน
อาการ : น้ำมูกใส คันในจมูก แน่นจมูก คันตา น้ำตาไหล คันคอ แสบคอ ไม่มีไข้สัมผัสสารก่อภูมิแพ้แล้วเกิดอาการ
การรักษา : แนะนำให้หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้, รับประทานยาต้านฮีสตามีน เช่น Chlorpheniramine, หากคัดจมูกมากอาจให้ยาแก้คัดจมูก เช่นPseudoeqhedrine หรือ Actifed บางรายอาจใช้เป็นยาพ่นจมูกซึ่งจะช่วยลดอาการคัดจมูก
การรักษา
1.การรักษาแบบประคบประคองรักษาตามอาการ
1.1 Antihistamine ควรให้เฉพาะกรณีที่มีภูมิแพ้ร่วมด้วย
1.2 Decongestant ลดบวมของเยื่อบุจมูก ทำให้หนองในโพรง ไซนัสระบายออกง่ายขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น แต่ตองระวังวาอาจทำให้น้ำมูกข้นเหนียว หรือภาวะแทรกซ้อนจากยา ใจสั่นกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
1.3 ยาพ่นจมูกสเตียรอยด์ ลดการอักเสบ ลดบวมของเยื่อบุจมูก ทำให้การระบายหนอง และถ่ายเทอากาศในโพรงไซนัสดีขึ้น
1.4 การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อช่วยให้น้ำมูกเหนียวน้อยลงการระบายน้ำมูกดีขึ้น
-
-
-
- การซักประวัติ (History taking) ควรถามถึง
- ลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ (Mechanical of injury) วัน เวลา
- อวัยวะอื่นของร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บร่วมด้วย (Systemic injury)
- เวลาที่รับประทานอาหารและน้ำครั้งสุดท้าย เพื่อประโยชน์ในกรณีต้อง ผ่าตัดดมยาสลบ
- ประวัติการได้รับวัคซีนป้องกันบาดทะยัก หรือยาที่ใช้ประจำ เช่น ยา ละลายลิ่มเลือด
*True emergency ให้รีบให้การรักษาเบื้องต้นเลย
- การตรวจร่างกาย
- record v/s
- ตรวจเปลือกตา กลอกตา เยื่อบุตา กระจกตา ขนาดรูปร่างการตอบสนองของpupil
- ตรวจตาอย่างระมัดระวัง
3.การส่งตรวจ(กรณีสามารถทำได้)
- x rayเบื้องต้น
- ตรวจลูกตาดัวยคลื่นความถี่สูง
คอ
- คออักเสบ (Pharyngitis) เป็นการอักเสบของเนื้อเยื่อในลำคอที่อยู่บริเวณหลังช่องปากเข้าไปมีการอักเสบ บวม ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บคอเป็นสำคัญ
สาเหตุที่พบบ่อย ๆ จะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย
- ต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis) เกิดจากการอักเสบติดเชื้อของทอนซิลซึ่งเป็นต่อมคู่ข้างซ้ายและขวา (เป็นต่อมน้ำเหลืองในลำคอที่อยู่ด้านข้างใกล้กับโคนลิ้น) มีหน้าที่ช่วยกำจัดเชื้อโรคที่เข้าสู่ลำคอ
สาเหตุ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Group A beta-hemolytic streptococcus หรือ Streptococcus pyogenes ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงตามมาได้
- กล่องเสียงอักเสบ (Laryngitis)
สาเหตุการอักเสบของกล่องเสียงเกิดจากสาเหตุได้หลายประการ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งเกิดร่วมกับไข้หวัด คออักเสบหลอดลมอักเสบ ส่วนน้อยเกิดจากติดเชื้อแบคทีเรีย
-